ฝัน อยู่ที่ไหนลูก!
ยังไม่ทันที่จะได้เรียกแท็กซี่ ผู้เป็นมารดาก็โทรเข้ามาหาเสียก่อนด้วยน้ำเสียงร้อนลน ดุจฝันเดินหาม้านั่งริมทางอย่างรู้ว่าท่าทางจะได้คุยกับแม่อีกยาวแน่ๆ
กำลังจะกลับค่ะ
คอนโด?
ค่ะแม่
ฝัน ไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหม อาน้ำเขาคงโทรบอกแล้วใช่ไหมว่าพ่อโดนรถชน
ดุจฝันแอบเบ้ปาก นี่แม่ของเธอทำไมถึงเอ่ยชื่อเมียน้อยได้อย่างง่ายดายนัก พลางตีเสียงเรียบตอบ
บอกแล้ว
แล้วทำไมไม่ไปหาพ่อ ปลายสายเค้นถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
...
ฝัน ไปหาพ่อเถอะ อย่างไรนั่นก็พ่อนะ
...
ได้ยินที่แม่พูดไหม
ได้ยินค่ะ ดุจฝันตอบรับ แม้ว่าใจนั้นจะเริ่มกังวลหนักขึ้นมา แต่ทิฐิมันยังคงสูงกว่านั้นมาก
ฝัน เชื่อแม่นะ ไปโรงพยาบาลซะ ไปดูอาการพ่อ พ่อเขาอยากเจอหนูกับฟ้านะ แต่ตอนนี้ฟ้ายังไปไม่ได้ ฟ้ารู้แล้วเมื่อกี๊กำลังนั่งรถกลับมากรุงเทพฯด่วน ดังนั้นฝันก็ควรจะไปหาพ่อก่อน
ดุจฝันนึกถึงคนเป็นน้องที่กำลังออกไปดูงานที่ต่างจังหวัด ป่านนี้คงกำลังร้องไห้หนักตลอดทางกลับมาที่นี่ ต่างจากเธอยิ่งนักที่ใกล้โรงพยาบาลหากแต่ไม่นึกอยากไป
วันนี้หนูเหนื่อยแล้วค่ะ
คำตอบนี้ทำให้ผู้เป็นมารดาเหลืออดขึ้นมาทันที
พูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร พ่อจะเป็นจะตายอยู่ทั้งคน นี่เราไม่คิดจะเป็นห่วงพ่อบ้างเลยเหรอ
ห่วงสิคะ ถ้าในฐานะพ่อที่ให้กำเนิดหนู หนูก็ห่วง แต่แม่อยากให้หนูไปเจอกับบ้านนู้นเหรอคะ แม่ลืมแล้วเหรอว่าพ่อเคยทำอะไรไว้กับแม่ ไม่ใช่พ่อเหรอที่ทำให้แม่ต้องทำงานอยู่ตัวคนเดียวแบบทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะพ่อเหรอที่ทิ้งพวกเราให้อยู่กันแค่สามแม่ลูก
หญิงสาวระบายความเก็บกดที่อยู่ในใจผ่านสายโทรศัพท์ไป หวังว่าแม่จะเข้าใจแล้วหยุดเกลี้ยกล่อมเธอเสียที
ฝัน ชักจะไปกันใหญ่แล้ว!
แล้วมันไม่จริงเหรอแม่
ก็เพราะว่ามันไม่จริงไง ฝันเคยไหมที่คิดจะฟังความจริงจากของแม่สักครั้ง แค่แม่เอ่ยปากถึงเรื่องพ่อ ฝันก็จะเดินหนีแม่ทุกคนั้ง พอน้องจะเล่าให้ฟัง ฝันก็ไม่ยอมฟัง ทั้งแม่ทั้งฟ้าก็เหนื่อยที่จะเล่าให้ฝันฟังเพราะฝันไม่ยอมฟังเลย ลูกเอาแต่อคติ มองทุกอย่างในแง่ร้ายแบบนี้ไงถึงเอาแต่โทษพ่อ
เป็นครั้งแรกที่แม่ชี้แจงข้อเสียของเธอออกมาตรงๆแบบนี้ ดุจฝันเริ่มมีน้ำตาเอ่อขึ้นที่ขอบตา
พลางนึกถึงความจริงที่แม่พยายามบอกเธอมาตลอด ทุกครั้งที่แม่ถึงเรื่องพ่อทีไร เธอจะพยายามเดินเลี่ยงไม่สนใจทุกครั้ง
เธอไม่สนว่าแม่อยากจะบอกอะไรกับเธอเพราะสิ่งที่เธอเชื่อมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือภาพที่พ่อเดินก้าวออกจากรั้วบ้านเมื่อยี่สิบปีก่อน...
อคติอะไรคะ พ่อทิ้งพวกเราไปก็เห็นๆกันอยู่ ไม่แม้แต่จะคิดกลับมาเยี่ยมเลย
ฝัน! หยุดได้แล้ว และฟังแม่ แม่ทนไม่ไหวแล้ว ฝันต้องฟังแม่ต่อจากนี้ ห้ามเถียงอะไรกลับมา
ดุจฝันน้ำตาไหลออกมาอย่างเก็บต่อไปไม่ไหว ก่อนที่มือจะเลื่อนไปเตรียมกดวางสาย ความจริงอะไรเธอไม่อยากรับรู้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบิดาผู้กำเนิด เธอยิ่งไม่นึกอยากฟัง
และอย่าคิดจะวางสายด้วย ถ้าวางสาย ไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีก!
แม่ประกาศกร้าว คนเป็นลูกหัวใจร่วงหล่นทันที ถ้าความจริงนี้มันร้ายแรงนัก ถึงขนาดที่แม่ของเธอตัดกันแบบนี้หากว่าเธอวางโทรศัพท์
ความจริงนั้นคืออะไร?
ดุจฝันเริ่มมีคำถามขึ้นมาในใจ แต่ถึงอย่างนั้น... เธอก็ทำใจให้รับฟังได้ยากจริงๆเพราะความสัมพันธ์ที่เหินห่างและแตกร้าวนี้
ฟังแม่อยู่ใช่ไหม
...
ใช่ไหม เมื่อเห็นว่าปลายสายเสียงเริ่มเข้มขึ้น ดุจฝันจำต้องยอมรับอย่างไม่มีทางเลือก
ค่ะ ใช่ค่ะ
ฟังแล้วอย่าช็อค อย่าตกใจอะไรทั้งนั้นนะ...
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้ว... ดุจฝันหลับตาลงปลอบใจตนเอง
ถ้าหากว่ามันเป็นความจริงที่สำคัญมากถึงขนาดนี้ที่แม่เธอต้องบังคับให้เธอฟังถึงขนาดนี้
แม่กับพ่อน่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากและคุยกันได้ทุกเรื่องแบบที่ไม่ได้คิดอะไรกันเกินเลย พอขึ้นมหาวิทยาลัย พ่อเขาก็มีแฟน...
แม่ไม่ใช่แฟนพ่อเหรอ
ไม่... ไม่ใช่แม่ แต่เป็นอาน้ำ
แล้วก่อนหน้านี้แม่กับพ่อ...?
เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ ฟังแม่ต่อนะ พ่อกับอาน้ำเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก พ่อเราเขาเป็นคนดี อาน้ำเขาก็เป็นคนที่ดีมาก
ดุจฝันฟังแล้วนึกแย้งในใจ นี่แม่ของเธอกำลังชมสามีที่ทิ้งตัวเองไปกับชู้รักคนนั้น ใจนึกอยากจะเถียงขึ้นมา แต่ด้วยความที่กลัวแม่จึงต้องทนฟังเงียบๆต่อไป
แล้วสมัยนั้น แม่ไม่ใช่เด็กดีเท่าไรหรอก หลังเลิกเรียนแม่ชอบเที่ยวดูนู่นนี่นั่นแล้วก็กลับบ้านช้า จนทะเลาะกับตายายเราเป็นประจำ จนกระทั่งครั้งหนึ่ง แม่กับตาทะเลาะกันหนักมาก แม่เลยหนีออกจากบ้านไปนั่งอยู่ข้างทางอย่างไม่มีที่พึ่ง ตอนนั้น พ่อเขาโทรหาที่บ้านเพราะจะถามการบ้านแม่ ก็เลยรู้ว่าแม่กับตาทะเลาะกันครั้งใหญ่ พ่อก็เลยมาตามหาแม่จนถึงตีหนึ่ง พ่อก็เจอแม่หลับอยู่ เลยพยายามหาทางช่วยแม่ พ่อเขาเกลี้ยกล่อมแม่ให้กลับบ้านแต่แม่ไม่ยอมกลับ สุดท้าย พ่อก็เลยบอกว่าบ้านของพ่อตอนนี้ปู่กับย่าของเราไม่อยู่ เลยให้แม่ไปอยู่สงบสติอารมณ์ก่อน
ดุจฝันฟังพร้อมกับใช้ความคิดตามไปด้วย... แม่ที่ดูซีเรียสจริงจังเอาจริงเอาจังกับงานของเธอคนนี้ที่แท้ก็เคยเกเรมาก่อนเหมือนกันหรือนี่...