Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บันทึกความทรงจำบทที่ 15 ความอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12134405/W12134405.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12137466/W12137466.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12142609/W12142609.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12155159/W12155159.html

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12160123/W12160123.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12165127/W12165127.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12170398/W12170398.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12175926/W12175926.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12192814/W12192814.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12198174/W12198174.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12202507/W12202507.html

บทที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12207363/W12207363.html

บทที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12220562/W12220562.html

บทที่ 14 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12225332/W12225332.html


หลังงานเลี้ยงแฟนซีนักศึกษาต่างชาติผ่านไปไม่ทันไร อากาศที่หนาวเย็นก็ค่อยๆ อุ่นขึ้น ซึ่งหมายความว่า ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว หิมะที่ปกคลุมต้นไม้และท้องถนนก็ค่อยๆ ละลายลงกลายเป็นน้ำเฉอะแฉะ ต้นไม้ก็เริ่มมีใบอ่อนๆ สีเขียวงอกขึ้นมา อากาศสดชื่นขึ้น การเรียนของผมยังผ่านไปด้วยดี ถึงจะมีขลุกขลักอยู่บ้าง ก็เพราะผมต้องอ่านหนังสือหนัก ต้องแสดงความเห็นในชั้นเรียนมากขึ้น จะว่าท้าทายก็ได้ หรือน่ากลัวก็ได้ เพราะอาจารย์ชอบถามจี้ แต่มันก็สนุกไปอีกแบบที่ต้องนั่งอกสั่นขวัญหายตลอดเวลาที่เรียน...

ช่วงวันหยุดผมมักผ่อนคลายด้วยการหาเพลงฟัง ดูหนังทางอินเตอร์เน็ต ไปตามเรื่องตามราว ที่สำคัญ ผมหาเอ็มวีเพลง Waiting ของ BOA ที่ ยุน จีร้องในงานแฟนซีมาฟัง BOA ร้องเพลงเพราะมาก ฟังแล้วก็ชอบเลย เพราะเสียงขอเธอเข้ากับเปียโนเศร้าๆ ได้เป๊ะมาก จะว่าไปเสียงเธอคล้ายกับยุน จีจริงๆ มิน่าล่ะ ยุน จีถึงได้เลือกเพลงนี้มาร้อง เพราะเสียงคล้ายกันนั่นเอง จำได้ว่าวันนั้นระหว่างที่ผมกำลังฟังเพลงอยู่เพลินๆ ในช่วงเย็น ผมได้ยินเสียงเคาะประตู พอส่องดูที่ตาแมว เห็นยุน จี ยืนโบกมือส่งยิ้มหวานๆ มาให้ วันนี้เธอสวมเสื้อยืดแขนยาวสีฟ้า สวมกางเกงยีนสีกรมท่า แสนจะเข้ากัน เธอปล่อยผมยาวสลวย รับกับใบหน้าที่เรียบเนียน และริมฝีปากที่อิ่มเอิบ เธอแต่งหน้าโทนสีอ่อนตามปกติ เพราะเธอไม่ชอบแต่งหน้าเข้ม ไม่รู้เป็นเพราะสไตล์คนเกาหลีรึเปล่า แต่การแต่งหน้าอ่อนทำให้ดูเป็นธรรมชาติ และสะท้อนความสดใสในตัวของเธอ เธอดูสวยไปคนละแบบกับที่เธอแต่งเป็นเจ้าหญิงในวันนั้น

“เป็นยังไงบ้าง เย็นนี้เข้าไปทานข้าวในเมืองกันมั้ย ชั้นเลี้ยงเอง” เธอพูดกับผมทันทีที่ผมเปิดประตูออกมา

“ได้สิ ว่าแต่ทำไมวันนี้อยู่ๆเธอถึงชวนออกไปกินข้าวข้างนอก”

“เอาเถอะน่า ไปเถอะ วันนี้เพื่อนให้ยืมรถมาขับน่ะ เลยอยากทดลองขับเข้าเมืองดู”

“แล้วเพื่อนเธอไปด้วยรึเปล่า”

“เปล่าๆ มีเราสองคนเหมือนเดิมนี่แหละ เอ้าเร็วๆเข้า ไปแต่งตัวสิ เดี๋ยวไปช้าคนแน่นนะ นับหนึ่งถึง 10 ถ้าแต่งไม่เสร็จชั้นจะบุกเข้าไปนะ”

“โอเคๆ อย่าบุกเข้ามานะ จะรีบๆๆ”

ไม่กี่อึดใจผมก็แต่งตัวเดินออกมาจากห้อง วันนี้ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีเขียวแก่ตัวเก่งก็แล้วกัน พลัน ยุน จีรีบเดินนำผมไปนอกหอพัก แล้วหยิบกุญแจรถขึ้นมาโชว์ เดินไปไม่นานนักก็เห็นรถโอเปิลสีฟ้าสวยกระทัดรัด 5 ประตู พวงมาลัยขวาคันหนึ่งจอดอยู่ เราขึ้นรถแทบจะพร้อมกัน

“เธอขับรถพวกมาลัยขวาเป็นด้วยเหรอ รู้สึกว่าที่เกาหลีเค้าขับพวงมาลัยซ้ายกันไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ๆ นี่ชั้นเพิ่งจะขับรถพวงมาลัยขวาเป็นครั้งแรก”

“หา.....ว่าไงนะ!!! ครั้งแรกเหรอ วันนี้เธอเพิ่งขับรถพวงมาลัยขวาครั้งแรกเหรอ จะขับได้เหรอ”

ผมตกใจ เพราะไม่รู้ว่าเธอจะชินกับการขับรถพวงมาลัยขวารึเปล่า เพราะที่อังกฤษเค้าขับรถพวงมาลัยขวา เหมือนกับประเทศไทย ดังนั้นคนไทยขับรถในอังกฤษจึงไม่มีปัญหา แต่คนเกาหลีที่ชินกับการขับพวงมาลัยซ้ายจะขับพวงมาลัยขวาได้รึเปล่าไม่รู้ แถมนี่เป็นครั้งแรกของเธออีก

“ก็ต้องลองดูล่ะน่า...” เธอพูดพร้อมสตาร์ทรถ เดินหน้าออกไป ผมเองก็ได้แต่ภาวนาว่าขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย ฟ้าก็เริ่มมืดลงแล้ว ยิ่งอันตรายใหญ่

แรกๆ ผมรู้สึกตื่นเต้นแทบลืมหายใจ แต่พอนั่งๆ ไปถึงค่อยวางใจ เพราะดูเธอจะคุ้นเคยกับเส้นทาง การขับรถของเธอก็โอเค เว้นแต่ตอนเลี้ยวเท่านั้นเองที่ผมถึงกับร้องเสียงหลง เพราะเธอเกือบเฉี่ยวกับรถที่สวนมา หายใจไม่ทั่วท้อง แต่สุดท้ายเราก็มาถึงที่หมาย ร้านไก่ย่างสไตล์อเมริกาใต้ชื่อ Nando ตั้งอยู่ในตัวเมืองใกล้กับสถานีรถไฟ ปากทางเข้าโรงหนัง ผมเคยผ่านบ่อยๆ แต่ไม่ได้แวะเข้าไปลอง มาคราวนี้เธอขันอาสาจะเลี้ยงก็เลยตามเธอมานี่แหละครับ แต่ก็ไม่วายสงสัยว่าจะเลี้ยงผมเนื่องในโอกาสอะไร

ร้าน Nando ตกแต่งสไตล์ตะวันตกเหมือนร้านอาหารทั่วไป มีรูปไก่ติดฝาผนังดูน่ารักดี แต่ที่พิเศษคือไก่ย่างครับ มีหลายรูปแบบให้เลือกสั่งตามใจชอบ เสริร์ฟพร้อมเฟรนไฟส์ ไม่ใช่แค่ไก่นะครับ ยังมีพิซซ่า ไข่ยัดใส้ และอีกหลายเมนูอร่อยๆ ให้เลือกทาน ส่วนซอสก็มีแบบ extra hot และซอสลดหลั่นกันลงมาตามดีกรีความเผ็ด เราสองคนพอได้ที่นั่งก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร สั่งอาหารกันเดี๋ยวนั้นเลย เพราะหิวเหลือเกิน เราสั่งไก่ย่างมากินกันคนละจาน เล่นของหนักกันไปเลย พร้อมกับน้ำจิ้มแบบ extra hot เพื่อความท้าทาย ตอนแรกผมก็กล้าๆ กลัวๆ นั่นแหละครับ เพราะถึงผมจะทานเผ็ด แต่ก็ไม่ใช่เผ็ดแบบสุดๆ แต่เธอคะยั้นคะยอให้ลองดู ก็เลยลอง ผลปรากฎว่า แทบจะพ่นไฟออกมา น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆ เธอเองก็เผ็ดหน้าแดง แต่ดูมีความสุข นั่นแหละดีแล้ว ยิ่งเห็นเธอมีความสุขผมก็รู้สึกดีไปด้วย ผมเลยได้โอกาสถามถึงเหตุผลที่เธอเลี้ยงผมในวันนี้...........................

“นี่ ถามอะไรหน่อยสิ” ผมถามเธอขณะที่เธอกำลังหั่นชิ้นไก่

“อื้อ ว่ามา โอยเผ็ดๆๆๆ” หน้าเธอยังแดงอยู่เลย แล้วเธอก็ดื่มน้ำอึกๆๆ

“ทำไมเธอถึงได้เลี้ยงชั้นวันนี้ล่ะ” มีอะไรพิเศษรึเปล่า

“ก็นะ...คะแนนคอร์สเวิร์กออกแล้วใช่มั้ย” เธอถามผมแล้วขยิบตานิดนึง

“ใช่ ออกแล้วล่ะ ว่าแต่เธอรู้ได้ไง”

“พอดีวันนี้เดินไปหาเพื่อนที่คณะของเธอน่ะ เดินไปตาก็มองบอร์ดไป อยากรู้ว่าคณะของเธอเรียนอะไรกันบ้าง แล้วตาก็ไปสะดุดกับผลคะแนนคอร์สเวิร์ก วิชา IR Theory เห็นเธอเป็นชื่อแรกของบอร์ดเลย เยี่ยมมากเลยนะ!!!!”

“ขอบคุณมากที่ชม ก็เลยเป็นเหตุผลที่เลี้ยงวันนี้เหรอ”

“อื้มมม ก็ส่วนนึง อีกเหตุผลนึงก็คืออยากจะเลี้ยงขอบคุณเธอด้วยที่คอยช่วยเหลือมาตลอด ปิงคนดีของชั้น เธอคือเพื่อนที่แสนดีที่สุดเลย” เธอส่งยิ้มหวานมาให้

จริงๆ แล้วผมเคยชินกับคำว่าเพื่อนที่แสนดีของเธอมานานแล้วครับ แรกๆ ที่ได้ยินผมรู้สึกเจ็บแปล็บ คือ ผมอยากเป็นมากกว่านั้น แต่พอมาตอนนี้ผมรู้สึกเลยว่า ความต้องการไขว่คว้าเธอมานั้นมันก็แค่ความรู้สึกชั่วแล่นที่ดูจะเด็กไปหน่อย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้ผมได้เรียนรู้ว่า บางครั้งความรักที่เรามีให้ใครซักคนนึงมันไม่จำเป็นจะต้องเป็นความรักที่มีเงื่อนไขที่จะต้องให้เค้ารักเราตอบ แต่ความรักที่เราให้ไปเป็นความรักที่บริสุทธิ์ เป็นความปราถนาดีที่มีให้อย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะถ้ามีเงื่อนไขว่าเค้าต้องรักเราตอบ เมื่อถูกปฏิเสธมา เราก็เศร้าเสียใจ มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยซักนิด แต่รักที่ให้อย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องการอะไรตอบแทนเป็นความรักที่เรียกว่า รักแท้ ไม่เจ็บปวด แต่รู้สึกดีที่ได้มอบความรัก และความรู้สึกดีๆ กับคนๆนั้น ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกแบบนั้นครับ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเห็นผมเป็นเพื่อน หรือจะให้ผมอยู่ในฐานะอะไร ผมก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เพราะสิ่งที่ผมคิดมีอย่างเดียวคือ อยากดูแลเธอ ให้เธอมีความสุขที่สุด อย่างน้อยก็ตลอดเวลาที่เรายังอยู่ด้วยกันที่นี่

“เป็นอะไรไป นั่งนิ่งเลย” เธอมองหน้าผมแล้วถามหลังจากจัดการกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าซะจนเกลี้ยงจาน

“ไม่มีอะไรหรอก รู้สึกดีใจน่ะ ที่เธอเลี้ยงข้าววันนี้”

“อ่ะดีแล้วววว จะทานของหวานมั้ย” เธอถามพร้อมๆไปกับดูเมนู

“พอแล้วๆๆๆๆ ไม่เอาแล้ว อาหารค่อนข้างแพงเลยนะ แล้วอีกอย่างกินมื้อเย็นเยอะขนาดนี้ไม่กลัวอ้วนเหรอ”

“นั่นสินะ ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ก็เอาเหอะ มื้อนี้เต็มที่ซักมือเป็นไรไป ไม่เป็นไรหรอกเงินที่เอามาเลี้ยงเธอเนี่ย เป็นเงินที่ได้ตอนไปทำงานพิเศษไง คิดว่าไม่มีปัญหาหรอกถ้าจะเลี้ยงเธอให้อร่อยๆ ซักมื้อ ไม่ต้องเกรงใจนะ”

“ขอบคุณ แต่ไม่ไหวแล้วล่ะ แค่นี้ก็อิ่มจะแย่อยู่แล้ว เธอจะสั่งก็สั่งเถอะ”

“เอ่อ ขอทาร์ตไข่ กับคาราเมลที่นึงนะคะ” เธอสั่งกับพนักงาน

โอ้ มาย ก็อดดดดด อาหารเพิ่มน้ำหนักดีๆนี่เอง หรือว่าผู้หญิงชาตินี้เค้ากินกับแบบนี้ทุกคน ไอ้จะถามว่าเธอหนักเท่าไหร่ก็เกรงใจ มันเป็นความลับของผู้หญิง ไอ้จะบอกว่าเธอดูอวบขึ้นก็เกรงใจอีก กลัวโดนไล่ฆ่า เอาเป็นว่าผมมองเธอกินเฉยๆ ดีกว่า ไม่นานนักเธอก็ซัดของหวานทั้งสองอย่างจนเกลี้ยง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปผมอยากเรียกเธอว่า ปีศาจจอมเขมือบจังเลย!!!! พอทานเสร็จเธอเรียกคิดเงิน ผมไม่ขอบอกค่าอาหารแล้วกันนะครับ กลัวท่านผู้อ่านจะตกใจ เพราะมันคุ้มจริงๆ 55555

เมื่อเราเดินถึงรถ เธอก็ควักกุญแจออกมา แว่บนั้น ผมบังเกิดความคิดอย่างนึงขึ้นมา

“อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อน ช้าก่อน เดี๋ยวชั้นขับเอง” ผมรีบคว้ากุญแจมาจากมือของเธอ

“ฮ่าๆๆ ทำไมล่ะ จะขับเองทำไม ชั้นขับออกจะดี”

“ไม่เอาอ่ะ พอหนังท้องตึกหนังตาก็หย่อน แถมเพิ่งจะขับพวงมาลัยขวาวันนี้เป็นวันแรกอีก อันตรายมาก”

“เอางั้นก็ได้ ขับดีๆ ละกัน”

ผมเคยชินกับการขับรถพวงมาลัยขวาอยู่แล้วการขับรถที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ระหว่างที่ขับรถไป ผมก็ชวนเธอคุย แต่ปรากฎว่าเธอหลับไปตามคาด คืนนี้ผมรู้สึกมีความสุขมาก อย่างน้อยๆ เธอดูร่าเริงกว่าเดิม ไม่มีอาการเศร้าให้เห็นเลยซักนิด ไม่แน่ใจว่าเธอซ่อนมันไว้ข้างในรึเปล่า แต่จากที่ผมรู้สึกเธอคงทิ้งความเศร้านั่นไปพร้อมๆกับฤดูหนาวที่ผ่านพ้นไปแล้ว และพบกับความอบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิอย่างเบิกบานใจเหมือนกับผมที่ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นที่ได้อยู่ข้างๆ เธอเป็นอย่างมาก..........

จากคุณ : Red Boomer
เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 06:52:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com