Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เล่ห์ร้ายละลายรัก -บทที่ 21&22- ติดต่อทีมงาน

สวัสดียะคะ กลายเป็นว่าหลังๆมานี้นิยายเรื่องนี้จะอัพทุกศุกร์ไปแล้ว 5555 ขอบคุณทุกท่านที่ยังอยู่ด้วยกันยันใกล้จบนะคะ :)

บทที่ 15&16

บทที่ 17&18

บทที่ 19&20

บทที่ 21

                “พี่ฝัน!”

                “มีอะไร...”  ดุจฝันหันไปหาน้องสาวที่เรียกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

                “เดินระวังขาโต๊ะหน่อย จะชนอยู่แล้ว”

                ตึง...

                คำเตือนของดั่งฟ้าทำงานไม่ทันเสียแล้วเมื่อพี่สาวเผลอเตะขาโต๊ะเข้าให้อย่างแรงจนล้มลงไปกองอยู่บนพื้นห้อง คนเป็นน้องวิ่งจากโต๊ะทำงานตัวเองมาดูพี่สาวที่นอนลืมตาแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว

                “วันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเบลอๆลอยๆแปลกๆ”

                “แค่เหนื่อยๆน่ะ”

                ดุจฝันตอบพลางลูบขาป้อยๆ แต่ในใจนั้นยังคงนึกถึงเรื่องเมื่อวานนี้ พร้อมไม่เข้าใจตัวเองว่าทั้งๆที่นั่นก็ไม่ใช่จูบแรก แต่เธอกลับคิดถึงมันราวกับสาวน้อยแรกรุ่นผู้กำลังตื่นเต้นกับความรัก ในขณะที่กับปิลันธน์ตอนเขามอบจุมพิตครั้งแรกให้เมื่อสี่ปีที่แล้วตอนแสดงละคร เธอกลับไม่เคยหวั่นไหวกับเขาเลยแม้แต่น้อย

                “หรือเพราะเมื่อวาน พี่ไพรด์พาพี่ฝันไปโรงพยาบาลนี่ ใช่มะ”

                “ไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น”  ดุจฝันร้อนลนปฏิเสธออกมา จนคนเป็นน้องรู้ทันทีว่าเธอมาถูกประเด็นแล้ว

                “วันนี้เทปที่ไปเที่ยวกระบี่ของพี่ฝันออกอากาศนี่ อย่าลืมดูนะ”

                ดุจฝันถอนใจเฮือกใหญ่ วันนี้เป็นวันเสาร์แรกที่เธอได้หยุดอยู่กับบ้านเพราะไม่ได้ติดงานที่ไหน ซึ่งเธอก็ลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันที่รายการวัดดวงรักของสโรชาออกอากาศอีกครั้ง ดั่งฟ้าว่าแล้วก็เปิดโทรทัศน์ทันที รายการวัดดวงรักมาแล้วเป็นที่เรียบร้อยในขณะนี้กำลังฉายเกมในห้องส่งอยู่ ขณะที่บรรยากาศการเที่ยวซึ่งเป็นรางวัลนั้นจะอยู่ช่วงท้ายรายการ

                “ไม่ดูหรอก”

                “จะไปไหนน่ะ”

                “นอนกลางวัน”

                ดุจฝันว่าแล้วก็ยันตัวขึ้นเดินเข้าห้องนอนไปแล้วเผลอสบตาเข้ากับหุ่นโมเดลอุลตร้าแมน เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงงานมหกรรมยอดมนุษย์ในครั้งนั้นก่อนที่จะเดินไปกดปุ่มเปิดโทรทัศน์

                ภาพท้องฟ้าสีครามสดใสริมหาดทรายขาวสะอาดพร้อมกับน้ำทะเลสีเขียวใสระยิบระยับดังมรกตทำให้บรรยากาศจริงที่เธอไปพบเจอมาย้อนเข้ามาในหัว ภาคภูมิที่ยืนยิ้มพูดอยู่นั้นไม่มีใครรู้ถึงเบื้องหลังว่าแท้ที่จริงเขาเป็นคนอย่างไร หากแต่เธอไม่ได้มองเขาบนจอด้วยความเกลียดชังอีกต่อไปแล้ว

                “การมาเที่ยวครั้งนี้กับคุณดุจฝันเป็นโอกาสที่ดีมากๆสำหรับคนธรรมดาแบบผม แถมคุณฝันก็ยอมมาพบผมทุกครั้งตามนัดด้วย แต่ผมเองกลับทำตัวไม่ดีเท่าไรใส่ ถ้าอย่างไรก็อยากจะขอโทษคุณฝันสำหรับทุกสิ่งแย่ๆที่ผมทำลงไป... ”

                ฉากสุดท้ายของภาคภูมิที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นติดเข้าไปในใจหญิงสาว ดวงตาคู่เรียวสีสนิมหลังแว่นนั้นสบกับเธอผ่านจอโทรทัศน์ นานเท่าใดกันเธอปล่อยให้ภาคภูมิต้องจมอยู่กับคำขอโทษนั้นที่เธอไม่ได้คิดจะฟังมันแต่แรก บัดนี้ความรู้สึกโกรธมันละลายไปมากแล้วจากการพิสูจน์ตัวตนของเขา


เวลาล่วงเลยไปสามสัปดาห์เต็มโดยที่ดุจฝันและภาคภูมิไม่ได้เจอกัน มีเพียงข้อความของชายหนุ่มที่ส่งมาทุกวันเท่านั้นที่ให้ดูต่างหน้า ถึงแม้ว่าดุจฝันจะไม่ได้ตอบข้อความเลยแต่ก็ไม่ได้รำคาญอะไรมัน มิหนำซ้ำ กลายเป็นว่าทุกครั้งที่หยิบโทรศัพท์มาดู เธอก็จะเช็คข้อความก่อนเป็นอันดับแรกไปแล้ว

เช่นเดียวกันกับวันนี้ ที่เธอเพิ่งถ่ายละครเสร็จแล้วมานั่งทานข้าวคนเดียวก่อนกลับบ้าน

                ‘ผมอยากเจอคุณ’

                ‘ผมอยากเจอคุณมากๆ’

                ‘ผมเจอคุณได้ไหม’

                จะอยากเจออะไรกันนักหนา!

                ดุจฝันกัดฟันกรอดแม้ใจจะแอบพองโต ข้อความเดิมซ้ำๆจากคนที่อยากเจอส่งข้อความเดิมซ้ำๆมาอีกสิบกว่ารอบจนทนไม่ไหวอดไม่ได้ที่จะต้องตอบกลับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์เพื่อดับความรำคาญที่เสียงเตือนข้อความดังไม่หยุดสักที

                ‘ใครอยากเจอคุณ’

                ข้อความถัดไปกลับมาไวราวความเร็วแสง

                ‘ไม่มีใครอยากเจอผมหรอก แต่ผมอยากเจอคุณ’

                ‘ฉันไม่อยากเจอ ดังนั้น ไม่มีเหตุผลที่คุณจะต้องมา’  ดุจฝันพิมพ์ไปก็ทำหน้ามุ่ยตาม อดคิดไม่ได้ว่าคราวนี้เขาจะเล่นอะไรกับเธอ

                ’ผมมีเหตุผลที่ต้องเจอคุณ’

                ดุจฝันอ่านข้อความที่อยู่บนจอแล้วเตรียมตอบ หากทว่ากลับเห็นรองเท้าหนังสีดำของผู้ชายเงาวับก้าวเดินมาหยุดอยู่หน้าโต๊ะทานข้าว แล้วเสียงนุ่มก็ตามมา

                “เพราะว่าผมคิดถึงคุณ”

ดุจฝันอ้าปากหวอโดยไม่รู้ตัว บุรุษในเสื้อเชิ้ตผูกเน็กไทอย่างเนี้ยบผู้ใส่หน้ากากอุลตร้าแมนยืนตรงหน้า ที่เด่นไปไม่น้อยกว่าหน้ากากยอดมนุษย์นั้นก็คือดอกกุหลาบสีแดงช่อเล็กน่ารักขนาดพอเหมาะอย่างที่ชวนให้สงสัยว่าจะเอามาทำไม

                “อ้าว ไม่คิดจะทักทายหน่อยเหรอครับ”

                อุลตร้าแมนไม่รอช้าถือวิสาสะเลื่อนเก้าอี้ตัวตรงข้ามเธอนั่งทันที

“จะมาไม้ไหนอีกล่ะ”

คนนั่งอยู่ก่อนแล้วพยายามเอ่ยเสียงเรียบทั้งที่รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ภาคภูมิดึงหน้ากากออกแล้วดันแว่นให้กระชับกับโครงจมูก ใบหน้านั้นยังยิ้มอย่างอารมณ์ดีเช่นเคย

                “คุณคิดว่านี่เป็นแผนของผมอีกแล้วใช่ไหม”

                ถึงดุจฝันไม่ตอบ แต่ไอ้อาการหันมองซ้ายขวากลอกตาไปมาของเธอนี่มัน...

                “อยากให้ผมพิสูจน์อีกรอบไหมว่านี่เป็นแผนหรือไม่แผน”

                พอโดนชายหนุ่มแย็บเข้าไปเช่นนั้น ความร้อนผ่าวถึงกับวิ่งขึ้นหน้าหญิงสาวทันทีพลางละลักละล่ำพูด

                “หยุด และอย่าแม้แต่จะคิด”

                “คิดไปแล้ว หยุดไม่ได้หรอก”

จากคุณ : Chanuikarn
เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 22:31:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com