Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เทวาอัศดา ตอนที่ 3 [นิยายอิงธรรมะ] ติดต่อทีมงาน

“ทะเทวา...ทำไม...เจ้าถึงมาอยู่ที่นี่...ได้” อัศดาพูดตะกุกตะกัก ความตกใจที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ทำให้สมองของเขาทำงานช้าไปชั่วขณะ
“เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า!?” เทวาถามอย่างห่วงใย มีความตระหนกเจืออยู่ในน้ำเสียง
อัศดาก้มลงมองก้อนอิฐที่แตกกระจายเกลื่อนพื้น ถ้าเทวาดึงเขาออกมาไม่ทัน อิฐพวกนั้นคงตกใส่หัวทำให้เขาตายไปแล้ว ความตายผ่านเขาไปแค่ฉิวเฉียดเท่านั้น แม้รู้ว่าเทวาเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตของเขาไว้ แต่การถูกช่วยโดยศัตรูคู่แค้นนั้นไม่น่าดีใจเลยสักนิด อัศดาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนที่เกลียดชัง โดยเฉพาะเทวาซึ่งเป็นคู่แข่งเรื่องความรัก พวกคนงานก่อสร้างรีบลงมาดูว่ามีคนบาดเจ็บหรือไม่ ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นเข้ามามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เทวายื่นมือมาจับไหล่อัศดา “เจ้าลุกไหวมั้ย ให้ข้าช่วยพยุงนะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความอ่อนโยนราวกับถามพี่น้องด้วยความห่วงใย
แต่ความหวังดีของเขากลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี อัศดาปัดมือของเทวาออกพร้อมกับหันมาทำตาขวางใส่ “อย่ามายุ่งกับข้า!” เขาแค่นเสียงตวาด
“แต่ข้า...” ช่วยเจ้าไว้นะ เทวากะจะพูดเช่นนั้น แต่ไม่ได้พูดออกไป เพราะมันเหมือนการลำเลิกบุญคุณ
อัศดายันตัวลุกขึ้น เทวารีบยื่นมือไปประคอง แต่ถูกปัดออกอย่างแรง อัศดากระชากคอเสื้อเทวาเข้ามาจ้องตาเขม็ง
“อย่ามายุ่งกับข้า! หรือว่าเจ้าอยากเจออีกหมัด!” อัศดาง้างหมัดเตรียมชก ขณะที่มือซ้ายก็ยึดคอเสื้อไว้แน่น เทวาได้แต่อึ้ง เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าตัวเองทำอะไรผิดไป
ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่นาน ท่ามกลางผู้คนที่มุงดูด้วยความสงสัย อัศดาเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวก่อน เขาผลักอกเทวาอย่างแรก จนชายหนุ่มเกือบหน้าทิ่ม จากนั้นก็เดินจากไป โดยไม่สนใจว่าก่อเรื่องอะไรไว้ข้างหลัง อัศดาทำท่าว่ากำลังโกรธอยู่ก็จริง แต่ในส่วนลึกของจิตใจ เขากำลังกลัว กลัวความตายที่เฉียดเข้ามาใกล้ ห่างไปเพียงแค่เส้นขน
เทวายกมือขึ้นลูบคอ อัศดาทำเขาจุกจนต้องไอค่อกแค่กออกมา ให้ตายเถอะ อุตส่าห์ช่วยไว้แท้ๆ ดันมาทำแบบนี้กับข้าได้ ชายหนุ่มแอบบ่นในใจ รู้สึกโกรธไม่น้อยที่คนซึ่งเขาทำคุณด้วย กลับตอบแทนเขาอย่างร้ายกาจเช่นนี้ ขณะเดียวกันนั้นจิตใจด้านบวกได้เตือนให้เขานึกถึงบทสวดที่ท่องไปเมื่อเช้า
เมื่อคนที่ข้าได้ทำผลประโยชน์แก่เขาด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่ กลับทำร้ายข้าอย่างเจ็บปวด ขอให้ข้าจงมองเขาประหนึ่งปรมาจารย์สูงสุด
“อัศดา...ข้าจะคิดว่าเจ้าเป็นอาจารย์ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มพูดกับตัวเอง
หลังอัศดาจากไป เมื่อเห็นว่าคงไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นแล้ว พวกคนงานก่อสร้างที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ ก็รีบตรงเข้ามาถามไถ่อาการของเทวา จากนั้นก็ขอร้องไม่ให้เขาบอกเรื่องนี้กับคนของทางการ ไม่เช่นนั้นพวกเขาต้องถูกลดค่าจ้างซึ่งน้อยนิดอยู่แล้ว หรือที่ร้ายกว่านั้นคือถูกไล่ออก เทวารับปากว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับทางการ อุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยไม่มีใครตั้งใจ เขาไม่อยากทำให้คนงานยากจนพวกนี้ต้องลำบาก
ประตูถูกเปิดออกอย่างแรงเกิดเสียงกระแทกดังสนั่น อัศดาพาร่างกายสูงใหญ่เข้ามาในบ้านอย่างเหนื่อยล้า เขาหยิบไม้ขีดขึ้นมาจุดไฟให้ตะเกียงน้ำมัน แสงสว่างนวลขับไล่บรรยากาศวังเวงในยามสนธยาออกไปทันใด ถ้าเป็นเมื่อก่อน แม่ของเขาคงพูดแดกดันว่า “กลับมาแล้วเหรอ เจ้าเด็กเหลือขอ” แล้วเขาก็มักตอบกลับไปอย่างประชดประชันว่า “เออ ผู้หญิงที่ไม่มีใครเอา” จากนั้นก็เริ่มสงครามน้ำลาย สั้นยาวขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละฝ่ายในวันนั้น ทว่าวันนี้ไม่มีถ้อยคำบาดหูอีกต่อไป แม่ของเขาตายไปเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคพิษสุรา นางดื่มเหล้าจัดเมาหัวราน้ำแทบทุกวัน แม้เขาพยายามห้ามหลายครั้งหลายหน แต่แม่ไม่เคยฟัง ขนาดไม่ให้เงิน ก็ยังแอบเอาเขาสัตว์ที่แขวนประดับบ้านไปขายเพื่อซื้อเหล้า
อัศดาไม่รู้ว่าพ่อของตัวเองเป็นใคร แม่ของเขาท้องโดยไม่ได้แต่งงาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียมาก เขาและแม่จึงถูกสังคมรังเกียจ ถูกประณามหยามเหยียด อัศดาเคยทำตั้งแต่อ้อนวอนยันกระทั่งบังคับขู่เข็ญ แต่ให้ตายแม่ก็ไม่ยอมบอกว่าพ่อคือใคร อัศดาเดาว่าผู้ชายไร้ความรับผิดชอบคนนั้นคงมีครอบครัวแล้ว ถึงรับว่าเป็นพ่อเขาไม่ได้ แต่ไร้ความรับผิดชอบคนนั้น ยังพอมีข้อดีอยู่บ้าง ตรงที่ส่งเงินมาให้แม่กับเขาใช้เป็นประจำไม่ได้ขาด แน่ล่ะ! ลองไม่ส่งเงินมาสิ ได้โดนแม่เล่นงานโดยป่าวประกาศให้รู้กันทั่วเมืองแน่
แม้จะสบายใจ ที่ไม่ต้องทนฟังถ้อยคำระคายหูของแม่อีกต่อไป แต่การอยู่คนเดียวบางครั้งก็ทำให้เหงาจับใจ อัศดาเกี่ยวคันธนูไว้กับตะขอที่ยื่นออกมาจากผนัง จากนั้นก็ปลดสายกระเป๋าใส่ลูกศรออกวางลงบนโต๊ะ แล้วโยนมีดพกตามไปสมทบ เขาเปลื้องผ้าโพกหัวออก ผมสีดำยาวสยายลงบนแผ่นหลัง เมื่อก่อนผู้ชายทุกคนในเมืองไว้ผมยาว ม้วนเป็นมวยแล้วโพกผ้าทับ แต่พักหลังนิยมตัดผมสั้นกันมากขึ้น เพราะสะดวกกว่า สระก็ง่ายแห้งก็เร็ว เทวาก็ตัดผมสั้นเช่นกัน แต่อัศดายังคงไว้ยาว เพราะไม่มีนายพรานคนไหนตัดผมสั้น
ชายหนุ่มเดินเข้าไปในครัว เพื่อทำอาหารเย็น เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมากเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจสักอย่าง เขาสับมีดลงบนหัวหอมขณะจินตนาการว่ามันคือคอของเทวา
เสียงเคาะประตูดังขึ้น อัศดาวางมือจากแครอทที่กำลังหั่นอยู่ แต่ไม่ยอมวางมีด ขณะเดินไปที่ประตูก็นึกด่าในใจว่าใครบังอาจมารบกวนตอนค่ำมืดแบบนี้
“นั่นใคร!?” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ต้อนรับ
“เทวา” จากน้ำเสียงขุ่นเคืองของอัศดา ผู้ที่รออยู่อีกฝั่งประตู ชักกังวลว่าประตูจะเปิดพร้อมกับมีมีดพุ่งออกมา
“ข้าเอาแกงเห็ดที่เจ้าชอบมาฝากด้วยน้าาา” เทวาพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นมิตร
“ชิ๊!” อัศดาสบถ เขาเปิดประตูออกไปอย่างแรง จนเกือบกระแทกหน้าเทวา “มาทำไม!?” เขาเอามีชี้หน้าเทวา เล่นเอาอีกฝ่ายตาเหลือก
“เอามีดลงก่อนได้มั้ย” เทวาพูด ประตูเปิดออกมาพร้อมกับมีดจริงๆด้วย
อัศดาลดมีดลง แต่ยังคงจ้องเขม็ง ใบหน้าบอกบุญไม่รับ
“ข้ามีเรื่องอยากคุยกับเจ้า ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ย” สีหน้าของเทวาจริงจังอย่างที่สุด จนอัศดาอยากรู้ว่าเขามาหาเพราะมีเรื่องอะไรกันแน่
“เข้ามาสิ” อัศดาเปิดประตูให้กว้างขึ้น  เทวาเดินตามเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตู
“เจ้ามีอะไรอยากคุยกับข้า...รีบๆว่ามาข้ากำลังยุ่ง!” มีดคมกริบในมืออัศดาทำให้เทวาอดหวั่นใจไม่ได้
“ทำอะไรอยู่เหรอ” เทวาถาม ยังไม่ละสายตาจากมีด
“ทำครัว!” อัศดาตอบห้วนๆ ท้าวเอวมองแขกไม่ได้รับเชิญอย่างรำคาญ
“ถึงว่าได้กลิ่นหอม ให้ข้าช่วยนะ” ชายหนุ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ไม่ต้อง! ว่าธุระของเจ้ามา” อัศดาตอบกลับอย่างรำคาญ
“นั่งคุยกันดีๆระหว่างทานอาหารเย็นไม่ได้เหรอ” เทวาเสนอ
“นี่เจ้ากะมาของกินใช่มั้ย” อัศดายื่นหน้าเข้ามาหาเทวาอย่างไม่สบอารมณ์
“ป่าวสักหน่อย ข้าเอาแกงเห็ดมาด้วยนะ กะว่าจะเอามากินด้วยกัน” เทวายกห่อใส่แกงเห็ดขึ้นมาให้อัศดาดู
“นี่เจ้าจะแกล้งทำตัวไร้เดียงสาไปถึงไหน ข้าเพิ่งชกหน้าเจ้าไป คิดเหรอว่าข้าจะยอมกินของที่เจ้าซื้อให้ ในแกงเห็ดมียาพิษอยู่ใช่มั้ย” อัศดายกมีดขึ้นชี้หน้าเทวา
เทวาไม่รู้ว่าควรจะโกรธหรือหัวเราะให้กับสิ่งที่อัศดาพูดดี “โหคิดไปได้นะคนเรา” เขาเอียงคอทำหน้าใสซื่อ
“ให้ตายเหอะ ข้าอยากชกหน้าเจ้าอีกข้างจังเลยว่ะ!” อัศดาหันหลัง เจอเข้าแบบนี้เล่นเอาทำอะไรไม่ถูก “ถ้าอยากกินข้าวไม่เสียเงิน ก็นั่งรอเงียบๆสงบเสงี่ยมเหมือนหมาเฝ้าบ้าน เข้าใจมั้ย!?” พูดจบก็ถือแกงเห็นที่เทวานำมาให้เข้าไปในครัวอย่างรำคาญ
“อะอือ” เทวาหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมอย่างที่สุด ถ้านั่งพับเพียบได้คงทำไปแล้ว
เทวาจัดข้าวของที่วางรกอยู่บนโต๊ะให้เป็นระเบียบ เพื่อจะได้มีที่วางอาหาร จากนั้นก็กลับมานั่งอย่างสงบเสงี่ยมตามที่ถูกสั่งไว้ ครู่ต่อมาอัศดาก็ยกข้าวสองถ้วยออกมาจากครัว เทวาจะไปช่วยยก แต่อัศดาบอกว่าไม่ต้อง
“อาหารที่ข้าทำคือแกงไก่ ชอบไม่ชอบยังไงก็ต้องกิน!” อัศดาสั่ง
เทวามองไก่ที่อยู่ในแกงด้วยสีหน้าผะอืดผะอม
“เป็นอะไรของเจ้า!? กล้าทำหน้ารังเกียจอาหารที่ข้าทำงั้นเรอะ”
“ปะเปล่าไม่ใช่” เทวาโบกมือไปมาขณะรีบแก้ตัว
“งั้นก็กินซะสิ!” อัศดาสั่งเสียงห้วน เขาดึงเก้าอี้ออกมาแล้วนั่งลง
เทวาใช้ช้อนตักน้ำแกง แครอทและหัวหอมใส่ในถ้วยข้าวของตัวเอง
“ตักเนื้อไก่ไปด้วยสิ” อัศดาพูด
“ข้าไม่กินเนื้อน่ะ” เทวาตอบ
“อะไรของเจ้า ของดีราคาแพงดันไม่กิน” ชายหนุ่มเว้นช่วง “หรือว่าเป็นกฏงี่เง่าอะไรของพวกเจ้า”
“เปล่า...ไม่ใช่หรอก เพียงแต่...พอเห็นอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์แล้วมัน...” เทวาอ้ำอึ้ง
แล้วอัศดาก็ต้องผงะเมื่อเทวามองมายังเขา ด้วยใบหน้าเหมือนเด็กน้อยที่กำลังเจ็บปวดและหวาดกลัว นั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่างท่วมท้น จนเผลอยื่นมือออกไปลูบศีรษะเทวาเพื่อปลอบโยน ทันใดนั้นเขาก็ชักมือกลับ เมื่อนึกได้ว่าเทวาคือศัตรูแย่งผู้หญิงที่เขาหมายปองไป
“ไม่กินก็อย่ากิน!” เขาตวาดกลบเกลื่อน ทำไมเทวาถึงต้องทำหน้าเจ็บปวดเช่นนั้นด้วย หมอนั่นไม่ได้แสร้งทำ ข้าสัมผัสได้ถึงความทุกข์แสนสาหัสในดวงตาคู่นั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
“ขอโทษนะ” เทวากล่าว บรรยากาศในห้องอึมครึมไปครู่ใหญ่
“รสชาติเป็นยังไงบ้าง” อัศดาถามขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
“อร่อยจนไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายท่าทางป่าเถื่อนอย่างเจ้าคือคนทำ”
“เออ! ใครจะไปหล่อเหมือนเจ้าล่ะ”
เทวาหัวเราะออกมา หลายปีแล้วที่เขาไม่ได้ทานข้าวร่วมกับอัศดา
“มีเรื่องอยากคุยกับข้าไม่ใช่เหรอ พูดมาสักทีสิ” อัศดารินน้ำใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่ม
“เกี่ยวกับธาราน่ะ” เทวามีสีหน้าลำบากใจ
พอได้ยินชื่อธาราอัศดาก็นึกเหม็นหน้าเทวาขึ้นมาทันใด “ว่ามา!!!” เขาวางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะ
“นางไม่ได้เป็นคนให้ผ้าคลุมไหล่ผืนนี้แก่ข้า ธารายกผ้าคลุมไหล่ให้ยายของนาง แล้วแม่เฒ่าก็ให้ข้ามาอีกที ข้าคิดว่าควรนำมันมาคืนให้เจ้า” เทวาดึงผ้าคลุมออกจากไหล่ ยื่นให้อัศดา
ชายหนุ่มรับผ้าไป “ในเมื่อไม่มีใครต้องการ ข้าจะเผามันทิ้งซะ” อัศดาลุกขึ้นไปหยิบตะเกียงน้ำมัน
“ดะเดี๋ยวสิ!” เทวารีบร้องห้าม “ไม่เห็นต้องทำอย่างนั้นเลย น่าเสียดายออก”
“แต่ข้าไม่เสียดาย” อัศดาพูดเสียงแข็ง
เทวารีบเข้าไปคว้าผ้าคลุมไหล่มาก่อนที่จะถูกจ่อลงบนเปลวไฟ “เจ้าเก็บไว้ใช้เองก็ได้นี่นา”
“ข้าไม่ต้องการของน่าแสลงใจชิ้นนี้อีกแล้ว ถ้าเจ้าอยากได้ก็เอาไปสิ!” อัศดาโยนผ้าใสหน้าเทวาอย่างหยาบคาย แต่ชายหนุ่มไม่ถือสา เพราะเขามาที่นี่เพื่อปรับความเข้าใจ
“เจ้าเนี่ยน้า ทำอะไรตามอารมณ์อยู่เรื่อย” เทวากอดผ้าไว้แนบอก
อัศดายื่นมือมาบีบไหล่เทวาแน่นจนเจ็บ มองตรงมาด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาเทวาถึงกับชะงัก
“ถามจริง เจ้าชอบธารารึเปล่า”
“ข้าไม่ได้คิดอะไรกับนางทั้งนั้น” เทวาตอบกลับไปในทันที ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมาก อัศดาปล่อยมือออกจากไหล่เขา
“เจ้าคงจริงจังกับธารามากสินะ ขนาดมอบผ้าคลุมไหล่ราคาแพงแบบนี้ให้ แถมยังหึงจนหน้ามืดขนาดต่อยข้าด้วย” เทวาพูด
“ใช่ข้ารักนางมาก แล้วก็ยิ่งแค้นมากที่นางทำกับข้าแบบนี้ ทั้งที่ข้าทุ่มเทเพื่อนางทุกอย่าง แต่นางกลับมองข้าด้วยสายดูหมิ่น ราวกับว่าข้าไม่มีค่าแม้จะจะชายตามอง” บรรยากาศอึมครึมชวนอึดอัดแผ่ออกมาจากร่างกายของอัศดา
“ธาราที่ข้ารู้จัก ไม่ใช่คนที่ชอบดูหมิ่นใคร ข้าคิดว่านางคงมีเหตุผลบางอย่าง หรือไม่ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด” เทวาแย้ง
อัศดายื่นมือไปบีบคอเทวา จ้องมองผู้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาชิงชัง “นั่นเพราะธาราชอบเจ้ายังไงล่ะ ข้าดูออกทันทีเมื่อเห็นสายตาของนางยามมองเจ้า มันเต็มไปด้วยความหลงไหล ต่างจากตอนที่มองข้า มันทั้งเย็นชาและดูหมิ่น” ชายหนุ่มปล่อยมือ
“แต่ช่างเถอะ ในเมื่อนางไม่สนใจข้า ข้าก็ไม่รู้จะใส่ใจนางไปทำไม” อัศดายกมือขึ้นกอดอกอย่างหัวเสีย
เทวายกมือขึ้นลูบคอ “ข้าเคยคิดว่าเจ้ารักธารา แต่ความจริงไม่ใช่สักนิด เจ้ารักแต่ตัวเองเท่านั้น พอธาราไม่รับรัก เจ้าก็เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อนางทันที เจ้าทำดีต่อธาราเพราะต้องการให้นางมารักตัวเองต่างหาก”
“เจ้าว่าอะไรนะ!?” อัศดากระชากคอเสื้อเทวาเข้ามาจ้องหน้า เขาง้างหมัดขึ้นทำท่าจะต่อย เทวาไม่เข้าใจเลยว่าอัศดาคุยกับคนอื่นดีๆไม่เป็นบ้างหรือไง
“ธาราคงรู้ว่าเจ้าไม่ได้ทำดีกับนางจากใจจริง แต่ทำไปเพราะคาดหวังให้รักตอบ นางจึงมองเจ้าด้วยสายตาเช่นนั้น” เทวาจ้องหน้าอัศดากลับอย่างไม่กลัวเกรง
“ขืนเจ้าพูดต่อไป ข้าต่อยเจ้าแน่!” อัศดากำหมัดแน่นจนสั่น
“เอะอะก็ใช้แต่กำลัง มันไม่ดีนะ ถ้าไม่ใช่ข้าล่ะก็ ป่านนี้เจ้าถูกแทงไส้ทะลักไปแล้ว” เทวามองหน้าอัศดาแน่นิ่ง ไม่มีความกลัวอยู่ในดวงตาสีน้ำตาลแต่อย่างใด
อัศดารู้สึกถึงบางสิ่งที่ท้อง เขาก้มลงมองจึงพบว่า เทวาถือมีดจ่อท้องเขาอยู่
“ตะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!?” อัศดาถึงกับหน้าซีด เทวายามเอาจริงจัดว่าน่ากลัวไม่ใช่น้อย
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่แทงเจ้าหรอก” เทวาพับมีดสั้นใส่ปลอกแล้วสอดไว้ในแขนเสื้อ เขารู้ว่านั่นเป็นการกระทำที่ไม่ดี แต่ไม่ควรปล่อยให้อัศดาทำร้ายเขามากไปกว่านี้ เพื่อตัวเขาและอัศดาเอง

ถ้าไม่อยากรอนาน อ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ

http://writer.dek-d.com/holywizard/story/view.php?id=827616

จากคุณ : holyneko
เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 20:10:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com