Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Black Gun And Red Rose - กุหลาบแดงและปืนดำ - บทที่ 22 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/02/W11691462/W11691462.html

บทที่ 2 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/02/W11703633/W11703633.html

บทที่ 3 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/02/W11718987/W11718987.html

บทที่ 4 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/02/W11728001/W11728001.html

บทที่ 5 http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/02/W11751888/W11751888.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11770861/W11770861.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11795300/W11795300.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11817498/W11817498.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11842423/W11842423.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11862773/W11862773.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11882295/W11882295.html

บทที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11912513/W11912513.html

บทที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11956587/W11956587.html

บทที่ 14 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12030384/W12030384.html

บทที่ 15 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12065218/W12065218.html

บทที่ 16 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12096110/W12096110.html

บทที่ 17 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12133324/W12133324.html

บทที่ 18 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12160720/W12160720.html

บทที่ 19 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12193492/W12193492.html

บทที่ 20 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12226517/W12226517.html

บทที่ 21 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12258717/W12258717.html

------------------------------

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณ zoi - บทนี้กลับมาบู๊แบบระเบิดภูเขาเผากระท่อมแล้วครับพี่โส้ย

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณกุหลาบมอญ - ขอบคุณที่ติดตามครับผม

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณเพชรรุ้งพราย - (วันนี้ไม่ปรับเข้าโหมดเคร่งขรึมแล้วน่อ xp) จริงๆ ก็อยากให้มีฉากสวีทกันมากกว่านี้ครับ แต่ตั้งใจให้เรื่องจบในยี่สิบสี่บท กลัวสวีทเยอะจะเกินยี่สิบสี่บทไปอีกน่ะครับ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณ Psycho man - อาจารย์จีต้องมีพลังจิตแน่ๆ เลยครับ ภุชงค์ แอนด์ เดอะแก๊งเด็กอู่ PV - Motor ของเขา ผมอยากให้เขาเป็นพระเอกเต็มตัวอยู่แล้ว เพียงแต่เว้นช่วงหน่อย ยังไงก็ไม่ใช่นิยายที่ผมเขียนในปีนี้อีก เพราะโปรเจ็คที่ผมวางไว้ในปีนี้ หลังจบ Black Gun And Red Rose ก็จะเป็นเรื่องสั้นสยองขวัญชุด Love Like Blood ซึ่งมี 13 เรื่อง และหลังจากนั้นก็จะเป็นนิยายแฟนตาซีเรื่องยาวซึ่งวางโครงไว้ 5 ภาคจบ แต่ตั้งใจจะเขียนปีละ 1 ภาคระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคมของทุกๆ ปีเท่านั้น พูดไปพูดมาผมนอกเรื่องไปไกลเลยนะนี่  แหะๆ กลับมาที่ Black Gun ต่อ ตามหลักสากลต้องตบจูบๆ จริงๆ ฮะ แต่กลัวโดนแซว แค่นี้ก็มีใครบางคนแซวริสาว่าเป็นนักวอลเล่ย์บอลแล้วเนาะ อิอิ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณ Sniper-1500watt - ผมรู้ครับว่าคุณพี่บก.สไนเปอร์อยากเล่นเกมล่าคำผิด ผมเลยหย่อนไว้ให้บทละนิดละหน่อยไงครับ//แสบสีข้างจังเลย ขอยาทาหน่อยจิฮ้าฟฟฟว์

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณใยไหมกะใบม่อน - สว.ที่พี่ไหมพูด หมายถึงผู้สูงวัยใช่มะครับ? แอ๊ ล้อเล่นนะค้าบ ยังไงก็พยายามเขียนออกมาเต็มที่อยู่แล้วคร้าบ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณรุริกะ - มาถึงคนที่แซวพี่ริสาแล้ว 555+ ไม่รู้ว่านักวอลเล่ย์เก่าหรือเปล่านะฮะ แต่ดูจากส่วนสูงก็น่าจะพอเล่นเป็นตัวเซ็ทได้นา

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณชมภัค - ขอบคุณที่ติดตามนะคร้าบ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณสะเก็ดดาวเสาร์ - ขอบู๊อีกบทสองบทนะครับ //เอ แต่อีกบทสองบทก็จบแล้วนี่นา เอื๊อก!

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณห้าสิบป่าย - บทนี้ไม่ใช่สนั่นทุ่งนะครับ แต่ยิงกันสนั่นป่าเลยทีเดียว

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณสามปอยหลวง - ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณกาแฟเย็นเพิ่มช็อต - ขอบคุณสำหรับกำลังใจเช่นกันครับพี่กาแฟ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณกาปอมซ่า - บทนี้ผมขอพิซซ่าทะเลสักถาดนะค้าบพี่กาปอม ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษนอกจากผมอยากกินครับ!

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณเงาดินสอ - ขอบคุณที่ติดตามมากๆ ครับ

redrose ขอบคุณกิฟท์จากคุณน้ำพรมหนำ - บันไซ บันไซ บันไซ! ในที่สุดคุณน้ำพรมหนำก็ได้กลับออกจากป่าแล้วใช่มั้ยครับนี่ ดีใจด้วยนะครับ บทนี้ผมจะได้พาคุณน้ำพรมหนำกลับเข้าป่าต่ออีกครั้ง เอิ๊กๆ

ทูตกุหลาบ ใกล้ถึงจุดจบเข้าไปทุกทีแล้วครับ บทนี้พบกับการปะทะกันของตัวละครสำคัญทุกคน ส่วนบทหน้าก็เป็นบทที่ทุกอย่างสิ้นสุด(แต่เรื่องยังไม่สุดสิ้นน้า) ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากๆ นะครับ คลั่งอินทรีย์เหล็ก




------------------------------

บทที่ 22

เมืองลำปาง,ห้างฉัตร
หมู่บ้านป่าเกวียน


ท้องฟ้าเหนือผืนป่าห้างฉัตรพร่างพราวด้วยดวงดาวที่เปล่งประกายระยิบระยับ

จันทร์เต็มดวงสุกสกาวทอแสงนวลทอดลงบนถนนดินลูกรังที่ตัดผ่านป่าสนด้วยสภาพขรุขระ และท่ามกลางแสงไฟหน้ารถยนต์ของรถตู้ที่พีภัทรกำลังขับ งูเหลือมขนาดลำตัวเท่าท่อนขาของเขา ความยาวไม่ต่ำกว่าสี่เมตรตัวหนึ่งกำลังเลื้อยผ่านถนนไปอย่างอืดอาด พีภัทรจึงต้องแตะเบรกและจอดรออยู่ตรงนี้มาได้หลายนาทีแล้ว

“งูนั่นไปกินอะไรมาคะ ท้องนูนน่าเกลียดเชียว” เสียงของรัมภาดังมาจากที่นั่งทางตอนหลังซึ่งเธอนั่งอยู่ข้างพี่สาว

ทิวากรผู้นั่งบนเบาะหน้าข้างคนขับเหลียวขวับกลับไปมองคนพูด เด็กสาวกำลังเพ่งมองผ่านกระจกหน้ารถไปยังเกล็ดมันเลื่อมบนตัวงู เขาทราบว่าเธอคงไม่ได้อยากรู้จริงๆ หรอกว่างูไปกินอะไรมา แต่เธอต้องพูดเพราะบรรยากาศในรถชักจะเงียบและตึงเครียดเกินไปแล้ว

“ท้องป่องขนาดนั้นน่ากลัวจะเป็นหมูป่ามั้งนะครับ สัตว์ป่าแถวนี้ชุกชุมอยู่ ยิ่งถัดจากหมู่บ้านป่าเกวียนขึ้นไปก็จะเป็นเขาหางสัตว์และผาอ้ายคอย แถบนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย งูใหญ่กว่านี้ก็มี” ทิวากรตอบอย่างคล่องแคล่ว พยายามไม่สนใจสิ่งที่ค้นพบเมื่อช่วงหัวค่ำซึ่งกำลังวนเวียนอยู่ในหัว

“ผาอ้ายคอย?” รัมภาทวนคำ นึกคุ้นว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาแล้ว พลันเธอก็นึกออกว่ามันเป็นหน้าผาที่ลูกน้องของเดโชนำศพชื่นจิตรมาโยนทิ้ง เด็กสาวตัวเย็นเฉียบ ใบหน้าถอดสีเมื่อคิดถึงชะตากรรมของทุกคนที่รออยู่ข้างหน้า รัมภารีบปัดความคิดนั้นออกไปและพยายามสนใจเรื่องอื่น เธอถามต่อ “ทำไมผานั้นชื่อแปลกจัง มีใครคอยใครอยู่หรือเปล่าคะ?”

“ครับ ตามตำนานว่ากันไว้อย่างนั้น” ทิวากรผงกศีรษะตอบ

รัมภาทำตาโต “ช่วยเล่าให้หนูฟังได้มั้ยคะ?”

ทิวากรจ้องมองเด็กสาว รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลามาเล่าตำนาน แต่ใครจะรู้ว่าเขาอาจจะต้องตายในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ดังนั้นในขณะที่พอมีเวลาเก็บเกี่ยวสิ่งที่น่าจดจำ เขาก็ควรจะคว้าไว้

“ผาอ้ายคอย แต่เดิมไม่มีชื่อครับ” หนุ่มตี๋เริ่มเล่าอย่างรวบรัดขณะรถกระชากตัวเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอีกครั้งด้วยเจ้าเหลือมท้องป่องลากตัวเองเข้าข้างทางไปแล้ว “มาได้ชื่อนี้เพราะมีเรื่องเล่าขานกันว่า หลายร้อยปีก่อน มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งแอบนัดมาพบกันบนยอดผาไร้นามทุกๆ วันขึ้นสิบห้าค่ำ พวกเขาเป็นคนต่างหมู่บ้านและต่างชนชั้น ฝ่ายชายเป็นทหารปลายแถวของเผ่าบ้านใต้ ส่วนฝ่ายหญิงเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์ประจำเผ่าบ้านเหนือ แต่แอบหลงรักกันและนัดพบกันเรื่อยมา จนอยู่มาวันหนึ่ง เป็นวันขึ้นสิบห้าค่ำครบรอบหนึ่งปีที่พวกเขานัดพบกัน...”

“เกิดอะไรขึ้นคะ?” รัมภาถามเมื่อเห็นว่าจู่ๆ ทิวากรก็เงียบไปเสียเฉยๆ

หนุ่มตี๋คลี่ยิ้มฝืด “มันเป็นคืนที่ฝนตก ม้าของฝ่ายหญิงพลัดตกเขาขณะเดินทาง เธอตายก่อนที่จะไปถึงยอดผานั้น ฝ่ายชายซึ่งไปถึงก่อนหน้าก็รอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ ครั้นจะควบม้าลงมาตามก็กลัวว่าหากคู่รักมาถึงจะไม่เจอกันเสียอีก เขาเลยตัดสินใจคอยอยู่ที่นั่น”

“แต่เขาก็ไม่เคยได้เจอเจ้าหญิงอีกเลย ใช่มั้ยคะ?” รัมภาถามอย่างหดหู่

ทิวากรถอนหายใจ เขาเคยฟังและเคยเล่าเรื่องนี้ให้แขกวีไอพีของรีสอร์ทฟังเป็นนิทานแก้เหงามาตลอด แต่ก็ไม่เคยรู้สึกหม่นหมองจับใจเช่นนี้มาก่อน เขาเล่าปิดท้ายด้วยน้ำเสียงขมขื่นราวกับทหารชายในเรื่องเป็นตัวเองอย่างไรอย่างนั้น

“ใช่ครับ หลังจากวันนั้น แม้จะมีคนพบศพเจ้าหญิงแล้วก็ตาม เขาก็ยังกลับไปที่ยอดผานั้นทุกเดือนจนกระทั่งเสียสติในที่สุด เขาใช้ชีวิตอยู่บนนั้นจนตาย ชาวบ้านเลยเรียกขานยอดผานั้นว่าผาอ้ายคอยสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน”

“เศร้าจัง” เด็กสาวเอนตัวซบไหล่พี่สาว ก่อนที่พีภัทรจะกระทืบเท้าบนคันเบรกหยุดรถตู้ลงอย่างกะทันหัน อีกสามชีวิตภายในรถถูกแรงกระชากเหวี่ยงเสียเกือบตกเบาะที่นั่ง รัมภากรีดร้องอย่างตกใจขณะพี่สาวดึงตัวไว้ไม่ให้กระเด็นไปกระแทกเบาะหน้า

“คราวนี้ตัวอะไรขวางทางอีกล่ะคุณ” ริสาถามพีภัทรพลางยันมือกับพนักเบาะด้านหลังของทิวากร เธอรู้สึกไม่สบายใจมาตลอดทางเพราะนักฆ่าหนุ่มไม่ยอมเปิดปากพูดคุยกับใครเลยตั้งแต่ขับรถเข้าป่ามาเกือบสิบนาทีแล้ว

“ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นคน” พีภัทรตอบเสียงเรียบ “พร้อมรถยนต์อีกหนึ่งคัน”

ทิวากร ริสาและรัมภาจึงรีบเพ่งตามองออกไปนอกกระจกหน้ารถ

และกลางแสงไฟบนถนนขณะนี้ จิ๊ปเชอโรกีคันหนึ่งกำลังจอดขวางทางอยู่ไม่ขยับเขยื้อน

“อีกไม่ไกลก็ถึงหมู่บ้านป่าเกวียนแล้ว เดโชคงส่งคนมารอพวกเรา” ทิวากรกระซิบ

ประตูรถจิ๊ปทั้งสี่บานเปิดออก ชายฉกรรจ์หกคนก้าวลงมา สามในหกมีปืนกลมือหิ้วติดกายพร้อมใช้งาน

พีภัทรผู้อยู่บนเบาะคนขับส่องกระจกมองหลัง ใบหน้าของริสาซีดขาวไร้สีเลือด เธอกำลังจ้องมองมาที่เขา ในขณะที่ทิวากรหันกลับมาถามรัมภาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้

“คุณมินแน่ใจนะครับว่าทำได้?”  

“แน่ใจค่ะ” รัมภาเม้มริมฝีปาก พยายามผงกศีรษะให้คำรับรองที่หนักแน่นที่สุด

“ถึงไม่แน่ใจก็ไม่ทันแล้วล่ะ” พีภัทรพูดเมื่อชายฉกรรจ์ทั้งหกคนเดินมาปิดล้อมหน้ารถและส่งสัญญาณให้คนภายในรถก้าวเดินลงไป

“ตามแผนนะ?” ทิวากรหันกลับมาถามพีภัทร

นักฆ่าหนุ่มไม่ตอบ แต่เขาพยักหน้า วินาทีต่อมาก็หันขวับไปที่ริสา “หลังจากนี้คงไม่มีเวลาได้พูดคุยกันอีก ดินสอยังอยู่กับตัวรึเปล่า จำได้ใช่มั้ยว่าผมสั่งอะไรคุณไว้?”

“จำได้น่า” ริสาตอบห้วนสั้น แต่จิตใจสั่นคลอนด้วยความหวาดหวั่น

พีภัทรไม่พูดอะไรอีก เขาหมุนกายเปิดประตูและโดดลงจากรถ ทิวากรทำเช่นเดียวกับเขา สองหนุ่มยกมือขึ้นเหนือศีรษะขณะชายฉกรรจ์มือเปล่าปรี่เข้ามาล็อคตัวทันทีโดยมีชายฉกรรจ์ผู้ถือปืนยืนคุมเชิงไม่ห่าง

“พู้หยียูหนา?”

เสียงคำรามภาษาไทยผิดเพี้ยนบอกชัดว่าชายฉกรรจ์เหล่านี้ไม่ใช่คนไทย พีภัทรทำเป็นไม่ได้ยิน จึงถูกชายตาโปนท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้หนึ่งต่อยท้องหนึ่งทีกับต่อยปากอีกหนึ่งที หมัดไม่แรงมาก พีภัทรสะบัดศีรษะไล่ผมที่ลงมาปรกตา ก่อนแสยะยิ้มตอบกลับไปอย่างท้าทาย

ชายตาโปนเบะปากขุ่นเคือง ถ่มน้ำลายใส่ใบหน้าพีภัทรแล้วเดินยิ้มเยาะไปที่ทิวากร

“พู้หยียูหนา?”

คำถามเดิม แต่เปลี่ยนจำเลย

ทิวากรเลิกคิ้วสูง ส่ายศีรษะตอบ “พูดไทยได้มั้ย อั๊วฟังไม่รู้เรื่อง”

ชายตาโปนคำรามอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันออกหมัด ลูกน้องคนหนึ่งก็ตะโกนอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่ภาษาไทย ลูกน้องคนนั้นชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปด้านในรถตู้ ชายตาโปนจึงผละออกจากทิวากรเดินไปเลื่อนเปิดประตูรถ ก่อนที่วินาทีต่อมาจะลากริสาและรัมภาลงจากรถด้วยดวงตาเปล่งประกาย

พีภัทรกับทิวากรรีบเบนหน้าไปทางอื่น ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาจะลงมือ สิ่งที่ทำได้คืออดทนไปก่อน พวกเขาสองคนถูกค้นตัวทุกซอกมุม เมื่อไม่พบอาวุธก็ถูกคุมมานั่งบนเบาะหลังของจิ๊ปเชอโรกี และมีปืนกลมือจากชายผู้นั่งขนาบสองข้างเบนมาจ่อชายโครงพร้อมยิงตลอดเวลา

ริสากับรัมภาถูกต้อนกลับเข้าไปในรถตู้ พวกเธอคงไม่ถูกค้นตัวอย่างที่พีภัทรคาดคิด หรือถ้าค้น ก็มีเพียงริสาเท่านั้นที่โดนค้น เพราะเดโชคงไม่ต้องการให้มือสกปรกหยาบช้าของพรรคพวกแตะต้องตัวลูกสาวเป็นแน่ นั่นเองจึงเป็นเหตุผลที่พีภัทรฝากปืนของตนเองและปืนของทิวากรไว้กับเธอ

ฝากไว้เพื่อรอคอยโอกาสใช้งาน

นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มสามสิบนาที

ภายในจิ๊ปเชอโรกีมีชายฉกรรจ์สี่คน ส่วนอีกสองถูกย้ายไปทำหน้าที่คนขับและคนคุมในรถตู้

ชายตาโปนผู้นั่งข้างคนขับในรถจิ๊ปหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรรายงานความเรียบร้อยแก่เดโช และไม่กี่นาทีต่อมา จี๊ปเชอโรกีก็สตาร์ทเครื่อง กลับหัวรถมุ่งขึ้นเขาเตี้ยๆ นำทางผ่านหมู่บ้านป่าเกวียนโดยไม่หยุดแวะ

รถตู้ขับตามมาด้านหลังพร้อมด้วยหญิงสาวสองคนที่สบสายตามองกันเป็นระยะๆ

พวกเธอรู้ว่าอีกไม่นานกำลังจะเกิดอะไรขึ้น

แต่ไม่รู้เลยว่าผลจะออกมาในรูปแบบใด

++++++++
 
เมืองลำปาง,ห้างฉัตร
โรงเลื่อยไม้เถื่อน


จิ๊ปเชอโรกีและรถตู้สีดำแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงเลื่อยไม้ที่ตั้งอยู่บริเวณสันเขาลูกหนึ่ง คนงานหลายคนกำลังทยอยขนไม้สักที่แปรรูปเสร็จแล้วออกมาวางหมอนกองพะเนินด้านนอก ก่อนใช้ผ้าใบคลุมปิดกันน้ำค้าง รอตอนเช้าให้ชาวบ้านป่าเกวียนนำช้างมาลากไม้ขนย้ายเข้าหมู่บ้านและนายหน้าจัดซื้อจะส่งคนมาขนออกไปในลักษณะกองทัพมด  

เดโชเดินมายืนรอขบวนรถของหัวหน้ากระเหรี่ยงตาโปนนามคำหลู่ด้วยตัวเอง อากาศในป่ากลางคืนหนาวจนเขาต้องใส่เสื้อแจ็คเก็ต เดโชล้วงสองมือลงในกระเป๋า จ้องมองคำหลู่ลากตัวพีภัทรและทิวากรลงจากรถด้วยแววตาของผู้ชนะ

“ในที่สุดเราก็เจอกันจนได้นะ นพคุณ” เดโชเอ่ยทักเมื่อนักฆ่าหนุ่มถูกคุมตัวมายืนอยู่ด้านหน้า “ไอ้เชาลูกน้องอั๊วเป็นไงบ้าง ลื้อดูแลดีเท่าที่อั๊วดูแลแม่บุญธรรมของลื้อรึเปล่า เอ้อ แต่ปากเปราะแบบนั้น พวกลื้อจะเอาไปต้มยำทำแกงอะไรก็เชิญ อั๊วยกให้ตามสบาย”

พีภัทรไม่ตอบคำ เขาทราบอยู่แล้วว่าคนอย่างเดโช คงไม่ชุบเลี้ยงสมุนที่ยอมคายความลับต่ออีกแน่ ขณะนี้เชาจึงถูกปล่อยทิ้งไว้ในห้องพักของโรงแรมภูนิล ในขณะที่พ่อเลี้ยงกำธรคงได้รับอิสรภาพจากภุชงค์ไปแล้ว

เดโชหันมายักคิ้วให้ทิวากรเป็นรายต่อมา “ไง อาหมิง ลื้อทำแสบกับอั๊วนักนะ ป๊าลื้อนี่มันเลี้ยงลูกไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ”

“พ่อแม่อั๊วอยู่ที่ไหน!” ทิวากรพูดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน พยายามไม่มองซานกับเฟยและบรรดาลูกสมุนอีกหลายสิบนายผู้ยืนอยู่ด้านหลังเดโชและกำลังแสยะยิ้มยียวน

“อยู่ที่ไหนเดี๋ยวลื้อก็ได้เจอ” เดโชตอบพลางหยักยิ้มเหยียดหยัน ก่อนหันมองประตูของรถตู้ที่จอดอยู่ด้านหลังจิ๊ปเชอโรกีเลื่อนเปิดออก ชายฉกรรจ์สองคนนำตัวริสากับรัมภาก้าวเท้าลงมา ดวงตาของเดโชเป็นประกายแวววาวเมื่อเห็นบุตรสาว

ทิวากรเหลือบมองรัมภาซึ่งอยู่ภายใต้เสื้อแจ็คเก็ตของพีภัทร แล้วหันมากระซิบใส่หน้าเดโช “พวกอั๊วรู้ความจริงแล้วแปะโช แปะไม่ใช่พี่น้องกับโกว และแปะก็ไม่ใช่แค่ลุงของคุณมิน!”

“ลื้อพูดอะไร?” เดโชตาลุก เอื้อมมือกระชากคอเสื้อหลานชาย

“วันนี้อั๊วส่งคนไปที่เชียงราย ไปที่บ้านหลังหนึ่งของอดีตชาวเขาเผ่ามูเซอที่ลูกสาวได้ดิบได้ดี” ทิวากรจ้องเข้าไปในดวงตาอันดุดัน “แปะคงรู้ดีนะครับว่านั่นเป็นบ้านใคร ลูกน้องอั๊วโทรมารายงานตอนค่ำ ก่อนที่แปะจะโทรหาอั๊วไม่นาน ลูกน้องอั๊วบอกว่าบ้านหลังนั้น - ”

“หยุด!” เดโชคำรามลั่น บ้านที่ทิวากรพูดถึง คือบ้านพ่อแม่ของเรณูที่หล่อนต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูไปให้ทุกๆ เดือน ทำไมเขาจะไม่รู้ เดโชบดกรามขึงตามองทิวากรอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เมื่อชำเลืองพบสายตาของรัมภาที่มองมา เขาก็รีบปล่อยมือออกจากคอเสื้อทิวากรและหันไปคลี่ยิ้มให้เธอทันที

“คนดีของลุง พวกมันทำอะไรหนูรึเปล่า” เดโชพูดขณะรัมภามายืนอยู่ด้านข้าง

“เปล่าค่ะ” รัมภาตอบเสียงสั่น ฟันแทบกระทบกันกึกๆ จากอากาศหนาวผสมความตระหนกตึงเครียด ด้วยตระหนักดีว่าเธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าฆาตกรที่ฆ่าคุณพ่อของเธอ...พลัน เด็กสาวปวดร้าวใจ เธอมีพ่อเป็นใครกันแน่?

เธอไม่รู้และไม่อยากคิดถึงมันเลย

เดโชเห็นบุตรสาวยืนตัวสั่น เข้าใจว่าเธอหนาวจึงรีบถอดแจ็คเก็ตของตัวเองออกคลี่คลุมให้อีกชั้นหนึ่ง แรกทีเดียวรัมภาจะเบี่ยงตัวหลบ แต่เมื่อสบตาทิวากร ก็ต้องกลั้นใจยืนนิ่งเฉย เดโชโอบแขนกอดเธอแน่นด้วยความคิดถึง รัมภารู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“อีกไม่นานลุงจะพากลับบ้านนะ” เดโชพูดอย่างอบอุ่นขณะคลายกอดและหันกลับมามองพีภัทร ทิวากรและริสาทีละคน

สายตาที่อบอุ่นยามจ้องมองรัมภา เปล่งประกายอำมหิตเมื่อจ้องมองริสา

“ไม้เยอะไม่เบานะ ถ้าถูกไฟไหม้สักที คงเสียหายหลายล้าน” พีภัทรส่งเสียงพูดเพื่อดึงความสนใจ มือของเขาและทิวากรยังถูกจับไพล่หลังโดยชายฉกรรจ์ผู้มีกล้ามแขนคล้ายลิงกอริลล่า แต่นักฆ่าหนุ่มคิดว่าจัดการได้ไม่ยาก ส่วนมากคนที่ลำตัวช่วงบนใหญ่โต มักจะมีจุดอ่อนอยู่ที่ลำตัวช่วงล่างเสมอ

และตำแหน่งยืนที่ลอบหลุบตาสำรวจ ชายที่คุมตัวเขายืนถ่างขาเสียด้วย

เดโชแสยะยิ้ม เดินเข้ามาหยุดยืนหน้าพีภัทร  โน้มตัวเข้ามาตบไหล่และพูด “ได้ข่าวว่าแม่บุญธรรมลื้อไม่ต้องลำบากใช้เครื่องช่วยหายใจอีกต่อไปแล้วนี่ ดีใจด้วยนะ”

พีภัทรเหม่อมองใบหน้าเดโชอย่างว่างเปล่า คล้ายไม่รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคุยด้วย  

เดโชยั่วโมโหต่อด้วยการเลิกคิ้วสูง ตีสีหน้าประหลาดใจ “โอ๊ะ ตายจริง อั๊วลืมไปสนิทเลย คนตายแล้วจะใช้เครื่องช่วยหายใจไปทำไมวะ”

แล้วเดโชก็ส่งเสียงหัวเราะสะใจ

“อีกไม่นานฉันจะส่งแกลงนรก” พีภัทรพูดเสียงเรียบ

“นรกน่ะมีไว้สำหรับคนอย่างลื้อโว้ย ไอ้นักฆ่าสมองทึบ” เดโชส่ายหน้า เอื้อมมือมาปัดม่านผมที่ปิดแก้มของพีภัทร นัยน์ตาอำมหิตลุกวาวเหมือนมีกองไฟสว่างโชนเมื่อเห็นรอยแผลเป็นรูปกากบาทใต้แสงจันทร์ “อยากรู้มั้ยว่ารอยแผลนี้ ใครเป็นคนมอบให้ลื้อ?”

“ไม่ต้องบอกก็รู้แล้ว” พีภัทรผงกศีรษะตอบอย่างเย็นชา “และคนๆ นั้นกำลังจะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม”

ประโยคหลังที่พีภัทรพูดออกมาคือสัญญาณบางอย่าง ทิวากรแอบหลิ่วตาให้รัมภา เด็กสาวล้วงมือไปด้านหลัง ปืนทั้งสองกระบอกเหน็บอยู่หลังเอว มีชายฉกรรจ์สองคนจ้องมองเธออยู่ แต่จากการที่มีเสื้อคลุมคลุมทับอยู่ถึงสองตัว มันก็ทำให้เธอเคลื่อนไหวมือได้ง่ายขึ้น

แค่โยนปืนให้ลอยเข้ามาใกล้มากที่สุดก็พอ...นั่นคือคำที่พีภัทรกับ
ทิวากรกำชับเธอก่อนเดินทางมาที่นี่

อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พีภัทรยิ้มมุมปากให้เดโชแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะดีดส้นเท้ากลับหลัง ตวัดใส่หว่างขาผู้ที่คุมตัวเขาอยู่ดังพลั่ก

สองมือที่ถูกไพล่หลังของนักฆ่าหนุ่มได้รับอิสระ ร่างของผู้คุมงอก่องอขิง สองมือกุมเป้ากางเกงด้วยความเจ็บปวด เดโชไม่มีปฏิกิริยาขัดขืนเมื่อพีภัทรหมุนตัวโอบแขนล็อคคอเขาพร้อมกับที่ปืนสองกระสองลอยขึ้นกลางอากาศจากฝีมือรัมภา

กระบอกหนึ่งลอยมาเข้ามือพีภัทรที่เอื้อมคว้ากลางอากาศอย่างแม่นยำ ส่วนอีกกระบอกเข้ามือทิวากรที่ใช้วิธีการโขกหัวกลับหลังตามถนัดซัดผู้คุมหงายหลังไป

“นายครับ!”

เฟยร้องลั่นขณะซานและชายฉกรรจ์รอบบริเวณถลาเข้ามา  แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อพีภัทรยกปืนจ่อขมับเดโช สอดนิ้วแตะไกข่มขู่ ในขณะเดียวกันทิวากรก็รีบกราดปลายปืนไปรอบกายพลางดึงรัมภากับริสาให้เข้ามายืนรวมกลุ่ม

“โยนปืนทิ้งไปซะ” หนุ่มตี๋ตะโกนสั่งเหล่าพรรคพวกของเดโช ทุกคนปฏิบัติตามแต่โดยดี พีภัทรใช้เวลาเดียวกันนั้นคลำมือไปบนร่างกายของเดโชและดึงปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวยื่นให้ริสาถือเอาไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวที่ดูดีกว่าการใช้ดินสอเป็นไหนๆ

“แปะเอาพ่อแม่อั๊วไปไว้ที่ไหน” ทิวากรหมุนตัวมาจ่อปืนใส่หน้าเดโชในที่สุด

“กระท่อมคนงานหลังโรงเลื่อย” เดโชตอบพลางหัวเราะในลำคอ คล้ายไม่แปลกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก “พวกลื้อนี่มันร้ายจริงแฮะ”

“นำทางไป” พีภัทรกระซิบใส่หูเดโช พร้อมทั้งกดปลายปืนแนบขมับเป็นการกระตุ้นให้ออกเดิน

เดโชกราดตามองทุกคนด้วยความดุดัน ก่อนที่ความดุดันนั้นจะหายไปเมื่อสายตามาหยุดอยู่ที่รัมภา เธอยืนหลบหลังทิวากรด้วยความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด หัวใจของเดโชกระตุกวูบ เม้มริมฝีปากสูดหายใจลึกและก้าวเท้าออกเดินโดยมีนักฆ่าหนุ่มล็อคคอประกบติดอยู่เช่นนั้น

++++++++

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : วันสุนทรภู่ 55 09:42:49




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com