13/2
สองหนุ่มสาวเดินเกี่ยวก้อยกันออกจากห้องรับแขกเมื่อปรับความเข้าใจตรงกัน ทว่าคนพามาอย่างวิคเตอร์กลับหายตัวไปเสียนี่ หญิงสาวก้าวยาวไปยังโถงหน้าบ้านก็พบว่ารถคันโตซึ่งเธอนั่งมานั้นหายไปเช่นกัน
ดวงตาคู่สวยราวประจุด้วยเปลวเพลิงขณะตวัดมองร่างสูงซึ่งก้าวตามมาช้าๆ อย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ คาชาลส่งยิ้มแห้งไปกำนัลอีกฝ่าย
เพื่อนเธอคนนี้ช่างหวังดีกับเพื่อนเสียจริงนะ ต่อไปฉันจะไม่คล้อยตามเขาอีกแล้ว
ลลิลดาโมโหยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อรวมเข้ากับเรื่องที่เขายุยงให้เธอแต่งตัวสะสวย ทั้งที่ใครอีกคนกลับไม่เห็นค่ามัน
วิคเตอร์คงมีงานด่วน รุ่นน้องแก้แทน ใจเย็นก่อนนะครับ มิสอยู่ทานมื้อเย็นที่นี่ แล้วผมจะไปส่งเอง
เธอไม่มีทางเลือกอื่นนี่นะ นอกจากตอบตกลงและพยายามปัดความขุ่นมัวออกจากใจ เธอมองคาชาลพูดกับเด็กในบ้านด้วยภาษาท้องถิ่น อีกฝ่ายเหลือบมองเธอยิ้มๆ ก่อนผละไป
เธอพูดอะไรกับเขาน่ะ
ผมสั่งเขาให้เตรียมมื้อเย็น
แล้วทำไมเขาต้องมองฉันแปลกๆ ด้วย
เขาคงไม่เคยเห็นนางฟ้ากระมังครับ
น้อยๆ หน่อย เธอเอ็ด หากแก้มนวลแดงระเรื่อ
หรือไม่เขาก็คงแปลกใจที่บ้านนี้เพิ่งมีโอกาสได้ต้อนรับ คุณผู้หญิง ชายหนุ่มจงใจเล่นคำ ลิลลี่ ผมอยากให้คุณย้ายมาอยู่ที่นี่จะได้ไหม ที่เด็กคนนั้นมองคุณก็เพราะคงแปลกใจว่าวันนี้ผมยอมออกมาทานข้าวนอกห้องทำงาน เขาคงรู้ว่าเพราะคุณ
ความสนใจของเธอมิได้อยู่ที่คำชวนของเจ้าบ้าน แต่อยู่ที่การใช้ชีวิตแต่เดิมของเขาเสียมากกว่า เธอมองโต๊ะอาหารยาวเหยียดราวโต๊ะประชุมแล้วก็ให้สะท้อนใจ คาชาลคนปัจจุบันมีความเป็นอยู่หรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ แต่ขาดผู้ร่วมแบ่งปันทุกข์สุข ผิดกับกระโจมเล็กๆ ซึ่งเขาเคยอยู่อาศัยอันเปี่ยมไปด้วยความรักความอบอุ่นของครอบครัว
คุณยังไม่ตอบผมเลยว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ไหม เขาถามย้ำขึ้นอีกระหว่างมื้ออาหาร
ในฐานะอะไร
ตอนนี้...ในฐานะแขกของผม ถ้าเหตุการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยเมื่อไร ผมจึงจะกล้าขอให้คุณอยู่ที่นี่ตลอดไป
หญิงสาวหลุบตามองอาหารในจานราวกับจะพิจารณาให้เห็นถึงส่วนผสมทุกอย่าง หากแท้จริงแล้วเธอกำลังพิจารณาจิตใจตนเอง คาชาลคงไม่ทราบว่าเธอลาออกจากงานแล้วเรียบร้อย และตั้งใจจะอยู่เคียงข้างเขาตลอดไป คำขอของเขาคงเกิดจากความต้องการคนใกล้ชิด เช่นเดียวกับเธอที่ปรารถนาจะอยู่เคียงข้างเขาทุกวันๆ
ลลิลดาถามตัวเองแล้วก็ได้คำตอบว่าตนละทิ้งทุกสิ่งอย่างมาเพื่อบุรุษผู้นี้ อนาคตจะเป็นอย่างไร เธอเชื่อว่าตนมีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินใจด้วยสติไตร่ตรอง
แน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่แผนของเธอกับวิคเตอร์
ผมสาบาน ผมไม่รู้เรื่องกับเขาเลย ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างร้อนใจ
เอาล่ะ ฉันเชื่อเธอ แต่อย่างไรคืนนี้เธอก็ต้องไปส่งฉันที่โรงแรมก่อน
ท่าทางคนฟังกลับมาห่อเหี่ยว เขารับคำอย่างจำนนต่อการตัดสินใจของเธอพลางรวบมีดและส้อม ก่อนหันมองคล้ายค้อนนางฟ้าซึ่งยังคงยิ้มละไม
ดูเหมือนเธอไม่อยากไปส่งฉันเก็บกระเป๋าเลยนะ ว่าแล้วแขกสาวก็แกล้งก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่ออย่างไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้คาชาลเบิกตาด้วยความตื่นตะลึงกับคำตอบทางอ้อมของเธอ
............................
ทว่าในที่สุดคาชาลก็ไม่ได้ไปส่งเธอยังโรงแรม เขาสั่งให้ลูกน้องไปเก็บกระเป๋ามาแทน โดยพาเธอเดินชมรอบบ้านของเขาหลังมื้อเย็นสิ้นสุดลง
โถงกลางทรงกลมของบ้านซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากกระโจมชาวทิชกูเป็นส่วนของห้องรับแขกและห้องพักผ่อน ประดับด้วยเครื่องเรือนหรูหรา งานศิลปะ และเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ทรงตึกชั้นเดียวปีกขวาที่ยื่นออกไปประกอบด้วยห้องรับประทานอาหารซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นห้องประชุม ครัวฝรั่ง ครัวใหญ่ และห้องพักคนรับใช้ตามลำดับ ส่วนปีกซ้ายก็เป็นห้องทำงานและห้องนอนของเขาซึ่งเชื่อมต่อกัน รวมทั้งห้องนอนเปล่าอีกห้าห้อง โดยเขาจัดห้องติดกันให้เธอระหว่างพักอยู่ที่นี่
ลลิลดามองเตียงสี่เสาซึ่งปูทับด้วยผ้านวมผืนหนาอย่างชื่นชม ผู้หญิงกับของสวยๆ งามๆ เป็นของคู่กัน เธอลูบเสาเตียงไม้ขัดมันโดยลืมนึกถึงมูลค่าของมันชั่วคราว
ผมรู้ว่าสักวันต้องพาคุณมาที่นี่จนได้ ห้องนี้เป็นของคุณ เขาสวมกอดเธอจากด้านหลังพลางกระซิบ
ความอ่อนหวาน ช่างเอาใจของคาชาลทำให้หัวใจหญิงสาวพองโต เธอเอี้ยวตัวไปจูบปลายคางชายหนุ่มแทนคำขอบคุณและความรักที่มีต่อเขา ดวงตาหนุ่มสาวมองสบกันด้วยประกายหวานซึ่งห้อมล้อมใจสองดวง
เขาพาเธอเดินไปชมวิวยามค่ำคืนยังกระจกใสจากพื้นจรดเพดานของห้องนอน เมื่อรูดม่านออกก็พบกับสนามหญ้าโล่งสุดสายตา มองไปบนฟ้าเห็นพระจันทร์เสี้ยวส่องแสงแข่งกับหมู่ดาว ลลิลดาแทบครางด้วยหลงในมนต์เสน่ห์ธรรมชาติ
สวยจัง คาชาล
ไม่เท่ามิสวันนี้หรอกครับ แววตาเขาทอประกายหวานล้ำเมื่อผินมองใบหน้าระเรื่อของคนข้างกาย เสียงทุ้มพร่าลงเมื่อเอ่ยความรู้สึกจากใจ มิสกรุณาผมเหลือเกิน ทั้งวันนี้และตลอดมา คนอย่างผมคงมีแต่ชีวิตเท่านั้นที่ยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมิส ถึงอย่างนั้นมันอาจไม่มีค่าพอ...
เธอหยุดคำพูดดูถูกตัวเองของเขาด้วยการยกมือแตะริมฝีปากอีกฝ่าย ชายหนุ่มกุมมือบางไว้มั่น เขาต้องพูดต่อ อกเขาจะแตกเสียให้ได้หากไม่ได้เอื้อนเอ่ยความในใจ
ชาวทิชกูเชื่อว่าผู้หญิงเป็นตัวแทนเทพีจันทรา ทุกครั้งที่ผมเหนื่อยหรือท้อแท้ ผมจะนั่งมองพระจันทร์ได้ทั้งคืน ผมเห็นมิสอยู่บนปลายฟ้านั้น เหมือนกับมีคนคอยบอกให้ผมสู้ต่อ จะหยุดไม่ได้ ถ้าหยุดแล้วผมคงไม่มีหน้ามองจันทร์อีกเลย
คาชาล...
ถ้อยความของเขาบ่งบอกถึงความกดดันในชีวิต ความอัดอั้นตันใจทั้งหมดทั้งมวล น้ำใสรื้นคลอหน่วยตาคนฟัง เธอรักในความเป็นนักสู้ของเขา ขณะเดียวกันก็เห็นใจในชะตาชีวิตที่พลิกผันไม่สิ้นสุด
คาชาลประคองดวงหน้าเจ้าหล่อนไว้สองมือ นิ้วหัวแม่มือของเขาซับน้ำตาเธอแผ่วเบา ลลิลดามองเห็นแวววูบไหวในดวงตาของเขาเช่นกันเมื่อเขาเคลื่อนใบหน้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวรินรดแก้มเธอ ใจสาวสั่นระรัวขณะเขาแนบหน้าผากกับหน้าผากเธอ หากชายหนุ่มมิได้ทำอะไรมากกว่านั้น นอกจากโอบกอดร่างระหงไว้อย่างเรียกหาพลังใจ
คืนนั้น คาชาลออกไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อหลังโอบกอดเธอไว้เนิ่นนาน หญิงสาวแน่ใจว่าตนได้ยินเสียงสูดจมูกแรงจากผู้ซึ่งพยายามปกปิดความอ่อนแอไว้ โดยมีอ้อมแขนเรียวกอดตอบเขาเช่นกัน
...................................
ลลิลดาโทรศัพท์ถึงพี่ชายเพื่อแจ้งเรื่องที่อยู่ใหม่ในคืนเดียวกัน เจคเงียบไประหว่างสนทนา หากเธอมีตาทิพย์คงเห็นว่าคนทางปลายสายกำลังยกมือนวดขมับตนเอง
ทำไมกะทันหันนัก เขาเค้นเสียงถามในที่สุด
ฉันมาบ้านคาชาล แล้วเขาก็ขอให้อยู่ที่นี่ เขาดูอ้างว้างทีเดียว ฉันมาคาซาเนียเพื่อจะอยู่เคียงข้างเขานี่นา ก็เลยตอบตกลง
หมายความว่าเขาขอแต่งงาน
เปล่า เสียงตอบแผ่วลง ก่อนจะรีบแก้คำพูดใหม่ให้พี่สบายใจ ก็ไม่เชิง เขาอยากให้เหตุการณ์ภายในสงบเสียก่อน ตอนนี้ฉันเป็นแขกของเขาเท่านั้น
คำตอบของเธอง่ายแสนง่าย หากคนพี่ก็ได้แต่กดเก็บความไม่สบายใจเอาไว้และภาวนาให้มันไม่เกิดขึ้นจริง เขามีสิทธิห่วงลลิลดาในฐานะคนในครอบครัว แต่ไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายชีวิตเจ้าหล่อน เจคทำได้เพียงลอบถอนใจ
ลิลลี่ เธอโตแล้ว พี่เชื่อว่าเธอคิดอย่างรอบคอบดีแล้วก่อนตัดสินใจทำอะไร เพราะฉะนั้นพี่ก็คงได้แต่อวยพรให้เธอ
โอ เจค ขอบคุณที่เข้าใจ
ชายหนุ่มนึกถึงเด็กหญิงผมเปียจอมแสบ ความกล้าเผชิญกับปัญหาต่างๆ ยังคงมีอยู่ในตัวเจ้าหล่อนจนทุกวันนี้ เขาเคยนึกรังเกียจและอิจฉาสมาชิกตัวน้อยในครอบครัวที่มักพกรอยยิ้มเจิดจ้าดุจดังดวงตะวันจากประเทศที่เธอจากมา แต่เมื่อเธอพยายามปรับตัวหาเขาอย่างไม่กลัวเกรง สิ่งนั้นทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนทัศนคติ กระทั่งนึกรักสมุนตัวน้อยประหนึ่งพี่น้องคลานตามกันมา
เจคค่อยคลายความตึงเครียดลง เขาเปลี่ยนมาเย้าน้องสาวแทน ได้ยินว่าบ้านชานเมืองหลังนั้นใหญ่มาก ดึงๆ เขาไว้หน่อยนะ อย่าให้เขาทำอะไรเกินตัว ถ้าเขารักเธอจริงก็ต้องรับฟังบ้าง จริงไหม
ลลิลดานิ่วหน้า เธอเหลียวมองเครื่องเรือนรอบกายก็เห็นจริง เธอเคยเตือนเขาเรื่องการใช้จ่ายมาครั้งหนึ่งแล้วตั้งแต่ที่อเมริกา แต่เรื่องก็จบลงที่เธอจำนนต่อรอยยิ้มบริสุทธิ์ของเขา
มีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือ
คนเปิดประเด็นหัวเราะ เปล่า หนักแน่นหน่อย น้องสาว อะไรกัน พี่นึกว่าเธอเชื่อใจเขาทุกอย่าง
ฉันเชื่อแต่เรื่องความรู้สึกของเขาที่มีต่อฉันเท่านั้นแหละ
พี่ชายทำเสียงเค้นคอมาตามสาย รับไม่ได้กับวาจาหวานเลี่ยนอย่างหลงตัวเองของอีกฝ่าย
เจค อย่าเพิ่งบอกเรื่องของฉันกับแม่นะ แล้วฉันจะโทรถึงท่านเอง เธอเอ่ยจริงจังอีกครั้ง
รู้น่า อย่าทำเหมือนพี่ปากโป้งหน่อยเลย
แค่กลัวหลุดปากเท่านั้นแหละ กล่าวแก้อ้อมแอ้ม ขอบคุณนะ
เธอไม่ได้ตัวคนเดียวที่นี่นะ อย่าลืมเสียล่ะ
ลลิลดาพึมพำตอบพี่ชาย ลำคอตีบตื้อขึ้นมากับความรักความผูกพันซึ่งถ่ายทอดผ่านทุกบทสนทนา หญิงสาวพลอยคิดไกลถึงครอบครัวในอนาคต เธอปรารถนาให้มันอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักความเข้าใจกันเช่นนี้ และผู้นำครอบครัวคนเดียวที่เธอนึกถึงก็คือคาชาล หญิงสาวคิดฝันอย่างคนที่ตกอยู่ในห้วงรักนั่นเอง
ทว่าเจคไม่คิดปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ เหมือนท่าทีที่แสดงออก เขาจะต้องหาทางสื่อสารกับคาชาลถึงความเหมาะสมที่ชายหญิงสองคนอยู่ร่วมกัน เขาต้องการให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างถูกต้องที่สุด
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
15 มิ.ย. 55 11:40:26
|
|
|
|