บทที่ 4
สัจจะไม่มีในหมู่โจรฉันใด สัจจะก็ไม่มีในหมู่ผีฉันนั้น
ทันทีที่ผีบ.ก.ออกไป ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งเข้ามาคึ่กๆ พริบตาเดียวองครักษ์เสื้อทองสี่คนก็ยืนล้อมผมไว้ทุกทิศ ในขณะที่หันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไร ยายผีแหวนก็ส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา
สู้ให้สนุกนะองค์หญิง
พูดจบปุ้บไม้พลองสี่ท่อนก็ประสานกันเหนือหัวผมดังพลั่ก ไม่ใช่ว่าท่านองครักษ์เหล่านั้นใจดีพร้อมใจกันฟาดสูงกว่าเป้าหมายนะครับ แต่เป็นเพราะกระผมไอ้พันลี้กระโดดหมอบได้ทันท่วงทีต่างหาก
อ๊าย ไอ้บ้า ใครให้แกกระโดดเป็นกบอย่างนั้นหา นางเอกของฉันต้องเป็นกุลสตรีย่ะ
เสียงผีแหวนยังแว้ดๆตามมาไม่ขาดสาย แต่ใครจะสนละครับ ในเมื่อท่านองครักษ์ยังพร้อมใจกันใช้ไม้พลองไล่ฟาดผมอยู่เนี่ย เสียงไม้พลองกระทบพื้นดังเป็นจังหวะ ผมเองก็ใช้ทั้งท่าม้วนหน้าม้วนหลังต่อด้วยล้อเกวียนหลบไปหลบมาไม่คิดชีวิต ยายผีแหวนก็พยายามรักษาภาพพจน์ของนางเอกของเจ้าหล่อนอย่างเต็มที่ทั้งๆที่ผมไม่สนเลยสักนิด
หญิงงามในตำหนักเย็นหลบหลีกอาวุธอย่างคล่องแคล่ว นางชูมือขึ้นเหนือศีรษะตีลังกาหมุนวนไปทั่วห้อง หลอกล่อให้เหล่าองครักษ์ไล่ตาม ทว่า แม้แต่ชายเสื้อพวกเขาก็ไม่มีโอกาสจะสัมผัส
ผมอดหันไปอ่านคำบรรยายที่ลอยไปลอยมาตรงหน้าผมไม่ได้ ถึงตอนนี้ผมก็ต้องยอมรับฝีมือยายผีแหวนอยู่หน่อยนึงละครับว่า เธอสามารถบรรยายภาพการหนีหัวซุกหัวซุนของผมได้ดูดีอย่างไม่น่าเชื่อโดยไม่ต้องโกหก
โอ๊ย เลิกหนีเสียทีสิยะ ยายผีแหวนทำท่าขัดใจหลังจากผมเปลี่ยนจากกลิ้งหลบไปเป็นวิ่งหนีรอบห้อง โธ่ใครมันจะม้วนหน้าม้วนหลังตีลังกาหนีได้ตลอดเล่า เวียนหัวจะแย่อยู่แล้ว ยังไม่ทันจะบ่นให้สาแก่ใจ จู่ๆก็มีแรงดึงให้ผมเหินฟ้าพุ่งมาลอยตัวกลางอากาศราวกับมีลวดสลิงติดหลัง ไม่มีเวลาสงสัยนาน ตัวหนังสืออีกชุดก็ลอยมาให้เห็น
เมื่อเห็นว่าเหล่าองครักษ์ไม่รามือ องค์หญิงเสี่ยวหลานก็ทะยานขึ้นกลางอากาศท่ามกลางสีหน้าบี้งตึงของพวกเขา ในขณะนั้นเอง คุณชายเทียนหลงพระสหายขององค์รัชทายาทที่ถูกฝ่ามือปราบมังกรซัดจนหมดสติไปที่ข้างกำแพงก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
เมื่อเผยอเปลือกตาขึ้น เขาก็เห็นเทพธิดาเหินฟ้าล่องลอยอยู่กลางอากาศ ชุดสีแดงขับผิวขาวผ่องของนางให้ดูผุดผาดราวกับหยกเนื้อดี ใบหน้างามไม่ยิ้มไม่บึ้งหากก็ตรึงใจเขาอยู่ไม่คลาย
เย้ย ไอ้คุณชายเทียนหลงมันใครที่ไหนฟะ แล้วแกจะตรึงไปไหน ไม่เห็นรึว่าไม้พลองมันมาอีกแล้ว ร้องโวยวายเสร็จผมก็หมุนตัวกลางอากาศใช้ 18 ท่าคว้าจับของใครก็ไม่รู้ชิงพลองที่อยู่ใกล้ที่สุดมาไว้ในครอบครอง
อ้อ ผมไม่รู้ว่าท่าคว้าจับมันควรจะทำท่าอย่างไรหรอก แต่ผมกลัวว่าถ้าปล่อยให้ผีแหวนเขียนบทบรรยายต่อไป ผมจะมีหน้างาม ตางามกะเอวบางอย่างที่พวกนักเขียนในเวบเขาใช้เป็นแพทเทิร์นบรรยายนางเอกของเรื่องกัน เรื่องไหนเรื่องนั้นนางเอกหน้าตาเหมือนกันหมด ไม่เข้าใจจริงๆว่าไอ้คนที่อ่านอยู่แยกแยะหน้าตาของนางเอกแต่ละเรื่องออกจากกันได้อย่างไร ปัญหาต่อไปของผมก็คือไอ้บทศรรักปักอกของคุณชายเทียนหลงนี่แหละ อ่านแล้วจักกะจี้ไม่หยอก ผมก็เลยต้องแบ่งเวลามาเขียนตัดบทไปส่งๆก่อนที่ยายผีแหวนจะมีโอกาสบรรยายต่อ
ด้วยเคล็ดวิชาคว้าจับอันสูงส่ง องค์หญิงเสี่ยวหลานตบเข้าที่ข้อมือขององครักษ์เสื้อทองที่อยู่ตรงหน้า นางบิดข้อมืออย่างพิศดาร ชั่วพริบตาไม้พลองก็เปลี่ยนเจ้าของ
ยายผีแหวนตาวาวด้วยความไม่พอใจที่ผมไปตัดบทซึ้งของเจ้าหล่อน แต่เนื่องจากผมเป็นนักเขียนร่วมอยู่ เธอจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากก้มหน้าก้มตาเขียนต่อเพื่อตอบโต้
หลังจากเสียไม้พลอง เหล่าองครักษ์ก็รู้ว่าสตรีผู้นี้เห็นทีจะรับมือได้ไม่ง่ายดายนัก หัวหน้าองครักษ์ส่งสัญญาณให้เหล่าพี่น้องตั้งค่ายกลเก้าปราสาท แล้วกระโดดถอยไปทำหน้าที่กองหนุน แม้ค่ายกลจะสมบรูณ์ก็ต่อเมื่อมีคนประจำตำแหน่งครบเก้า ทว่า พี่น้องทั้งสี่ต่างมีพลังตัวเบาพียงพอที่จะแยกร่างหมุนวนเคลื่อนย้ายไปมาเพื่อทดแทนคนที่ขาดหาย ส่วนตัวเขานั้นเมื่อไม่มีอาวุธอยู่ในมือจึงเลือกที่จะประจำสามตำแหน่งในด้านหลังเพื่อคอยคุ้มกัน
ผมเห็นตัวหนังสือท่อนนี้ก็ซีดสิครับ ค่ายกลเก้าปราสาทมันเป็นอะไรก็ไม่รู้ แต่ท่าทางจะร้ายกาจไม่เบา เสียเวลาคิดไม่นาน ผมก็เริ่มเพลี้ยงพล้ำ
จากคุณ |
:
Deckard
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 55 23:09:50
|
|
|
|