เนเฟอร์ติติรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าทันทีที่รถม้าจอดยังหน้าวิหารเทพอาเตน นางรีบเข้าไปยังภายในวิหาร ซึ่งเมื่อผ่านประตูเข้ามาก็จะพบลานขนาดกว้าง เป็นวิหารหลังคาเปิดโล่ง แสงอาทิตย์จึงสาดส่องไปทั่วอาณาบริเวณ ผู้คนที่นับถือลัทธินี้มารวมตัวกันในตอนเช้า เพื่อแสดงความเคารพต่อเทพอาเตน แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาเป็นสัญลักษณ์ของลัทธิ เพราะแสงอาทิตย์เปรียบดั่งพระหัตถ์ของเทพอาเตนที่แผ่ลงมาปกป้องคุ้มครองผู้ที่บูชาพระองค์ เนเฟอร์ติติเข้ามายืนรวมตัวกับคนอื่นๆ บริเวณลานของวิหารเทพ สายตาสบเข้ากับสายตาของทุสโมสที่มองมา เสียงสวดที่ดังขึ้นทำให้นางแอบถอนหายใจ นั่นเพราะตอนนี้ทุสโมสกำลังสนใจกับการสวดขอพรจากองค์เทพมากกว่าสิ่งใด ปากก็สวดบทสรรเสริญเทพอาเตนไป แต่ใจนางไม่ได้จดจ่อกับการสวดนั้นไม่แต่น้อย สมองกำลังครุ่นคิดอยู่เพียงภาพที่ได้ประจักษ์กับสายตาตัวเอง มูรูทอาเตน อาเตนเฮปเซติ ...นางสวดสรรเสริญเทพเจ้าซึ่งเป็นที่เคารพของตัวเอง
เนเฟอร์ติติและทุสโมสนับถือเทพอาเตนเป็นอย่างมาก เพราะทั้งสองต่างก็เคยประจักษ์กับตนเองมาแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนเยาว์วัย พวกเขาทั้งสองแอบล่องเรือไปตามลำน้ำไนล์ สายน้ำได้พัดพาเรือซึ่งเนเฟอร์ติติและทุสโมสนั่งไปไกล พวกเขาพยายามนำเรือเทียบฝั่ง แต่มันห่างไกลจากฝั่งเหลือเกิน ยิ่งเวลาผ่านไปเรือก็ยิ่งลอยลำไกลห่างออกไปจากเมืองหลวงมากเท่านั้น จะทำอย่างไรดีทุสโมสถามความเห็นของผู้ร่วมชะตากรรม กระโดดลงน้ำ แล้วค่อยเดินหรือหารถม้ากลับวังเนเฟอร์ติติตัดสินใจด้วยความเด็ดเดี่ยว อืมทุสโมสพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองจึงกระโดดลงในแม่น้ำไนล์ ความเชี่ยวกราด และความไกลห่างจากชายฝั่งทำให้เนเฟอร์ติติว่ายน้ำมาได้ครึ่งทางแล้วจมลงสู่ใต้ผืนน้ำ เนฟทุสโมสตะโกนร้องเรียก เมื่อเห็นอีกฝ่ายจมลงต่อหน้าต่อตา เขาดำน้ำลงไปควานหาแต่ไม่พบเจอ แม้จะดำผุดดำว่ายอยู่เป็นนานสองนานก็ไม่เจอ ทุสโมสเหนื่อยอ่อน จนหมดแรงและจมลงสู่แม่น้ำไนล์อีกคน ณ ดินดินที่พวกเขาไม่รู้จัก เบื้องหลังแสงเรืองรองสว่างไสว ตรงปลายอุโมงค์คือความสว่างของแสงเจิดจ้า พวกเขาเดินทางเข้ามายังดินแดนแห่งความตาย จิตวิญญาณหลุดลอยไปยังดินแดนที่เหล่าทวยเทพหวงแหน มนุษย์ไม่อาจย่างกรายเข้าไป แต่ดูเหมือนพวกเขาจะได้รับสิทธิพิเศษนั้น กลับมากับข้า เด็กน้อยชายคนนั้นเพียงแค่มอง ปากของเขาไม่ได้ขยับเขยื้อนด้วยซ้ำ แต่เนเฟอร์ติติและทุสโมสกลับสามารถสื่อถึงความต้องการของเขาได้ ทั้งสองเดินตามชายคนนั้นไป และสิ่งที่ที่เห็นคือร่างกายของพวกเขาที่นอนแน่นิ่ง ไม่ไหวติง
พวกเจ้ายังตายไม่ได้ใครคนนั้นบอก ทำไมเนเฟอร์ติติถาม ผู้ถูกถามหันมามองนางนิ่งก่อนจะบอกเหตุผลให้นางรับฟัง เพราะเจ้าเกิดมาเพื่อจะเป็นราชินีแห่งอียิปต์ เจ้าจึงยังตายไม่ได้คำตอบนั้นทำให้เนเฟอร์ติตินิ่งงันไป ไม่คาดคิดว่านางจะถูกสร้างมาเพื่อเป็นราชินี ท่านเป็นใครทุสโมสถามด้วยความสงสัย ชายคนดังกล่าวหันมาทางเขา แล้วตอบชื่อด้วยจิตที่ปรารถนาให้รับรู้ อาเตนนั่นคือนามที่เขาบอกกับเด็กน้อยทั้งสอง ทันใดนั้นเนเฟอร์ติติและทุสโมสได้ถูกส่งกลับมา พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลับเข้ามาในพระราชวังได้อย่างไร ร่างของทั้งสองนอนสลบอยู่บนลานสนามหลังพระราชวัง
เหล่านางกำลังและทหารตามหากันทั้งวันแต่ไม่พบเจอ พระราชินีติเยร่ำไห้จนแทบสิ้นประดาใจ ทหารจากในพระราชวังออกตามหาไปทั่วเมืองแต่ก็ไร้วี่แวว พวกเขาถูกพบเจอในตอนค่ำของวัน ที่น่าแปลกใจคือ บริเวณนั้นมีการมาสำรวจของเหล่านางกำนัลก่อนแล้ว ซึ่งไม่พบเจอทุสโมสและเนเฟอร์ติติแต่อย่างใด หลังจากทั้งสองฟื้นคืนสติก็ได้เล่าเรื่องราวแปลกประหลาดที่พบเจอให้ฟาโรห์และองค์ราชินีฟัง นับแต่นั้นมาเนเฟอร์ติติและทุสโมสก็ได้หันมานับถือเทพอาเตนแทนที่เทพอามุน
*.......................................................................................................*
จากคุณ |
:
ฟินนิกซ์
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.ค. 55 17:02:56
|
|
|
|