15/2
ฝูงม้ากว่าสิบตัวซึ่งถูกปล่อยออกมาเดินเล่น บัดนี้ได้ถูกพากลับเข้าคอกไปหมดแล้ว คาชาลส่งม้าสองตัวให้แก่ชายชราพลางหันบอกหญิงสาวให้รอข้างนอก โดยที่เขาหายเข้าไปในโรงเลี้ยงม้าเช่นกัน ท่าทางลับๆ ล่อๆ นั้นยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้แก่คนรอ
คาชาลกลับออกมาพร้อมม้าสีน้ำตาลตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ลลิลดากวาดตามองมันอย่างคุ้นตา ข้อเท้าทั้งสี่แต้มสีขาวราวสวมถุงเท้า แล้วดวงตาคู่งามก็เบิกโตอย่างนึกได้ เธอผินมองชายหนุ่มก็เห็นเขายิ้มรออยู่ก่อนแล้ว
บาบารี... แกจริงๆ หรือนี่
เธอลูบแผงคอเจ้าม้า สวมกอดแนบแก้มกับหัวมัน ม้าสาวยืนนิ่งให้กอดโดยดี
ไม่อยากเชื่อเลย เมื่อก่อนแกยังตัวนิดเดียว เดินไม่แข็งด้วยซ้ำ แล้วดูตอนนี้ซี โตเป็นสาวสวยเชียว คาชาล เธอไปได้มันมาอย่างไรจ๊ะ หญิงสาวพูดพล่ามอย่างตื่นเต้นยินดี
ผมขอแลกมันมากับข้าวของนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ
น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ลลิลดานึกถึงข้าวของต่างๆ ภายในกระโจมชาวทิชกู สิ่งของแต่ละชิ้นซึ่งดูไม่เข้ากันถูกนำมาตกแต่งเป็นเครื่องเรือน ที่มาของข้าวของเหล่านั้นคงเป็นเช่นนี้ ต่างแต่ว่าคาชาลกลับเป็นผู้แลกเสียเอง
เออหนอ ชีวิตคนเราช่างพลิกผันเสียจริง แล้วอนาคตต่อแต่นี้จะเป็นอย่างไร เธอไม่กล้าจินตนาการไปไกล เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็เลือกแล้วว่าจะยืนอยู่ข้างเขานั่นเอง
เจ้าม้าสาวใช้หัวดันเจ้านายมันอย่างสนิทสนม เธอมองชายหนุ่มตบแผงคอมัน ก้มสำรวจเท้าทั้งสี่ตามความเคยชิน การกระทำเหล่านั้นซ้อนทับด้วยภาพชายชาวทิชกูผู้มีชีวิตเรียบง่าย ใช้ชีวิตร่วมกับฝูงสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ลลิลดาเพิ่งรู้แน่ชัดเดี๋ยวนี้เองว่าเธอคิดถึงคาชาลคนอ่อนโยนคนนี้มากเพียงไร แม้กระทั่งอาจตกหลุมรักเพราะความอ่อนโยนของเขานั่นเอง
ชายหนุ่มเงยสบตาซึ่งฉายแววความรักอย่างเปิดเผยของเจ้าหล่อนพอดี ใบหน้าคมสันเข้มขึ้นด้วยเก้อกระดาก เขายืดตัวเต็มความสูงเมื่อคิดได้ว่าเมื่อกี้ตนเผลอทำอะไร
มิสอยากขี่มันไหมครับ เขาถามแก้เก้อ
ฉันเห็นมันมาแต่เล็ก ทำใจขี่มันไม่ลงหรอก
โธ่ มันก็เป็นม้านี่ครับ มีไว้เป็นเพื่อน เป็นพาหนะของเราเหมือนม้าทุกตัว
บาบารี ฟังพ่อแกพูดซี ฉันเห็นแกมาแต่แรกคลอด ทำไมจะไม่ผูกพันเป็นพิเศษล่ะฮึ แล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องให้แกแบกน้ำหนักฉัน
มิสไม่เห็นใจผมแบบนี้บ้างเลยตอนล้มทับผม เขาโอด
ลลิลดามองค้อนอย่างหมั่นไส้หมั่นพุง แม้คาชาลคนปัจจุบันจะมีบางสิ่งสะกิดใจเธอ แต่ความช่างอ้อนของเขาก็ทลายปราการที่เธอสร้างไว้ป้องกันตัวได้เสมอ ในสายตาเธอ... เขาก็ไม่ต่างจากเด็กมีปัญหาคนหนึ่ง ถ้าเขาทำผิด เธอก็พร้อมให้อภัย แต่ถ้าเขาจงใจทำให้เธอรัก ความรักนั้นก็มากขึ้นทบทวีด้วยมีความเห็นใจเจือปนอยู่
สองหนุ่มสาวจูงม้าเดินเล่นไปบนเนื้อที่กว้างขวางของอาณาบริเวณบ้าน ท่ามกลางแสงอบอุ่นยามสาย คาชาลดูสดชื่น ผ่อนคลายมากกว่าปกติเมื่อเขาชวนเธอพูดคุยเรื่องต่างๆ อย่างคู่รักข้าวใหม่ปลามัน
...........................
ลลิลดาตัดสินใจพักผ่อนอยู่กับบ้านแทนการออกไปเที่ยวตามที่ชายหนุ่มเสนอเอาใจ คู่รักใช้เวลาช่วงบ่ายหมดไปกับการชมภาพยนตร์ต่างประเทศภายในห้องนั่งเล่น ภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องดังซึ่งเพิ่งวางขายในรูปแบบดีวีดี เขาก็หามาติดบ้านอย่างรวดเร็ว
หากเธอไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วคาชาลคอยเรียนรู้พฤติกรรมและการกระทำของคนต่างบ้านต่างเมืองจากสื่อเหล่านี้ เพื่อจะได้ปรับตัวเข้าหาสังคมใหม่ๆ รวมทั้งสังคมของเธอ
ร่างสูงเอนหลังสบายพิงพนักเก้าอี้ ปากก็เคี้ยวแซนด์วิชซึ่งอ้อนให้หญิงสาวทำให้ เห็นเขามีความสุขเธอก็พลอยภูมิใจว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ตนทำให้มีค่าต่อคนรับเพียงใด
สายตาคนในบ้านหลายคู่ลอบมองเจ้านายจูงแขกพิเศษเข้าไปในห้องทำงาน เย็นวานก็เป็นเช่นนี้และไม่มีใครออกจากห้องนั้นเลยตลอดทั้งคืน ความคิดพวกเขาล่องลอยไปไกล แต่ทุกคนทราบดีว่าจะแพร่งพรายเรื่องนี้ไม่ได้ เจ้านายซึ่งไม่เคยพาตัวมาสุงสิงสร้างความหวาดกลัวแก่ทุกคน
ทว่าบรรยากาศในห้องทำงานวันนี้ต่างจากเมื่อวาน คาชาลปล่อยให้คนรักใช้อินเตอร์เน็ตตามสบายขณะที่เขานั่งอ่านหนังสือมุมหนึ่ง พื้นที่ใช้สอยอันมีขอบเขตจำกัดทำให้เจ้าหล่อนหวนนึกถึงคืนวันที่อยู่ร่วมกระโจมเดียวกันกับเขา เมื่อเงยหน้าขึ้นจากจอก็พบสายตาเขาคอยมองสบมาเหมือนในอดีต แล้วความอบอุ่นก็แผ่ซ่านไปทั้งหัวใจ
ดวงตาโศกซึ้งคู่นั้นบ่งบอกว่าเขาเองก็โหยหาคืนวันเก่าๆ เช่นกัน แต่มีบางอย่างคอยปิดกั้นความคิดเขา มิให้เขาย้อนนึกถึงมันไปมากกว่านี้ ภาพข่าวการเสียชีวิตของอัมมาและติลมาฉายชัดแทนที่ จนคาชาลต้องปิดเปลือกตา แต่แล้วเสียงพี่ซึ่งต่อว่าถึงความอ่อนแอของเขาก็ดังก้องในหู เขาขบกรามแน่นพลางมองหาสิ่งที่จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดนี้ลง
ลลิลดาเบิกตาโพลงเมื่อร่างสูงก้าวมาคว้าขวดยาบนโต๊ะ เขากลืนยาลงคอก่อนเธอจะห้ามได้ทัน ความเปลี่ยนแปลงกะทันหันทำให้เธอได้แต่มองอย่างงุนงง
เธอไม่สบายหรือ คาชาล
เปล่าครับ ผมแค่ปวดหัว เขาตอบพร้อมกับฝืนยิ้ม
เธอแลเลยไปยังมือของเขาซึ่งยังคงยึดขวดยาไว้แน่น ไม่สบายใจเลยที่เห็นท่าทีเช่นนี้ของเขา เพราะมันต้องไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว
เธอไปหาหมอบ้างหรือเปล่า จะกินยาเองแบบนี้ไม่ได้นะ คาชาล
แค่นอนพักก็หายแล้วครับ ผมจะนอนพักสักหน่อย ถ้ามิสหิวก็ให้คนมาตามผมนะครับ เขาบอกผ่านๆ หากไม่ยอมสบตา
ลลิลดาไม่ทันทักท้วง ชายหนุ่มก็เปิดประตูอีกบานซึ่งเชื่อมสู่ห้องนอนเข้าไป ทิ้งคนมองตามให้ทุกข์ใจลำพัง เธออยากปรึกษาเรื่องนี้กับใครสักคน แต่ก็กลัวว่าคนฟังจะพลอยวิตกกังวลไปอีก เธอรู้จักคาชาลดีกว่าใคร คงคิดหาทางแก้ไขพฤติกรรมของเขาได้ไม่ยากเย็น โดยเฉพาะยามที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันคืบหน้าไปไกลเช่นนี้ คำพูดของเธอย่อมส่งผลต่อเขาบ้างกระมัง
.............................
หญิงสาวพับปิดคอมพิวเตอร์พกพาพลางมองนาฬิกาบนผนังหลังท้องเริ่มส่งสัญญาณโอดครวญ กว่าสองชั่วโมงแล้วที่ไร้ความเคลื่อนไหวจากภายในห้องติดกัน ร่างระหงตัดสินใจแง้มประตูเปิดดูก็พบคาชาลยังนอนเหยียดยาวบนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว
เธอนึกถึงตอนที่ตนตื่นมาพบเขายังไม่หลับเมื่อกลางดึก แล้วก็ทำใจร้ายใจดำปลุกคนที่กำลังหลับสบายไม่ลง ลลิลดาอดคิดไม่ได้ว่าเขาอดนอนเต็มอิ่มมานานแค่ไหนหนอ ดูเถอะ จนเธอมายืนประชิดเตียง อังหลังมือกับหน้าผากเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว ท้องซึ่งร้องครวญเมื่อครู่พลอยอิ่มตื้อ สำหรับบุรุษผู้นี้แล้ว เธอยอมลงให้เขาได้ทุกอย่าง เพียงหวังช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดในชีวิตอีกฝ่ายนั่นเอง
ขวดยาที่เขาถือติดมือมาวางอยู่บนหัวเตียง ลลิลดาเปิดดูข้างในก็พบว่าเหลือยาเม็ดสีขาวเพียงสองเม็ด จากเมื่อวานที่เธอเห็นยาแก้ปวดติดก้นขวดหกเม็ดเท่านั้น เธอมองคนป่วยด้วยใจไม่สบาย ก่อนตัดสินใจเก็บยาขวดนั้นไว้กับตัว
หญิงสาวกลับออกมาจากห้องทำงาน แต่แล้วก็สะดุดเข้ากับสายตาของนินาซึ่งผลุบหายไปไม่ทัน
เดี๋ยวจ้ะ เธอร้องเรียกไว้ นึกสนุกขึ้นมากะทันหัน
เจ้าหล่อนจำต้องเดินกลับมา นอบน้อมรอรับคำสั่งจากแขกพิเศษที่เธอเริ่มคุ้นชินขึ้นทุกวัน
นินาช่วยยกอาหารเย็นของฉันกับคาชาลมาให้ที่ห้องทำงานทีได้ไหม
ค่ะ แมม
ลลิลดาแย้มยิ้มพึงใจ เธอชอบห้องนอนและห้องทำงานของเขามากกว่ามุมไหนในบ้าน แม้แต่ห้องนอนของเธอที่คนออกแบบบรรจงตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสวยหวาน ทว่าหรูหรา ด้วยมีบางอย่างสะกิดใจให้นึกถึงพื้นที่เล็กๆ ภายในกระโจมชาวทิชกู กระทั่งตู้เสื้อผ้าของคาชาลยังมีลักษณะคล้ายหีบน้อยใหญ่วางซ้อนกัน
เสียงกุกกักปลุกคนหลับใหลให้ค่อยรู้สึกตัว เขายันกายมองผ่านประตูห้องนอนซึ่งเปิดอ้าไว้ กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูก พลันคาชาลก็นึกได้ว่าตนหลับไปนานเท่าไร เขากระเด้งลุกจากเตียง ก้าวไปยังห้องทำงานที่หญิงสาวจัดแต่งใหม่เสียแปลกตา เธอเลื่อนโต๊ะน้ำชาตัวกลมมาตั้งกลางห้อง บนโต๊ะปรากฏชามอาหารอันเป็นต้นเหตุของกลิ่นหอม ใกล้กันมีเก้าอี้ว่างสองตัวสำหรับเขาและเธอ
มิส ทำอะไรหรือครับ เขาถามอย่างงุนงง
ฉันนึกสนุกอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง โต๊ะอาหารบ้านเธอยาวเกินไป กินกันสองคนจะสนุกอะไรล่ะ จริงไหม
ชายหนุ่มหวนนึกถึงบรรยากาศอันคุ้นเคยคล้ายกันนี้ โต๊ะกินข้าวเล็กๆ กลางกระโจมล้อมวงด้วยเขา อัมมา ติลมา และนักท่องเที่ยวสาวอีกหนึ่งคน
ลมหายใจของเขาติดขัดเมื่อนึกถึงสตรีทั้งสองที่ตนเป็นต้นเหตุให้ต้องจบชีวิตลง แล้วภาพการตายอันน่าอเนจอนาถบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็ฉายชัดในความทรงจำ เขากลืนน้ำขมๆ ลงคอ ร่างทั้งร่างเย็นชืดไม่ต่างจากวันแรกที่เห็นภาพข่าวนั้นเลย
ต่างแต่ว่าช่วงเวลาที่เขากำลังเคว้งคว้างอยู่ขณะนี้ ฝ่ามืออบอุ่นด้วยเลือดเนื้อได้สอดประสานเข้ากับมืออันเย็นชืดของเขา แรงบีบนั้นทั้งปลุกปลอบและเรียกสติเขาให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน
เธอคงไม่ว่าใช่ไหมที่ฉันทำอะไรโดยพลการ เจ้าหล่อนช้อนตาถาม จงใจออดอ้อนเขาในที
คาชาลฝืนยิ้ม กดหญิงสาวให้นั่งลง ก่อนตนจะอ้อมไปนั่งยังเก้าอี้ว่างเช่นกัน
ผมว่าจะพามิสออกไปทานอาหารทะเล มีภัตตาคารอาหารทะเลอันดับหนึ่งในเมือง สั่งตรงวัตถุดิบจากเมืองนอกทั้งนั้นเลยครับ เขาเสเปลี่ยนเรื่อง ถึงคาซาเนียจะไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่อะไรที่ที่อื่นมี เราก็หามาได้
คงแพงน่าดู
ราคาก็สมน้ำสมเนื้อแหละครับ
มันไม่สำคัญหรอกว่าเรากินอะไร แต่สำคัญที่เรากินอยู่กับใครมากกว่า เธอว่าจริงไหม คาชาล
ชายหนุ่มผงกศีรษะแกนๆ เก้อไปเหมือนกันที่เจ้าหล่อนไม่ได้ให้ความสนใจดังที่เขาคิดหวัง ตรงกันข้ามเธอกลับตักข้าวต้มนมแพะกินอย่างเอร็ดอร่อย เขาดีใจหรอกที่ลลิลดาไม่รังเกียจอาหารพื้นเมือง แต่ก็อดสูญเสียความมั่นใจไม่ได้
เขาสู้อุตส่าห์เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ หากหญิงสาวกลับไม่เห็นความสำคัญของมัน เธอพอใจชีวิตเรียบง่าย แต่จะให้อยู่กินในกระโจมกับชาวทิชกูไปตลอดชีวิต เขาก็ไม่คิดว่าเธอจะเลือกใช้ชีวิตแบบนั้นเช่นกัน
คาชาลบอกตัวเองว่าตนเลือกทางเดินถูกแล้ว เขาจะไม่ลังเลอีก ไม่มีผู้หญิงจากประเทศศิวิไลซ์คนไหนทนมีชีวิตหลังเขาได้นาน แล้วดูตอนนี้ซี เขามีเธอเคียงข้างไม่ห่างกาย เพราะการตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตนี้นั่นเอง
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 55 10:46:16
|
|
|
|