Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ใจเอย... บทที่ ๑๕ ติดต่อทีมงาน

คุณ N_Foxtrot: ขอบคุณค่ะ ^^

บทที่ ๑-๗ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11983207/W11983207.html
บทที่ ๘ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11983317/W11983317.html
บทที่ ๙ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12022148/W12022148.html
บทที่ ๑๐ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12053256/W12053256.html
บทที่ ๑๑ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12093651/W12093651.html
บทที่ ๑๒ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12149869/W12149869.html
บทที่ ๑๓ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12211282/W12211282.html
บทที่ ๑๔ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12250978/W12250978.html

% ====================

บทที่ ๑๕

ฟุตบอลรอบสี่ทีมสุดท้าย สำหรับคนดูบางคน อาจจะรู้สึกว่าไม่สำคัญอะไรนัก แต่สำหรับตัวนักกีฬา และสมาชิกทุกคนในชมรมฟุตบอล ทุกรอบ ทุกนัด ไม่ว่าจะรอบแรก รอบสี่ทีม หรือรอบชิงชนะเลิศ ล้วนสำคัญสำหรับพวกเขา

ทีมของศาสตรา แม้จะผ่านมาถึงรอบนี้ได้ แต่ก็ไม่ใช่ง่าย ยิ่งโดยเฉพาะนัดหน้า พวกเขาต้องแข่งกับรองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้น กว่าพวกเขาจะเอาชนะได้ ก็ถึงช่วงต่อเวลาโกล์ดเดนโกล์ด

ปีที่แล้ว ศาสตรายังคงเล่นในตำแหน่งกองหน้า เขาเองเป็นคนยิงลูกนั้น ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ กลายเป็นผู้ที่ทำให้ทีมได้แชมป์

แต่ปีนี้ เขาไม่มีโอกาสแบบนั้นแล้ว...

ศาสตรานั่งอยู่บนอัฒจันทร์ของสนามฟุตบอลท่ามกลางความมืดของยามราตรี ที่แม้แสงจากสปอร์ตไลท์ก็ไม่สามารถขับไล่ไปได้หมด

...นฤตยาไม่ได้มาดูเขาเลย ตั้งแต่นัดแรกจนถึงตอนนี้ อยากให้เธอมา... ขอแค่เธอมา เขาก็จะมีกำลังใจขึ้นอีกอักโข

ศาสตราถือโทรศัพท์อยู่ในมือ กำลังกดค้นหาชื่อของใครคนหนึ่งอยู่ แล้วก็กดยกเลิกไป แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ประดับด้วยดาราวับวาม ราวเพชรน้อยใหญ่บนผืนผ้ากำมะหยี่สีดำ

...ถ้าโทรไปหาเธอ แล้วจะพูดอย่างไรดี จะพูดอย่างไรให้เธอมาดูเขาในวันพรุ่งนี้ ยิ่งถ้าเธอปฏิเสธล่ะ เขายังจะมีแรงสู้ได้หรือ

ในใจนึกเช่นนั้น แล้วก็ก้มลงกดโทรศัพท์อีกครั้ง หากแต่คราวนี้ชื่อที่เขาค้นหา กลับเป็นหญิงสาวอีกคน

"ว่าไงจ๊ะ ศาสตรา" ปลายสายทักทายเสียงใส

"ภา ช่วยฉันอีกครั้งเถอะนะ" ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไป น้ำเสียงทั้งอ้อนวอน ทั้งขอร้อง

ได้ยินเสียงถอนหายใจดังมาตามสาย "จะให้พูดยังไงดีล่ะ ในเมื่อเพื่อนเธอควงแฟนมาดูด้วยทุกครั้งแบบนั้น เพื่อนฉันก็ทำใจไม่ได้น่ะสิ"

ศาสตราฟังแล้วก็นิ่งไป ความจริงการที่รามภณคบกับรมัณยา เขาก็แอบดีใจนิดๆ คิดว่าบางที ถ้าเพื่อนของเขามีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว นฤตยาจะเลิกสนใจเพื่อนของเขา และหันมามองคนข้างๆ แทน... หากแต่สภาพการณ์ที่ผ่านมา กลับตรงกันข้าม

"ฉันเข้าใจ" เขาบอกออกมาในที่สุด

"แต่ว่านะ" เสียงภารดีบอกกลับมาอีก "ฉันเองก็อยากจะให้ยาเลิกเศร้าเลิกหวังในตัวเพื่อนของเธอเหมือนกัน อยากจะให้ยานึกถึงคนอื่นบ้าง"

"ฉัน...ฉันเข้าใจ" เขาพูดออกไปได้แค่นี้ สิ่งที่เขานึกออก มีเพียงเท่านี้

"เอาเป็นว่าฉันจะลองพูดให้อีกครั้งก็แล้วกัน" ภารดีบอก ก่อนจะตัดสัญญาณไป

ชายหนุ่มกำโทรศัพท์ไว้ในมือ แหงนหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง... เขาเองก็อยากจะให้นฤตยา นึกถึงเขาบ้างเหมือนกัน

% ###

หญิงสาวในชุดนอนลายตุ๊กตาหมีสีชมพูบนพื้นสีขาวกำลังนั่งท้าวคางแหงนมองท้องฟ้าผ่านทางช่องหน้าต่างของห้องนอน

ราตรีนี้ช่างมืดมิดเสียจริง มืดราวกับจะกลืนหัวใจน้อยๆ ดวงนี้ไปหากแต่ในความมืดก็ยังมองเห็นแสงดาวระยิบระยับ แม้หัวใจดวงน้อยนี้จะเจ็บปวด แต่ก็ยังมีสิ่งที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้าง

ภาพรามภณกับรมัณยาที่หน้าสนามฟุตบอลนั้นยังคงติดอยู่ในใจ หากแต่ในโสตประสาทก็มีอีกเสียงหนึ่งดังแว่วอยู่

'ถ้าทีมฉันชนะ...คบกับฉันนะ'

ศาสตรา...ทำไมถึงต้องเป็นเขา ทำไมไม่เป็นรามภณ

ตั้งแต่ได้พบ ได้รู้จักกับพวกเขามา ศาสตราเป็นคนขี้เล่น สนุกสนาน บางครั้งก็ดูทะเล้น ชอบหยอกสาวๆ ซึ่งรวมถึงเธอกับภารดีด้วย เขาทำให้พวกเธอหัวเราะได้บ่อยๆ แต่เขาก็ดูเหมือนเป็นคนไม่จริงใจ ยิ่งเมื่อเขาเป็นนักกีฬาฟุตบอล ก็ยิ่งมีสาวๆ สวยๆ มารุมล้อม คนแบบนี้น่ะหรือจะมาชอบเธอ

เขาตรงกันข้ามกับรามภณ ชายหนุ่มที่ดูนุ่มนวลและอ่อนโยน เขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ แต่คนที่ดูอ่อนโยนนี้เอง กลับทำให้เธอต้องเจ็บ

เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น แม้จะเป็นเพลงช้าๆ แต่ก็ทำให้เธอสะดุ้งตื่นจากห้วงความคิด

"มีอะไรเหรอภา" หญิงสาวกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ หลังจากกดต่อสัญญาณแล้ว

"จะโทรมาชวนไปเชียร์ศาสตราอีกรอบน่ะ ไปมั้ย" ภารดีตอบกลับมาตามตรง

"เอ่อ... ฉัน..."

"นี่ ถ้ายังคิดถึงเรื่องภณกับรมัณยาล่ะก็ เลิกคิดเถอะ ถึงเธอจะไม่ได้เห็นพวกเขาในวันนั้น แต่เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าพวกเขาคบกันอยู่ ตัดใจดีกว่า อย่าไปคิดมากเลย"

"แต่..."

"ฉันจะบอกให้ ที่ฉันโทรมาชวน ก็เพราะศาสตราขอหรอกนะ"

"ศาสตรา..." หญิงสาวครางออกมาเมื่อได้ยินชื่อนี้

"ใช่ เขาอยากให้เธอไป เขาอยากได้กำลังใจจากเธอนะ ทำไมเธอไม่ให้โอกาสเขาบ้างล่ะ"

ให้โอกาส...เธอควรทำเช่นนั้นหรือ

"ถามจริงๆ เถอะ" เสียงภารดียังคงส่งมาตามสาย "เธอไม่ชอบศาสตราบ้างสักนิดเลยเหรอ เขาออกจะเป็นห่วงเธอ ดูแลเธอทุกอย่าง เขารู้ว่าเธอชอบภณ ก็ยังช่วยส่งเสริม ทั้งที่ตัวเองต้องเจ็บ รู้มั้ยเพราะอะไร"

นฤตยาไม่ตอบ เพียงแต่ก้มหน้าฟังนิ่งๆ

"ก็เพราะเขาเห็นความรู้สึกของเธอสำคัญกว่าความรู้สึกของตัวเองยังไงล่ะ"

ฟังถึงตรงนี้ หยาดน้ำใสๆ ก็ค่อยๆ เอ่อท้นดวงตาของหญิงสาว

ภาพความทรงจำในช่วงเวลาที่ผ่านมา ค่อยๆ ผุดขึ้นในสมองตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งที่เขาเปิดโอกาสให้เธอได้ไปดูแลรามภณ ในตอนที่รามภณไม่สบาย หรือเมื่อครั้งที่ภารดีส่งข้อความเข้ามือถือรามภณ แต่คนที่รีบมาหาเธอโดยไม่สนใจการประกาศคัดเลือกกัปตันทีมก็คือเขา ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ก็มีแต่เขาเท่านั้นที่คอยดูแลเอาใจใส่เธอ

หยาดน้ำใสๆ ค่อยๆ ไหลรินอาบแก้มนวลทีละหยด

...ยอมรับเถอะว่าเธอเองก็ดีใจที่มีเขา ถึงแม้คนที่ยังครอบครองหัวใจของเธออยู่จะเป็นรามภณ แต่เศษเล็กๆ เสี้ยวหนึ่งในนั้น กลับมีชายหนุ่มหน้าเป็นคนนี้อยู่

"ฉันจะไป ภา" เธอบอกเสียงเครือ "ฉันจะไปดูเขา จะไปให้กำลังใจเขา"

ศาสตราให้เธอมามากแล้ว ถึงเวลาที่เธอควรจะตอบแทนเขาบ้าง

% ###

การตอบแทน บางครั้งก็นำพามาซึ่งสิ่งดีๆ หากแต่บางที ก็กลับกลายเป็นความทุกข์สาหัส

หลังจากดนตรีจบลง เหล่านักดนตรีทั้งสี่คนก็มานั่งจ่อมอยู่ที่หน้าบาร์เครื่องดื่ม รมัณยาสั่งเตกิลามาช็อตหนึ่ง เธอดื่มลงไปแล้วจึงสั่งมาอีก

"เฮ้ เดี๋ยวก็เมาหรอก" เสียงเตือนจากหนุ่มหน้าสวยที่นั่งเอาหลอดคนน้ำส้มคั้นเล่นอยู่ด้านข้าง พาให้เธอยิ้มเยาะกับตัวเอง แต่ยังคงดื่มลงไปอีกช็อตหนึ่ง

"ไม่เป็นไร วันนี้เราจะไปส่งเอง" วีรินทร์หันมาบอก แล้วจึงเหลือบมองเพื่อนนักดนตรีสาวคนสวยที่ใครๆ ต่างก็หมายปอง หากแต่คนทั้งสี่ล้วนรู้ดี หัวใจของหญิงสาวคนนี้ ไม่เผื่อเหลือให้ใครอีกแล้ว แม้แต่คนที่เธอกำลังคบอยู่ก็ตาม

"เป็นอย่างนี้จะดีเหรอ รมัณยา" วีรินทร์ถามขึ้นลอยๆ "นายไม่ได้ชอบเขา แล้วไปคบกับเขาแบบนี้"

รมัณยาหัวเราะในลำคอ ก่อนตอบ "ทำยังไงได้ล่ะ ก็เขาเป็นคนช่วยเรานี่ อีกอย่าง เราเป็นคนที่ทำให้เขาต้องเจ็บตัวด้วย"

"ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย" นภสินธุ์ท้วง "ถ้าเขารู้ว่านายมี..."

คำที่จะพูดต่อ กลับพูดออกมาไม่ได้เสียแล้ว เพราะมือของเพื่อนสาวยื่นมาตะปบปากเขาไว้เสียก่อน

"อย่าพูดถึงมันเลย ระหว่างเรากับเขา มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว"

"อะไรกัน แค่แม่นายกีดกัน นายก็จะยอมแพ้แล้วเหรอ" นภสินธุ์ร้องถามขึ้นมาอีก หลังจากดึงมือข้างนั้นออกจากปากของตัวเอง

"เรื่องของเรา มันไม่ง่ายเหมือนเรื่องของนายนี่" น้ำเสียงสั่นของรมัณยาเริ่มสั่นเล็กน้อย

"แต่ถึงยังไง นายก็ไม่ควรจะคบกับภณ" วีรินทร์ยังคงออกความเห็น "นายไม่ได้ชอบเขา ทำแบบนี้เป็นการทำร้ายเขาเปล่าๆ"

"แล้วนายจะให้เราทำยังไง จะให้เราปฏิเสธเขาไปเหรอ ตอนนั้นเขาเจ็บหนักอยู่นะ"

"ตอนนี้เขาก็ดีขึ้นตั้งเยอะแล้วนี่" วีรินทร์บอก พลางมองเพื่อนที่ยังนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร จากนั้นจึงถอนหายใจยาว "ยังไงวันหนึ่งเขาก็ต้องรู้ นายบอกเขาไปตอนนี้ ยังดีกว่าปล่อยให้มันผ่านไป แล้วให้เขาไปรู้เองที่หลังนะ"

รมัณยาก้มมองแก้วเตกิล่าในมือ แล้วจึงตอบออกมาเบาๆ "เราเข้าใจ... วีรินทร์ แต่เราทำไม่ได้ เราทำให้เขาเจ็บอีกไม่ได้"

% ###

"ฉันเจอแล้ว มายาวดี!" เสียงจิรัชย์โพล่งออกมา ในขณะที่คนทั้งสองกำลังง่วนอยู่กับการค้นหาบางสิ่งบางอย่างบนอินเตอร์เน็ต ภายในห้องชมรม

"ไหนๆ" มายาวดีละจากคอมพิวเตอร์แบบพกพาของตนเอง หันมามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ของชายหนุ่ม ซึ่งกำลังแสดงข้อมูลบุคคล จากรายชื่อศิษย์เก่าของโรงเรียนไฮสคูลแห่งหนึ่งในเมืองออสติน มลรัฐเท็กซัส

"แหม หน้าตาก็ดี น่าเสียดายนะเนี่ย" มายาวดีออกความเห็น

"เสียดายอะไรกัน คนนี้น่ะแหละ จะเป็นกุญแจสำคัญ ทำให้สองคนนั้นเลิกกัน"

"อะไรนะ นี่เธอจะทำให้พวกเขาเลิกกันให้ได้จริงๆ เหรอ"

"ถูกต้อง" จิรัชย์บอกอย่างภาคภูมิ

"ฉันว่าไม่จำเป็นหรอก" มายาวดีบอก ยกมือขึ้นกอดอก "ลองเป็นอย่างที่นภสินธุ์บอกแล้วล่ะก็ สองคนนั้นไม่มีทางคบกันได้นานอยู่แล้ว นายไม่เห็นจำเป็นต้องทำอะไรเลย"

"ไม่!" จิรัชย์ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ไม่ได้ให้เหตุผลใดๆ เพราะเหตุผลของสิ่งที่เขาทำนั้น มันไม่ใช่แค่เรื่องของหัวใจ... รามภณเคยทำให้มายาวดีบอกเลิกเขาไปแล้วครั้งหนึ่ง หากแต่ตนเองกลับไม่ได้สนใจใยดีเธอแม้สักนิด มาครั้งนี้รามภณยังแย่งรมัณยาไปอีก ความอึดอัดคับข้องที่สุมอยู่ หากไม่ได้ระบายออกมา คงมีแต่แผดเผาตัวเขาเองให้มอดไหม้เป็นธุลี

มายาวดีก้มหน้า ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "แต่ฉันว่า ฉันจะเลิกยุ่งกับพวกเขาแล้วล่ะ"

จิรัชย์หันขวับมาหญิงสาวทันที "ทำไม ไม่สนใจไอ้ภณมันแล้วหรือไง"

"ไม่ใช่หรอก" มายาวดีเงยหน้าขึ้นมองที่จอคอมพิวเตอร์ "มันเหนื่อยน่ะ... อีกอย่าง ถึงไม่มีรมัณยา เขาก็ไม่สนใจฉันอยู่ดี เขา...ไม่ได้มองฉันมาแต่แรกแล้ว" น้ำเสียงในตอนท้ายยิ่งแผ่วเบาราวกับคนอ่อนล้า แทบหมดเรี่ยวแรง

จิรัชย์เพ่งมองอดีตคนรักครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยกมือขยับแว่นของตนเล็กน้อย แล้วจึงหันกลับไปเพ่งจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองอีก

"ทำอะไรน่ะ" มายาวดีถาม หลังจากเห็นว่าจิรัชย์เงียบเสียงไป

"ส่งอีเมล... ฉันจะเล่าเรื่องของสองคนนั้นให้เขาฟัง ฉันจะบอกเขาว่ารมัณยามีคนใหม่"

"แล้วมันจะได้อะไรล่ะ ถ้ารมัณยาเลิกกับรามภณเพราะคนๆ นี้ เธอก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี"

"ได้แก้แค้น..." จิรัชย์บอกเสียงเย็น "เธอจะไม่ยุ่งก็เรื่องของเธอ แต่ฉันจะแก้แค้น ฉันต้องทำให้คนที่แย่งของของฉันไปถึงสองครั้งสองครา ได้รู้สึกเจ็บปวดบ้าง!"

% ###

ในการแข่งขันรอบสี่ทีมสุดท้าย รามภณกับรมัณยายังคงพากันมาดูพร้อมกับคนอื่นๆ อีกเช่นเคย แม้นัดก่อนหน้านี้วสวัสติ์จะหาเรื่องบ่ายเบี่ยงไปได้ แต่คราวนี้ การแข่งขันยิงธนูทุกประเภทจบลงหมดแล้ว เขาไม่มีข้ออ้างใดๆ อีก ดังนั้นจึงได้แต่ข่มเก็บความรู้สึกไว้

แม้ว่าทุกครั้งที่มองไปยังคนทั้งสอง จะทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอยู่ในอก แต่ก็ไม่อาจแสดงออกให้เพื่อนรู้... ในเมื่อเขายืนยันกับเพื่อนแล้วว่า จะตัดใจจากเธอ

"เอ๊ะ นั่นภากับยานี่" เสียงธาวินพูดขึ้น ชักนำให้คนอื่นๆ ซึ่งกำลังมองหาที่นั่งเหมาะๆ บนอัฒจันทร์หันมองตาม

"จริงด้วยแฮะ เข้าไปทักหน่อยดีกว่า" วสวัตติ์ฉวยโอกาสนี้ ผละออกจากลุ่ม จากคนที่ทำให้เขาต้องรู้สึกเจ็บปวด... อย่างน้อยก็สักชั่วระยะเวลาหนึ่ง

หากแต่การเข้ามาทักของเขานี้ กลับสร้างความกระอักกระอ่วนให้นฤตยาไม่ใช่น้อย เพราะไม่ใช่เพียงแต่เขาที่เดินเข้ามา คนสองคนที่เธอไม่อยากเห็นที่สุดในตอนนี้ก็มาด้วย

"ว่าไงยา ไม่เจอกันนานเลยนะ มาเชียร์ศาสตราเหรอ" รามภณทักขึ้น น้ำเสียงของเขายังคงนุ่มนวล ชวนให้เธอรู้สึกอบอุ่น หากแต่ความอบอุ่นในครานี้ เจือไว้ด้วยยาขม

นฤตยาพยักหน้าเป็นคำตอบ แล้วจึงก้มหน้า บีบมือภารดีแน่นราวกับจะขอกำลังใจทั้งหมดจากเพื่อน ภารดีจึงบีบมือเธอตอบเช่นกัน

หากไม่ใช่เพราะผู้คนที่อยู่ในสนาม กำลังจดจ่ออยู่กับเกมการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น พวกเขาคงเห็นว่า บรรยากาศระหว่างคนกลุ่มนี้ มีเมฆฝนหนาทึบลอยอยู่เหนือศีรษะ แตกต่างกับฟ้าใสรอบข้างโดยสิ้นเชิง

"จริงสิ ได้ที่นั่งกันรึยังล่ะ" ภารดีถามทำลายบรรยากาศมืดทะมืนนั้น

"ยัง กำลังหาอยู่เหมือนกัน" วสวัตติ์ตอบ

"เอาอย่างนี้สิ" ภวาภพเสนอ "นายกับไอ้วินก็ไปนั่งกับสาวๆ จะได้ช่วยดูแลพวกเธอด้วย ส่วนฉันจะไปกับไอ้ภณ"

วสวัตติ์พยักหน้าเห็นด้วย นี่คงป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในตอนนี้ หากให้เขาอยู่ใกล้กับสองคนนั้นตลอดระยะเวลาเกือบสองชั่วโมงของการแข่งขัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเก็บความรู้สึกของตัวเองได้นานแค่ไหน

% ###

ยิ่งใกล้เวลาแข่ง เสียงโห่ร้องของกองเชียร์ยิ่งดังกระหึ่มสนามฟุตบอลภายในศูนย์กีฬาของมหาวิทยาลัย ดังไปถึงห้องพักนักกีฬาที่อยู่ด้านล่าง ทว่าศาสตรากลับไม่ได้สนใจเสียงเชียร์เหล่านั้นแม้แต่น้อย ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์ในมือ ข้อความที่ถูกส่งมา ทำให้หัวใจเขาพองโต

'ฉันพายามาแล้ว อยู่ตรงกลางของอัฒจันทร์ฝั่งตะวันตก สู้เข้าล่ะ'

เสียงสัญญาณบอกให้นักกีฬาตั้งแถว เตรียมเข้าสู่สนาม ศาสตราเก็บโทรศัพท์เข้าล็อกเกอร์ แล้ววิ่งเหยาะๆ มาสมทบกับเพื่อนๆ จากนั้นจึงเดินนำแถวเข้าสู่สนาม

ทันทีที่เข้ามาในสนาม ศาสตราหันมองไปทางอัฒจันทร์ด้านขวา ซึ่งเป็นฝั่งตะวันตก มองไปยังที่นั่งแถวกลาง ทว่าผู้คนมากมาย ต่างโบกไม้โบกมือ ชูผืนผ้าขนหนูที่มีสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย และอุปกรณ์ประกอบการเชียร์อื่นๆ อีก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่เห็นทั้งนฤตยาและภารดี

แต่ในใจเขารู้ เธออยู่ที่นั่น กำลังมองดูเขาอยู่...

ทว่าเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ศาสตราก็เริ่มรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ ทีมคู่แข่งดูเหมือนเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาถูกประกบจนแทบขยับไม่ได้ ทั้งวสุในตำแหน่งปีกซ้าย และคนอื่นๆ ในแนวรุก ยิ่งสิโรตม์ด้วยแล้ว กองหลังของฝ่ายตรงข้ามสองคน บีบให้เขาไม่สามารถเลี้ยงบอลขึ้นหน้าได้เลย

คณินทรมองลูกทีมของตนแล้วรู้สึกอึดอัด เขารู้ว่าสภาพแบบนี้ ทุกคนต้องรู้สึกอึดอัดเป็นแน่ ยิ่งกับคนอารมณ์ร้อนอย่างสิโรตม์ด้วยแล้ว คงไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน

ความคิดของคณินทรไม่ผิดเลย ผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง สิโรตม์เริ่มออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเริ่มทำฟาล์วบ่อยขึ้น

ในที่สุด ใบเหลืองใบแรกของเกมก็ถูกควักออกจากกระเป๋าเสื้อของกรรมการ ชูขึ้นต่อหน้าสิโรตม์ หลังจากที่เขาจงใจเตะลูกบอลอัดใส่ข้อเท้าของกองหลังของฝ่ายตรงข้ามคนหนึ่ง ด้วยความเหลืออด

คณินทรเริ่มนั่งไม่ติดที่ เขากำลังคิดว่าจะจัดการอย่างไรกับทีม หากเป็นอย่างนี้ต่อไป สิโรตม์คงระงับอารมณ์ไม่อยู่ แล้วโดนใบเหลืองใบที่สองเป็นแน่ และถ้าเป็นอย่างนั้น สิโรตม์ก็จะลงแข่งในนัดต่อไปไม่ได้ แต่ถ้าเขาเปลี่ยนตัวสิโรตม์ขึ้นมา ความหวังที่จะชนะก็ลดน้อยลง

นี่ถ้าเป็นรอบชิงชนะเลิศ เขาคงไม่ต้องคิดมากแบบนี้

ในระหว่างที่คณินทรกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรกับสิโรตม์อยู่นั้น ทีมของเขาก็ต้องพบกับเหตุการณ์น่าหวาดเสียว เมื่อกองหน้าของทีมคู่แข่ง เลี้ยงบอลหลุดมาถึงหน้าประตูทางฝั่งซ้าย เขาง้างเท้าเตรียมจะยิง หากแต่ศาสตราก็เดาทางได้เช่นกัน ดังนั้นเขาจึงโผออกมาตะครุบลูกบอลที่ลอยลิ่วเข้ามาได้ทัน ทว่าจังหวะชุลมุนนั้นเอง ที่เท้าของผู้เล่นทีมฝ่ายตรงข้ามคนหนึ่งไถลมาปะทะกับขาขวาของศาสตราอย่างแรง ปุ่มสตัตที่กระแทกเข้ามายิ่งสร้างความเจ็บปวดให้เขาจนต้องกัดฟัน

แน่นอนว่าผู้เล่นคนนั้นโดนใบเหลืองไป แต่สำหรับศาสตรา นี่อาจจะไม่คุ้มค่าเท่าใดนัก เพราะตำแหน่งที่ถูกปะทะ เป็นตำแหน่งเดียวกับที่เขาเคยถูกพวกสิโรตม์รุมทำร้าย จนต้องเข้าเฝือกเมื่อคราวก่อน

ระหว่างที่เกมหยุดเพื่อให้แพทย์สนามลงไปดูอาการของศาสตรานั้น คณินทรก็เรียกสิโรตม์มาอบรมอยู่ครู่หนึ่ง เขาหวังให้สิโรตม์ควบคุมอารมณ์ให้ได้ ให้เขาอดทน ประคองให้จบครึ่งแรกไปก่อน

สำหรับศาสตรา แพทย์สนามมาดูอาการแล้ว ปฐมพยาบาลให้ด้วยการฉีดเสปรย์ระงับอาการปวด จากนั้นจึงให้เขาเล่นต่อ เนื่องจากเจ้าตัวยืนยันกับแพทย์เองว่ายังเล่นต่อไปได้

ดังนั้นสถานการณ์ในภายหลังจึงยังคงเป็นไปด้วยความอึดอัดและตึงเครียด ทางทีมของศาสตราก็ต้องเล่นด้วยความระมัดระวัง ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อหมดครึ่งแรก พวกเขาจึงยังคงเสมอกันที่ศูนย์ประตูต่อศูนย์

ระหว่างพักครึ่งเวลานี้ ศาสตรากลับมาเปิดล็อกเกอร์ หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดดู เห็นมีข้อความซึ่งถูกส่งมาจากภารดีในระหว่างการแข่งขันเมื่อครู่

'ยาเห็นเธอบาดเจ็บ ท่าทางเป็นห่วงมาก ยังไงก็สู้ต่อไปนะ'

เขาอ่านข้อความแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ อาการปวดเมื่อครู่ราวกับหายเป็นปลิดทิ้ง เขาเก็บโทรศัพท์เข้าล็อกเกอร์ตามเดิม ทว่าระหว่างที่กำลังจะปิดตู้ เสียงสัญญาณข้อความเข้าก็ดังขึ้น

ศาสตราหยิบโทรศัพท์ออกมากดดูอีกครั้ง คราวนี้เป็นข้อความจากนฤตยา หัวใจของเขาพองจนคับอก ทั้งยังเต้นโครมจนตัวเขายังรู้สึกได้ เขาค่อยๆ เลื่อนนิ้ว กดเปิดอ่านข้อความ

'ฉันจะทำตามที่เธอขอในร้านไอศครีม'

ศาสตรากระพริบตาถี่ๆ อ่านข้อความนั้นซ้ำอีกครั้ง ...คำขอของเขา ที่ร้านไอศครีม... ใช่แล้ว วันนั้นเขาขอให้เธอคบกับเขา ถ้าทีมของเขาชนะ

ชายหนุ่มนึกแล้วก็ก้มลงอ่านข้อความอีกครั้ง ข้อความยังเป็นข้อความเดิม เขากดเลื่อนหน้าจอลงมาดู ชื่อคนส่งเป็นนฤตยาไม่ผิดเพี้ยน...

หรือจะเป็นเหมือนเมื่อคราวก่อน ที่เธอส่งข้อความผิด คนที่เธอต้องการส่งให้เป็นรามภณ ไม่ใช่เขา... หากแต่โทรศัพท์นี่เป็นของเขา เธอจะส่งให้รามภณได้อย่างไร

ศาสตรายิ้ม... ยิ้มแล้วหัวเราะออกมา จนสิโรตม์ซึ่งกำลังยืนกระดกขวดน้ำขึ้นดื่มอยู่ข้างๆ ต้องทักขึ้น

"เป็นอะไร ตัวร้อนรึไง"

ศาสตราหันมองเพื่อนร่วมทีม เสียงหัวเราะและรอยยิ้มยังไม่เลือนหายไป เขากระโดดกอดสิโรตม์จนคนถูกกอดตัวเซ น้ำจากขวดในมือกระฉอกออกมาเล็กน้อย

"เฮ้ย! เป็นอะไรวะ ดีใจอะไรนักหนา"

ศาสตราไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนร่วมทีม บอกเพียงแต่ว่า "เราต้องชนะ เราต้องชนะให้ได้!"

% ====================

จากคุณ : ตรีพันธ์
เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 01:43:46




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com