Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บันทึกความทรงจำบทที่ 17 เล่นสงกรานต์ก่อนสอบ ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12134405/W12134405.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12137466/W12137466.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12142609/W12142609.html

บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12155159/W12155159.html

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12160123/W12160123.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12165127/W12165127.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12170398/W12170398.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12175926/W12175926.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12192814/W12192814.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12198174/W12198174.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12202507/W12202507.html

บทที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12207363/W12207363.html

บทที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12220562/W12220562.html

บทที่ 14 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12225332/W12225332.html

บทที่ 15 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12230280/W12230280.html

บทที่ 16 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12234999/W12234999.html


การเรียนปริญญาโทเทอมสุดท้ายจบช่วงก่อนหน้าวันสงกรานต์ไม่กี่วัน จำได้ว่าตอนเด็กๆ ช่วงเวลานี้จะต้องไปเยี่ยมญาติๆที่หัวหิน แล้วไปทำบุญให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้วที่วัดบนเขา (วัดประจำตระกูลที่คุณทวดไปสร้างไว้) ไปพักโรงแรม ไปเที่ยวทะเล กินอาหารซีฟู้ดกับครอบครัว มีความสุขมากๆ แต่ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้ไปกันเท่าไหร่เพราะญาติผู้ใหญ่ล้มหายตายจากไปมากแล้ว ไม่มีศูนย์กลางที่จะรวมญาติๆอีก อะไรๆก็จางหายไปตามกาลเวลา ก็เหมือนกับความรู้สึกของผมในตอนนี้ รู้สึกตัวแต่เช้า แต่ยังไม่ลุกจากที่นอน คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย นับจากนี้ไปก็เหลือแค่ 4-5 เดือนที่ผมจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ วันที่จะต้องลาจากคนที่ผมรักกลับไปยังบ้านเกิดของตัวเอง ไม่อยากให้วันนั้นมาถึง หรืออย่างดีก็ให้มันมาถึงช้ากว่านี้อีกหน่อย แต่คงเป็นไปไม่ได้ แล้วถ้าจากกันไปนานๆ ความรู้สึกจะยังคงเหมือนเดิมรึเปล่า หรือว่ามันจะจางหายไปตามกาลเวลา ผมคิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่แบบนั้นจนน้ำตาใหลลงมาโดยไม่รู้ตัว ถ้าไม่พบกันก็คงไม่ต้องจาก แต่นี่พบกันแล้ว ความรู้สึกผูกพันได้เกิดขึ้นแล้ว พอนึกถึงวันที่จะต้องจากกันมันก็ยิ่งเจ็บปวด.....

ระหว่างที่ผมจมอยู่กับความคิดอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตู เห็นยุน จียืนอยู่หน้าประตู พอเปิดประตูออกไป ยังไม่ทันที่จะเอ่ยคำทักทาย เธอก็สาดน้ำเข้าที่หน้าผมอย่างจัง!!!

“สุขสันต์วันสงกรานต์นะจ๊ะ” เธอทำเสียงเล็กเสียงน้อย

ผมเองตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตั้งตัวไม่ติด น้ำเข้าตาเข้าจมูก เปียกไปหมด

“แต่เช้าเลยนะ!!!”

“อ๊ะๆๆๆๆ ได้ยินมาว่าวันสงกรานต์เนี่ยคนไทยเค้าเล่นสาดน้ำกันไม่ใช่เหรอ แล้วไม่มีใครเค้าโกรธกันด้วย ตื่นได้แล้วเดี๋ยวออกไปซื้อของกันมั้ย”

“เดี๋ยวหาอะไรกินก่อน ขอเวลาทำธุระส่วนตัวซักประมาณ 20 นาที”

ผมตื่นจากภวังค์ก็เพราะเธอนั่นแหละ เริ่มต้นวันใหม่ก็เปียกกันเลยทีเดียว จริงสิ วันนี้ตอนช่วงบ่ายๆ จะมีงานสงกรานต์ คือสมาคมนักเรียนไทยที่นี่เค้าจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ขึ้นมา สถานที่ก็ไม่ไกลครับ คือ Nelson court room B ใกล้ๆ หอพักของผมนี่แหละ มันเป็นห้องจัดเลี้ยงของอีกหอพักนึง ใหญ่พอดู จากที่คุยกับเพื่อนๆคนไทยด้วยกัน โดยเฉพาะแนนสาวไทยหัวใจฝรั่ง (มีแฟนเป็นฝรั่ง ปัจจุบันเธอแต่งงานกับฝรั่งมีลูกด้วยกันหนึ่งคน น่ารักเชียว) บอกกำหนดการคร่าวๆ ให้ผมฟัง จะเชิญผู้ใหญ่ในเมือง คือพี่ป้าน้าอาคนไทยที่อยู่ในนอริชนั่นแหละครับมา คนไทยที่นี่สนิทสนมกลมเกลียวกันมากรู้จักกันหมด มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ส่วนผมพวกพี่ป้าน้าอาก็เอื้ออาทร เวลาแวะไปอุดหนุนอาหารที่ร้าน แกก็ดูแลอย่างดี มีเลี้ยงข้าวด้วย คราวนี้คงต้องหาของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆ ฝากเนื่องในวันสงกรานต์ แล้วก็ถือโอกาสรดน้ำดำหัวไปด้วยเลย งั้นตกลงว่าพอกลับมาจากซื้อของก็เตรียมตัวไปร่วมงานสงกรานต์ ชวนยุน จีไปด้วยดีกว่า

พอแต่งตัวเสร็จเดินออกจากห้องเท่านั้นแหละ ลิเลียน่า เอาน้ำสาดผมอีกโครม นี่คนต่างชาติเค้ารู้จักสงกรานต์เราขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ที่สุดยอดกว่านั้นคือ ตอนผมเดินกำลังจะเดินเข้าครัว คริสตี้เปิดประตูห้องเธอออกมา ผมถึงกับผงะ เพราะเธอถือถังขนาดย่อมใบนึง ใส่น้ำซะเต็มเตรียมตัวจะสาดผม

“เฮ้ยยยยยยย....อย่าสาดนะ” ผมร้องออกมาขณะเปิดประตูเข้าไปในครัว แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ คริสตี้สาดผมโครมใหญ่ เปียกไปทั้งชุด แล้วจะออกไปยังไงล่ะทีนี้ พอสาดเสร็จเธอก็หัวเราะงอหาย ตกลงผมน่ารักน่าแกล้งหรือว่าเป็นตัวตลกประจำแฟลตกันแน่นะ 55555 เอาเถอะ ไม่โกรธก็ไม่โกรธ ไปเปลี่ยนชุดดีกว่า แต่พอเปลี่ยนชุดใหม่ ผมต้องเดินออกจากห้องอย่างระมัดระวัง เอาหลังแนบกำแพงเหมือนพวกสายลับกำลังแอบปฏิบัติภารกิจอะไรซักอย่าง รู้สึกทุเรศตัวเองเหมือนกัน แต่นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในการหลบเลี่ยงกองโจรที่ไม่รู้จะโผล่มาสาดน้ำอีกเมื่อไหร่ แล้วผมก็ถึงห้องครัวอย่างปลอดภัย หาอะไรกินเรียบร้อย เรื่องทำท่าว่าจะไม่จบแค่นั้น เพราะแอนโทนี่เข้ามาชงกาแฟ (อีกแล้ว) เห็นผม ก็ทำท่าจะเอากาแฟสาด กาแฟเนี่ยนะ!!!!! ยังดีที่ผมห้ามไว้ทัน เฮ้อออออ    -___-

ตอนนี้ก็ได้เวลาออกไปซื้อของแล้วสินะ......

“ดีสิ ชอบๆๆ ไปๆๆ ไปจ้ะ มีสาดน้ำด้วยใช่มั้ย” ยุน จีทำท่าดีใจหลังจากที่ผมชวนเธอไปร่วมงานสงกรานต์

“คงงั้นล่ะมั้ง แต่ขอทีเถอะ อย่าสาดอีกเลยนะ เมื่อเช้าก็โดนมาเพียบแล้ว” ผมบอกอย่างเอือมระอา

“5555555 ดูทำหน้าเข้าสิ น่ารักจัง” เธอพูด ไม่ใช่แค่พูดนะครับ เธอยังเอามือมาหยิกแก้มผมด้วย เหมือนผู้ใหญ่เล่นกับเด็กเล็กๆ

เราไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เดิม แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะซื้อขนมกับของขวัญไปฝากเพื่อนๆและพี่ป้าน้าอาที่น่ารักทุกคน หลังอาหารกลางวันผมจึงพายุน จีไปร่วมงานที่ Nelson court

งานสงกรานต์ที่นี่จัดอย่างเรียบง่าย พวกเพื่อนๆ หลายคนใส่เสื้อมีสีสันแบบเดียวกับที่ใส่กันในงานสงกรานต์ในเมืองไทย มีดินสอพอง มีน้ำอบ มีแป้ง มีพระพุทธรูปสำหรับสรงน้ำ มีการตกแต่งห้องเอาโฟมมาตัดเป็นตัวอักษรบ่งบอกถึงงานสงกรานต์ประจำปี 2006 ผู้หลักผู้ใหญ่ทะยอยกันเข้ามาร่วมงาน ร้านอาหารไทยก็ทำอาหารมาเลี้ยง ยุน จีมีท่าทางตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เห็นงาน เห็นโน่นเห็นนี่ ผมเลยได้โอกาสอธิบายให้เธอฟังเกี่ยวกับงานสงกรานต์ คนไทยหลายๆ คนที่รู้จักกับเธอก็เดินมาทักทาย พูดคุยอย่างเป็นกันเอง บางคนก็แซวผมว่า “แฟนสวยนะ” ผมเองก็เนียนๆไป 5555555 แต่ว่าก็คงจะดีนะถ้าเธอมาเป็นแฟนผมจริงๆ พอถึงตอนเวลางานเริ่ม พวกเราก็ชวนให้ยุน จีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ด้วย เธอก็ทำตาม ดูน่ารักมาก แต่เธอก็ไม่วายหาเรื่องจะเล่นสาดน้ำ หลังจากรดน้ำเสร็จเธอก็มากระซิบที่หูผม
“นี่ๆๆ เมื่อไหร่จะสาดน้ำกันล่ะ”

“เอ่ออออ...ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวถามให้นะ” ผมจึงเดินไปถาม:-)าน ได้ความว่า อีกซักประเดี๋ยว แต่จะไปสาดกันข้างนอกนะ ไม่ได้สาดกันในห้อง ไม่งั้นโดนมหาวิทยาลัยปรับเงิน แถมอาจโดนแบนห้ามใช้ห้องจัดเลี้ยงไปตลอดชีวิตก็ได้ 5555

พอเห็นน้ำกับขันเท่านั้นแหละ ยุน จี ไม่รอช้าเดินไปคว้าขันตักน้ำขึ้นมาจากขัน หวยมันเลยมาออกที่ผม เพราะเธอไม่สนิทกับใครเลยนอกจากผม ผมจึงต้องรับน้ำจากเธอไปอีกประมาณ 5 ขันใหญ่ๆ โอยยยยยย กูจะบ้าตายยยย ผมรำพึงรำพันกับตัวเอง มะล่อกมะแล่กไปตามๆกัน แต่ผมก็ใช่ย่อย ไม่ยอมโดนฝ่ายเดียวหรอก ผมเลยสาดเธอมั่ง ยังดีนะครับที่อากาศเริ่มอุ่นแล้ว ถ้ายังหนาวอยู่อาจปอดบวมตายได้ งานสงกรานต์ของพวกเราด้านนอกทำเอาฝรั่งที่เดินผ่านไปมาสยใจบางคนก็หัวเราะ บางคนก็หยุดดู พวกหนุ่มๆ เนี่ยยืนมองตอนยุน จีเปียกน้ำ เอ่อ เอื๊อกกกก ผมเองก็ต้องกลืนน้ำลายแหละ 55555 เพราะมิติเธอลึกล้ำพอสมควร พอเห็นแบบนั้น ชักไม่ได้การแล้ว...

“พอเถอะ ไม่ไหวแล้ว” ผมบอก

“อะไรกันกำลังสนุกเลยนะ จะกลับแล้วเหรอ” เธอพูด ตอนนั้นมีผู้ชายคนนึง ขออนุญาตสงวนนาม 555 มาแปะดินสอพองที่แก้มของเธอ นี่มันฉวยโอกาสชัดๆ ผมหวงนะ ไม่ยอมหรอก

“ไว้ถ้าเธอไปเที่ยวเมืองไทยเมื่อไหร่ จะพาไปเล่นสาดน้ำเอง ไม่ต้องห่วง” ผมพูด ตอนนี้ชักเริ่มฉุนแล้วนะ

“55555 งั้นก็ได้ กลับก็กลับ.......กลับแล้วนะคะ ขอบคุณมากค่ะ” เธอบอกผม แล้วหันไปบอกลาเพื่อนๆ คนไทย แล้วหันมายิ้มกับผม เหมือนเธอจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

“ทำไมถึงรีบกลับล่ะคะ หึงเหรอ???” เธอถาม ซึ่งถามได้ตรงจุดเป๊ะ

“เปล่านี่ ไม่มี ไม่มี๊ หึงอะไรกัน แค่จะรีบกลับมาอ่านหนังสือเตรียมสอบต่างหาก นี่ก็ใกล้สอบแล้วนี่”

“โอเคจ้า 555 ไปอ่านหนังสือเถอะ เดี๋ยวช่วงเย็นๆ จะเล่นเปียโนให้ฟังเพื่อผ่านคลายนะคะ”

ครับ ท่านผู้อ่าน งานสงกรานต์เที่ยวนี้นอกจากผมจะเห็นมิติอันล้ำลึกของเธออย่างชัดเจนแล้ว มันยังทำให้ผมรู้ว่า ผมรู้สึกกับเธอลึกซึ้งขนาดไหนอีกด้วย........

ช่วงเวลาก่อนสอบที่จะมาถึงในอีก 3 อาทิตย์ ผมนั่งอ่านหนังสืออย่างขมักเขม้น การสอบมีเพียงครั้งเดียว ถ้ารอบแรกไม่ผ่านจะมีสอบซ่อม ถ้าไม่ผ่านอีกก็ตัวใครตัวมัน เพราะนั่นหมายถึงการพลาดปริญญาโท ได้เพียงอะไรที่ต่ำศักดินากว่าที่เรียกว่า Diploma เท่านั้น ผมไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอก  อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมา เสียเงินตั้งเยอะตั้งแยะเพื่อเอาวิชาความรู้ติดตัวไป เรื่องอะไรจะยอมแพ้ง่ายๆ ว่าแล้วผมก็ไปเอาข้อสอบเก่าๆ ที่เก็บไว้ในห้องสมุดมานั่งดู รวบรวมสถิติว่าเคยออกอะไรไปบ้าง ออกแนวไหน ผมสอบ 2 วิชา ซึ่งเป็นวิชาบังคับ แต่แค่ 2 วิชามันก็ทำให้ผมประสาทแทบกินได้เลย เพราะต้องอ่านหนังสือหนักมาก การเรียนในชั้นเรียนช่วยได้เหมือนกัน แต่มันก็ไม่เท่ากับการอ่านหนังสือแล้วกรองข้อมูลจนตกผลึกความคิด แล้วนำข้อมูลที่ได้จากการอ่านมาวิเคราะห์ เมื่อมีข้อสงสัยก็นัดเวลาอาจารย์แล้วเข้าไปถามให้หายสงสัย ถ้ายังเก็บงำไว้อยู่รับรองได้ว่า คงต้องไปทำหน้าเหมือนหมาสงสัยในห้องสอบซึ่งคงไม่เป็นผลดีกับตัวเองเท่าไหร่แน่ ช่วงนี้ไม่ใช่แค่ผมหรอกครับ เพื่อนๆ หลายคนต่างก็เตรียมตัวสอบกันอย่างจริงจัง บรรยากาศภายในหอพัก รวมถึงแฟลตผมด้วยเงียบยังกะป่าช้า เงียบจนได้ยินเสียงลมพัดเวลาเปิดหน้าต่าง เงียบจนน่ากลัว จะเห็นเพื่อนๆ ตัวเป็นๆก็ตอนเข้าไปหาอะไรกินในครัวเท่านั้นเอง ต่างคนต่างกิน คุยกันนิดหน่อย แล้วก็แยกย้ายกันเข้าห้องของตัวเอง ส่วนนางเอกของผมน่ะเหรอครับ ผมเคยถามเธอเกี่ยวกับการสอบ เธอบอกว่าเธอเองก็มีสอบ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่ผ่านๆมา มีการเก็บคะแนนเป็นระยะๆ ดูเธอผ่อนคลายมาก คงเพราะแม่นในเนื้อหาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องภาคปฏิบัติ ผมเองคิดว่าไม่น่าห่วงหรอก เพราะเธอขยันซ้อมมาก

หลังจากการตากตรำอ่านหนังสือ ผมมักจะไปเดินผ่อนคลายริมทะเลสาปในมหาวิทยาลัย สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด มองต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสวย อากาศดีมาก สดชื่น แล้วก็มี ยุน จีเดินอยู่ข้างๆ บางทีเราก็ไปนั่งเล่นบนขอนไม้ริมทะเลสาป มองท้องฟ้า ดูก้อนเมฆกับพระอาทิตย์อัสดงยามเย็น เห็นฝูงเป็ดเล่นน้ำกัน บางตัวก็เดินขึ้นมาบนฝั่ง เราก็ให้อาหารมัน เป็นขนมปังที่เตรียมมา

“ฮ้า.......สดชื่นจังเลย นานๆทีออกมาสูดอากาศใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ พักหลังๆเรามาเดินเล่นแถวนี้น้อยลง” เธอกางแขนออกแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า

“ท่าทางเธอจะชอบมากเลยนะเนี่ย วันหลังคงต้องมาเดินบ่อยๆ” ผมมองหน้าเธอ แล้วเธอก็หันหน้ามาสบตาผม  ผมของเธอยาวสลวย จมูกเป็นสันได้รูปสวยงาม ริมฝีปากยังคงอวบอิ่มสวยงามเหมือนเคย ขอบคุณสวรรค์ที่ได้สร้างสรรค์สาวงามแบบนี้ขึ้นมาในโลก ^___^

เธอยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะซบไหล่ผม

“เฮ้อออ...อีกแค่ไม่กี่เดือนเอง เราก็จะต้องจากกันไปแล้ว ถึงเวลานั้นจะเป็นยังไงนะ” เธอรำพึง

“เถอะน่า อย่าห่วงเลย ถึงเราจะจากกันไป แต่เรายังคุยกันได้นะ MSN ก็มี อีเมลก็มี” ผมฝืนพูด ทั้งๆที่ผมเองนั่นแหละที่ไม่อยากให้วันนั้นมาถึงมากที่สุด “แต่ว่า หลังสอบเราวางแผนจะไปเที่ยว Bath กันไม่ใช่เหรอ”

“จริงด้วย...ลืมสนิทเลย ใช่ๆๆ เรายังมีโปรแกรมเที่ยวกันต่ออีกนี่นา คงต้องเริ่มเตรียมตัวแล้วล่ะ”

“5555 เตรียมตัวตอนนี้เร็วไปมั้ย” ผมหัวเราะกับท่าทางเลิ่กลั่กของเธอ

“อ้าวถ้าไม่เตรียมตัวตอนนี้ก็แย่สิ ต้องวางแผนก่อนนะ อย่างน้อยไป Bath คราวนี้เราก็ต้องไปเที่ยวดูรอบๆ ด้วย อยากไป Stonehenge ไปดูเมืองมรดกโลกกัน”

“งั้นคงต้องหาทัวร์ แล้วล่ะมั้ง ไม่เป็นไรเดี๋ยวชั้นจะหาทัวร์เอง” ผมขันอาสา

“ได้เลยจ้ะ ขอบคุณมาก” เธอยิ้มอย่างมีความสุข

หลังจากนั้นประมาณ 3 อาทิตย์ ก็ถึงวันสอบ สถานที่สอบคือห้องประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัย นักศึกษาปริญญาโท คณะเดียวกับผมทั้งหมดต่างทะยอยมารวมตัวกันด้านหน้าหอประชุม เพื่อเตรียมตัวเข้าห้องสอบ เพื่อนๆ หลายๆ คนคุยกับผมเรื่องการเตรียมตัวสอบ หลายคนแสดงอาการตื่นเต้นออกมา บ้างก็กังวลว่าข้อสอบจะออกมาแนวไหน บ้างก็กลัวจะทำไม่ได้ ผมเองก็ประหม่าไม่แพ้กัน แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วเป็นไงก็เป็นกัน ทำให้ดีที่สุด ตอบตามที่เข้าใจ ตามที่ได้อ่านมา พอเจ้าหน้าที่ประกาศให้เข้าห้องสอบได้ เท่านั้นแหละครับ คลื่นมนุษย์นักศึกษาจำนวนมากทะยอยกันเดินเข้าห้องสอบ อย่างที่บอกครับว่า ห้องสอบคือห้องประชุมใหญ่ ห้องกว้างมาก มีโต๊ะสอบหลายร้อยตัว ผมเองก็เดินหาโต๊ะสอบให้ตรงกับชื่อและเลขประจำตัว พอนั่งปุ๊บ หลายๆ คนนั่งกันหมดแล้ว ก็รอสัญญาณเริ่มทำข้อสอบ ใจมันก็เต้นตึกตักๆๆ แต่ถ้าเทียบกับตอน debate แล้ว ความรู้สึกคนละเรื่องเลย ตอนนั้นกดดันกว่านี้มาก

พอผมพลิกข้อสอบมาอ่านโจทย์เท่านั้นล่ะ ก็กระหยิ่มในใจแบบเก็บอาการ 555555555 มันตรงกับที่อ่านมาเป๊ะๆๆๆ ตรงกับที่ถามอาจารย์เป๊ะ โชคดีไป ทำข้อสอบอย่างสบายอารมณ์ แต่ตอนเขียนนี่สิครับ เพื่อนฝรั่งโต๊ะข้างๆ เขียนแกร๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ผมเขียนได้หน้านึง เธอเขียนปาเข้าไปหน้าที่ 3 โอ้แม่เจ้า ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้ เอาเถอะเราจะเน้นที่เนื้อ ไม่เอาน้ำ ฮี่ๆๆๆๆ พอสอบเสร็จ รู้สึกผ่อนคลายสุดๆ (ผมออกจากห้องสอบก่อนหมดเวลาประมาณเกือบๆชั่วโมง) ตอนเดินออกมาข้างนอก เห็น ยุ จี ยืนรออยู่ เธอส่งยิ้มหวานๆ มาให้

“เป็นไงบ้าง ทำได้มั้ย แต่ดูจากสีหน้าแล้วไม่น่าหนักใจสินะ” เธอถาม

“แล้วเธอล่ะ สอบวันนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ สอบเสร็จแล้วเหรอ นี่ว่าจะไปหาเธอที่ห้องสอบอยู่เลย”

“อ่อ ทำเสร็จแล้วล่ะ เรียบร้อย”

“ยิ้มแป้นแบบนี้คงไม่ต้องถามใช่มั้ย ทำได้แน่ๆ”

“ก็พอถูไถไปเรื่อยๆน่ะ 555”

เราเดินไปซื้อแซนวิชทานที่ outlet ในมหาวิทยาลัยแล้วกลับหอพัก ไปเตรียมตัววางแผนเที่ยวเมือง Bath ต่อไป ก่อนที่จะกลับมาลุยทำ dissertation เพื่อปิดฉากชีวิตการเรียนปริญญาโทที่นี่.....................

จากคุณ : Red Boomer
เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 55 07:16:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com