Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'สวิง' รัก ... 'พัตต์' หัวใจ (บทที่ ๗) ติดต่อทีมงาน

ขอเกริ่นสักนิด

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ชยพล ชายหนุ่มผู้ซึ่งโดนบิดาปรามาสว่าชาตินี้ไม่มีวันทำอะไรสำเร็จ เขาจึงตั้งใจจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' เพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ และการจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' ให้สำเร็จโดยเร็วก็ต้องอาศัย ชาลิดา 'แคดดี้มือหนึ่ง' เป็นสำคัญ

ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกล... ถ้าทั้งคู่ไม่ตีกันตายเสียก่อน

นิยายเรื่องนี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟครบทั้งบรรยากาศและเทคนิค หวังว่าผู้อ่านจะได้รับความบันเทิง และความรู้ในกีฬาชนิดนี้บ้างตามสมควร

ปกติผมจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมะและประวัติศาสตร์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างจริงจังพอสมควร เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่พยายามจะกุ๊กกิ๊กกับเขาบ้าง หากไม่หวานหรือกุ๊กกิ๊กเท่าไหร่ ก็ให้ถือว่าเป็นเพราะวัยที่ล่วงเลยวันหวานมานานเกินไปแล้วกันนะครับ ^_^

นิยายเรื่องนี้เขียนเกือบจบแล้ว (เหลือประมาณสองบทสุดท้าย) ตั้งใจจะลงเดือนละสองครั้งครับ คือ วันที่ ๑ กับ ๑๖

คาดว่ากว่าจะลงครบก็คงเขียนจบพอดี ดังนั้นเป็นอันรับประกันว่า ต้องลงให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันจนจบอย่างแน่นอน


บทที่ ๖
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12173677/W12173677.html

.........



บทที่ ๗


“ผมตีข้ามทรายที่ดักอยู่ได้ไหม” ชยพลถามขึ้นก่อนจะตีช็อตแรก

“ไม่ได้ค่ะ”ชาลิดาตอบพลางส่ายหน้า “ต้องตีเลี่ยงไปทางขวาของหลุม”

“วันก่อนกรยังตีข้ามได้เลย”

“นายกรตีหัวไม้ตรงและไกลค่ะ” เธอตอบฉะฉาน

อีกฝ่ายนิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “แล้วผมไดร์ฟเป็นยังไง”

“ให้พูดตรงๆ หรือเปล่าคะ”

“ก็พูดมาสิ ไม่ต้องยอด้วย ผมไม่ใช่คนบ้ายอ”

ชาลิดามองนิ่ง ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนโพลงขึ้น “คุณพลไดร์ฟเฟดและสั้นค่ะ”

“หมายความว่ากรไดร์ฟดีกว่า?” แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเข้าจริงๆ ชยพลกลับรู้สึกขุ่นใจยิ่งอีกฝ่ายพยักหน้ายอมรับ ยิ่งเหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟ “ผมจะทำให้คุณดูว่าผมก็ไดร์ฟข้ามหลุมทรายนั้นได้”

ว่าพลางพรวดพราดไปยืนหลังลูกกอล์ฟ ซ้อมสวิงลม ๒ – ๓ ที แล้วก้าวเข้าไปจรดลูกจากนั้นใส่พลังอัดลงไปเต็มเหนี่ยว

ลูกลอยละลิ่วไปทางหลุมทราย ดูจากทิศทางกับระยะ ต้องตกลงไปในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ด้วยความที่เป็นคนตีเฟดธรรมชาติ คือลูกจะเลี้ยวจากซ้ายไปขวาเป็นปกติจากที่น่าจะตกลงกลางหลุมทรายจึงเลี้ยวหนีไปทางขวาตกพื้นแล้วกลิ้งฉีกออกไปอีกเล็กน้อย

“ลูกผมมีเรดาห์ พอถึงหลุมทรายก็เลี้ยวหนี” ชยพลหลับหูหลับตาไปมันน้ำขุ่นๆ “เจ๋งไหมล่ะ”

“ค่ะ” ชาลิดาตอบพลางก้าวขึ้นบนแท่นทีออฟรับหัวไม้ ๑ มาเช็ดทำความสะอาด สวม ‘คัฟเวอร์’ (ที่ครอบหัวไม้) เก็บหัวไม้ใส่ถุง แล้วก้าวตามหลังนายของตนซึ่งเดินนำลิ่วๆไปข้างหน้า


ช็อตที่สอง ชยพลถามชาลิดาว่าควรตีอย่างไร

วันนี้ธงปักอยู่ด้านขวาของกรีน เธอจึงแนะนำให้วางไว้ด้านซ้ายของหลุมทรายที่ดักอยู่หน้ากรีนช็อตต่อไปจะได้ชิพเบาๆ ให้ลูกวิ่งเข้าหาธงได้ง่ายขึ้น

“อย่างนี้ผมก็ไม่ได้สองออนสิ”

ชาลิดาส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกค่ะ จากจุดนี้ระยะตั้งเกือบ๑๙๐ หลา ถึงตีออน ลูกก็กระเด้งตกน้ำด้านหลังอยู่ดี”

“วันนั้นกรยังเกือบได้สองออนเลย”

“วันนั้นนายกรไดร์ฟมาดีค่ะ ช็อตนั้นใช้เหล็กสั้นเลยบังคับง่าย ลูกตกแล้วกระเด้งไม่เยอะ” แคดดี้มือหนึ่งบอกละเอียดยิบ

คำว่า ‘นายกรไดร์ฟมาดี’ กระตุกต่อมอารมณ์ชยพลอย่างแรง เพราะเหมือนถูกย้ำว่าตัวเองไดร์ฟไม่ดี “ผมจะตีสองออนให้คุณดู!”

ว่าพลางก้าวไปดึงเหล็ก ๔ ขึ้นจากถุงเองยัดที่คลุมหัวเหล็กใส่มือชาลิดา แล้วเดินเลี่ยงไปสวิงลม ๒ – ๓ เที่ยว ก่อนก้าวเข้าไปจรดลูกแล้วตีออกไปอย่างดุดัน

ลูกกอล์ฟสีขาวถูกอัดด้วยแรงทิฐิทะยานออกไปตรงๆไม่มีอาการเฟดให้เห็น ดูด้วยสายตาน่าจะข้ามหลุมทรายไปได้ แต่พอตกถึงพื้นกลับพบว่า เลยขอบหลุมทรายฝั่งที่ติดกับกรีนไปไม่ถึงฟุตกระเด้งเตี้ยๆ แล้วไหลย้อนลงไปในหลุม

ชยพลทำตาขวางใส่แคดดี้ของตน ประหนึ่งว่าหากถากถางเป็นได้เห็นดีกันแน่ เมื่อเห็นเธอไม่พูดอะไรก็ส่งเหล็กคืน แล้วเดินนำลิ่วไป

คนถูกพาลถอนใจพลางส่ายหน้า


ช็อตที่สาม ต้องตีในหลุมทราย

ชยพลเลือกใช้ ‘แซนด์เวดจ์’ ซึ่งเป็นเหล็กสั้นที่เหมาะสำหรับตีบนทราย

หลังซ้อมสวิงลมตรงขอบหลุมจนมั่นใจแล้ว ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟจึงก้าวลงไปที่ลูกเล็งจุดตีไว้หลังลูกประมาณ ๒ นิ้ว

การตีลูกจากทรายในระยะใกล้ๆ แบบนี้ จะไม่ตีที่ลูกโดยตรงต้องตีลงบนพื้นทราย แล้วให้ทรายหอบลูกขึ้นไปแทน

ชยพลนึกทบทวนตำราที่เคยอ่าน และทำตามทุกขั้นตอนทว่าเมื่อตีออกไปแล้วปรากฏว่าทรายกระจาย แต่ลูกเคลื่อนไปจากจุดเดิมเพียงไม่กี่นิ้ว เจ้าตัวส่ายหัวอย่างฉุนเฉียว แล้วลองตีอีกครั้ง

คราวนี้ปรากฏว่าตีโดนที่ลูก ลูกจึงพุ่งต่ำๆ ไปติดขอบหลุมและกระเด้งย้อนกลับหลังมาราว ๓ ฟุต

ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟหงุดหงิดเต็มที่อยากเอาเหล็กฟาดพื้นทรายเพื่อระบายอารมณ์ แต่ติดตรงที่แคดดี้มือหนึ่งยืนนิ่งอยู่บนขอบหลุมจึงข่มใจไว้

เขาพยายามตั้งสติใหม่ สูดลมหายใจเข้าลึก ผ่อนออกมาช้าๆแล้วเดินเข้าไปลองตีอีกรอบ ทว่าทุกอย่างยังคงเดิม คือทรายกระจาย แต่ลูกไม่ไปไหน และในที่สุดก็โมโหจนลืมตัวใช้แซนด์เวดจ์สวิงรัวๆ มั่วๆ ไปบนพื้นจนฝุ่นทรายกระจายฟุ้ง

“คุณพลต้องฟอลโล่เหล็กตามไปด้วยค่ะ” ผู้ที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้น

ได้ยินดังนั้น ชยพลอยากเขกกะโหลกตัวเองขึ้นมาตงิดๆเขาคิดว่าทบทวนทุกขั้นตอนดีอยู่แล้ว แต่ดันลืมขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญไปเสียได้

ถ้าตีแล้วหยุดใบเหล็กไว้ตรงจุดที่ตีจะกลายเป็นว่า อาศัยกำลังจากทรายหอบลูกขึ้นไปเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะมีกำลังไม่เพียงพอต้องส่งพลังจากก้านเหล็กเข้าช่วยอีกแรง ทรายจึงจะโอบอุ้มลูกขึ้นไปได้

ทว่าแม้ล่วงรู้ถึงข้อผิดพลาดแล้ว แต่ให้ยอมรับตรงๆก็เกรงจะเสียหน้า จึงกลบเกลื่อนด้วยการทำตาขวางใส่เจ้าของเสียงเหมือนไม่สบอารมณ์ก่อนลองตีอีกครั้ง

คราวนี้ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟไม่ลืมที่จะส่งเหล็กตามออกไปด้วย

ปรากฏว่าทรายหอบลูกลอยโด่งขึ้นจากขอบหลุมไปได้จริงๆแม้ยังสั้นไปสักนิด แต่ก็เพียงพอที่จะพาลูกให้กลิ้งเข้าไปในกรีน

ชยพลก้าวขึ้นจากหลุม ปัดเศษทรายที่ติดตามขากางเกงออกด้วยท่าทางหงุดหงิด“ดูอยู่ตั้งนานเพิ่งจะบอก” เขาเอ่ยขณะที่ส่งแซนด์เวดจ์คืน แล้วเดินลิ่วไป

ชาลิดาไม่ได้โต้ตอบอะไร เก็บอุปกรณ์ลงถุง แล้วเดินตามไปช้าๆ


หลังจบหลุมที่ ๓ ทั้งคู่มาพักที่ซุ้มขายอาหาร

ชยพลสั่งขนมจีบกับเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องมานั่งละเลียดอย่างสบายอารมณ์พอชาลิดาเดินออกมาจากห้องน้ำก็เอ่ยขึ้นว่า “แคดด้วงอยากกินอะไรเชิญได้เลยนะ”

แม้รู้สึกสะดุดกับคำเรียก แต่ชาลิดาไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆเดินไปสั่งน้ำเย็นหนึ่งขวดที่เคาน์เตอร์ เมื่อพนักงานขายส่งให้ก็หันไปไหว้ขอบคุณคนเจ้าอารมณ์แล้วลากถุงกอล์ฟไปยืนคอยท่าอยู่ที่แท่นทีออฟหลุม ๔ ซึ่งอยู่ไม่ห่างนัก

ฝ่ายชยพลรู้ว่าชาลิดาเจตนาเร่ง เลยทำทีเป็นนั่งกินลมชมวิวไปเรื่อยๆพอขนมจีบหมดจานก็เอนหลังพิงเสา หลับตาพริ้มทำหน้าประหนึ่งกำลังสูดกลิ่นอายธรรมชาติ

แคดดี้มือหนึ่งเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกอึดอัดอยากเข้าไปเร่งแต่ยังหาเหตุไม่ได้ พอเหลือบไปเห็นว่ามีก๊วนหลังไล่มาลิบๆ จึงได้ที รีบเดินย้อนกลับเข้าไปในซุ้มอาหาร “มีก๊วนหลังไล่มาแล้วค่ะ”

คนถูกเร่งทำหน้ามุ่ย เหลียวไปมองก็เห็นว่ามีก๊วนไล่มาจริงจึงบ่นกระปอดกระแปด แล้วลุกเดินตามมาอย่างเสียไม่ได้

พอไปถึงแท่นทีออฟหลุม ๔ ก็เห็นว่าหลุมนี้เป็นหลุมพาร์๓ ระยะ ๑๘๕ หลา กรีนมีลักษณะคล้ายเกาะที่ถูกน้ำล้อมมีเพียงด้านซ้ายเท่านั้นที่เชื่อมอยู่ติดกับแฟร์เวย์ จึงเอ่ยถามอย่างพาซื่อ “ตีออนเลยได้ไหม”

“ตีไปพักไว้ตรงแฟร์เวย์ด้านซ้ายก่อนดีกว่าค่ะ”

“ทำไมล่ะ ระยะแค่นี้น่าจะตีถึง”

“กรีนล้อมรอบด้วยน้ำ โอกาสที่จะตีลูกให้ตกแล้วหยุดบนกรีนยากค่ะเพราะคุณพลต้องใช้เหล็กยาว”

“ดูเหมือนแคดด้วงจะไม่เชื่อความสามารถผมเลยนะ”

เขาเน้นคำเรียกอย่างชัดถ้อยชัดคำ เจตนากวนอารมณ์เต็มที่แต่เป้าหมายกลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

“ไม่ใช่ไม่เชื่อค่ะแต่อยากแนะนำทางที่เห็นว่าปลอดภัยที่สุด”

“เดี๋ยวจะออนให้ดู”เขาทำหูทวนลม “แคดด้วงอย่าตะลึงแล้วกัน”

“คุณพลเรียกด้วงเฉยๆ ก็ได้ค่ะ”

“ก็ผมจะเรียกแบบนี้... มีปัญหา?” เขาว่าพลางเลิกคิ้วถามในที

อีกฝ่ายสูดหายใจลึกเป็นรอบที่ร้อยแล้วกระมังสำหรับวันนี้ “แล้วแต่คุณพลเถอะค่ะ”

“ก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว” ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเอ่ยเสียงเข้ม “คุณเป็นแคดดี้ชื่อด้วง ผมขี้เกียจเรียกยาวๆ ก็เท่านั้น ไม่เห็นจะเป็นอะไร”

“ค่ะ” ชาลิดาก้มหน้านิ่ง

ชยพลก้าวไปชักเหล็ก ๔ ออกจากถุงด้วยตัวเอง อันที่จริงเขาอยากยิ้มให้แก้มปริที่แผนยียวนเริ่มเห็นผลเธอเริ่มแสดงอารมณ์บ้างแล้ว แต่เกรงจะเอิกเกริกเกินงาม จึงกลบเกลื่อนด้วยความมึนตึง

ปกติชยพลตีเหล็ก ๔ ได้ประมาณ ๑๘๐ หลาแต่ช็อตนี้ได้ตีบนที เจ้าตัวจึงคิดว่าระยะน่าจะเพิ่มขึ้นอีกสัก ๑๐ หลา คงพอข้ามน้ำ

“คุณพลใช้เหล็ก ๔ คงตีไม่ข้ามหรอกค่ะ”เสียงคนข้างๆ ท้วงมาอีกคำรบ

ผู้ถูกท้วงนิ่วหน้า “กล้าพนันไหมล่ะ”

“ด้วงไม่พนันหรอกค่ะ... คุณพลตีเถอะ”เธอบอกสีหน้าเรียบเฉย

ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเดินยิ้มย่องผ่องใสอย่างผู้มีชัยเข้าไปจรดลูกแล้วตีออกไปอย่างมั่นใจ

วิถีของลูกสวยทีเดียว แต่ดันไปตกตรงขอบกรีน แล้วกลิ้งถอยหลังจมหายไปในน้ำ

เขาเหลือบมองคนข้างๆ พลางเอ่ยเสียงขุ่น “ตำราบอกว่าตีบนทีลูกจะไกลกว่าปกติ”

“แล้วตำราไม่ได้บอกหรือคะ ว่าตีข้ามน้ำต้องเพิ่มเหล็กหนึ่งเบอร์” สิ้นเสียงเจ้าตัวยืนนิ่งราวกับรูปปั้น แววตาเรียบเฉยมองตรงไปเบื้องหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ชยพลรู้สึกดีที่ได้เห็นอารมณ์ของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจึงลอบยิ้มแล้วเดินหนีไปราวกับไม่รับรู้ว่ากำลังโดนเหน็บ


ช็อตที่สอง...

ชยพลต้องเริ่มเล่นในบริเวณที่จัดไว้เฉพาะสำหรับคนตีตกน้ำนักกอล์ฟเรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่า ‘ดรอปแอเรีย’ และช็อตนี้เขาทำได้ดีตีเข้าไป ‘ดำ’ คำว่าดำในภาษาของนักกอล์ฟหมายถึงใกล้หลุมมากมากจนไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพัตต์ ถือว่าเชื่อมือกัน

เมื่อจบการเล่นในหลุมนี้ ชยพลเห็นชาลิดาก้มๆเงยๆ อยู่แถวที่ลูกตกน้ำ จากนั้นเดินมาดึงเหล็กสองอันจากถุง แล้วไปยงโย้ยงหยกอยู่ตรงขอบตลิ่งเธอคงตั้งใจจะใช้เหล็กช้อนลูกขึ้นมา แต่คงสั้นเกินไป เจ้าตัวจึงหันรีหันขวางอยู่

“คุณพลช่วยดึงเสื้อด้วงหน่อยได้ไหมคะ” เธอหันมาเอ่ยเบาๆ “เสียดาย ลูกยังใหม่อยู่เลยค่ะ”

ชยพลพยักหน้า เดินเข้าไปดึงชายเสื้อด้านหลังของเธอไว้

ชาลิดายื่นมือลงไปช้าๆใช้ใบเหล็กสองอันประสานกัน แล้วค่อยๆ คีบลูกกอล์ฟขึ้นมา แต่ยังไม่ทันจะพ้นผิวน้ำก็ต้องสะดุ้งโหย่งสัญชาตญาณสั่งให้รีบทิ้งตัวคุกเข่าลงกับพื้น ลูกกอล์ฟพลัดตกน้ำ แต่มือยังกำก้านเหล็กไว้แน่น ครั้นตั้งสติได้ก็หันขวับกลับไปมองข้างหลัง

ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟเห็นดังนั้นรีบตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ“ขอโทษที...มือมันลื่น” พูดออกไปแล้วนึกแค้นใจตัวเองที่ข่มความขำไว้ไม่อยู่

“คุณพลแกล้งด้วง ด้วงไม่เก็บแล้ว”

ว่าแล้วเธอทำท่าจะลุก แต่ชยพลรีบกดบ่าไว้

“อย่างอนสิ” เจ้าตัวพูดพลางยิ้มอย่างเอาใจ“เก็บให้ผมเถอะนะ เสียดายเหมือนกัน ลูกยังใหม่อยู่เลย”

สีหน้าของอีกฝ่ายยังดูหวาดระแวง เขาจึงสำทับอีกระลอก“เอาน่าคราวนี้ผมรับประกัน จะไม่ให้ลื่นอีก” ว่าพลางขะมักเขม้นถูฝ่ามือกับชายเสื้อ

“ถ้าแกล้งด้วงอีกจะทิ้งเหล็กลงน้ำให้ดู”

ชยพลหัวเราะชอบอกชอบใจที่โดนขู่เห็นเธอแสดงกิริยาแง่งอนตามประสาผู้หญิงแล้วรู้สึกมีความสุขดีเหมือนกัน

หลุม ๑๒ พาร์ ๕ ระยะ ๔๘๕ หลา

หลุมนี้มีมีธารน้ำกว้างประมาณ ๓ เมตรพาดผ่านแฟร์เวย์ชาลิดาแนะนำให้นายของตนเริ่มเล่นด้วยหัวไม้ ๓ เพราะรู้ดีว่าหากใช้หัวไม้ ๑ ธารน้ำนั้นจะเป็นระยะลูกตกของเขาพอดี

“ถ้าจะตีข้ามน้ำระยะเท่าไหร่” ชยพลถาม

“๒๕๐ หลาค่ะ” ชาลิดาตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

“แล้วถ้าวางหน้าน้ำล่ะ”

“สองร้อยหลาค่ะ”

“ขอหัวไม้หนึ่ง”ชยพลเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าสงสัยจึงอธิบายเพิ่มเติม “วางหน้าน้ำนั่นแหละ แต่จะตีเบาๆ”

“ทำไมไม่ตีวงเดิม แต่เปลี่ยนมาใช้ไม้ที่มีระยะใกล้กว่าล่ะคะ”

แคดดี้มือหนึ่งบอกด้วยความหวังดี แต่โดนตำหนิว่าไม่เชื่อในความสามารถเลยต้องยืนสงบปากสงบคำเช่นเคย

ระหว่างซ้อมสวิงลมชยพลเตือนตัวเองว่าต้องใช้แรงเพียงครึ่งเดียวและพอตีจริงเขาก็ใช้แรงเพียงครึ่งเดียวอย่างที่คิดไว้ แต่ไม่รู้เพราะอะไรกลับรู้สึกว่าโดนดีเหลือเกินลูกทะยานลิ่วออกจากหน้าไม้ ตกเกือบถึงธารน้ำ กระเด้งพื้นหนึ่งครั้งแล้วหายวับไปกับตา

‘จะหักหน้าเธอทีไร ต้องเป็นหยั่งงี้ทุกทีสิน่า’ เขาคิดแค้นอยู่ในใจ ครั้นจะเหลียวไปมองคนข้างๆ ก็เกรงว่าแววตาแห่งความกระดากจะปรากฏให้เธอเห็นจึงหลับหูหลับตาเอ่ยขึ้นว่า “มัลลิแกน”

คำพูดของเขาหมายถึงตีช็อตแรกใหม่โดยไม่เสียแต้ม กฎนี้ใช้เฉพาะในหมู่เพื่อนเท่านั้นไม่สามารถใช้ในการแข่งขันได้

“กติกานี้ใช้เฉพาะหลุมแรกค่ะ”

“ก็ผมจะใช้หลุมนี้... มีอะไรหรือเปล่า”

ชาลิดาไม่ว่าอะไร เดินเอาลูกเข้าไปให้แล้วกลับมายืนนิ่งอยู่ที่เดิม

เมื่อรับลูกไปแล้วชยพลยังทู่ซี้ใช้หัวไม้ ๑ตีเหมือนเดิม ทว่าครั้งนี้เขาผ่อนแรงลงมาอีกหลายส่วน และถือว่าเทพีแห่งโชคเข้าข้างพอสมควรลูกไปหยุดอยู่หน้าธารน้ำชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดทีเดียว

ชยพลเห็นได้ทีที่ทำได้ดังปากว่า จึงหันกลับไปยักคิ้วให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆขณะที่อีกฝ่ายรีบหลบตา ก้าวเข้าไปรับหัวไม้แล้วเดินเลี่ยงไป



.........




(โปรดติดตามตอนต่อไป ๑ ก.ค. ๕๕)

จากคุณ : วรบรรณ
เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 15:04:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com