Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ในฝั่งฝัน (บทที่ 34) ติดต่อทีมงาน

ต้องขอโทษอีกครั้งค่ะที่บทนี้นานมากกว่าจะได้โพสต์ คราวก่อนบอกว่าอีกบทเดียวจบแล้ว หลังจากที่คุณ MidNite ทักว่ายังไม่น่าจบเร็วเกินไป ยังมีอะไรอีกหลายอย่างไม่ลงตัว ก็เลยเอาบทสุดท้ายนั่นมาอ่านทวนก็เห็นจริงตามนั้นเลยค่ะ บทสุดท้ายที่เขียนไปแล้วรวบรัดเกินไป ก็เลยเอามาขยายให้มีรายละเอียดขึ้นอีกเป็น 3 บท คือบทนี้กับอีก 2 บท แล้วก็บทส่งท้าย ต้องขอขอบคุณคุณ MidNite อย่างสุดซึ้งเลยค่ะที่ทักขึ้นมา ไม่งั้นก็คงคิดไปไม่ถึง อีก 2 บทที่เขียนเพิ่มขึ้นมากับบทส่งท้ายจะพยายามลงให้จบภายในเดือนนี้หรือย่างช้าที่สุดก็ต้นเดือนหน้านะคะ

บทที่ 33 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12109606/W12109606.html 

 

บทที่ 34

 

            ความหมายของคำพูดเหล่านั้นอึงอลอยู่ในรถนานทีเดียว ทั้งยังมีผลต่อคนฟังรุนแรงไม่ต่างกัน ฉวีเงียบกริบ ไอรีนจ้องเขม็งออกไปนอกรถแม้มองไม่เห็นอะไรสักอย่าง ใจเต้นโครมครามเมื่อคิดทบทวนและทำความเข้าใจ เขาหมายถึงใครทำไมเธอจะไม่รู้ พอมองออกมานานแล้วว่ากริชคิดอย่างไร เพียงแต่ทำใจให้เชื่อไม่ได้เท่านั้นเอง ที่สำคัญยิ่งกว่าคือยอมรับไม่ได้ ในเมื่อไม่ว่าจะมองจากแง่ไหนก็ล้วนแต่ไม่ถูกต้องไปเสียทั้งนั้น

          สติกลับคืนเมื่อได้ยินเสียงแหบระโหยมาจากทางด้านหลัง เป็นคำถามที่ทำเอาร้อนวูบแล้วชาวาบไปทั้งตัวเมื่อได้ยินชัดๆ

“คุณกริชหมายถึงคุณหญิงหรือคะ” ฉวีถามตรงไปตรงมาเสียจนน่าตกใจ

กริชไม่ตอบ ที่จริงก็ไม่จำเป็นต้องตอบ ความเงียบของเขาบอกชัดอยู่แล้ว

แต่ความเงียบนั้นกลับกลายเป็นแรงยั่วยุอารมณ์ของฉวีได้อีก

“ทำไมคุณกริชไม่บอกหวีแต่แรกล่ะคะ” หล่อนตัดพ้อ

          คราวนี้เขาสวนกลับแทบจะในทันที

“ก็ทำไมผมต้องบอกคุณล่ะคุณฉวี ผมจะรักใครชอบใครไปเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”

เสียงเขาเข้มจัด แสดงว่าเริ่มหมดความอดทนแล้ว เป็นน้ำเสียงแบบที่เธอไม่ได้ยินกริชใช้กับใครบ่อยนัก เขาทำให้เธอแปลกใจจนต้องเหลียวมอง สบนัยน์ตาเข้มเฉียบทอประกายอบอุ่นผิดกับเสียงพูดลิบลับ และทันทีที่ตาสบกัน พรายยิ้มอ่อนจางผุดขึ้นที่มุมปาก เธอเป็นฝ่ายหลบ เสมองผ่านเขาออกไปภายนอกจากฝั่งคนขับเมื่อเริ่มเห็นบ้านเรือนผู้คนประปราย

“เข้าเขตจอมบึงแล้วใช่ไหมกริช” เธอตั้งใจจะลดความตึงเครียดของบรรยากาศลงเสียบ้าง

และเขาก็เข้าใจ

“ครับคุณหญิง ที่จริงก็เข้าเขตจอมบึงนานแล้วครับ”

น้ำเสียงเขากลับมาเหมือนเดิมเมื่อคิดได้ ไม่มีประโยชน์อะไรจะถกเถียงกับคนที่ดูเหมือนไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ เวลานี้ฝ่ายนั้นกำลังอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ คงยากที่จะพูดกันรู้เรื่อง

เหลือบมองทางกระจกส่องหลังอีกครั้งก็ให้อนาถใจ ฉวีดูยับเยินราวเป็นคนละคนกับที่ลงจากรถไฟเมื่อครู่ ใบหน้าที่ตกแต่งไว้อย่างประณีตนั้นหมองคล้ำ ขอบตาแดงช้ำ มีสีดำจากดินสอเขียนคิ้วและขอบตาละลายเลอะเป็นทางอยู่บนสันแก้ม ผมเผ้ายุ่งเหยิงเพราะถูกลมตีและหล่อนก็ไม่สนใจจะจัดให้เข้าที่เข้าทางอีกแล้ว

ใจเขาจึงอ่อนลง น้ำเสียงพลอยอ่อนโยนตามไปด้วย

“คุณไพจิตรย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเช่าแล้วครับคุณฉวี ผมคิดว่าเรือนแถวของข้าราชการไม่เหมาะที่จะอยู่กันเป็นครอบครัว คุณฉวีไปกรุงเทพไม่นานผมแนะนำให้คุณไพจิตรหาบ้านเช่า ได้บ้านหลังใหญ่ใช้ได้ทีเดียว อยู่เยื้องกับบ้านพักของผม ใกล้ที่ทำการอำเภอด้วย คุณไพจิตรบอกผมว่าคุณฉวีเองก็บ่นเรื่องที่ต้องอยู่เรือนแถวอยู่เหมือนกัน ไปเห็นหลังนี้คุณคงชอบ”

หล่อนจะชอบหรือไม่ก็ยากจะเดาเมื่อรถมาจอดเทียบหน้าประตูบ้านไม้สองชั้น แม้อาณาบริเวณจะไม่กว้างขวาง หากก็มีรั้วรอบขอบชิดและมีความเป็นส่วนตัวอยู่มาก ตัวเรือนนั้นมีขนาดใหญ่ทีเดียว แม้มองจากภายนอกก็เห็นได้ชัดเจน

“ผมคงต้องส่งคุณลงแค่นี้ ผมมีงานที่ผมต้องไปทำ” กริชสรุปแบบมัดมือชก ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายนั้นได้คัดค้านหรือเหนี่ยวรั้งไว้ได้อีก

บอกแล้วเขาเปิดประตูลงก่อน แล้วอ้อมรถมาทางตอนหลัง

ฉวีไม่ขยับเขยื้อน หล่อนพึมพำอะไรบางอย่าง พอจับความได้เพียงว่าหล่อนจะไม่ไปอยู่กับไพจิตรอีกแต่จะกลับกรุงเทพ

“คุณกริชช่วยพาหวีกลับไปที่สถานีรถไฟด้วยเถอะค่ะ” หล่อนวิงวอนเมื่อเขาเปิดประตูรถให้

“วันนี้ไม่มีรถกลับกรุงเทพแล้วครับคุณฉวี เที่ยวต่อไปก็พรุ่งนี้สายๆ คุณจะไปคอยอยู่ที่สถานีรถไฟทั้งคืนอย่างนั้นหรือ”

ฉวีอ้ำอึ้ง ทำท่าทำทางเหมือนจะเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ไอรีนเห็นใจ หล่อนคงทั้งสับสนและท้อแท้ จึงเสนอทางเลือกให้

“ค้างที่นี่สักคืนเถอะค่ะคุณฉวี นี่ก็เย็นแล้ว อีกไม่นานก็มืด ค่ำๆ มืดๆ จะให้กริชขับรถพาไปทิ้งไว้ที่สถานีปากท่ออีกคงไม่ดีแน่ พรุ่งนี้ถ้าคุณฉวียังคิดจะกลับกรุงเทพ กริชคงไปส่งให้ได้ หรือไม่เราก็กลับด้วยกันวันมะรืนนี้”

ดูเหมือนจะได้ผล ฉวีอ้อมๆ แอ้มๆ ตอบรับแต่โดยดี

“หวีขอกลับพร้อมคุณหญิงก็แล้วกันค่ะ”

หล่อนลงจากรถอย่างกระปลกกระเปลี้ย และยอมเข้าบ้านไปกับผู้ยังคงได้ชื่อว่าเป็นสามีแต่โดยดี ไอรีนเดาเอาว่าฉวีคงท้อแท้จนหมดเรี่ยวแรงที่จะต่อต้านอะไรอีก และทุกอย่างคงจบลงด้วยดีในที่สุดเมื่อสามีภรรยามีโอกาสได้พูดคุยกันตามลำพัง

 

จากคุณ : kdunagin
เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 06:50:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com