'สวิง' รัก ... 'พัตต์' หัวใจ (บทที่ ๗)
|
 |
ขอเกริ่นสักนิด
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ชยพล ชายหนุ่มผู้ซึ่งโดนบิดาปรามาสว่าชาตินี้ไม่มีวันทำอะไรสำเร็จ เขาจึงตั้งใจจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' เพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ และการจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' ให้สำเร็จโดยเร็วก็ต้องอาศัย ชาลิดา 'แคดดี้มือหนึ่ง' เป็นสำคัญ
ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกล... ถ้าทั้งคู่ไม่ตีกันตายเสียก่อน
นิยายเรื่องนี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟครบทั้งบรรยากาศและเทคนิค หวังว่าผู้อ่านจะได้รับความบันเทิง และความรู้ในกีฬาชนิดนี้บ้างตามสมควร
ปกติผมจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมะและประวัติศาสตร์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างจริงจังพอสมควร เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่พยายามจะกุ๊กกิ๊กกับเขาบ้าง หากไม่หวานหรือกุ๊กกิ๊กเท่าไหร่ ก็ให้ถือว่าเป็นเพราะวัยที่ล่วงเลยวันหวานมานานเกินไปแล้วกันนะครับ ^_^
นิยายเรื่องนี้เขียนเกือบจบแล้ว (เหลือประมาณสองบทสุดท้าย) ตั้งใจจะลงเดือนละสองครั้งครับ คือ วันที่ ๑ กับ ๑๖ คาดว่ากว่าจะลงครบก็คงเขียนจบพอดี ดังนั้นเป็นอันรับประกันว่า ต้องลงให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันจนจบอย่างแน่นอน
บทที่ ๖ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12173677/W12173677.html
.........
บทที่ ๗
ผมตีข้ามทรายที่ดักอยู่ได้ไหม ชยพลถามขึ้นก่อนจะตีช็อตแรก
ไม่ได้ค่ะชาลิดาตอบพลางส่ายหน้า ต้องตีเลี่ยงไปทางขวาของหลุม
วันก่อนกรยังตีข้ามได้เลย
นายกรตีหัวไม้ตรงและไกลค่ะ เธอตอบฉะฉาน
อีกฝ่ายนิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วผมไดร์ฟเป็นยังไง
ให้พูดตรงๆ หรือเปล่าคะ
ก็พูดมาสิ ไม่ต้องยอด้วย ผมไม่ใช่คนบ้ายอ
ชาลิดามองนิ่ง ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนโพลงขึ้น คุณพลไดร์ฟเฟดและสั้นค่ะ
หมายความว่ากรไดร์ฟดีกว่า? แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเข้าจริงๆ ชยพลกลับรู้สึกขุ่นใจยิ่งอีกฝ่ายพยักหน้ายอมรับ ยิ่งเหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ผมจะทำให้คุณดูว่าผมก็ไดร์ฟข้ามหลุมทรายนั้นได้
ว่าพลางพรวดพราดไปยืนหลังลูกกอล์ฟ ซ้อมสวิงลม ๒ ๓ ที แล้วก้าวเข้าไปจรดลูกจากนั้นใส่พลังอัดลงไปเต็มเหนี่ยว
ลูกลอยละลิ่วไปทางหลุมทราย ดูจากทิศทางกับระยะ ต้องตกลงไปในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ด้วยความที่เป็นคนตีเฟดธรรมชาติ คือลูกจะเลี้ยวจากซ้ายไปขวาเป็นปกติจากที่น่าจะตกลงกลางหลุมทรายจึงเลี้ยวหนีไปทางขวาตกพื้นแล้วกลิ้งฉีกออกไปอีกเล็กน้อย
ลูกผมมีเรดาห์ พอถึงหลุมทรายก็เลี้ยวหนี ชยพลหลับหูหลับตาไปมันน้ำขุ่นๆ เจ๋งไหมล่ะ
ค่ะ ชาลิดาตอบพลางก้าวขึ้นบนแท่นทีออฟรับหัวไม้ ๑ มาเช็ดทำความสะอาด สวม คัฟเวอร์ (ที่ครอบหัวไม้) เก็บหัวไม้ใส่ถุง แล้วก้าวตามหลังนายของตนซึ่งเดินนำลิ่วๆไปข้างหน้า
ช็อตที่สอง ชยพลถามชาลิดาว่าควรตีอย่างไร
วันนี้ธงปักอยู่ด้านขวาของกรีน เธอจึงแนะนำให้วางไว้ด้านซ้ายของหลุมทรายที่ดักอยู่หน้ากรีนช็อตต่อไปจะได้ชิพเบาๆ ให้ลูกวิ่งเข้าหาธงได้ง่ายขึ้น
อย่างนี้ผมก็ไม่ได้สองออนสิ
ชาลิดาส่ายหน้า ไม่ได้หรอกค่ะ จากจุดนี้ระยะตั้งเกือบ๑๙๐ หลา ถึงตีออน ลูกก็กระเด้งตกน้ำด้านหลังอยู่ดี
วันนั้นกรยังเกือบได้สองออนเลย
วันนั้นนายกรไดร์ฟมาดีค่ะ ช็อตนั้นใช้เหล็กสั้นเลยบังคับง่าย ลูกตกแล้วกระเด้งไม่เยอะ แคดดี้มือหนึ่งบอกละเอียดยิบ
คำว่า นายกรไดร์ฟมาดี กระตุกต่อมอารมณ์ชยพลอย่างแรง เพราะเหมือนถูกย้ำว่าตัวเองไดร์ฟไม่ดี ผมจะตีสองออนให้คุณดู!
ว่าพลางก้าวไปดึงเหล็ก ๔ ขึ้นจากถุงเองยัดที่คลุมหัวเหล็กใส่มือชาลิดา แล้วเดินเลี่ยงไปสวิงลม ๒ ๓ เที่ยว ก่อนก้าวเข้าไปจรดลูกแล้วตีออกไปอย่างดุดัน
ลูกกอล์ฟสีขาวถูกอัดด้วยแรงทิฐิทะยานออกไปตรงๆไม่มีอาการเฟดให้เห็น ดูด้วยสายตาน่าจะข้ามหลุมทรายไปได้ แต่พอตกถึงพื้นกลับพบว่า เลยขอบหลุมทรายฝั่งที่ติดกับกรีนไปไม่ถึงฟุตกระเด้งเตี้ยๆ แล้วไหลย้อนลงไปในหลุม
ชยพลทำตาขวางใส่แคดดี้ของตน ประหนึ่งว่าหากถากถางเป็นได้เห็นดีกันแน่ เมื่อเห็นเธอไม่พูดอะไรก็ส่งเหล็กคืน แล้วเดินนำลิ่วไป
คนถูกพาลถอนใจพลางส่ายหน้า
ช็อตที่สาม ต้องตีในหลุมทราย
ชยพลเลือกใช้ แซนด์เวดจ์ ซึ่งเป็นเหล็กสั้นที่เหมาะสำหรับตีบนทราย
หลังซ้อมสวิงลมตรงขอบหลุมจนมั่นใจแล้ว ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟจึงก้าวลงไปที่ลูกเล็งจุดตีไว้หลังลูกประมาณ ๒ นิ้ว
การตีลูกจากทรายในระยะใกล้ๆ แบบนี้ จะไม่ตีที่ลูกโดยตรงต้องตีลงบนพื้นทราย แล้วให้ทรายหอบลูกขึ้นไปแทน
ชยพลนึกทบทวนตำราที่เคยอ่าน และทำตามทุกขั้นตอนทว่าเมื่อตีออกไปแล้วปรากฏว่าทรายกระจาย แต่ลูกเคลื่อนไปจากจุดเดิมเพียงไม่กี่นิ้ว เจ้าตัวส่ายหัวอย่างฉุนเฉียว แล้วลองตีอีกครั้ง
คราวนี้ปรากฏว่าตีโดนที่ลูก ลูกจึงพุ่งต่ำๆ ไปติดขอบหลุมและกระเด้งย้อนกลับหลังมาราว ๓ ฟุต
ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟหงุดหงิดเต็มที่อยากเอาเหล็กฟาดพื้นทรายเพื่อระบายอารมณ์ แต่ติดตรงที่แคดดี้มือหนึ่งยืนนิ่งอยู่บนขอบหลุมจึงข่มใจไว้
เขาพยายามตั้งสติใหม่ สูดลมหายใจเข้าลึก ผ่อนออกมาช้าๆแล้วเดินเข้าไปลองตีอีกรอบ ทว่าทุกอย่างยังคงเดิม คือทรายกระจาย แต่ลูกไม่ไปไหน และในที่สุดก็โมโหจนลืมตัวใช้แซนด์เวดจ์สวิงรัวๆ มั่วๆ ไปบนพื้นจนฝุ่นทรายกระจายฟุ้ง
คุณพลต้องฟอลโล่เหล็กตามไปด้วยค่ะ ผู้ที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น
ได้ยินดังนั้น ชยพลอยากเขกกะโหลกตัวเองขึ้นมาตงิดๆเขาคิดว่าทบทวนทุกขั้นตอนดีอยู่แล้ว แต่ดันลืมขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไปเสียได้
ถ้าตีแล้วหยุดใบเหล็กไว้ตรงจุดที่ตีจะกลายเป็นว่า อาศัยกำลังจากทรายหอบลูกขึ้นไปเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะมีกำลังไม่เพียงพอต้องส่งพลังจากก้านเหล็กเข้าช่วยอีกแรง ทรายจึงจะโอบอุ้มลูกขึ้นไปได้
ทว่าแม้ล่วงรู้ถึงข้อผิดพลาดแล้ว แต่ให้ยอมรับตรงๆก็เกรงจะเสียหน้า จึงกลบเกลื่อนด้วยการทำตาขวางใส่เจ้าของเสียงเหมือนไม่สบอารมณ์ก่อนลองตีอีกครั้ง
คราวนี้ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟไม่ลืมที่จะส่งเหล็กตามออกไปด้วย
ปรากฏว่าทรายหอบลูกลอยโด่งขึ้นจากขอบหลุมไปได้จริงๆแม้ยังสั้นไปสักนิด แต่ก็เพียงพอที่จะพาลูกให้กลิ้งเข้าไปในกรีน
ชยพลก้าวขึ้นจากหลุม ปัดเศษทรายที่ติดตามขากางเกงออกด้วยท่าทางหงุดหงิดดูอยู่ตั้งนานเพิ่งจะบอก เขาเอ่ยขณะที่ส่งแซนด์เวดจ์คืน แล้วเดินลิ่วไป
ชาลิดาไม่ได้โต้ตอบอะไร เก็บอุปกรณ์ลงถุง แล้วเดินตามไปช้าๆ
หลังจบหลุมที่ ๓ ทั้งคู่มาพักที่ซุ้มขายอาหาร
ชยพลสั่งขนมจีบกับเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องมานั่งละเลียดอย่างสบายอารมณ์พอชาลิดาเดินออกมาจากห้องน้ำก็เอ่ยขึ้นว่า แคดด้วงอยากกินอะไรเชิญได้เลยนะ
แม้รู้สึกสะดุดกับคำเรียก แต่ชาลิดาไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆเดินไปสั่งน้ำเย็นหนึ่งขวดที่เคาน์เตอร์ เมื่อพนักงานขายส่งให้ก็หันไปไหว้ขอบคุณคนเจ้าอารมณ์แล้วลากถุงกอล์ฟไปยืนคอยท่าอยู่ที่แท่นทีออฟหลุม ๔ ซึ่งอยู่ไม่ห่างนัก
ฝ่ายชยพลรู้ว่าชาลิดาเจตนาเร่ง เลยทำทีเป็นนั่งกินลมชมวิวไปเรื่อยๆพอขนมจีบหมดจานก็เอนหลังพิงเสา หลับตาพริ้มทำหน้าประหนึ่งกำลังสูดกลิ่นอายธรรมชาติ
แคดดี้มือหนึ่งเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกอึดอัดอยากเข้าไปเร่งแต่ยังหาเหตุไม่ได้ พอเหลือบไปเห็นว่ามีก๊วนหลังไล่มาลิบๆ จึงได้ที รีบเดินย้อนกลับเข้าไปในซุ้มอาหาร มีก๊วนหลังไล่มาแล้วค่ะ
คนถูกเร่งทำหน้ามุ่ย เหลียวไปมองก็เห็นว่ามีก๊วนไล่มาจริงจึงบ่นกระปอดกระแปด แล้วลุกเดินตามมาอย่างเสียไม่ได้
พอไปถึงแท่นทีออฟหลุม ๔ ก็เห็นว่าหลุมนี้เป็นหลุมพาร์๓ ระยะ ๑๘๕ หลา กรีนมีลักษณะคล้ายเกาะที่ถูกน้ำล้อมมีเพียงด้านซ้ายเท่านั้นที่เชื่อมอยู่ติดกับแฟร์เวย์ จึงเอ่ยถามอย่างพาซื่อ ตีออนเลยได้ไหม
ตีไปพักไว้ตรงแฟร์เวย์ด้านซ้ายก่อนดีกว่าค่ะ
ทำไมล่ะ ระยะแค่นี้น่าจะตีถึง
กรีนล้อมรอบด้วยน้ำ โอกาสที่จะตีลูกให้ตกแล้วหยุดบนกรีนยากค่ะเพราะคุณพลต้องใช้เหล็กยาว
ดูเหมือนแคดด้วงจะไม่เชื่อความสามารถผมเลยนะ
เขาเน้นคำเรียกอย่างชัดถ้อยชัดคำ เจตนากวนอารมณ์เต็มที่แต่เป้าหมายกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ไม่ใช่ไม่เชื่อค่ะแต่อยากแนะนำทางที่เห็นว่าปลอดภัยที่สุด
เดี๋ยวจะออนให้ดูเขาทำหูทวนลม แคดด้วงอย่าตะลึงแล้วกัน
คุณพลเรียกด้วงเฉยๆ ก็ได้ค่ะ
ก็ผมจะเรียกแบบนี้... มีปัญหา? เขาว่าพลางเลิกคิ้วถามในที
อีกฝ่ายสูดหายใจลึกเป็นรอบที่ร้อยแล้วกระมังสำหรับวันนี้ แล้วแต่คุณพลเถอะค่ะ
ก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเอ่ยเสียงเข้ม คุณเป็นแคดดี้ชื่อด้วง ผมขี้เกียจเรียกยาวๆ ก็เท่านั้น ไม่เห็นจะเป็นอะไร
ค่ะ ชาลิดาก้มหน้านิ่ง
ชยพลก้าวไปชักเหล็ก ๔ ออกจากถุงด้วยตัวเอง อันที่จริงเขาอยากยิ้มให้แก้มปริที่แผนยียวนเริ่มเห็นผลเธอเริ่มแสดงอารมณ์บ้างแล้ว แต่เกรงจะเอิกเกริกเกินงาม จึงกลบเกลื่อนด้วยความมึนตึง
ปกติชยพลตีเหล็ก ๔ ได้ประมาณ ๑๘๐ หลาแต่ช็อตนี้ได้ตีบนที เจ้าตัวจึงคิดว่าระยะน่าจะเพิ่มขึ้นอีกสัก ๑๐ หลา คงพอข้ามน้ำ
คุณพลใช้เหล็ก ๔ คงตีไม่ข้ามหรอกค่ะเสียงคนข้างๆ ท้วงมาอีกคำรบ
ผู้ถูกท้วงนิ่วหน้า กล้าพนันไหมล่ะ
ด้วงไม่พนันหรอกค่ะ... คุณพลตีเถอะเธอบอกสีหน้าเรียบเฉย
ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเดินยิ้มย่องผ่องใสอย่างผู้มีชัยเข้าไปจรดลูกแล้วตีออกไปอย่างมั่นใจ
วิถีของลูกสวยทีเดียว แต่ดันไปตกตรงขอบกรีน แล้วกลิ้งถอยหลังจมหายไปในน้ำ
เขาเหลือบมองคนข้างๆ พลางเอ่ยเสียงขุ่น ตำราบอกว่าตีบนทีลูกจะไกลกว่าปกติ
แล้วตำราไม่ได้บอกหรือคะ ว่าตีข้ามน้ำต้องเพิ่มเหล็กหนึ่งเบอร์ สิ้นเสียงเจ้าตัวยืนนิ่งราวกับรูปปั้น แววตาเรียบเฉยมองตรงไปเบื้องหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชยพลรู้สึกดีที่ได้เห็นอารมณ์ของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจึงลอบยิ้มแล้วเดินหนีไปราวกับไม่รับรู้ว่ากำลังโดนเหน็บ
ช็อตที่สอง...
ชยพลต้องเริ่มเล่นในบริเวณที่จัดไว้เฉพาะสำหรับคนตีตกน้ำนักกอล์ฟเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า ดรอปแอเรีย และช็อตนี้เขาทำได้ดีตีเข้าไป ดำ คำว่าดำในภาษาของนักกอล์ฟหมายถึงใกล้หลุมมากมากจนไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพัตต์ ถือว่าเชื่อมือกัน
เมื่อจบการเล่นในหลุมนี้ ชยพลเห็นชาลิดาก้มๆเงยๆ อยู่แถวที่ลูกตกน้ำ จากนั้นเดินมาดึงเหล็กสองอันจากถุง แล้วไปยงโย้ยงหยกอยู่ตรงขอบตลิ่งเธอคงตั้งใจจะใช้เหล็กช้อนลูกขึ้นมา แต่คงสั้นเกินไป เจ้าตัวจึงหันรีหันขวางอยู่
คุณพลช่วยดึงเสื้อด้วงหน่อยได้ไหมคะ เธอหันมาเอ่ยเบาๆ เสียดาย ลูกยังใหม่อยู่เลยค่ะ
ชยพลพยักหน้า เดินเข้าไปดึงชายเสื้อด้านหลังของเธอไว้
ชาลิดายื่นมือลงไปช้าๆใช้ใบเหล็กสองอันประสานกัน แล้วค่อยๆ คีบลูกกอล์ฟขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะพ้นผิวน้ำก็ต้องสะดุ้งโหย่งสัญชาตญาณสั่งให้รีบทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้น ลูกกอล์ฟพลัดตกน้ำ แต่มือยังกำก้านเหล็กไว้แน่น ครั้นตั้งสติได้ก็หันขวับกลับไปมองข้างหลัง
ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเห็นดังนั้นรีบตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จขอโทษที...มือมันลื่น พูดออกไปแล้วนึกแค้นใจตัวเองที่ข่มความขำไว้ไม่อยู่
คุณพลแกล้งด้วง ด้วงไม่เก็บแล้ว
ว่าแล้วเธอทำท่าจะลุก แต่ชยพลรีบกดบ่าไว้
อย่างอนสิ เจ้าตัวพูดพลางยิ้มอย่างเอาใจเก็บให้ผมเถอะนะ เสียดายเหมือนกัน ลูกยังใหม่อยู่เลย
สีหน้าของอีกฝ่ายยังดูหวาดระแวง เขาจึงสำทับอีกระลอกเอาน่าคราวนี้ผมรับประกัน จะไม่ให้ลื่นอีก ว่าพลางขะมักเขม้นถูฝ่ามือกับชายเสื้อ
ถ้าแกล้งด้วงอีกจะทิ้งเหล็กลงน้ำให้ดู
ชยพลหัวเราะชอบอกชอบใจที่โดนขู่เห็นเธอแสดงกิริยาแง่งอนตามประสาผู้หญิงแล้วรู้สึกมีความสุขดีเหมือนกัน
หลุม ๑๒ พาร์ ๕ ระยะ ๔๘๕ หลา
หลุมนี้มีมีธารน้ำกว้างประมาณ ๓ เมตรพาดผ่านแฟร์เวย์ชาลิดาแนะนำให้นายของตนเริ่มเล่นด้วยหัวไม้ ๓ เพราะรู้ดีว่าหากใช้หัวไม้ ๑ ธารน้ำนั้นจะเป็นระยะลูกตกของเขาพอดี
ถ้าจะตีข้ามน้ำระยะเท่าไหร่ ชยพลถาม
๒๕๐ หลาค่ะ ชาลิดาตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
แล้วถ้าวางหน้าน้ำล่ะ
สองร้อยหลาค่ะ
ขอหัวไม้หนึ่งชยพลเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าสงสัยจึงอธิบายเพิ่มเติม วางหน้าน้ำนั่นแหละ แต่จะตีเบาๆ
ทำไมไม่ตีวงเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้ไม้ที่มีระยะใกล้กว่าล่ะคะ
แคดดี้มือหนึ่งบอกด้วยความหวังดี แต่โดนตำหนิว่าไม่เชื่อในความสามารถเลยต้องยืนสงบปากสงบคำเช่นเคย
ระหว่างซ้อมสวิงลมชยพลเตือนตัวเองว่าต้องใช้แรงเพียงครึ่งเดียวและพอตีจริงเขาก็ใช้แรงเพียงครึ่งเดียวอย่างที่คิดไว้ แต่ไม่รู้เพราะอะไรกลับรู้สึกว่าโดนดีเหลือเกินลูกทะยานลิ่วออกจากหน้าไม้ ตกเกือบถึงธารน้ำ กระเด้งพื้นหนึ่งครั้งแล้วหายวับไปกับตา
จะหักหน้าเธอทีไร ต้องเป็นหยั่งงี้ทุกทีสิน่า เขาคิดแค้นอยู่ในใจ ครั้นจะเหลียวไปมองคนข้างๆ ก็เกรงว่าแววตาแห่งความกระดากจะปรากฏให้เธอเห็นจึงหลับหูหลับตาเอ่ยขึ้นว่า มัลลิแกน
คำพูดของเขาหมายถึงตีช็อตแรกใหม่โดยไม่เสียแต้ม กฎนี้ใช้เฉพาะในหมู่เพื่อนเท่านั้นไม่สามารถใช้ในการแข่งขันได้
กติกานี้ใช้เฉพาะหลุมแรกค่ะ
ก็ผมจะใช้หลุมนี้... มีอะไรหรือเปล่า
ชาลิดาไม่ว่าอะไร เดินเอาลูกเข้าไปให้แล้วกลับมายืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เมื่อรับลูกไปแล้วชยพลยังทู่ซี้ใช้หัวไม้ ๑ตีเหมือนเดิม ทว่าครั้งนี้เขาผ่อนแรงลงมาอีกหลายส่วน และถือว่าเทพีแห่งโชคเข้าข้างพอสมควรลูกไปหยุดอยู่หน้าธารน้ำชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดทีเดียว
ชยพลเห็นได้ทีที่ทำได้ดังปากว่า จึงหันกลับไปยักคิ้วให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆขณะที่อีกฝ่ายรีบหลบตา ก้าวเข้าไปรับหัวไม้แล้วเดินเลี่ยงไป
.........
(โปรดติดตามตอนต่อไป ๑ ก.ค. ๕๕)
จากคุณ |
:
วรบรรณ
|
เขียนเมื่อ |
:
16 มิ.ย. 55 15:04:00
|
|
|
|