6
งานเลี้ยงจัดในสวน นภัสรินทร์ยืนมองเวทีที่เป็นพื้นยกระดับนิ่ง ๆ ครั้งหนึ่งเธอเคยยืนอยู่บนนี้ มีชายอีกคนนั่งคุกเข่าขอความรักและให้คำมั่นว่าจะอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย
ภาพนั้นเลือนลางไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกับประตูหัวใจที่ปิดตาย เธอเบือนหน้า เดินไปยังด้านหนึ่งของงาน ทิ้งตัวลงนั่งเงียบ ๆ ดูพ่อเลี้ยงแนะนำนีรนารถให้แขกที่มา น้องสาวต่างสายเลือดสวมเดรสลายกุหลาบ กำลังยิ้มและอธิบายอะไรบางอย่างให้เพื่อนของพ่อฟัง หญิงสาวดูสดใสน่ารัก เมื่อจบการสนทนา ชายผู้เป็นเพื่อนพ่อก็เดินมาทางเธอ
นภัสรินทร์ขยับลุก ยกมือไหว้ และทักทายตามประสาคนที่เคยร่วมงานกัน
ในขณะที่รังสรรค์กำลังแนะนำเพื่อนร่วมธุรกิจอีกคนให้นีรนารถรู้จัก
“คุณบัญญัติ บริษัทเขาให้เช่ารถใช้ในงานก่อสร้าง บริษัทเราเป็นลูกค้าประจำเขาเลย ที่จริงมีบริษัทคุณยงยุทธ คนนี้เราซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างจากเขา วันนี้ไม่ได้มา คงจะไม่ว่าง วันหลังพ่อจะพานารถ...”
รังสรรค์หันมาเมื่อไม่รู้สึกถึงการตอบรับจากลูกสาว นีรนารถจับจ้องไปยังคู่สนทนาที่อยู่ห่างออกไป นั่นคือนภัสรินทร์กับเพื่อนของตนเมื่อครู่ ดวงตาลุกวาว
“นารถ...”
“คะ” หญิงสาวสะดุ้ง
“ไปนั่งเถอะ” เขาแตะแขนเธอ เป็นเชิงสั่งและตัดบทอารมณ์ที่ขุ่นมัว แต่นีรนารถยังแทบไม่ละสายตา เมื่อเพื่อนพ่อคนนั้นผละไป ชายร่างเล็กสวมแว่นแต่งกายวัยรุ่นอีกคนก็เดินเข้ามาทัก ทั้งคู่หัวเราะมีความสุข นีรนารถขัดตา
งานเลี้ยงนี้เป็นการต้อนรับกลับบ้านของเธอ พ่อตั้งใจจัดให้เธอเป็นคนพิเศษ และมันต้องเป็นเช่นนั้นถ้าไม่มีนภัสรินทร์ร่วมอยู่ด้วย ทุกคนที่พ่อแนะนำไม่ว่าจะเป็นเพื่อนธุรกิจ ลูกเพื่อน หรือลูกน้อง ก็ยิ้มแย้มทักทายเธอด้วยดี แต่เพียงไม่นานคนเหล่านั้นก็ไปห้อมล้อมอยู่กับผู้หญิงคนนั้นราวกับกองทัพมดที่ได้กลิ่นของหวาน นีรนารถยิ่งฉุนจัดเมื่อบางครั้งสายตาไม่รักดีจะมองเห็นแสงราศีจับต้องลูกติดเมียน้อยคนนั้น
“นารถ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นดึงสติ เจ้าของชื่อหันไป ตาโตตื่นเต้น “พีช”
คนทักเป็นหญิงสาววัยเดียวกัน นีรนารถรีบลุกไปสวมกอด พีชเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เรียนมัธยม แม้นีรนารถไปเรียนต่างประเทศแต่ทั้งคู่ก็ยังติดต่อกันไม่ขาด
“ดีใจจังที่พีชมา”
“แน่นอนอยู่แล้ว เพื่อนรักกลับมาทั้งทีไม่มาได้ยังไง” พีชตอบร่าเริง “คุณอาสวัสดีค่ะ” พีชยกมือไหว้รังสรรค์อีกฝ่ายรับไหว้
“งั้นเดี๋ยวเราไปหาที่เม้าท์กันดีกว่า พีชกินอะไรหรือยัง ไป ๆ พ่อคะ นารถพาพีชไปหาของกินก่อนนะคะ” เธอบอกรวดเดียวเสร็จสรรพ รังสรรค์พยักหน้ายิ้ม รู้สึกดีที่เห็นลูกสาวสดชื่นขึ้นเพราะได้เจอเพื่อน ไม่เช่นนั้นคงนั่งหน้าตูมไปอีกนาน
พอนีรนารถไป นภัสรินทร์ก็เคลื่อนกายเข้ามา
“พ่อคะ นักร้องที่ว่ามาแล้วนะคะ เขารออยู่ที่รถ จะเชิญเลยไหม”
รังสรรค์มองเห็นนีรนารถหัวเราะคิกคักกับเพื่อน “อีกสักพักก็แล้วกัน รินพาเขาไปรอในห้องรับแขกก่อน เดี๋ยวพ่อโทรไปค่อยพาเขามาด้านหลังนะ”
“ได้ค่ะ” นภัสรินทร์รับคำแล้วเดินไป คนเป็นพ่อนิ่ง คนหนึ่งเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข แต่ยังไม่ได้ผลผลิตอันชื่นใจสักเท่าไร อีกคนเป็นแค่เด็กที่ได้รับความเมตตา หากผลประจักษ์แล้วว่าเธอสามารถบริหารทุกอย่างได้ดั่งใจ
“แล้วนี่นารถจะทำงานเมื่อไหร่ ทำกับพ่อไหม”
พีชถามพลางจิ้มไส้กรอกพันเบคอนเข้าปาก หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ตัดผมบ็อบสั้น สวมแว่นกรอบดำ ผิวขาวเสื้อสายคนจีน สวมกางเกงยีนส์บุคลิกกระฉับกระเฉง
“ยังไม่รู้เลย”
“งั้น วันอังคารก็น่าจะยังว่างอยู่ใช่ไหม”
นีรนารถยกคิ้วทำนองถามกลับ “จะชวนไปเดินเล่น พอดีว่ามันมีงานเปิดตัวหนังสือเล่มนึง คนเขียนเขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศ เป็นคนที่พีชชอบมากเลยจะชวนไปด้วยกัน ยังไงก็แล้วแต่นะ...ชวนเฉย ๆ”
อีกฝ่ายไม่ทันได้ตอบ เสียงประกาศออกไมค์ก็ดึงทั้งคู่หันไปบนเวที
“สวัสดีทุก ๆ ท่านนะครับ” รังสรรค์ยืนอยู่บนเวทียกพื้น สีหน้าสดใส พีชกระซิบกับนีรนาถว่า พ่อเพื่อนรักจะร้องเพลงหรือเปล่า คนเป็นลูกหัวเราะ
“ขอบคุณทุกท่านที่มาในงานครั้งนี้ พอดีลูกสาวคนเล็กของผมเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ก็อยากจะต้อนรับให้ดีใจ แล้วผมก็มีของขวัญเล็ก ๆ น้อยมอบให้” เขาเว้นวรรค ทอดสายตามาที่ลูกสาว “พ่อมอบของขวัญชิ้นนี้ให้นะนารถ เชิญครับ”
พูดจบก็ก้าวลงจากเวที จากนั้นก็มีชายสองคนขึ้นไปแทน นีรนารถกับพีชตาโต รวมทั้งแขกคนอื่นที่รู้จักพวกเขา
“นะ นารถ นั่น! นั่น! วงอะราวลี่ ว้าย ตายแล้ว พ่อนารถจัดมาให้เลยเหรอเนี่ย!!” พีชตื่นเต้น ทำเสียงกรี๊ดกร๊าดถูกอกถูกใจ ขณะที่เจ้าตัวยืนตะลึง คาดไม่ถึงว่านักร้องคนโปรดจะมายืนอยู่ในสวนของบ้าน
คนหนึ่งผมประบ่า อีกคนตัดผมสั้นถือกีตาร์ เขาขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทรงสูง ขยับไมค์และเป็นคนพูด
“สวัสดีครับ วันนี้ผมกับจูนได้รับเกียรติในโอกาสที่สาวน้อยน่ารักคนหนึ่งกลับบ้าน ไม่อยากให้คิดว่าเป็นวงอะราวลี่เพราะเห็นมีผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่าน ถือซะว่าผมเป็นลูกเป็นหลานมาร้องเพลงให้ฟังแล้วกันนะครับ”
จูนคือนักร้อง เขาถือไมค์ “ขอมอบเพลงนี้ให้น้องนารถนะครับ”
เขาทำสัญลักษณ์ เสียงปรบมือดังขึ้น ชายชื่อชัชซึ่งเป็นคนกล่าวทักทาย ตอนนี้พรมนิ้วบนกีตาร์ บรรเลงดนตรีออกมาให้เพื่อนร่วมวงได้ขับขานบทเพลงฟังสบาย
หัวใจนีรนารถแทบจะหยุดเต้น ตัวเธอลอยจนรู้สึกว่าเท้าไม่ติดพื้น เมื่อมีมือหนึ่งมาแตะที่บ่า พอหันไปน้ำตาก็คลอ
“พ่อ”
“ชอบไหม”
คนเป็นลูกสาวสวมกอดพ่อแนบแน่น แล้วดื่มดำกับบทเพลงจากศิลปินคนโปรดด้วยใบหน้าเกลื่อนความสุข หลังจากร้องเพลงจบ นักร้องสองคนก็ยกเวทีต่อให้บทเพลงเปิดคลอ ส่วนพวกเขาเดินมาหาเจ้าภาพที่เชิญมา ยิ่งเข้าใกล้หัวใจนีรนารถยิ่งกระทุ้งอก ดวงตาพร่าเลือนแล้วก็เอาแต่มองพื้น
กอล์ฟ ผู้จัดการของพวกเขาเป็นตัวกลางแนะนำอย่างเป็นทางการ แม้บรรยากาศจะเป็นกันเอง แต่นีรนารถเขินจนตัวเกร็ง ขณะที่พีชระงับอาการได้ดีกว่า อาจเป็นเพราะไม่ใช่ศิลปินคนโปรดของเธอ
“เห็นพี่กอล์ฟบอกว่าน้องนารถเพิ่งกลับจากต่างประเทศ ที่ไหนครับ”
ชัชถาม เขาดูเป็นคนช่างพูดมากกว่าจูนนักร้องนำ นีรนารถนิ่ง จนพีชต้องสะกิด
“เอ่อ...ฝรั่งเศสค่ะ”
“เรียนอะไรมาครับ ศิลปะเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ บริหารธุรกิจ” คนฟังพยักหน้าปนทึ่ง การสนทนาไม่ไหล่รื่นเพราะความตื่นเต้นของนีรนารถ ยิ่งเมื่อเพื่อนรักแซวหญิงสาวก็ตีแขนเพื่อนด้วยความอาย
“นารถ ถ่ายรูปกับพี่ ๆ สิ เดี๋ยวพีชถ่ายให้” พีชบอก นีรนารถทำหน้าเหลอหลา เพื่อนรักกระซิบ “ใจเย็น ๆ ก็แค่นักร้องไม่ใช่เทพเจ้า จะเกร็งอะไรนักหนา” ผลก็คือถูกค้อนวงใหญ่ แต่นั่นก็ทำให้นีรนารถปรับตัวขึ้นมาได้และถ่ายภาพร่วมกับศิลปินคนโปรดได้ด้วยความปลาบปลื้ม จนสามารถละลายช่องว่างที่เคยดูเหมือนว่าห่างไกล
“ขอบคุณนะคะ ที่อุตส่าห์มา นารถ...ชอบพวกพี่ ๆ มากเลยค่ะ”
“ต้องขอบคุณคุณพ่อนะ คุณพ่อน้องนารถติดต่อมา ขอทำให้ลูกสาว”
นีรนารถหันไปสบตาคนเป็นพ่อ ความซาบซึ้งเต็มเปี่ยม ทั้งหมดพูดคุยกันอีกสองสามคำกอล์ฟก็ตัดบทขอตัว แต่ยังไม่ได้เดินออกจากงาน เขาเดินนำชายหนุ่มสองคนไปหาหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่อีกด้าน
นีรนารถกำลังดูภาพในโทรศัพท์อย่างตื้นตัน หากพอเงยหน้า เห็นว่าศิลปินคนโปรดยืนอยู่กับใคร รอยยิ้มก็อันตรธานหายวับ
เหมือนภาพที่ฉายซ้ำ ทุกคนที่มาคุยกับเธอจะซักถามตามมารยาท แต่กลับกันยามอยู่ต่อหน้าผู้หญิงนอกคอกคนนั้นต่างก็สามารถหัวเราะและหยอกล้อราวกับรู้จักกันมานานนับปี เป็นกิริยาระหว่างชายหญิงอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่เพียงมารยาทที่คนอายุมากกว่าเอ็นดูเด็กเช่นเธอ
สักพักที่กอล์ฟกับศิลปินทั้งสองผละออกมา เธอได้ยินชัชขออนุญาตใช้ห้องน้ำ รังสรรค์เรียกคนใช้ให้พาไป
นีรนารถยืนอยู่หลังพุ่มไม้สูงซึ่งพรางตาไม่ให้มองเห็นแล้วพยายามเงี่ยหูฟังบทสนทนาของชายสองคน แรกทีเดียวก็แค่เดินตามมาหมายอยากทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี พอทั้งคู่ออกจากห้องน้ำ แทนที่จะเดินกลับเข้างาน แต่เดินเบี่ยงออกไปบริเวณสวนข้างบ้าน แล้วจุดบุหรี่
นีรนารถคิดว่าจะปล่อยพวกเขากับกิจกรรมนั้นดีกว่า แต่ประโยคแรกจากคำถามของชัชก็ตรึงฝีเท้าเธอไว้ด้วยชื่อที่รังเกียจ
“คุณรินทำงานอะไร”
“ฝ่ายการตลาดบริษัทของคุณรังสรรค์นั่นแหล่ะ” กอล์ฟอธิบายเพิ่มว่าทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
“มีแฟนหรือยัง”
กอล์ฟจ้องหน้าศิลปินที่ตนเองดูแล “สนใจเหรอ” ชัชบอกว่านิดหน่อย แต่อยากรู้ว่ามีเจ้าของหรือยัง “ก็เห็นมีควงหนุ่มบ้าง ออกเดทบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ยังไม่แต่งงาน”
“ผมขอเบอร์หน่อยสิ พี่มีใช่ไหม”
“อย่าให้ประเจิดประเจ้อนะ ระวังข่าวหน่อย วันก่อนเชเพิ่งโดนคุณพีเรียกเข้าห้องเย็น อย่าหาว่าไม่เตือน”
ชัชพ่นควันบุหรี่ “เชมันเหวี่ยงแฟนคลับ ผมแค่จีบสาว คนละเรื่องกันเลย เอาน่ะ ไม่ทำให้เสียงานหรอก เขาไม่ชอบผมก็จบเท่านั้นเอง”
“สงสัยจะจบไว”
“แล้วกัน”
“ไม่รู้สิ ผู้หญิงสวย ๆ เข้าถึงยาก เดาใจลำบาก ขนาดตอนที่คุยกัน รินยังไม่ให้บอกเลยว่าเป็นคนติดต่อ ให้ทำเหมือนว่าคุณรังสรรค์เป็นคนติดต่อ”
นีรนารถอึ้ง ไอเย็นจัดแล่นผ่านจนตัวชา
“คงอยากจะทำเซอร์ไพร้ส์มั้ง”
“ไม่รู้ว่ะ เสร็จแล้วก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน สยามยิ่งรถติดอยู่ด้วย”
แล้วชายสองคนก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน นีรนารถเบี่ยงตัวหลบ ล้มเลิกความคิดที่อยากจะพูดคุยกับศิลปินคนโปรดทันที ในใจมีแต่ความโกรธเคือง
นักร้องวันนี้ ของขวัญเซอร์ไพร้ส์วันนี้เป็นฝีมือของนภัสรินทร์ ไม่ใช่ของพ่อ จะไม่แปลกใจถ้างานเลี้ยงนี้เป็นความคิดของเธอด้วย ทำไมนะ นีรนารถขบริมฝีปาก ขอบตากรุ่นร้อน รู้สึกตัวเองเป็นเหมือนคนโง่ ถึงจะดีใจ แต่ไม่อยากรับความหวังดีจากนภัสรินทร์ ผู้หญิงคนนี้มีแผนเรียกคะแนนถึงได้โยนความดีความชอบให้พ่อ หวังจะให้พ่อภาคภูมิใจ ทำเป็นว่าจะเป็นคนปิดทองหลังพระ
ก็แค่การสร้างภาพ ไม่มีความจริงใจจากผู้หญิงที่เป็นลูกติดเมียน้อยคนนี้ มันก็แค่การทำเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์จากพ่อ นีรนารถกำมือ ปณิธานกับตนเอง เธอจะไม่มีวันแพ้ เธอเกลียดนภัสรินทร์!!!
....
จากคุณ |
:
อุธิยา (BabyRed)
|
เขียนเมื่อ |
:
28 มิ.ย. 55 18:09:11
|
|
|
|