ล่องกัลปาลัยดำเนินมาถึงตอนที่ 20 เกือบครึ่งทางแล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน แนะนำ ติ-ชม สำหรับคนเขียนแล้ว นับเป็นความยินดีอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณกิฟต์ จากคุณ รพิชา, wor_lek, mementototem, mimny, สุชาดาวดี, เพชรรุ้งพราย, กุหลาบมอญ, ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค, นารีจำศีล, เขมปัณณ์, แก้วกังไส, kdunagin, สายธาร/กนกนารี, นวลน้ำผึ้ง, Setakan, เรียวรุ้ง, อินทรายุธ, บทเพลงปีศาจ และคุณ ผีเสื้อสีดำ ด้วยนะครับ
สำหรับบทที่ 19 ที่ผ่านมาครับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12221618/W12221618.html
มาต่อตอนที่ 20 กันได้เลยครับ
บทที่ 20
ขอโทษนะครับคุณปีระกา พอดี เอ้อ...
น้ำเสียงสุภาพของ ชายชราดังขัดขึ้นในจังหวะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงงันกันอยู่พอดี ปีระกาเริ่มรู้สึกตัวเป็นคนแรก ทายาทสาวคนสวยผู้ที่กำลังจะได้รับผลประโยชน์เกินคาดคิด หันหน้ากลับไปยังต้นเสียงทันที
ลุงอาตม์
และก็ต้องเบิกนัยน์ตากว้าง ยิ่งไปกว่าเดิม เมื่อเห็นว่า ยังมีใครอีกคนหนึ่งที่เดินทอดน่องช้าๆตามมาด้วยท่าทางแสนสบายราวกับกำลังมาเดินกินลมชมวิวเล่น จนก้าวมายืนหยุดอยู่ข้างหลังชายชราในระยะห่างพอสมควร แต่แรกก็แทบไม่ทันสังเกตเห็น ตราบจนเขาค่อยๆก้าวเบี่ยงตัวเดินเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาในขณะนั้นพอดี
หล่อนจำรอยยิ้มที่เบิกกว้าง พร้อมไรฟันขาวเป็นระเบียบบนใบหน้าคร้ามคมนั่นได้ติดตา ไม่มีวันผิดคน จนเผลออุทานออกมาอย่างไม่คาดฝัน
ผู้กองคมจักร
ผู้กองหน้าเข้มที่เคยแอบเรียกว่า ผู้กองคมหอก ก้มศีรษะตอบรับพร้อมรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากอย่างเป็นเกียรติจนน่าหมั่นไส้ นัยน์ตาคมกล้าเบนขึ้นสบนัยน์ตาหล่อนราวกับจะล้อเลียนและทักทายไปพร้อมกัน
ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งคร้าบบบบบ คุณทายาท... เอ๊ยคุณปีระกา ในฐานะแฟนคลับนิยายลึกลับ ผมเลยขอติดตามนักเขียนคนโปรดมาด้วยสักคน ใจคอจะไม่เชิญให้ผมนั่งเสียด้วยกันหรือครับ
คราวนี้ชายหนุ่มหันไปยิ้มรับชลธรที่ถือถ้วยกาแฟค้าง และ สุภาพบุรุษเจ้าฟ้าแห่งเชียงแมน ก็ยืนขึ้นยื่นมือออกมาเพื่อแสดงการทักทายอย่างสุภาพโดยมารยาทสากล แม้ว่าจะไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของเขาเลยแม้แต่คำเดียว...
*********************
แล้วการเจรจาที่ไม่คาดคิดมาก่อน ก็หยุดชะงักค้างไปในจังหวะนั้นเอง แต่ถึงกระนั้นปีระกากลับรู้สึกยินดีที่มันดำเนินไปในลักษณะเช่นนั้น หล่อนไม่คิดว่าจะรับมือการเจรจาอย่างตรงเป้าโดยไม่อ้อมค้อมใดๆของเจ้าเสือเข่นฟ้าได้ในเวลาฉุกละหุกเช่นนี้ แม้ว่าใจอยากจะขายมรดกไม่คาดฝันชิ้นนี้ออกไปก็ตาม
อย่างน้อยก็ขอให้มีเวลาที่จะใคร่ครวญและหาเหตุผลอย่างน่าสงสัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับเจ้าชายจากเชียงแมนผู้นั้น
เจ้าเสือเข่นฟ้า?
ถ้าการเจรจาเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ วันแรกของการมาถึง หล่อนคงไม่รีรอที่จะรีบเซ็นสัญญารับเงินก้อนโตขนาดนั้นในทันที แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืนนี้นั่นต่างหาก ที่ทำให้ปีระกาต้องชะงักงันความต้องการนั้นเอาไว้
หล่อนต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง ที่ยังค้างคาใจ และที่สำคัญที่สุดก็คือปฏิกิริยาการเจรจาตกลงของเจ้าเสือเข่นฟ้านั่นอีกประการหนึ่งด้วย
ทับสนธยามีความสำคัญมากสักเพียงใดกัน ทำให้เขาถึงกับลงทุนรับซื้อช่วงต่อ ถึงจำนวนเงินสองร้อยล้านบาท!
ไม่อาจปฏิเสธว่าเรือนหรือความจริงก็คือคฤหาสน์หลังนี้ มีความงามด้วยศิลปกรรมต่างๆในยุคอดีตอยู่ไม่ใช่น้อย แม้ว่าจะเก่าแก่ผุพังไปตามกาลเวลาเมื่อมีโอกาสเข้ามาสังเกตภายใน แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ไม่มีสิ่งใดเลยที่จะควรค่าแก่จำนวนเงินที่เขาเสนอมาให้ถึงสองร้อยล้านอย่างที่ว่า นอกจาก...
มันจะมีสิ่งสำคัญมีค่าบางอย่าง อยู่ภายในทับสนธยาแห่งนี้
สิ่งสำคัญที่หล่อนเองก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร แต่มีค่าพอที่เจ้าฟ้าเชียงแมนจะยอมแลกมาด้วยจำนวนเงินมหาศาลนั่น
เจ้าฟ้าเมืองเชียงแมนผู้ลึกลับ อำลากลับไปก่อนแล้ว ภายใต้ท่าทางอิริยาบถอันเรียบเฉยเคร่งขรึมเก็บความรู้สึกเอาไว้ภายใน ไม่อาจอ่านความรู้สึกใดๆได้ออก ปีระกาเพียงแต่ตอบแบ่งรับแบ่งสู้สั้นๆ ให้คำตอบเพียงว่าจำเป็นต้องปรึกษากับผู้เป็นมารดาก่อน และคิดว่าไม่น่าจะเกินสองสามวันถัดจากนี้
อย่างน้อยก็เพื่อชะลอเวลาสำหรับการ พิสูจน์ สิ่งที่หล่อนตั้งใจเอาไว้ในคืนนี้ให้สำเร็จก่อนนั่นเอง!
บางที ธาม อาจจะมีคำตอบนั้นเอาไว้แล้ว?
ถ้าเช่นนั้น ผมจะมารอรับคำตอบจากคุณในวันมะรืนนี้นะครับ คุณปีระกา ถ้าหากจำนวนเงินที่ผมเสนอ ไม่เป็นที่พอใจ เราสามารถตกลงกันได้
เขาตอบช้าๆราวกับว่าเงินสองร้อยล้านบาทที่ตอบออกไป เป็นเพียงเศษเงินน้อยๆในทรัพย์สินที่ตนเองมีอยู่!
โดยไม่รอให้ตอบ หรือเอ่ยปากปฏิเสธ เจ้าเสือเข่นฟ้า ค้อมศีรษะลงอย่างสุภาพแล้วลัดเลาะออกไปบนพื้นระเบียงหินด้วยฝีเท้าเบากริบ โดยมี สมุน หรือผู้ติดตามรอคอยอยู่ที่นอกบริเวณลานกุหลาบอยู่แล้วเหมือนรู้จังหวะเวลา
หล่อนเพิ่งมองเห็นอาชาสีดำสนิทของเขา ส่งเสียงร้องขึ้นอย่างรู้กัน เมื่อร่างเพรียวของอีกฝ่ายเหยียบโกลนแล้วส่งตัวขึ้นไปคล่อมบนอานอย่างง่ายดาย ก่อนกระตุกสายบังเหียนบังคับอาชาประจำกายให้ตรงลิ่วออกไปยังอาณาเขตชายป่าด้านทิศตะวันตก โดยมีกลุ่มชายฉกรรจ์อีกหลายคนที่ตามมาด้วย ขึ้นขี่มาคอยติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
ว่าไงครับคุณปีระกา ใจคอจะขายคฤหาสน์หลังนี้เลยหรือเปล่าครับ?
ความคิดหญิงสาวสะดุดลงเมื่อได้ยินเสียงกวนประสาท ของใครอีกคนหนึ่งที่ดังอยู่ข้างๆ นึกในใจด้วยความโมโหไม่ใช่น้อย อุตส่าห์นึกว่าหนีเสียงผู้กองที่คอยคาดคั้นซักถามราวผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์มาได้แล้ว อีตานี่ยังตามมาอย่างไม่ละลดซะอีกนี่...
หันไปก็เห็นรอยยิ้มเผล่ของอีกฝ่าย ดักอยู่ข้างหน้าพอดี นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นนายตำรวจสืบสวนสอบสวนเสียแล้ว ก็อยากจะยกมะเหงกตอบเขาออกไปอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะตามมาซักฟอกอะไรกันนักหนา ราวกับตกเป็นจำเลยคดีความของเขาก็ไม่ปาน?
ไม่มีคดีอื่นให้ต้องสะสางหรือไงคะ คุณผู้กอง ถึงว่างพอจะสู้อุตส่าห์ลงทุนเดินทางมาหาดิฉันถึงบ้านปางงิ้วดำที่นี่น่ะ?
อดเหน็บไปบ้าง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่มีทีท่าสะดุ้งสะเทือนอะไรเลยสักนิด
นายตำรวจหนุ่มวันนี้มาในชุดลำลองนอกเครื่องแบบ แถมมีท่าทางสบายๆ เหมือนนักทัศนาจรเสียมากกว่าจะเป็นนายตำรวจสืบสวนมืออาชีพ เขายิ้มนัยน์จนตาหยีแล้วรีบพยักหน้ารับหงึกหงัก
ผมลาพักร้อนมาครับคุณปีระกา ตอนนี้ก็เลยมาที่นี่ในฐานะแฟนคลับนักอ่านนวนิยายสยองขวัญของคุณ ได้แต่หวังว่าเจ้าของทับสนธยา คงไม่รังเกียจที่จะต้อนรับแฟนคลับคนนี้สักคนนะครับ อุตส่าห์เป็นเจ้าของคฤหาสน์ใหญ่โตมโหฬารซะขนาดนี้ ขืนไม่อนุญาต มีหวังถูกนินทาว่าขี้เหนียวสุดขีดแน่ๆ
หัวเราะหึหึในลำคอเหมือนกับไอ้พวกผู้ร้ายในหนังไทยไม่มีผิด!
ว่าแล้วอีตาผู้กองคมหอกก็ผายมือกว้างสูดลมหายใจเฮือกเต็มปอด เหมือนคนมีความรื่นรมย์สุขสมเสียเต็มประดา ท่าทางนั้นดูน่าหมั่นไส้เสียมากกว่าน่าเห็นใจ ปีระกาต้องแอบถอนหายใจยาวข่มอารมณ์สุดระงับ
อุตส่าห์พูดซะอย่างนี้แล้ว จะให้ดิฉันปฏิเสธได้ไงล่ะคะ คุณตำรวจ ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว บอกมาดีกว่าว่า จริงๆแล้วคุณมาที่นี่ทำไม จ้างให้ ฉันก็ไม่มีทางเชื่อหรอกว่า นายตำรวจบ้างานอย่างคุณจะมาพักร้อนตามที่บอกน่ะ
คราวนี้แทบจะเผลอเท้าสะเอวคุยกับอีกฝ่าย ด้วยทีท่าผ่อนคลายชนิด ชิลชิลไม่มีความวิตกกังวลใดๆทั้งสิ้น ให้ตายเถอะ! บทจะกวนประสาทขึ้นมา ผู้กองหน้าเข้มคนนี้ก็ทำได้ยิ่งกว่าใครๆที่หล่อนเคยพานพบมาซะอีก จนปีระกานึกไม่ออกว่าจะวางแผนรับมือ กับมุกนี้ของอีตาผู้กองคมจักร ได้ยังไงดี??
ก็แค่อยากมาสัมภาษณ์คุณนักเขียนเบสต์เซลเลอร์ต่อเท่านั้นแหละครับ คุณปีระกา ผมอ่านนิยายกุหลาบวิปริต เอ๊ย! กุหลาบอาเพศของคุณแล้วคิดว่ามันน่าสนใจจริงๆนะ โดยเฉพาะ บทสุดท้ายที่แต่งค้างเอาไว้เฉยๆไม่ยอมเขียนต่อน่ะสิ อ่านแล้วมันยิ่งคาใจพิกล เหมือนคนเขียนคิดไม่ออกหรือหมดมุกเอาซะแล้ว
ประโยคท้ายที่ไม่ต่างกับการดูถูก จนปีระกา เผลอกำมือแน่น ถ้าไม่ติดว่าคนตัวโตข้างหน้าเป็นตำรวจ ก็อยากจะตั๊นหน้าดูสักหมัด!
คุณนี่น่าจะไปเป็น บอกอ ยอดเยาวมาลย์แทนพี่เต๋นะคะนี่ ทั้งตื๊อทั้งตามล้างตามผลาญ จนฉันไม่รู้จะทำยังไงกับคุณดีแล้วนะ
เอ่ยพลางถอนหายใจอย่างยอมจำนนโดยไม่ปิดบังอีกต่อไป ในขณะที่เขาเผลอระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเต็มที่ ปีระกาเพิ่งเห็นว่าใบหน้ากวนๆนั้น ก็น่ามองอยู่ไม่น้อย ยามที่เขาปล่อยเสียงก๊าก ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
ก็ไม่ต้องทำยังไงนี่คร้าบ คุณปีระกา แค่ตอบอนุญาต ให้แฟนคลับต๊อกต๋อยอย่างผมเข้าพักที่ทับสนธยาอันหรูหรานี่สักคืนสองคืนก็พอแล้ว
งั้นคุณบอกลุงอาตม์ก็แล้วกันนะคะ ฉันคงทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นะ เล่นมาหักคอบังคับกันอย่างนี้
คมจักรแสร้งทำท่าตะเบ๊ะรับคำสั่งในขณะที่ปีระการีบหันเดินย้อนลงไปจากเนินเบื้องล่าง เมื่อเห็นยายชลกำลังกวักมือเรียกอยู่ลิบๆอยู่ที่ลานสวนกุหลาบ ทายาทสาวแห่งทับสนธยาไม่ทันสังเกตว่า สายตาวาววามขี้เล่นของผู้กองหนุ่ม แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดจริงจังขึ้นมาในทันที โดยเฉพาะเมื่อมองตามร่างระหงของหญิงสาวที่ซอยเท้าวิ่งลงไปยังปลายเนิน โดยไม่สนใจจะหันกลับมามองเลยด้วยซ้ำ
ปีระกาจึงไม่อาจมองเห็นว่า สายตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและห่วงใยต่ออีกฝ่ายจนปิดไม่มิด!
กังวลอะไร?
*********************
มินอ่องกำลังยืนตัวสั่นสะท้านอยู่เบื้องหน้าผู้เป็นนาย มันถูกเรียกตัวมาจากหมู่บ้านด้วยเสียงสัญญาณเป่าเขาสัตว์ที่รับรู้กันเฉพาะตน บัดนี้ร่างในเสื้อคลุมยาวโคร่งที่ปกคลุมตลอดศีรษะลงมาจรดปลายเท้า ค่อยขยับเคลื่อนไหวช้าๆ ด้วยท่าทางครุ่นคิด ในขณะที่เยื้องไปทางด้านหลัง ผู้ติดตามของนายท่านนับสิบคน ซ่อนตัวกันอยู่ห่างๆในแนวพุ่มไม้หนาทึบรอบด้าน แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวชัดเจน แต่มินอ่องก็รู้ว่า สมุนเหล่านั้นแฝงกายได้กลมกลืนกับธรรมชาติรอบด้านได้ดียิ่งกว่ามัน ซึ่งเป็นคนป่าในปางงิ้วดำและแถบนี้เสียด้วยซ้ำ
ราวกับพวกมันเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์!!
รวมถึงตัวของนายท่านนี้ด้วยเช่นกัน...
น้องสาวของเจ้ายังไม่ติดต่อมาเลยหรือ?
เสียงห้าวห้วนด้วยประกาศิตดังขึ้นเหนือศีรษะ
มะขิ่นเพิ่งกลับเข้าไปทับสนธยาเมื่อคืนนี้เองขอรับ อาจจะยังทำอะไรไม่ได้มากหรอกนายท่าน
นังมะขิ่น มันจะไปรู้อะไร ให้ทำอะไรก็ทำไม่ได้เรื่องสักอย่างเดียว เจ้าก็ด้วยเช่นกัน เสียแรงที่ข้าให้ความไว้วางใจ มอบหมายงานสำคัญให้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
นะ-นาย
มันก้มหัวลงแทบจรดพื้น รับรู้ถึงพลังบางอย่างที่แผ่คลุมลงมาจนขุมขนต้นคอลุกซู่
เสียดายเหลือเกิน ถ้า...
เสียงของอีกฝ่ายพึมพำเบาๆกับตนเอง ทำให้มินอ่องเผลอเงยหน้าขึ้น มองเห็นจุดเรืองแสงสองจุดส่องประกายเหลืองเจิดจ้าดุจแสงอำพันเหลืองแก่ก่ำประหลาดตา ยิ่งทำให้ต้องรีบก้มหน้ากลับลงไปตามเดิมอีกครั้ง
ตอนนี้มันคงจะรู้ตัวแล้ว นางทายาทแห่งทับสนธยานั่นแหละ มันกำลังสงสัยมาก และมีอะไรบางอย่างที่ข้าสังหรณ์ว่ามันกำลังจะรู้เรื่องราวทั้งหมดในไม่ช้า
ตะ-แต่ มะขิ่น กำลังจะตามหาของๆท่านอยู่ คิดว่าอีกไม่นาน น่าจะได้
มินอ่องอดแย้งออกมาเสียงเบาไม่ได้ เสียงสวบสาบรอบด้านทำให้มันหวาดกลัวจนเหงื่อกาฬแตกเปียกโชกไปทั้งร่าง หากเมื่อนึกถึงผู้เป็นน้องสาวเพียงคนเดียว ก็ทำให้ต้องพยายามเอ่ยแก้ตัวให้อีกฝ่ายออกมา
ไม่ทันแล้วล่ะ มินอ่อง ตอนนี้ทุกอย่างอาจจะยิ่งช้าจนเกินไป น้องสาวของเจ้าน่าจะทำงานพลาดเสียแล้ว ข้ามองเห็นความผิดปกติในท่าทางของไอ้เฒ่านั่น
น้ำเสียงห้าวกังวานที่เข่นลอดไรฟันออกมา บ่งชัดเจนถึงความเกลียดชังอีกฝ่ายจนปิดไม่มิด
แต่อย่างน้อยที่สุด ในราตรีก่อน สุวรรณชตุกาได้ปรากฏรูปขึ้นแล้ว ข้าเห็นแสงสีทองคำบนยอดหอคอยนั่น มันกำลังจะกลับคืนสู่กัลปาลัย และข้าจะใช้โอกาสนั่นแหละ จัดการกับมัน
นัยน์ตาสีอำพันเบนกลับมาหามัน ราวประจุด้วยพลังสะกดแห่งความชั่วร้าย
เพราะฉะนั้น ข้าจะต้องรีบจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด แม้ว่ามันจะเป็นการเสี่ยงต่อตัวของข้าเองก็ตาม
นายท่าน...
ในเมื่อสุวรรณชตุกา ปรากฏขึ้นแล้วในเพลาก่อน ฉะนั้นคืนนี้... คืนนี้แหละ เวลาที่รอคอยจะได้มาถึงเสียที เป็นโอกาสให้ข้าจะสามารถเดินทางกลับเข้าไปที่ทับสนธยาได้ดังปรารถนาแล้ว
เสียงหัวเราะกระหึ่มกังวานไปทั่วทั้งพงพนาอันรกทึบแห่งนั้น และมินอ่องก็จดจำชื่อของหนังสือที่นายท่านเรียกขานได้ชัดเจน
กัลปาลัย...
***********************
ระวังตัวไว้ด้วยนะ ปีระกา...
เสียงกระซิบแผ่วหวิวที่ริมหู ทำให้หล่อนหยุดชะงักงัน ไม่ใช่เสียงธาม แต่เป็นเสียงของผู้หญิงคนนั้น คนที่มาร้องเตือนหล่อนไม่ให้ออกไปข้างนอก
หญิงสาวหยุดชะงัก มองหาต้นเสียงจากทิศทางใดทิศทางหนึ่ง มองเห็นแต่ชลธรยืนโบกมือหยอยๆอยู่ไม่ไกลออกไป กิ่งไม้พุ่มรอบตัวไหวโอนเอนตามทิศทางลม และผ่านกระแสอันเย็นยะเยียบปะทะผิวกาย
ใคร? เธอเป็นใครกันแน่?
ไม่ต้องรู้หรอกปีระกา แต่ถ้าไม่อยากมีอันเป็นไป เธอต้องกลับไป ไปจากที่นี่ ไปให้ไกลที่สุด แล้วไม่ต้องกลับมาอีก!!
คุณ!
หล่อนอุทานออกมา ด้วยความรู้สึกก้ำกึ่งกันทั้งความสับสน สงสัย แม้จะปราศจากความหวาดกลัวต่อสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยเสมือน ขู่ เอาไว้ก็ตาม
เสียงหัวเราะเย็นยะเยือก แผ่วพลิ้วมาตามสายลม และจางหายไปพร้อมกัน เมื่อยายชลเป็นฝ่ายเดินขึ้นมาเสียเอง
ทำไมไม่ลงไปล่ะ หรือว่ามัวสอบสวนสืบสวนกับผู้กองสุดหล่ออยู่จ๊ะ คุณปีระกา
หล่อนรีบปรับสีหน้าไม่ให้ชลธรมองเห็นความผิดปกติ
สุดหล่ออะไรจ๊ะยายชล ถ้าอีตาคมจักรหล่อนะ ฉันว่า ผู้ชายทุกคนในโลกนี้คงจะหล่อกันไปหมดทั้งโลกแล้วล่ะ
หญิงสาวแสร้งเบ้ปากเล็กน้อย แล้วผินหน้าขึ้นไปยังปลายเนินด้านบน ผู้กองหนุ่มยังเดินลอยชายเหมือนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ใดๆกับการถูกพาดพิงทั้งสิ้น
แล้วแบบไหนล่ะที่แบบว่าหล่อของเธอน่ะฮึ ยายปี ชักอยากเห็นซะแล้วสิ
ชลธรเย้าเบาๆ โดยไม่ทันคิดว่า ปีระกาเอง กลับหวนนึกไปถึงชายหนุ่มที่ปรากฏกายขึ้นบนยอดหอคอย บุรุษรูปทองคนที่อยู่เคียงข้างกับหล่อนมาโดยตลอดอย่างธามนั่นเอง
อย่างนี้นั่นแหละกระมัง คือความงามในอุดมคติของหล่อน?
รูปเอยรูปทอง ราวจำลอง จำหลัก ด้วยรังสรรค์ จากปวงเทพ นิรมิต ลิขิตครัน บังเกิดพลัน องค์นรินทร์ ดังอินทร์แปลง
ทั้งปากคอ คิ้วคาง กระจ่างจิต ยิ่งเพ่งพิศ ยิ่งสูรย์ กระจ่างแสง อบอุ่น ละมุนฉาย มิคลายแคลง มาจำแลง หัวใจ ไหววิญญาณ์
ดูสิ พูดหน่อยเดียวเพ้อไปไหนใหญ่แล้วนะ เพื่อนฉัน? รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คุณปีระกาดูแปลกๆไปนะนี่ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าจ๊ะ?
เสียงที่แหย่กระเซ้า ปลุกให้ปีระกาคืนกลับมาปัจจุบันอีกครั้ง รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็พยายามกลบเกลื่อนเต็มที่ โชคดีที่เห็นร่างของใครอีกคนหนึ่งกำลังเดินตรงลิ่วลงมาในจังหวะนั้นพอดี
มาพูดเล่นอยู่ได้ ว่าแต่ทนายของเธอเหอะยายชล สงสัยมาตามหาตัวซะแล้วมั๊ง เห็นไหม แทบจะวิ่งตามลงมาเลยนี่นา
ในเงาของแสงตะวันเจิดจ้าที่ส่องลงมา มองเห็นร่างสูงเพรียวของทนายภูไท กำลังเดินช้าๆลงมาหาชลธร โดยมีผู้กองคมจักรจอมแสบ เป็นฝ่ายยืนกอดอก ทอดสายตาเหมือนมองสังเกตการณ์อยู่ห่างๆอย่างน่าหมั่นไส้ยิ่งนัก!
**********************
แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 55 15:15:00
จากคุณ |
:
สามปอยหลวง
|
เขียนเมื่อ |
:
17 มิ.ย. 55 15:12:24
|
|
|
|