ห้องอาหารหรูหราที่ปรียาพาไปนั้นห่มคลุมไปด้วยแสงสลัวของโคมไฟดวงน้อยรับกับผนัง สีหวาน อาหารแบบไทย ๆ สองสามอย่างที่หญิงสาวสั่งมาช่างมีรสชาติกลมกล่อมเอร็ดอร่อยจนเขาไม่กล้าเหลือบดูราคาของมัน
ทานสิจ้ะกันต์ พี่สั่งมาให้ทานนะ ไม่ใช่นั่งดู เธอหยอกเมื่อเห็นอาการประหม่าของลูกจ้างหนุ่ม พลางใช้ช้อนกลางบรรจงตักยำไข่ปลาหมึกชิ้นโตให้เขา เอานี่อร่อยนะ พี่ตั้งใจสั่งให้เราเลย เพราะปกติพี่จะไม่ทานของพวกนี้ ไขมันมันสูงเกินไปสำหรับผู้หญิงที่จะขึ้นเลขสามแล้วอย่างพี่
กันต์ธีร์เงยหน้า มองใบหน้าสวยหวานที่ยังเหมือนสาววัยยี่สิบต้น ๆ เลยไปถึงรูปร่างเพรียวอันสมส่วนของเธอ ปรียาคงจะระมัดระวังเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษเพื่อให้มีรูปร่างเพรียวสวยอย่างที่เห็น
ปีนี้กันต์อายุเท่าไหร่แล้วจ้ะ เธอถามไปขณะใช้ช้อนกลางตักอาหารให้ตัวเอง
เพิ่งครบสิบเจ็ดครับ
หญิงสาวพยักหน้า แววตาครุ่นคิด
อืม พี่ก็ว่าประมาณนั้นแหละ แต่แปลกใจตอนที่เด็กผู้หญิงเมื่อกลางวันบอกว่าเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน ท่าทางเค้ายังดูเด็ก ๆ อยู่เลย เธอยิ้มเยื้อนอย่างล้อเลียน สงสัยเป็นแฟนเสียมากกว่ามั้ง
กันต์ธีร์เกือบสำลักแกงเขียวหวาน จึงรีบยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่ม
ไม่ใช่นะครับ นุ่นเป็นเพื่อนห้องเรียนเดียวกับผมจริง ๆ เขารีบปฏิเสธ ผมเข้าเรียนช้าน่ะครับพี่
เขาเบนสายตาจากเธอหลุบมองลวดลายสวยงามของผ้าปูโต๊ะ รู้สึกอ่อนใจเมื่อต้องอธิบาย
ตอนย้ายมาเรียนกรุงเทพฯ ผมเสียเวลาเรียนไปปีครับ
แววตาซ่อนเร้นของปรียาแปรเปลี่ยนเป็นความเห็นใจ ด้วยว่ายังไม่รู้ถึงภูมิหลังของลูกจ้างคนนี้ นอกจากเป็นลูกชายคนรู้จักของมารดา
โถ เหรอจ้ะ เธอรำพึง มองเขาด้วยประกายตาอ่อนโยน ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะ ไม่มีค่าเล่าเรียนหรือจะซื้อหนังสือก็มาเบิกค่าแรงล่วงหน้าได้
ขอบคุณครับพี่ปิ๋ม เขาวางช้อนยกมือขึ้นไหว้เธอ
ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่ต้องไหว้หรอก
หญิงสาวรับไหว้ด้วยการกุมมือที่กำลังพนมอยู่ ความนุ่มและอุ่นจากมือเธอให้ความรู้สึกหนาวเยือก เขารู้สึกหวั่นไหวอย่างประหลาดกับสัมผัสและกระแสแววตาของเธอ
กันต์ทำความเข้าใจหน่อยสิ ลอกเอา ๆ แบบนี้จะรู้เรื่องเหรอ
เสียงของนริศราคลุกเคล้าปะปนอยู่ในสายลมและเสียงนกร้อง ท้องฟ้ายามสายสดใส แดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านใบไม้ตกกระทบลงมา ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นรอบบริเวณบ้านหลังใหญ่
การทำงานพิเศษช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในห้างสรรพสินค้าแห่งเดียวกับสถานที่เรียนเสริมพิเศษของเธอ ช่วยเสริมเพิ่มความสนิทสนมจนนริศรากลายเป็นเพื่อนสนิทและติวเตอร์ประจำตัวเขา
เอาไว้ก่อนเถอะนุ่น เดี๋ยวไปทำงานตอนสิบเอ็ดโมงไม่ทัน เขาก้มหน้าก้มตาจดทุกตัวอักษรของเพื่อนสาวลงในสมุด
นริศราทอดมองเพื่อนอย่างเห็นใจ
ผลสอบเทอมที่แล้ว กันต์ทำคะแนนสอบได้ไม่ดีเลยนะ ขืนยังทำเฉย ๆ อยู่อย่างงี้ เทอมนี้มีหวังติดศูนย์แน่ เธอทอดเสียงอ่อนลง กันต์น่าจะเลิกทำงานแล้วตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้นะ ลองปรึกษาพ่อดูใหม่ดีไหม เรียน ม.ปลายไม่ใช่ง่าย ๆ แล้วนะ ต้องเก็บคะแนนสะสมไว้ตอนเอ็นทรานซ์ด้วย
กันต์ธีร์เงยหน้ามองคู่สนทนา สายลมเย็นโชยพัดไรผมบนหน้าผากเธอให้พลิ้วไหว เขาระบายลมหายใจยาวด้วยความอึดอัด
กันต์อยากทำงานหาเงินไว้ใช้จ่ายเอง จะได้ไม่ต้องขอพ่อทุกวัน
ทำไมกันต์พูดเหมือนพ่อของกันต์เป็นคนอื่นอย่างงั้นล่ะ คิ้วโค้งยาวของเด็กสาวขมวดมุ่น พ่อแม่ก็ต้องเลี้ยงดูส่งให้ลูกเรียนหนังสืออยู่แล้ว
เขากัดริมฝีปาก ยากนักที่จะถ่ายทอดอารมณ์นั้น ความรู้สึกของคนที่ต้องอาศัยอยู่กับบิดาที่เหมือนเป็นเพียงคนแปลกหน้า
...พ่อที่เฉยเมยเย็นชา และไม่เคยต้องการเขา
เด็กหนุ่มซึมซับความรู้สึกนั้นได้ อย่างไม่เข้าใจตนเอง
ยุพินยกถาดน้ำส้มและจานขนมตรงมา นริศราลุกขึ้นรับถาดจากมารดา ขณะเดียวกันกับที่เพื่อนหนุ่มของเธอยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่
แม่ไม่บอกให้ป้าศรียกมาล่ะคะ
ไม่เป็นไรจ้ะ แม่แค่อยากออกมาดูว่าลูกดูหนังสือกับเพื่อนไปถึงไหนแล้ว ผู้อาวุโสกว่าบอก พลางหย่อนตัวลงนั่ง กวาดตามองกองสมุดและหนังสือสองสามเล่มบนโต๊ะหิน
เด็กสาวสังเกตมองตามสายตาของมารดา
กันต์ต้องทำงานพิเศษช่วงวันหยุดค่ะแม่ เธอบอกอย่างรู้ความในใจของผู้ให้กำเนิด เลยทำการบ้านไม่ทัน เค้าทำงานอยู่ร้านสเต๊กในห้างฯ ที่นุ่นไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษไงคะแม่
ยุพินพินิจมองเพื่อนชายของบุตรสาว โค้งคิ้วของเขาเข้มคมรับกับนัยน์ตาอันเป็นประกายลึกซึ้งและซับซ้อน สัญชาตญาณความเป็นแม่เริ่มหวาดไหวขึ้นมา
" อืม. . . แปลกนะ" หล่อนรำพึง จับสังเกตมองเด็กหนุ่ม "ทำไมพ่อแม่ของกันต์ถึงยอมให้ทำงานพิเศษช่วงเปิดเทอมแบบนี้ ไม่กลัวว่าลูกจะสอบตกลงบ้างหรือ"
ถ้อยคำประชดประชันกังวานในความเปล่าเปลี่ยว เขาไม่เป็นที่ต้องการของบิดามาตั้งแต่เกิด การทำงานหารายได้ช่วยเหลือตัวเองช่วยให้คลายความรู้สึกของความเป็นส่วนเกินนั้น
ได้เวลาที่ผมต้องไปทำงานแล้วครับคุณน้า เขาบอกด้วยว่าต้องการหลีกหนีไปจากสถานการณ์ตรงหน้า จึงยกมือขึ้นไหว้ลาผู้ใหญ่ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ
เด็กหนุ่มเก็บหนังสือ และอุปกรณ์เครื่องเขียนแล้วลุกจากโต๊ะ แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้าวิตกของเพื่อนสาว เนื่องจากเขายังลอกงานเธอไปได้ไม่ถึงครึ่ง ได้ยินเสียงของเธอไล่หลัง
กันต์ ๆ ยังลอกไม่เสร็จเลย วันจันทร์ต้องส่งแล้วนะ
เขาหยุดฝีเท้าเหลียวหลังมองกลับไป วงหน้าขาวใสเพื่อนสาวชื้นไปด้วยเหงื่อ ในมือหอบสมุดจดทำรายงานและหนังสืออีกหลายเล่ม
กันต์เอาของนุ่นกลับไปก่อนก็ได้นะ พรุ่งนี้ค่อยเอามาคืนที่โรงเรียน เธอบอกพลางส่งกองสมุดในมือให้
เขามองลึกเข้าไปในนัยน์ตา ซาบซึ้งกับความปรารถนาดีของเธอ
ขอบใจมากนะนุ่น เขาพูดเบาราวกับกระซิบ ขอบใจ...
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
28 มิ.ย. 55 09:47:34
|
|
|
|