โจอี้ ฟรอส กับการผจญภัยข้ามเวลา บทที่7.1
|
 |
บทที่ 7
เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนโจอี้พบกับห้องกว้างสีขาว แสงไฟสว่างทั่วทั้งห้อง พื้นที่โล่งไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นเดียว ครูมิลเลอร์เดินนำโจอี้ไปที่กลางห้อง
ที่นี่คือห้องเดินทาง ปกติทุกคนจะเดินทางเข้าออกช่วงเวลาแห่งอดีตโดยผ่านห้องนี้ แต่เราก็สามารถใช้ที่นี่เดินทางไปที่ต่างๆในเวลาปัจจุบันได้ ครูมิลเลอร์หยิบนาฬิกาสีทองของเขาออกมา
แล้วชั้นสิบเอ็ดถึงสิบสามเป็นชั้นอะไรครับ โจอี้มองรอบๆอย่างทึ่ง แสงไฟสว่างตลอดเวลาโดยไม่ต้องใช้แผ่นเรืองแสงเปิดเหมือนชั้นอื่น สีขาวทำให้ห้องดูกว้างอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ชั้นสิบเอ็ดและสิบสองเป็นห้องควบคุมระบบความปลอดภัย ตอนกลางคืนจะใช้ระบบอัตโนมัติ ส่วนชั้นสิบสามเป็นที่คุมขังนักโทษที่ทำผิดกฎหมายของห้วงเวลา เราเรียกว่า คุกไร้เวลา ครูมิลเลอร์ตอบ
คุกไร้เวลา? โจอี้เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีที่คุมขังนักโทษด้วย
ใช่ เป็นมิติที่ตัดขาดจากเวลาของโลกภายนอก ไม่สามารถรับรู้ถึงกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าอยู่นานเข้าจะสูญเสียประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ ไม่รับรู้แม้แต่การมีตัวตนของตนเอง ครูมิเลอร์กวาดตามองรอบๆอย่างรวดเร็ว เราต้องรีบไปก่อนที่จะมีใครเดินทางมาที่นี่ เธอใช้นาฬิกาเป็นหรือเปล่า ครูมิลเลอร์ให้โจอี้หยิบนาฬิกาของตัวเองออกมา
ไม่แน่ใจครับ เมื่อกี้เขาแค่ลองใช้ดูมั่วๆเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่น่าจะยาก
เธอกดนาฬิกาพร้อมนึกถึงชื่อสถานที่ที่จะไป แต่ถ้านึกผิดเพียงนิดเดียวก็จะออกไปผิดที่ได้เหมือนกัน ครูมิลเลอร์เตือนไว้ก่อน
ไปพบกันที่ห้องของครูนะ โจอี้พยักหน้า เสียงคลิกของนาฬิกาทั้งสองเรือนดังขึ้น ห้องเดินทางกลับมาว่างเปล่าอีกครั้ง
เสียงนาฬิกาดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของฮัมเบิร์ก สแตนด์และแอนนา ทั้งสามคนยืนอยู่ในสวนของโรงเรียน ความมืดและความเงียบทำให้โรงเรียนแตกต่างจากเวลาปกติ
เธอบอกมาได้แล้วว่าชิ้นส่วนของศิลาอยู่ที่ไหน ฮัมเบิร์กถามแอนนาที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอขยับแว่นตาก่อนจะมองฝ่าความมืดออกไป อยู่ตรงโน้นค่ะ หนูฝังมันไว้ใต้ต้นไม้ แอนนาชี้นิ้วไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง
เธอแน่ใจหรือ? สีหน้าของฮัมเบิร์กดูไม่เชื่อสักเท่าไหร่ สแตนด์ นายเอามันมาหรือเปล่า ฮัมเบิร์กแบมือขออะไรบางอย่างจากสแตนด์ แอนนามองตามมือนั้นอย่างหวาดหวั่น
นี่ใช่ไหม สแตนด์ล้วงมือไปหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท มันเป็นแท่งแก้วยาวเรียวรูปร่างเหมือนปากกา เขาส่งมันให้ฮัมเบิร์ก
ฮัมเบิร์กกดที่ปลายด้านหนึ่ง แสงไฟสว่างออกมาจากด้านตรงข้ามเหมือนไฟฉาย เขาส่องไฟลงไปยังบริเวณที่แอนนาชี้ก่อนหน้านี้ แอนนามองดูคิ้วของเขาที่ค่อยๆขมวดเข้าหากันทีละน้อย เขากวาดแสงไฟไปยังบริเวณใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เธอสังเกตว่ามือของเขากำแท่งแก้วแน่นขึ้นจนมองเห็นเส้นเลือดจำนวนมากปูดโปน เธอเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี
ที่นี่ไม่มีชิ้นส่วนของศิลา! ฮัมเบิร์กหันมาทำตาเขียวใส่แอนนา เสียงเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งดังลอด ออกมาจากไรฟัน
คุณ..คุณยังไม่ได้ขุดดูเลย คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่มี แอนนายืนกรานเสียงแข็ง เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่าแท่งแก้วนั้นมีเอาไว้ทำอะไร แต่เธอคิดว่ามันคงไม่ได้เป็นแค่ไฟฉายธรรมดาแน่นอน ฮัมเบิร์กชูของในมือให้แอนนาดู เขายื่นมันเข้ามาใกล้จนแท่งแก้วเรียวยาวเกือบจะสัมผัสถูกใบหน้าของเธอ แอนนาก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ เธอมั่นใจแล้วว่าแผนนี้คงไม่ได้ผล
ถึงสำนักงานของเราจะเดินทางไปในที่ที่โบราณ แต่อุปกรณ์ของเราไม่โบราณนะแม่หนูน้อย นี่คือ ไฟน์เดอร์หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า แท่งแก้วค้นหา เราสามารถใช้มันตามหาสิ่งของในที่ที่เราเข้าไปไม่ถึง และยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถนำมันออกมาได้ด้วย เพียงแค่ส่องไฟลงไปเท่านั้น เพราะฉะนั้น...ถึงไม่ต้องขุด...ฉันก็รู้ว่าไม่มี! ประโยคสุดท้ายฮัมเบิร์กก้มตัวลงไปใกล้แอนนามากขึ้นพร้อมแผดเสียงใส่เธอจนแก้วหูแทบแตก
หนู...คงจำผิดที่ค่ะ สีหน้าของแอนนาซีดเผือดลง เธอไม่คิดว่าสำนักงานประหลาดจะมีของล้ำยุค แบบนี้อยู่ด้วย
ถ้าเธอจำผิดอีกครั้งเดียว เราจะกลับไปสมทบกับเพื่อนของเธอที่เขตกักบริเวณกัน น้ำเสียงของ ฮัมเบิร์กดูไม่ได้ล้อเล่นแม้แต่น้อย คำพูดนั้นทำให้แอนนากลืนน้ำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก
โจอี้ลืมตาขึ้น ตอนนี้เขาอยู่ในห้องของครูมิลเลอร์ เขาพบว่าครูยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว บรรยากาศภายในห้องยังเหมือนเมื่อวันก่อนไม่มีผิด เธอนั่งรออยู่ที่นี่ ครูจะไปพาแอนนากลับมา พูดจบครูก็เดินออกไปจากห้องทันที โจอี้รีบเดินตามไปติดๆแต่ไม่ทันเสียแล้ว ประตูห้องถูกล็อกจากด้านนอก เขาพ่นลมออกจากจมูกด้วยความเซ็งก่อนจะเดินคอตกกลับไปนั่งรอที่เก้าอี้
แอนนาพาฮัมเบิร์กและสแตนด์ไปที่ห้องเรียนของเธอ เธอหยุดอยู่หน้าประตูและชี้เข้าไปภายในห้อง
หนูทำมันหายในห้องนี้ค่ะ คุณลองหาดูก็แล้วกัน แอนนาเสมองออกไปทางอื่น เธอไม่อยากเห็นใบหน้าที่เกรี้ยวกราดของฮัมเบิร์กอีก แค่นี้เขาก็ทำให้เธอขนลุกมากพอแล้ว
ทำหาย? กล้าดีอย่างไร! ตาของฮัมเบิร์กแทบจะถลนออกมานอกเบ้า
สแตนด์ นายพาเด็กคนนี้กลับ ไปก่อน เดี๋ยวฉันตามไป ฮัมเบิร์กสั่ง สแตนด์คว้าข้อมือของแอนนาไว้ข้างหนึ่ง แต่ก่อนที่เขาจะกดนาฬิกาในมือ ครูมิลเลอร์ก็ปรากฏตัวขึ้นและคว้าข้อมืออีกข้างของแอนนาหายไปในทันที..
ไปกันได้แล้วโจอี้ เสียงครูมิลเลอร์ดังขึ้นกะทันหันทำให้โจอี้สะดุ้งจนเกือบตกเก้าอี้ ครูพาแอนนาเข้ามาโดยที่เขายังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ครูจะพาพวกเธอไปส่งที่บ้าน ครูมิลเลอร์จับมือของโจอี้และแอนนาไว้ก่อนจะกดนาฬิกาอีกครั้ง
ทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านของโจอี้ เด็กๆกำลังมึนงงกับการเดินทางไปมาหลายรอบในวันเดียว
ครูรู้จักบ้านผมด้วยหรือครับ โจอี้แปลกใจ ครูพาเขาและแอนนามาส่งได้อย่างพอดี
พวกเธอรีบเข้าบ้านไปซะ โจอี้..เธอต้องลบร่องรอยการเดินทางของเธอเสียก่อน ครูพลิกที่ด้านหลังของนาฬิกาแล้วเปิดออก เขาชี้ปุ่มสีแดงเล็กๆที่อยู่ข้างใน
ถ้าเธอกดตรงนี้ บันทึกการเดินทางทั้งหมดของเธอจะถูกลบออกจากสำนักงาน จะไม่มีใครตามรอยเธอได้ ครูกดลงที่ปุ่มสีแดงแล้วส่งนาฬิกาคืนให้โจอี้
ต้องลบของครูด้วยไหมครับ โจอี้เป็นห่วงว่าพวกเขาจะตามรอยของครูได้เช่นกัน
ลบไม่ได้หรอก ลบได้เฉพาะเครื่องของจอห์นเท่านั้น เพระเขาแอบดัดแปลงมันขึ้นมาเอง ครูยิ้มเมื่อนึกถึงความช่างคิดของจอห์น เขาเคยบอกครูไว้ว่า...ถ้าเขาแอบหนีไปเที่ยว จะได้ไม่มีใครตามรอยเขาได้
ครูจะทำอย่างไรต่อไปครับ โจอี้ยังกังวล
ครูจะออกเดินทาง ครูมิลเลอร์พูดค้างไว้แค่นั้น เขาไม่ต้องการให้โจอี้รู้ว่าเขาจะออกเดินทางไปตามหาชิ้นส่วนของศิลากลับมา แน่นอนว่าเด็กคนนี้ต้องขอตามไปด้วย
จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น! เสียงของฮัมเบิร์กดังขึ้นด้านหลังคนทั้งสาม เขาตามรอยจากบันทึกของมิลเลอร์มาที่นี่เพียงคนเดียว ดวงตาของโจอี้และแอนนาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
ขอทีเถอะฮัมเบิร์ก เด็กพวกนี้ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ครูมิลเลอร์เดินออกมายืนบังเด็กๆไว้
แต่เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ ฮัมเบิร์กยังไม่ยอม เขาไม่ชอบที่มิลเลอร์ชอบปกป้องคนผิด เพราะอย่างนี้ไงเล่า เขาถึงพาลไม่ชอบมิลเลอร์ไปด้วย
ครูไม่ผิดหรอกครับ ผมเป็นคนทำเอง ผมแค่จะเอื้อมมือไปจับมันแต่ครูมาห้ามผมไว้เสียก่อน มันมีแค่รอยร้าวเท่านั้นนะครับ โจอี้ตัดสินใจสารภาพ เขาไม่อยากให้ครูเดือดร้อนเพราะเขา
ถ้ามีแค่รอยร้าวมันจะซ่อมแซมตัวเองได้ สัญญาณเตือนจะไม่ดังขึ้นมาหรอกนะเจ้าหนู ฮัมเบิร์ก มองโจอี้ไม่วางตา เขาเพิ่งสังเกตเด็กคนนี้ชัดๆ เขารู้สึกคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูก
จริงๆนะครับ ผมไม่ได้โกหกและเราก็ไม่มีชิ้นส่วนของศิลาที่คุณว่าด้วย โจอี้ยืนยันด้วยสีหน้าจริงจัง ใบหน้านี้เองที่ทำให้ฮัมเบิร์กนึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้
เธอชื่ออะไร? ฮัมเบิร์กเปลี่ยนเรื่องกะทันหันจนโจอี้เกือบตามไม่ทัน
โจอี้ครับ โจอี้ ฟร.. โจอี้ยังพูดไม่จบเสียงโทรศัพท์ของฮัมเบิร์กดังขึ้นเสียก่อน เขากดรับมันอย่างรำคาญใจ
ว่าไง..อะไรนะ! ได้..ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ ฮัมเบิร์กวางสาย เขาหันกลับมามองโจอี้อีกครั้ง ฉันจะเชื่อคำพูดของเธอได้หรือเปล่า เสียงของฮัมเบิร์กอ่อนลงจนน่าแปลกใจ โจอี้พยักหน้าแรงๆหลายครั้ง น่าแปลกที่ใจของฮัมเบิร์กก็อยากจะเชื่ออย่างนั้น แต่ตอนนี้เขาต้องสนใจงานด่วนที่เพิ่งจะเข้ามาเสียก่อน
ฉันได้รับรายงานว่าอัลเบิร์ต สโตนหลบหนีออกมาและได้หนีเข้าไปในช่องว่างของเวลาแล้ว สีหน้าของฮัมเบิร์กเคร่งเครียดขณะที่พูดกับครูมิลเลอร์
เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะหนีออกมาจากคุกไร้เวลาได้ ครูมิลเลอร์ตกใจไม่แพ้กัน ไม่เคยมีใครหนีออก มาจากที่นั่นได้
ฉันยังไม่รู้ ต้องกลับไปตรวจสอบดูก่อน เรื่องของเธอเอาไว้คุยกันทีหลัง ประโยคสุดท้ายฮัมเบิร์กหันไปพูดกับโจอี้ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
พวกเธอกลับเข้าบ้านไปได้แล้ว ครูจะไปกับฮัมเบิร์ก ครูมิลเลอร์ยืนส่งโจอี้และแอนนาที่หน้าบ้าน
พรุ่งนี้ครูจะไปสอนที่โรงเรียนไหมครับ โจอี้ถามเสียงอ่อย เขากลัวว่าครูจะไม่กลับไปอีก
แน่นอน ครูมิลเลอร์ยกมือขยี้ศีรษะของโจอี้แรงๆ เขารอให้เด็กทั้งสองคนกลับเข้าบ้านก่อนจะหายตัวไปอีกคน
จากคุณ |
:
ojaru
|
เขียนเมื่อ |
:
15 มิ.ย. 55 13:35:16
|
|
|
|