ด้วยเพราะ
ด้วยเพราะ........เป็นครูมาร่วม 10 ปี ด้วยเพราะ........มีลูกศิษย์เป็นพัน ด้วยเพราะ........สนิทกับลูกศิษย์อย่างแรง จนเขาเล่าหลายๆอย่างให้เราฟัง ด้วยเพราะ........รู้จักกับผู้ปกครอง คุณพ่อคุณแม่มากมาย ด้วยเพราะ........สนิทกับผู้ปกครอง(อันนี้ไม่แรงมาก)จนเขาเล่าหลายๆอย่างให้เราฟัง ด้วยเพราะ........ชอบคิดอะไรนอกกรอบ ด้วยเพราะ........ชอบคิดอะไรหลายๆมุม ทั้งมุมเด็กและไม่เด็ก ด้วยเพราะ........มีลูกชายสุดซน และเป็นศัตรูกับการเรียนเกือบทุกวิชา ด้วยเพราะ........เคยทะเลาะเบาะแว้งกับลูกชายอยู่หลายกระบวนท่า ด้วยเพราะ........เคยโดนคุณครูของลูกชายฟ้องเรื่องการเรียนของลูกเหมือนกับที่เราเคยทำ กับลูกศิษย์ของเรา (โดนเอาคืน = = ) ด้วยเพราะ........ตอนนี้ปรับตัวทั้งเราและลูกชาย จนรู้ว่า แค่ไหน เท่าไหร่ ด้วยเพราะ........สอนให้คนอื่นมากมายเข้าใจทั้งลูกและคุณพ่อคุณแม่ และ ด้วยเพราะ........อยากให้คุณพ่อคุณแม่และคุณลูก สนิทกัน จึงขอบังอาจเขียนเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาละกัน >< ปล. มิขออ้างอิงทฤษฎีของผู้เชี่ยวชาญใดๆทั้งสิ้น มิได้อวดดี แต่ขอถ่ายทอดด้วยประสบการณ์และเรื่องราวที่เราเข้าใจกันง่ายๆ ที่มิต้องใช้ภาษาหลักการอะไรมากมาย นะคะ ^^
ลูกเราเห็นเขาดีกว่า
ทำไมน้า...ยิ่งลูกเราโตยิ่งห่างเหิน... ทำไมน้า...ยิ่งลูกเราโตยิ่งพูดกับเราน้อยลง ทำไมน้า...เวลาลูกเรามีอะไร...เราจะต้องรู้จากปากคนอื่น...ทำไมไม่บอกกับเราเลย และทำไมน้า...ลูกเราถึงเห็นคนอื่นดีกว่า!
เราเลี้ยงเขาอย่างดี เขาคือแก้วตาดวงใจของเรา เขาคือชีวิต เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราพยายามทุกอย่าง ทุกทางเพื่อให้เขามีชีวิตที่ดี แต่นับวันเขากลับเหินห่างกับเรา ยิ่งเขาโตเราก็ยิ่งหมดความหมาย ทำไมล่ะ เพราะอะไร
คิดว่าพ่อแม่หลายคนคงเจอแบบเดียวกันนี้ และหลายๆคนคงคิดหาเหตุผลต่างๆนานา คิดน้อยใจจนถึงพาลไปว่าลูกเรามันไม่ดี ไม่เคยรักเราห่วงเราเหมือนที่เรารักเขา หรือไม่ก็เพราะเขามีแฟนแล้ว เลยห่วงแต่แฟน และอีกสารพัดความคิดมากมายที่จะคิดได้ ซึ่งก็มีทั้งถูกบ้าง ผิดบ้าง มีส่วนอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่บางครั้งเราเผลอมองข้ามไปโดยไม่รู้ตัว บางครั้งเรื่องบางเรื่องที่เรามองว่ามันเล็กน้อย มันกลับมีผลอย่างที่ไม่คาดคิด คำพูดบางคำที่เราหลุดปากออกไปอย่างไม่ตั้งใจแต่มันอาจเปลี่ยนแปลงลูกของเราไปได้ทั้งชีวิต
การเป็นพ่อเป็นแม่คนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราต้องดูแลชีวิตของคนที่เรารักมากที่สุด ดูแลให้เขามีชีวิตที่มีความสุขในทุกๆเรื่อง เพราะเรารักเขามาก มากจนอยากให้เขาเป็นไปอย่างที่เราต้องการ อยากให้เขาเดินตามทางที่เราเลือกไว้ให้ และเพราะแบบนี้เอง บางครั้งที่เขาไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด เราจึงโกรธ เสียใจ ดุเขา ว่าเขา พาลใส่เขา ซึ่งก็เป็นต้นเหตุให้ลูกเราเริ่มไม่อยากอยู่ใกล้เรา ไม่อยากให้เราเข้าไปในชีวิตของเขา
ถามว่าถ้าอย่างนั้นเราต้องยอมเขาทุกเรื่องอย่างนั้นสิ? เขาจะได้ไม่หนีเราไปไหน คงไม่มีพ่อแม่คนไหนทำอะไรขนาดนั้น เพราะ ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เป็นลูกเทวดาแล้วล่ะ
แล้วจะทำยังไงล่ะ นู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ไม่ต้องเลี้ยงเลย ดีไหม
ถึงได้บอกว่าการเป็นพ่อเป็นแม่คนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าเราดูแลเขาเป็น แต่ก็ต้องมีเหนื่อยกันบ้าง และยอมปรับตัวเราบ้าง ลูกเราบ้าง ยึดทางสายกลาง ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ตึงบ้างหย่อนบ้าง ก็เท่านั้น
จริงๆแล้วมิติเองแน่ใจว่าคุณพ่อคุณแม่หลายคน รู้วิธีการดูแลลูกอยู่แล้ว แต่ทำไม่ได้ ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ซึ่งจะว่ากันตามจริงที่ต้องยอมรับก็คือพอเราเจอสถานการณ์ต่างๆเข้า ไม่ว่าจะเพราะลูกทำให้โกรธหรือเขาไม่ได้ดังใจ คำแนะนำจากทั้งหนังสือจากทั้งผู้เชี่ยวชาญต่างๆมันได้อันตรธานหายไปจากหัวเราทันที อารมณ์นั้นไม่สนอะไรทั้งนั้นรู้แต่ว่าเราต้องใส่ลูกเราอย่างเดียว แล้วผลที่ตามมาก็คืออย่างที่บอก
พ่อแม่หลายคนมักจะเป็นอย่างนี้แล้วค่อยมาคิดได้ทีหลังว่าเราไม่น่าใส่อารมณ์ซะขนาดนั้นเลย
ก็เข้าใจอยู่นะว่ามันมีหลุดกันบ้าง มิติเองบางครั้งก็เป็น(เมื่อก่อนอ่ะนะ) แต่จะบอกว่าถ้าโชคดีลูกเราเป็นเด็กดี ไม่คิดอะไรมากก็แล้วไป แต่กับเด็กบางคนมันเหมือนการประทับตราไว้กับตัวเขาเลย ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่คิดมาก เขาจะฝังใจไปนานอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยล่ะ มิติถึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการใช้คำพูดมาก เพราะอย่างที่บอกคำพูดบางคำเปลี่ยนคนทั้งชีวิต ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะเปลี่ยนไปในทางดีหรือร้ายก็เท่านั้น
พูดมาซะยาว ก็แค่อยากจะบอกว่า ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะใช้หลักการข้อไหน จากคำแนะนำของใครก็แล้วแต่ สิ่งที่แรกที่ควรจะทำก่อนเลยคือตั้งสติและปรับอารมณ์ตัวเองซะก่อน ไม่อย่างนั้นหลักการ ทฤษฎี คำแนะนำไหนๆก็ใช้ไม่ได้หรอก ถึงเวลาเอาเข้าจริงๆก็ ลืม
ตั้งสติให้ได้ ปรับอารมณ์ซะก่อน ถ้ามันไม่ไหวจริงๆให้หยุดอยู่เฉยๆไม่ต้องคิด พูดอะไรในตอนนั้น เหมือนกับเวลาทะเลาะกับแฟนนั่นล่ะ เพราะอะไรก็แล้วแต่ที่ทำด้วยอารมณ์ที่เหนือเหตุผล(ยกเว้นพวกงานศิลปะ)มักจะให้ผลไปในทางที่ค่อนข้างแย่ซะส่วนใหญ่
มิติไม่ได้บอกว่าเราต้องยอมลูกเรา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ไม่ต้องไม่ทำโทษเขา ถ้าเขาผิดเราก็ต้องมีการทำโทษบ้างอย่างเหมาะสม ขอบอกไว้นิดนึง ไม่รู้คุณพ่อคุณแม่จะคิดแบบเดียวกันหรือเปล่า อันนี้หมายถึงในโรงเรียนด้วยนะ ที่บอกว่าห้ามตีเด็กให้ใช้วิธีอื่นอย่างนุ่มนวล มิติคิดว่ามันไม่เหมาะกับเด็กไทยหรอก เวลาที่ครูสอนเด็กถ้าเขาผิดก็ต้องตี แต่จะเลือกเป็นวิธีสุดท้ายหลังจากทำวิธีอื่นๆมาแล้ว แล้วก็ตีอย่างพอประมาณ ไม่ใช่ตีเพื่อโชว์พาวว่าครูเก่ง มีอำนาจ ทำอะไรได้ทุกอย่าง ขอนอกเรื่องนิดนึงครูบางคนชอบโชว์พาว ชอบประจานเด็กซึ่งอันนี้มิติเองก็รับไม่ได้ การทำโทษเพื่อให้เขาหลาบจำ แต่การประจานคือการทำให้เด็กถูกประทับตราว่าเป็นคนไม่ดี นอกจากเด็กจะไม่หลาบจำแล้วเขาจะยังประชดทำมากกว่าเดิมด้วย นอกเรื่องไปหน่อย อย่างที่บอก มิติไม่ได้ให้คุณพ่อคุณแม่ตามใจลูกไปทุกอย่าง แต่อยากให้การทำโทษเป็นวิธีสุดท้าย เรื่องบางเรื่องอยากให้คุณพ่อคุณแม่เปิดใจฟังเขา การรับฟังจะทำให้เขาไว้ใจเราและกล้าที่บอกเราในทุกๆเรื่อง สิ่งไหนที่ไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด ก็ให้มองไปในหลายๆมุม เราเป็นผู้ใหญ่เรามองอะไรได้กว้างกว่าเขา แต่ก็มีบางมุมที่เรามองไม่ได้เท่าเขาเหมือนกัน เปิดใจให้เขาบ้าง ความผิดเล็กๆน้อยที่เขาทำ เหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยบอกว่าเราพลาดอะไรไปหรือเปล่า อย่าเอาความเป็นผู้ใหญ่มาตัดสินว่าเราต้องเป็นฝ่ายถูกเสมอ
อย่าให้การเป็นพ่อเป็นแม่คือแค่ดูแลเขาตอนเช้า ไปส่งที่โรงเรียน ให้เงินเขา พอตกเย็นเขากลับมากินข้าว และฟังเราดุเรื่องเรียน เรื่องต่างๆสารพัด เรื่องที่เขาทำผิดสมัยอนุบาลก็อุตส่าห์รื้อขึ้นมาพูด และเขาก็เดินหน้างอปากบ่นขมุบขมิบ เดินกระแทกเท้าเข้าห้อง พอเช้ามาก็เริ่มใหม่แบบเดิม วนอยู่อย่างนี้ซ้ำซากเรื่อยไป มิติอยากเห็นทั้งครอบครัวสนิทกัน เข้าใจกัน กล้าที่จะเปิดใจพูดกันในทุกเรื่อง อยากเห็นเวลาที่ลูกทำผิดและกล้ายอมรับกับพ่อแม่ ซึ่งจะให้คำสั่งสอนตักเตือนอย่างมีเหตุผลมากว่าเสียงตวาด อยากเห็นเวลาที่ลูกๆมองพ่อแม่เป็นฮีโร่ที่เข้าใจเขาและอยู่กับเขาเวลาที่เขาพลาดพลั้งมากกว่าจะมาซ้ำเติมและตอกย้ำอยู่ทุกเวลาที่นึกได้ อยากเห็นลูกๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆโดยที่ยังมีความรักและเคารพในตัวพ่อแม่อยู่ไม่ว่าจะมีแฟนหรือมีใคร พ่อและแม่ก็ยังเป็นคนสำคัญที่สุดของเขาอยู่เสมอ มิติเชื่อว่าพ่อแม่คนไหน ก็ต้องการแบบนี้...ขัวร์
แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 55 13:00:51
จากคุณ |
:
คุณนู๋มิติ
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มิ.ย. 55 12:42:33
|
|
|
|