Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 6 : เงา) ติดต่อทีมงาน

ตอนก่อนหน้า (บทที่ 5) : นัตสึกิ



อุโภ  ปุญฺญญฺจ  ปาปญฺจ................ยํ  มจฺโจ  กุรุเต  อิธ
ตํ  หิ  ตสฺส  สกํ  โหติ..................ตญฺจ  อาทาย  คจฺฉติ
ตญฺจสฺส   อนุคํ  โหติ.....................ฉายาว  อนุปายินี ฯ


ผู้ที่มาเกิดแล้วจําจะต้องตายในโลกนี้...ย่อมทํากรรมอันใดไว้คือ
เป็นบุญและเป็นบาป...ทั้งสองประการ
บุญและบาปนั้นแลเป็นสมบัติของเขา
และเขาจะเอาบุญและบาปนั้น...ย่อมเป็นของติดตามเขาไป
ประดุจเงาติดตามตนไปฉะนั้น ฯ


...

...

...


ใต้บรรยากาศมืดสลัวมีแสงไฟวับแวม แซมด้วยดนตรีจังหวะเร่งเร้าและผ่อนคลายเป็นระยะ ภาคิมนั่งหัวเราะครื้นเครงอยู่ในผับท่ามกลางวงล้อมเพื่อนฝูงมากมาย บางเรื่องเขาไม่ได้อยากหัวเราะ แต่เสียงหัวเราะและแววไหวระริกในดวงตาของคนรอบข้าง ก็ต่างนำพาให้เขาหัวเราะได้ทั้งที่ไม่เป็นเรื่อง พอเสียงเพลงจังหวะคึกคักดังกระหึ่มขึ้น มือนุ่มในความมืดก็กึ่งลากกึ่งดึงให้ชายหนุ่มแหวกผู้คนไปยืนเบียดอยู่กลางฟลอร์ เสียงเครื่องดนตรีอัดจังหวะดังมาจากทั่วทิศทางและผู้คนกำลังโยกย้ายส่ายตัวไปตามจังหวะนั้น หญิงสาวตรงหน้าหัวเราะอย่างยั่วเย้าพร้อมเจ้าตัวยังโอบมือซุกไซ้ไปรอบลำคอ สัมผัสวาบหวามนั้นโน้มน้าวให้เขาขยับกายส่ายเต้นตามไปในที่สุด แต่ในความรื่นรมย์ที่ไม่สมประกอบนั้น เสียงเพลง เสียงหัวเราะ เสียงเบียดเสียดสีกันของเครื่องประดับและเสื้อผ้าในพื้นที่แคบ กลับนำพาให้ชายหนุ่มนึกไปถึงเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของนักนินในอ้อมกอด แววตาเหลือกค้างอย่างลนลาน และกลิ่นของเสียอันน่าคลื่นเหียนที่หญิงสาวอาเจียนออกมา พาลทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอมและคลื่นไส้ ภาคิมปัดป่ายมือที่เคลื่อนไหวอยู่รอบลำคอออกแล้วเดินเบียดผู้คนกลับมานั่งที่ล็อบบี้


“รับอะไรดีครับ”


บาร์เทนเดอร์เคลื่อนตัวมาประกบอย่างรู้งาน ภาคิมสะบัดหน้าอย่างจะไล่ตะกอนความคิดที่ตามมาหลอกหลอน เขาตอบคำถามหนุ่มน้อยในคอกที่แวดล้อมไปด้วยเครื่องดื่มมึนเมาไปส่งๆ


“วิสกี้”

บาร์เทนเดอร์รับออเดอร์แล้วถามย้ำ

“เพียวเลยหรือครับ”

“เออ”


ภาคิมตอบรับเสียงห้วนแล้วเอามือกุมขมับอย่างหัวเสีย บาร์เทนเดอร์หนุ่มเลิกตอแยแล้วหันไปหยิบขวดเหล้าด้านหลังมาเปิดฝาแล้วรินใส่แก้วอย่างทะมัดทะแมง ทันทีที่วางแก้วเหล้าลงตรงหน้าชายหนุ่ม หญิงสาวอีกนางหนึ่งก็เคลื่อนตัวมานั่งข้างๆ


“ขอบลูมาการิต้าก็พอค่ะ”


เสียงนั้นหวานหยดย้อย เจือด้วยความหวาบหวามบางเบา ในแสงไฟมืดสลัว ภาคิมหันไปมองใบหน้านั้นไม่ถนัดตานัก รู้แต่ว่าเป็นดวงหน้าสวยเก๋ ฉาบทาด้วยเครื่องสำอางสีสันดึงดูดและยวนเย้า ริมฝีปากสีกุหลาบแดงสดขยับโปรยรอยยิ้มยั่ว บาร์เทนเดอร์เจ้าเก่าก็ให้บริการถึงอกทันใจ เหล้าแก้วใหม่ถูกนำมาวางในเวลาไม่กี่อึดใจ หญิงสาวยกแก้วขึ้นด้วยแววตาท้าทาย

“เชียร์...”

“เชียร์”


แก้วต่อแก้วชนกัน ความสับสนและหนักอึ้งในหัวเริ่มบรรเทาเบาบางลง ภาคิมตอบแทนน้ำใจหญิงสาวที่มานั่งข้างด้วยการสั่งเหล้าผสมที่ค่อย ๆ ลดความแรงลง เพื่อชะลอเวลาการออกฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในสายเลือด เขาอาสาเป็นเจ้ามือให้แก้วต่อแก้ว กระทั่งเสียงเพลงเริ่มขาดหาย เพื่อนฝูงทยอยแยกย้าย หญิงสาวตรงหน้าเคลื่อนไหวและพูดจาด้วยอาการซวนเซ แต่ก็มีแรงตกปากรับคำเมื่อเขาชวนให้ไปต่อที่คอนโดส่วนตัวในย่านใจกลางเมือง


สำหรับภาคิม เขาพบว่า เรื่องนี้เป็นไปได้ง่ายจนเหลือเชื่อและน่าติดใจไปเสียแล้ว...


* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *


นักนินรู้สึกตะครั่นตะครอขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวและบีบมวนตรงท้องน้อยเกิดขึ้นเป็นระยะระหว่างที่อยู่บนเรือ หญิงสาวฝืนยิ้มและหลบตาเกนโซที่หันมาถามด้วยความเป็นห่วง นานามิร้องเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่นเจื้อยแจ้วและหันมาชวนคุณพ่อและคุณแม่(จำเป็น)คุยเล่นเป็นระยะ หญิงสาวพยายามตอบรับด้วยความอ่อนโยน แต่ก็เริ่มโรยแรงลง จนบางครั้ง อ้อมกอดที่กอดเด็กสาว ดูสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด นักนินกัดฟันและบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ อย่างน้อย เธอก็ไม่ควรแสดงความอ่อนแอให้นานามิเห็น


เมื่อกลับขึ้นฝั่งและมีรถมารับ หญิงสาวขอให้คนรถแวะซื้อยาแก้เมารถมาทานและหลับมาตลอดทาง โชคดีที่นานามิเองก็เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางและหลับยาวเช่นกัน เกนโซเป็นฝ่ายนอนไม่หลับและนิ่งมองสองสาวต่างวัยที่หลับไหลอยู่ข้าง ๆ กันด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจพานานามิไปส่งที่บ้านหลังใหญ่ เมื่อถึงที่หมาย ผู้เป็นพ่ออุ้มลูกสาวที่กำลังหลับสนิทส่งพี่เลี้ยง จากนั้นก็กลับขึ้นรถ ให้คนรถออกรถต่อ ชายหนุ่มคิดใคร่ครวญแล้วว่า การพาหญิงสาวเข้าบ้านในเวลานี้อาจดูไม่ดีนัก ไหนจะต้องจัดการกับธุระอีกหลายเรื่อง หากเธอไม่มีบ้านให้กลับ เขาก็ยังมีบ้านพักหลังเล็ก ๆ ที่ซื้อไว้ใกล้โรงงาน เพื่อใช้พักผ่อนเวลาเลิกงานดึกดื่น เธอน่าจะพออยู่ที่นั่นเป็นการชั่วคราวได้


เมื่อกลับมาขึ้นรถและได้นั่งข้างกายหญิงสาว เกนโซเขย่าไหล่เธอเบาๆ แต่ร่างนั้นกลับเอนมาซบอย่างปวกเปียก เกนโซเบี่ยงตัวหลบเพียงนิดเดียว หญิงสาวก็เอนพับลงกับตักโดยไม่มีวี่แววว่าจะรู้สึกตัว ระหว่างนั้น แผงยาแก้เมารถจึงร่วงจากมือลงบนเบาะรถ นาทีนั้น เกนโซจึงได้หยิบยาแผงนั้นขึ้นมาดู และพบว่า ทั้งแผงมีแต่ความว่างเปล่า หญิงสาวกินยาเข้าไปจนหมดแผง

“คุณ... คุณครับ”

เกนโซลงมือเขย่าตัวแรงขึ้น แต่หญิงสาวก็ยังไม่ลืมตาตื่น มีเพียงลมหายใจรวยรินและหน้าอกที่ยังกระเพื่อมไหวเมื่อหายใจเข้าออกทีบ่งบอกว่าอาการยังไม่เลวร้ายเกินไปนัก

“พาไปโรงพยาบาลก่อน”

เกนโซออกคำสั่งอย่างร้อนรน คนขับรถบ่ายหน้ากลับรถไปอีกทาง เพื่อตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด


การเดินทางในช่วงบ่ายของวันนั้น นักนินกินยาเพื่อระงับอาการทุรนทุรายที่ก่อตัวขึ้นช้าๆทว่ารุนแรง ยาแก้เมารถที่ส่งผลให้ง่วงซึมทำให้อาการค่อยทุเลาลง หญิงสาวแกะยามาทานเพิ่มเมื่อเห็นว่าได้ผล และค่อยๆเพิ่มปริมาณจนหมดแผง ก่อนจะดำดิ่งสู่นิทราที่มืดสนิท สัมผัสของชายหนุ่มที่มาเขย่าตัวและเสียงเรียกข้างหูนั้นพอรับรู้ได้แต่ไม่อาจลืมตาขึ้นตอบสนอง


เมื่อถึงมือหมอ หญิงสาวได้รับการรักษาพยาบาลจนปลอดภัย ยาแก้เมาแค่สิบเม็ดไม่ถือว่าแรงจนเกินไปนัก แต่ร่างกายของผู้ป่วยอ่อนเพลียมาก จึงได้รับการแนะนำให้พักผ่อนรอดูอาการ


“สรุปว่าต้องนอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาลสักคืนนึงก่อนนะคะ”

พยาบาลบอกข้อมูลต่างๆ ให้เกนโซฟังช้าๆ และเป็นไปตามลำดับ

“あなたは彼女の夫ですか?“

(คุณเป็นสามีเธอใช่ไหมคะ)


พยาบาลคนใหม่ในชุดขาวท่าทางมาดมั่นเดินเข้ามาพร้อมเอกสารการ admit เข้าโรงพยาบาล เธอออกปากสนทนาด้วยภาษาญี่ปุ่นตะกุกตะกัก เกนโซฟังแล้วส่ายหน้ายิ้ม


“ไม่เป็นไรค่ะพี่ เขาพูดภาษาไทยได้”


พยาบาลคนเก่าหันไปตอบคำถามแทน เนื่องจากได้รายงานการรักษากับคนที่พาผู้ป่วยมาได้สักครู่แล้ว คนมาใหม่จึงได้แต่ยิ้มอย่างเสียดายที่ไม่ได้ฝึกภาษา แต่ก็ยังหันมาถามย้ำ


“แล้วที่ส่ายหน้า คือไม่ต้องพูดภาษาญี่ปุ่นก็ได้ หรือไม่ใช่สามีเธอคะ”

“ไม่ต้องครับ เอ่อ ครับ เป็นสามี ก็ได้ครับ”

ท่าทางของเกนโซทำให้พยาบาลสาวทั้งสองคนอดอมยิ้มไม่ได้

“คุณคงจะตั้งใจพูดว่า ไม่ต้องพูดญี่ปุ่นก็ได้ แต่เป็นสามีเธอใช่ไหมคะ”

“เอ่อ... ครับ”

ที่จริงเขาหมายความตามที่พูดแต่แรกจริงๆ แต่พยาบาลจะเข้าใจอย่างนั้น ก็พอได้

“ภรรยาคุณอยู่ที่ห้อง 406 นะคะ ตอนนี้ให้เธอพักผ่อนก่อน อีกสักพักคุณค่อยขึ้นไปเยี่ยมเธอก็ได้”

“ขอบคุณครับ ให้เธอพักก่อนก็ได้ครับ พรุ่งนี้ผมค่อยมารับอีกที”


เกนโซโค้งตัวให้สองพยาบาลสาวและลาจากไป สองพยาบาลหันหน้ามาร่วมกันวิพากษ์ ว่าสามีน่ารักขนาดนี้ สงสัยภรรยาจะขี้งอนมาก ถึงกับต้องเรียกร้องความสนใจด้วยการกินยานอนหลับไม่กี่เม็ด ดีแล้วที่ไม่อยู่เฝ้า ปล่อยให้นอนหนาวคนเดียวเสียให้เข็ด


“ปะ ได้เวลาแล้ว ลงเวรกันดีกว่า”


ทั้งสองสนทนากันอีกไม่นานนักเพราะเป็นช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนเวร ดึกดื่นค่อนคืนที่ความเงียบและความมืดปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ นักนินนอนหนาวเดียวดายในห้องผู้ป่วย อย่างที่พยาบาลบอกไว้ไม่มีผิดคำ...


* •..,..,..• * * •..,..,..• * * •..,..,..• ** •..,..,..• *

แก้ไขเมื่อ 01 ก.ค. 55 21:40:16

จากคุณ : รุริกะ
เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 21:00:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com