Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
* o * o * o...อธิษฐาน...กาลเวลา...o * o * o * บทที่ 2 (แรกพบ) ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 (พระอาทิตย์ผู้แพ้พ่าย)http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12279983/W12279983.html

***********************************************

บทที่ 2 ...แรกพบ

อธิษฐานร่วม….กาลเวลาผันผ่าน
จากอดีตกาล…สู่ปัจจุบันท่วงทันหนอ
กลินท์หนุ่ม…เรืองรองส่องแสงรอ
อรอินทุ์ผู้ไม่ท้อ…เด่นละออนิจนิรันดร์

************************************************

“พี่กลินท์…สุดเลิฟของน้อง” ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกหญิงสาวร่างบางซอยเท้าถี่ๆโผเข้าหาชายหนุ่มร่างใหญ่ที่นอนลืมตาอยู่บนเตียง


“ง่วงนอนคร้าบผม  ยังไม่ตื่น ขอเวลาอีกสองชั่วโมงน๊า” เจ้าของห้องแกล้งงัวเงียทำตาปรือ  ยกมือขึ้นปิดปาก กระชับผ้านวมเหมือนกับว่าพร้อมที่จะนอนต่อ


“ม่ายเอ้า ตื่นๆๆๆเค้ามีเรื่องด่วนๆๆ” หญิงสาวรีบรั้งผ้านวมไว้แน่น พยายามยื้ออีกฝ่าย


“ม่ายๆๆ”


“ใจร้าย… ไม่สนใจเค้าใช่ม๊า  เค้าจะร้องแล้วนะ” มือที่ยื้อรีบปล่อยเร็วพลัน ย่อตัวลงนั่งที่ขอบเตียงหันหลังให้…แต่ไม่วายที่จะชายตามองคนที่อยู่ข้างหลัง  ทำเสียงฟุตฟิตเหมือนกับว่า เธอกำลังจะร้องไห้


“ว่ามา…แต่ถ้าจะชวนไปไหน พี่ขอบาย เพราะบ่ายนี้มีนัดคร้าบผม” คนที่แกล้งนอนลุกขึ้นนั่ง รีบคว้ามือของอีกฝ่ายมากุมไว้หลวมๆอย่างเอาใจ


“ใครบอกว่าจะชวนวันนี้เล่า…. วันศุกร์ต่างหากล่ะคะ” เธอรีบหันหน้ามายิ้มบางๆที่มุมปากอย่างผู้มีชัย


“ไหนบอกเรื่องด่วน ตั้งวันศุกร์แน่ะ”


“ก็เค้าได้เจอตัวพี่กลินท์ที่ไหนเล่า  พี่ชายขา…หาตัวยากชะมัด ยังกะดาราค่าตัวแพงลิบ นี่ถ้าไม่วันอาทิตย์เค้าจะเจอป่ะล่ะ…น้องสาวเหงานะ” เธออ้อน ยกมือที่ถูกกุมขึ้น เอาหลังมือของพี่ชายถูที่แก้มเธอเบาๆ


“เหงาอาราย…ไม่เห็นจะอยู่ติดบ้าน….ว่ามาจะชวนไปไหน” คนถูกอ้อนยกมืออีกข้างขึ้นบีบที่แก้มเธออย่างรักใคร่


“ไปงานวันเกิดยัยออนไงล่ะ ตั้งรังสิตแน่ะ ไปเป็นเพื่อนน้องหน่อยนะพี่กลินท์นะๆๆ ค่ำๆมืดๆน้องไม่อยากไปคนเดียว”


“ออน….คนไหนเอ่ย….พี่เคยเจอป่ะ”


“ไม่เคยๆ …เพื่อนที่คณะ ออนสวยมากๆน๊า น่ารักมากๆด้วย ผู้ชายมาจีบตรึม พี่กลินท์เห็นแล้วต้องทึ่ง” แววตาเธอเป็นประกายในขณะที่บอกเล่า


“ยัยยุ่งเอ๊ย…เห็นพี่เป็นผู้ชายแบบไหน งั้นไม่ไป…ไม่ชอบผู้หญิงสวย” มือที่กุมไว้ถูกปล่อยในทันที


“อีกแล้วน๊า…เค้าไม่ได้ชื่อยุ่งน๊า…ใกล้รุ่งอ่ะ ใกล้รุ่ง”


“ไม่ไป” เขาแกล้งทำเสียงแข็ง


“เถอะ…นะๆๆ พลีสสส…ไปเป็นเพื่อนน้องหน่อยนะ นั่งรอในรถก็ได้ หรือไม่ก็ไม่ต้องมองหน้าออน”


“งั้นไม่ไปจะง่ายกว่าไหม”


“ไชโย…ตกลง โอเคแล้วนะคะ” เธอดีใจกระโดดกอดคออีกฝ่ายอย่างลืมตัว


“อย่าเพิ่งดีใจไป  ดูตารางนัดก่อน เผื่อติดลูกค้า”


“เค้าจะไปบอกคุณนิดาให้แคนเซิลงานของพี่กลินท์ให้หมดเลย”


“เอาอีกแล้ว  จะทำให้พี่เสียงานอีกแล้วนะยัยยุ่ง ใจคอจะให้ป๊าด่าพี่ให้ตายเลยรึไง”


”สาวๆของพี่กลินท์ต่างหากที่ทำให้ป๊าด่า มา โทษน้องสาวอีกแระ  แบร่ๆๆ”


“ทำเป็นแสนรู้ เด็กแก่แดด”


“เค้าไม่ใช่หมานะ”


“แล้วต่างกันตรงไหน  ขี้อ้อนก็เท่านั้น แสนรู้ก็เท่านี้”


“พี่กะลิ้นท์” เธอร้องเสียงหลงอย่างขัดใจ รัวกำปั้นทุบที่ไหล่ของอีกฝ่ายไม่ยั้ง ชายหนุ่มผู้พี่รีบลุกจากเตียงในเร็วพลัน ทำสีหน้าและแววตาหลอกล่อ…ไม่ต่างจากเด็กวิ่งไล่จับ โกลาหลไปทั่วห้อง


***********************************************


…กลินท์  ชายหนุ่มวัย 27 ปี ผู้มีผิวขาวเหลือง เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าพ่อแห่งวงการอสังหาฯผู้มีนามว่า เกริกเกียรติ  รัตนมณีโชติ กุนซือใหญ่แห่ง เคแอนด์เค กรุ๊ป…กลินท์ มีความหมายว่า “ดวงอาทิตย์ “ซึ่งบิดาของเขาเป็นผู้ตั้ง และหมายมั่นปั้นมือให้เขาเป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ในรุ่นถัดไป…ซึ่งความตั้งใจของผู้เป็นพ่อคงไม่สูญเปล่า เพราะชื่อ “กลินท์ รัตนมณีโชติ” ติดอยู่ในลำดับต้นๆของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในขณะนี้…นอกจากบุตรชายแล้ว เกริกเกียรติยังมีบุตรี วัย 20 ปี นามว่า… ใกล้รุ่ง


กลินท์ผู้ขี้โรค และอารมณ์ร้าย เมื่อวัยเยาว์  เมื่อเติบใหญ่ เขาเป็นชายหนุ่มที่ขี้เล่น และสุขุม เยือกเย็น….ต่างจากน้องสาวที่ร่าเริงสดใสตั้งแต่เด็ก  จากอาหมวยเล็กผู้บอบบาง เมื่อย่างเข้าสู่วัยสาว เธอมีใบหน้าที่งดงามหมดจด นัยตามีแววขี้เล่นตลอดเวลา…ผิวขาวอมชมพูชวนให้น่ามองยิ่งนัก


บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ตั้งตระหง่านภายใต้อาณาบริเวณกว้าง ทำเอาชายหนุ่มตะลึงในความงดงามรโหฐาน….ท้องฟ้าที่เปิดโล่งดวงดาวระยิบระยับ  แสงจันทร์ที่สาดส่องเป็นสีนวลเพิ่มความงดงามให้กับสถานที่…สองข้างทางมีกระถางต้นไม้น้อยใหญ่วางเป็นแนวเดียวกัน …เขาลดความเร็วของเครื่องยนต์ลง  หลังจากที่ขับเคลื่อนเข้าประตูมา  ลดกระจกลงเพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศ…กลิ่นหอมของดอกปีบลอยมาแตะจมูกชวนให้น่าหลงใหล…


“ยัยรุ่ง…นี่มันบ้าน หรือว่าตำหนักของเจ้านายกันแน่หึ” ชายหนุ่มผู้พี่กระซิบถามเบาๆอย่างเหม่อลอย


“บ้านสวนของออนไง” น้องสาวหาได้สนใจ พยายามจัดเครื่องแต่งตัวให้เข้าที่


“อ้าว…แล้วไหนบอกอยู่หอ”


“ก็ตอนไปเรียนไงคะ วันหยุดออนจะกลับมาที่บ้านสวน”


“งั้นพี่รอในรถละกันนะ”ความรู้สึกบางอย่าง ทำเอาชายหนุ่มเริ่มลังเล เมื่อเขาดับเครื่องยนต์


“ไม่เอา…ไหนๆพี่กลินท์ก็มาแล้ว เข้าไปทักทายคนในงานก่อน คนไม่เยอะหรอกน่า ออนบอกว่ามีแค่เพื่อนๆและผู้ใหญ่ไม่กี่คน”


“ไม่เข้าไปดีกว่า พี่ปวดหัว จะรอในรถ” ชายหนุ่มมีท่าทางกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด


“เป็นอะไรมากรึป่าว เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย” หญิงสาวเอี้ยวตัวไปมองถามด้วยความเป็นห่วง


“พี่แค่ปวดหัว สงสัยอากาศร้อนอ่ะ”


“งั้นรอแป๊บนะคะ เค้าจะเอาของขวัญไปให้ออน แล้วจะรีบออกมา สงสัยพี่กลินท์จะไม่สบายแน่ๆเลย”เธอบอกอย่างร้อนรนไม่วายที่จะเอาหลังมือเล็กๆไปอังที่หน้าผากของพี่ชาย


“จ้ะ…เดี๋ยวพี่นอนรอ”


“งั้นเดี๋ยวเค้ามานะคะ” เธอรีบปิดประตู ก่อนจะเดินอย่างเร่งรีบขึ้นบันไดไป


โอ้ว่า…  คืนนี้พระจันทร์งามเด่น
แลเห็น….  กระต่ายในเงานั้นหนา
ไฉนเล่า… กลินท์ถึงร้อนรุ่มกลุ้มอุรา
ดั่งว่า… เหมือนเปลวไฟไหม้สุมทรวง


หญิงสาวในชุดเกาะอกสีทอง มีผ้าคลุมไหล่บางเบาสีครีม เดินจับมือเคียงคู่มากับแขกที่เพิ่งจะเข้าไปในงานเมื่อไม่นาน….ผมที่เกล้ามวยสูง  เผยให้เห็นใบหน้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ร่างบางระหง ช่วงไหล่ที่กลมกลืน เป็นภาพที่ชวนมองสำหรับคนทั่วๆไป…แต่สำหรับชายหนุ่ม มาบัดนี้ลำตัวของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ภาพของหญิงสาวที่กำลังเดินมาตรงหน้าทำเอาถึงกับร้อนรุ่ม…ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจ สีทอง…สีแห่งความเกลียดชังทำเอาถึงกับหลับตาไปชั่วขณะ  เพื่อขับไล่อะไรบางอย่าง…


“พี่กลินท์…พี่กลินท์คะ” เสียงเคาะกระจกเบาๆ พร้อมกับเสียงเรียก…ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตูก้าวขาออกไปยืนข้างๆรถ


“ออน….นี่ไงพี่ชายสุดหล่อของเค้า…พี่กลินท์นี่ไงออน”


“สวัสดีค่ะ”

เสียงเล็กๆกล่าวคำทักทาย พร้อมกับพนมมือไหว้…ชายหนุ่มผงกหัวเป็นการทักทายตอบ ก่อนจะเงยหน้า…พลันสายตาของเขาไปสะดุดอยู่ที่สร้อยคอพร้อมจี้ที่อยู่บนลำคอระหงของเธอ…จี้รูปเสี้ยวพระจันทร์ส่องแสงระยิบระยับ คล้ายกับว่ามันกำลังทักทายหยอกเย้า สะกดให้อีกฝ่ายยืนนิ่งดั่งต้องมนต์… เหมือนกับว่าเขาลืมหายใจไปชั่วขณะ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น….ก่อนที่จะเลยไปที่ดวงหน้า สบตากลมโต…  ตาจ้องตากันเนิ่นนาน ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะหลบตาลงต่ำคล้ายกับว่าเกรงกลัวอะไรบางอย่าง…


“ ทำไมพี่กลินท์มองออนแบบนั้นล่ะ เหมือนกับว่า…” ใกล้รุ่งเอ่ยปากถามหลังจากที่ทั้งคู่ต่างเงียบงันมาชั่วขณะ


“เปล่า” เขาตอบสั้นๆ


“ถึงบ้านแล้วทานยานะคะ  เค้าว่าพี่กลินท์ต้องไม่สบายหนักแน่ๆเลย”


“กี่โมงแล้วอ่ะ”


“เกือบๆห้าทุ่มค่ะ”


“พี่ไปส่งรุ่งที่บ้าน แล้วจะออกไปหาหลวงพ่อนะ”


“พี่กลินท์…เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วใช่ไหม ไม่สบายใจหรือว่าเป็นไข้หนัก  ป่านนี้หลวงพ่อท่านไม่หลับไปแล้วหรอ” สีหน้าของเธอเริ่มมีกังวล แต่ไม่วายที่จะแขวะอีกฝ่ายเบาๆ


“พี่แค่รู้สึกไม่ดีก็เท่านั้น”


“แปลก…ก่อนหน้านี้ยังดีๆอยู่เลย หรือว่าพี่กลินท์หลงรักออนเข้าแล้ว” เธอจ้องมองหน้าเขา ยิ้มกว้างอย่างขี้เล่นจนตาหยี  หากแต่ว่าอีกฝ่ายหาได้โต้ตอบใดๆ เขาทำหน้าที่ของสารถีอย่างดีเยี่ยม สายตามองตรงไปเบื้องหน้า…หญิงสาวไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่า ภายในใจของชายหนุ่มผู้พี่หนักอึ้งเพียงใด...


****************************************************


“เด็กไปบอกพ่อว่าเจ้าจะมา…ไม่งั้นคงหลับไปแล้วล่ะ” ภิกษุเฒ่าเอ่ยปากบอกก่อนจะย่อตัวลงนั่งที่อาสนะภายในห้องโถงใหญ่  ก่อนจะขยับแว่นตามองแขกผู้มาเยือนในยามวิกาลให้เต็มตา…จากเด็กน้อยผู้ขี้โรค และอารมณ์ร้าย มาบัดนี้เขากลับกลายเป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายกำยำ  ยิ้มสรวลและขี้เล่นอยู่เป็นนิจ


“กระผมร้อนรุ่ม  บอกไม่ถูก…ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง” เขานั่งพับเพียบก้มกราบสามครั้ง ก่อนจะบอกถึงจุดประสงค์


“สติหลุดลอย ควบคุมไม่ได้ รึว่าไปเจออะไรมา”


“เจอเธอ…ผู้ที่กระผมตามหามาโดยตลอด” เขาขยับตัวนั่งในท่าที่สบาย เปล่งเสียงออกมาอย่างหนักแน่น


“เจ้าแน่ใจได้อย่างไร…เธอ…คนที่เจ้าตามหาอาจจะไม่มีบนโลกใบนี้” ผู้เฒ่าเอ่ยช้าๆเนิบนาบแต่ชัดถ้อยชัดคำ


“กระผมแน่ใจ”


“แล้วเหตุใดถึงทำเอาเจ้าแน่ใจขนาดนั้น”


“อรอินทุ์ หมายถึงพระจันทร์งาม…ดวงตาคู่นั้นของเธอมันบ่งบอกถึงอะไรบางอย่าง”


“อาจจะเป็นความบังเอิญก็เป็นได้…ผู้หญิงสมัยนี้มีชื่อที่แปลว่า พระจันทร์ ดาดเดื่อน….”


“แต่เธอมีอะไรบางอย่างที่ทำให้กระผมมั่นใจ”


“สละสิ้นกิเลส…แล้วเจ้าจะได้ไม่เป็นทุกข์”


“เธอ…คือคนที่กระผมเฝ้าตามหามาตลอดชีวิต”


“อย่าคิดที่จะหาไฟมาสุมทรวงตัวเองอีกเลย ตราบใดที่เจ้ายังไม่คิดที่จะปล่อยวาง ทุกข์นั้นจะติดตัวเจ้าไปตลอดชีวิต…กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นจะสนองตน ไม่ว่าช้ารึเร็ว” ผู้เฒ่าเหมือนกับว่าจะหยั่งรู้ถึงความนึกคิดของอีกฝ่ายจึงรีบกล่าวเตือนสติ


“กระผมเฝ้ารอเธอมาถึง 27 ปี…”


“กลินท์… เจ้าฟังพ่อให้ดี ทุกข์สุขอยู่ที่ใจ เราเป็นผู้กำหนด…หาได้มีใครกำหนดไม่ ทุกชีวิตมีวิถีแนวทางเป็นของตัวเอง  ปล่อยให้เป็นหน้าที่ให้เขาเป็นคนกำหนดเส้นทางของเขาเอง…ผู้อื่นไม่ควรก้าวก่าย ไม่เช่นนั้นแล้วจะเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ…แล้วเขาผู้นั้นจะมีความสุขได้เช่นไร  เปรียบดั่งตัวเจ้า  หากแม้มีคนมากำหนดเส้นทางให้เดินเจ้าก็คงอึดอัด และไม่มีความสุขเช่นกัน”


“กระผม…”


“ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง  แผดเผา ได้ลาจากไปตั้งนมนานไม่หลงเหลือแม้กระทั่งความทรงจำเก่าๆ…มาถึงตอนนี้มีแต่แสงที่คอยสาดส่องให้ความอบอุ่นต่อมวลมนุษย์…แล้วเหตุอันใดเจ้าถึงต้องหวนกลับไปคิดคำนึงถึงมันอีก พ่อขอบิณทบาตรความแค้นเคือง พยาบาทไม่ได้เป็นผลดีต่อใครทั้งนั้น รังแต่จะจองเวรฟาดฟันกันไม่จบสิ้น….”


ครั้นแรกพบ…ประสบภักดิ์นงคราญ
ความทรงจำ…ครั้งวันวานหวนคืนหลัง
ความเจ็บปวด…รวดร้าวฤดีพัง
สิ่งที่หวัง…มาบัดนี้ที่รอคอย…


**************************************************

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 13:29:09

จากคุณ : ใยไหมกะใบม่อน
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 13:11:41




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com