ลานหน้าบ้านพักสำหรับลูกค้าตอนช่วงสายค่อนข้างวุ่นวายเพราะกองถ่ายเริ่มการทำงานเป็นวันแรก อรุณรุ่งตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นผู้คนมากหน้าหลายตาเดินขวักไขว่อยู่เบื้องหน้า ผิดจากช่วงเช้ามืดที่เธอเข้ามาในรีสอร์ตพร้อมกับมารดาจากหน้ามือเป็นหลังมือ
ชั่วขณะหนึ่ง สางสาวอยากหนีกลับเข้าไปในบ้านพักพนักงานที่คนของทางรีสอร์ตจัดไว้ให้เธอกับมารดาและขังตัวเองอยู่ในนั้นจนชั่วกัปกัลป์ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะสาวิตรีจับมือเธอไว้พลางออกแรงลากเธอไปยังกลุ่มคนที่อยู่ในกระโจมสร้างเองแบบง่ายๆ ตรงจุดนั้น ผู้ชายที่เคยใส่ชุดขาวและปรามาสแม่ของเธอเมื่อวานนี้กำลังสั่งงานลูกน้องของตน
ถัดไปอีกนิด อรุณรุ่งเห็นด้านหลังของผู้ชายผมสีชมพู เขานั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสีขาวและบอกให้ผู้หญิงคนหนึ่งทำอะไรสักอย่างกับใบหน้าของเขา แต่คนที่ทำให้หัวใจของสางสาวเต้นแรงคือผู้ชายคนถัดไป เนื่องจากเขานั่งตะแคงข้างจึงทำให้เห็นเสี้ยวหน้าได้อย่างชัดเจน
คุณนายแบบลูกครึ่งเกาหลี!
การได้เห็นใบหน้าของผู้ชายที่ตนชอบไม่ทำให้มีกำลังใจมากขึ้นเลยสักนิด ตรงกันข้าม สางสาวขืนตัวและพยายามจะวิ่งหนี ทำให้คนเป็นแม่ต้องส่งสายตาดุปรามแม้ว่าในอกจะเจ็บปวดอย่างเหลือแสน
สาวิตรีเข้าใจความกลัวของลูกสาว เพราะเมื่อช่วงเช้ามืดนี่เองที่อรุณรุ่งได้พบกับมนุษย์คนอื่นอีกสามคนชนิดประจันหน้ากัน และถึงแม้ว่านายแพทย์พิชัยจะโอบกอดสางสาวอย่างไม่รังเกียจเดียดฉันท์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้จัดการรีสอร์ตสองคนที่ตามมาต้อนรับด้วยนั้นมีสีหน้าหวาดผวาอย่างเห็นได้ชัด
อันที่จริงแล้วสาวิตรีก็อยากจะยืดเวลาออกไปเพื่อให้อรุณรุ่งได้ทำใจมากกว่านี้ แต่ในเมื่ออีกไม่ช้า ลูกสาวของนางก็จะมีอายุครบยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์ อีกทั้งกองถ่ายของนิตยสารก็เช่าที่พักไว้เพียงสัปดาห์เดียว นางจึงไม่ยอมผัดวันประกันพรุ่งและเดินหน้าชน แม้ว่าการกระทำนั้นอาจทำให้ลูกสาวที่ตื่นตระหนกจนตัวสั่นจะยิ่งหวั่นวิตกมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ตาม
สูดลมหายใจเข้าไว้อรุณรุ่ง ลูกเป็นลูกของแม่ เป็นแลงฟอร์ดคนหนึ่ง ลูกต้องเชื่อมั่นและผ่านมันไปให้ได้
สางสาวไม่รู้ความหมายของคำพูดมารดา จนกระทั่งดวงตาของเธอปะทะกับผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งโดยบังเอิญ
แล้วเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
ช่วงเวลาที่น่าหวาดกลัวเกิดขึ้นแล้ว เมื่อผู้คนที่อยู่รอบบริเวณหยุดการทำงานของตนเพื่อมองหาต้นเหตุของเสียง ซึ่งไม่นานพวกเขาก็พบ
แต่สาวิตรีหาได้สั่นสะท้านกับเสียงและสายตาของผู้คนนับสิบที่มองมายังนางและลูก นางยังคงกึ่งจูงกึ่งลากอรุณรุ่งไปหาก้องภพที่ยืนอยู่ในกระโจม สายตาของเขาก็เหมือนกับผู้คนส่วนใหญ่ที่นี่ นั่นคือตื่นตระหนก พรั่นพรึงและเต็มไปด้วยคำถาม
คะ--คุณสาวิตรี นี่...
อรุณรุ่ง ลูกสาวของฉันค่ะ สาวิตรีตอบ ไม่สนใจอาการอึกอักของคู่สนทนาพลางดันตัวลูกสาวมาอยู่ข้างหน้า รุ่ง นี่คือคุณก้องภพ เขาจะให้คำแนะนำลูกในการทำงานในกองถ่าย
ชายหนุ่มอ้าปากค้าง ดวงตาแทบถลนขณะมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า อาการอึกอักพูดไม่ออกทำให้อรุณรุ่งก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าขยับตัว
ท่ามกลางบรรยากาศที่อึดอัด ใครบางคนก็พูดขึ้น
ไม่แปลกใจเลยที่เห็นเธออีก
น้ำเสียงเย็นชากึ่งไม่พอใจทำให้อรุณรุ่งเงยหน้าขึ้น แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นผู้ชาย อันที่จริงเธอเริ่มลังเลแล้วว่าเขาเป็นผู้ชายจริงหรือไม่ ถึงแม้ว่าเขาจะสูงและมีเสียงเข้มทรงอำนาจ แต่ใบหน้าสวยอ่อนหวานที่แต่งแต้มด้วยสีชมพูเฉดเดียวกับสีผม งดงามจนไม่อาจละสายตาได้เลย
และที่สำคัญ เขาใส่ชุดกระโปรงสีขาวล้วนยาวกรอมเท้าได้สวยราวกับเทพธิดา
อรุณรุ่งอยากวิ่งหนีกลับบ้านพักและคลุมตัวเองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเลยที่ผู้ชายคนหนึ่งจะใส่กระโปรงได้สวยกว่าผู้หญิงอย่างเธอ
ก่อนที่ความน้อยใจจะยิ่งเลยเถิด ฮันเตอร์ก็พูดขึ้นอีก แค่แอบดูคงไม่เพียงพอใช่ไหม ตอนนี้ถึงได้อยากเข้ากองถ่ายโดยอ้างเรื่องงานเพื่อจะได้ใกล้ชิดพวกเซเลบ
คุณเคยพบอรุณรุ่งหรือคะ คำถามของสาวิตรีทำให้ชายหนุ่มปรายตามองนาง
สองครั้งครับ เธอมาแอบดูกองถ่ายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
คนนี้เอง ที่อรุณรุ่งบอก สาวิตรีมองผมสีชมพูของนายแบบหนุ่มด้วยสายตาเรียบเฉยไร้อารมณ์ น่าแปลกที่ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะหน้าสวยมาก และชุดกระโปรงสีขาวทำให้เขาดูอ้อนแอ้น แต่นางกลับไม่คิดว่าเขาเป็นผู้หญิงในร่างผู้ชาย
แต่เขาเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้ดูหยิ่งยโสนัก
ต้องขอโทษด้วยค่ะถ้าลูกสาวของฉันสร้างความรำคาญให้คุณ สาวิตรีพูดพร้อมกับแย้มยิ้มแบบนักธุรกิจ ทั้งก่อนหน้าและนับจากนี้ไป
น้ำเสียงกับท่าทางที่ไม่สำนึก แถมยังให้ท้ายลูกสาวหน้าตาเฉยสร้างความโกรธจนฮันเตอร์แทบควันออกหู แต่ชายหนุ่มควบคุมสติได้อย่างรวดเร็วและส่งยิ้มตอบออกไป
ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าพวกลูกติดแม่ทำอะไรไม่เป็นนักหรอก กระทั่งการแนะนำตัวเองสักเล็กน้อยตามมารยาท ก็ต้องคอยให้ผู้ปกครองจัดการให้
สางสาวกะพริบตาปริบๆ กับคำพูดในเชิงประชดของเขาก่อนเหลือบมองมารดาราวจะขออนุญาต ซึ่งสาวิตรีก็พยักหน้า อรุณรุ่งจึงสบดวงตาของฮันเตอร์ครู่หนึ่งแล้วก้มหน้าก้มตาพูด
ฉันชื่อ อรุณรุ่งค่ะ เรียกว่ารุ่ง...
เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกครั้งทั้งที่เธอยังพูดไม่จบ อรุณรุ่งรีบหุบปากฉับ น้ำตาเอ่อคลอและตัวสั่นเทา ฮันเตอร์เห็นอาการนั้นอย่างชัดเจน เขาจึงปรายตาไปยังต้นเหตุของเสียงกรี๊ดซึ่งเป็นทีมงานสาวหน้าตาสวยพอใช้คนหนึ่งแล้วติง
ร้องทำไม เสียมารยาท
ก็...เสียงของผู้หญิงคนนั้นน่ากลัวมากเลยนี่คะ หล่อนพูดพลางทำตัวสั่น ในดวงตามีหยาดน้ำเอ่อคลอคล้ายจะร้องไห้ ภาพนั้นทำให้ก้องภพกลอกตาขึ้นฟ้าแล้วถอนหายใจ เขายอมรับว่ากลัวแม่สาวลายเสือคนนี้ด้วยเหมือนกัน วูบหนึ่งด้วยซ้ำที่เขาคิดถึงตำนานสางที่พวกชาวบ้านบอก แต่พอเห็นท่าทางตัวลีบตัวห่อ หูลู่ไหล่ตกเหมือนลูกหมาถูกรังแก เขาก็เปลี่ยนความคิด
แม่นี่ก็แค่ผู้หญิงพิการ ผิดปกติที่ผิวหนัง ดวงตาและเสียงเท่านั้นไม่ใช่หรือไง หากยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตำหนิอาโออิ ชายคนหนึ่งก็เดินมาหยุดอยู่ทางด้านหลังของหล่อนพอดี หญิงสาวมองชายคนนั้นด้วยสายตาออดอ้อนขอความช่วยเหลือก่อนจะเอ่ยฟ้อง
คุณพัชระ ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าจะมาทำงานกับเราค่ะ หล่อนพูดพลางกอดแขนเขาไว้ แต่พัชระเพียงมองด้วยสายตาเตือนและเดินไปหาสาวิตรีกับแม่สาวลายเสือ ไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าคนที่เกาะแขนอยู่จะเดินตามหรือปล่อยแขนกลางทาง
เจอกันอีกแล้วนะ ชายหนุ่มพูดพลางยิ้มให้อรุณรุ่ง ก่อนจะหันไปหาสาวิตรี เรื่องเมื่อวาน ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ คุณ...
สาวิตรี แลงฟอร์ดค่ะ นี่ลูกสาวฉัน อรุณรุ่ง แลงฟอร์ด
ฮันเตอร์ขมวดคิ้วกับนามสกุลที่เขาคุ้นหู แต่คนที่โพล่งออกมาคือนายแบบผิวขาวลูกครึ่งเกาหลีซึ่งลุกจากเก้าอี้และเดินมาสมทบกับกลุ่ม
แลงฟอร์ด คุณเป็นอะไรกับมิสเตอร์ราม แลงฟอร์ด เจ้าของสถาบันการเงินระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่อยู่อเมริกาครับ
รามเป็นพี่ชายคนโตของฉันค่ะ สาวิตรีตอบเรียบๆ แต่คำว่าเจ้าของสถาบันการเงินระดับโลกทำให้ก้องภพตาโต
นี่พวกคุณรู้จักคุณสาวิตรีด้วยหรือครับ แล้วเรื่องสถาบัน...คือ... เอ่อ ผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญทางด้านนี้ครับ
คุณพ่อของผมท่านทำงานให้กับบริษัทในเครือของบริษัทแลงฟอร์ดครับ ปาร์คกุงซูอธิบาย แล้วยิ้มให้กับสาวิตรี เป็นเกียรติมากจริงๆ ไม่คิดว่าจะพบแลงฟอร์ดถึงสองคนในประเทศไทย
คำพูดของนายแบบหนุ่มทำให้แม่สาวหน้าเสือดูเหมือนบุคคลสำคัญระดับโลกขึ้นมาทันตา ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงตระกูลที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักอย่างแลงฟอร์ด โดยมีพนักงานบางคนที่พอจะติดตามข่าวเศรษฐกิจอยู่บ้างคอยให้ข้อมูล
ตระกูลแลงฟอร์ดที่ติดอันดับมหาเศรษฐีของโลกไง อยู่อันดับที่ห้าหรือหกนี่แหละ เห็นว่าครอบครัวนี้เป็นชาวอินเดียที่ไปตั้งรกรากอยู่ในอเมริกา ที่ดังๆ ในบ้านเราก็คุณปัทมา แลงฟอร์ดไง คนที่เป็นเจ้าของโรงแรมในภูเก็ตกับพัทยา
อ๋อ เจ้าของโรงแรมแลงตันฮิล จำได้แล้วแก ฉันเคยไปพักกับครอบครัวพี่เขยอยู่สองสามวัน ขอบอกว่าโรงแรมหรูเลิศอลังการมาก บริการก็สุดยอด อาหารก็อร่อย นี่ฉันกะจะไปอีกนะถ้าโบนัสปีนี้เลขสวยพอ
เสียงอึงอลที่ดังขึ้นเริ่มเป็นไปในแง่ที่ว่ามีบุคคลร่ำรวยระดับโลกตัวเป็นๆ อยู่ต่อหน้าพวกเขา อำนาจเงินทำให้สางสาวกลายเป็นเจ้าหญิงผู้อาภัพทันที
อรุณรุ่งมองคนนั้นคนนี้อย่างหวาดวิตก เธอคาดหวังว่าจะได้รับคำด่าทอ เสียงกรีดร้องหรือก้อนหิน แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำชื่นชมหรือสงสารเห็นใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเข้าไปในแววตาของผู้คนส่วนใหญ่แล้ว เธอต้องยอมรับว่าอยากให้พวกเขาต้อนรับเธอด้วยไม้หน้าสามเสียยังจะดีกว่า เพราะเกือบทุกคนมองเธอเหมือนแหล่งน้ำหรือผลไม้หายาก
แต่ก็มีบางคนที่ยังมองเธอด้วยแววตาเหมือนเดิม เหมือนครั้งแรกที่ได้พบกัน
เช่น ผู้หญิงในร่างผู้ชายผมสีชมพูคนนี้
อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาน่ากลัวจนอรุณรุ่งต้องหลบด้วยการก้มมองพื้น ฮันเตอร์กอดอกจ้องหน้าของแม่สาวหน้าเสืออย่างไม่คิดจะหลบสายตาเลยสักนิด อันที่จริง ท่าทางของเขาไม่ได้ดูหวาดกลัวหรือขยะแขยงแม้แต่น้อย มีเพียงความหงุดหงิดไม่พอใจที่แสดงอยู่บนใบหน้า ผิดกับอีกสามหนุ่มที่เหลือที่ทำตัวตีสนิท พูดคุยประหนึ่งรู้จักกับแม่และเธอมาเนิ่นนาน
ทำอะไรเป็นบ้าง คำถามของนายแบบระดับโลก ทำให้เสียงจอแจเงียบลง
จากคุณ |
:
g_maru
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มิ.ย. 55 01:48:02
|
|
|
|