ปลายฝัน...วันรัก (ตอนที่ 1)ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ
|
 |
เวลาเย็นย่านธุรกิจกลางเมืองใหญ่ เต็มไปด้วยความแออัด ท้องฟ้ากว้างฝั่งซ้ายมือ ปรากฏแสงสีเทาของดวงตะวันฉาบทาปะปนกับเมฆสีขาวเป็นริ้ว ฟ้าร้องคำรามดังสนั่น บรรยากาศอึมครึมใกล้เข้ามา ผู้คนมากมายตามริมบาทวิถี ต่างคนต่างรีบเดินทางกลับบ้าน ไม่มีใครสนใจกับบรรยากาศของท้องฟ้ายามนี้
แม้กระทั่งลรินดา หญิงสาวผู้ที่รักธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ ก็มองข้ามบรรยากาศขมุกขมัวไปด้วยความรีบร้อน ร่างบอบบางก้าวเท้ายาวๆ จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ไปยังโรงแรมระดับห้าดาวที่รออยู่เบื้องหน้า บนถนนหนทางเต็มไปด้วยรถราตั้งแต่คันใหญ่อย่างรถประจำทางไปถึงรถเล็กอย่างจักรยานยนต์ที่ขี่ปาดซ้ายปาดขวาสอดแทรกไปตามช่องว่างเล็กๆ ของรถใหญ่ที่จอดนิ่งแทบไม่ขยับเขยื้อน เม็ดฝนเริ่มโปรยลงมาพรำๆ ระคนกับควันเขม่ารถคละคลุ้ง ทำให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก
ร่างเพรียวบางในชุดเสื้อยืดพอดีตัวสีเขียวอ่อน กางเกงยีนส์ทรงเดฟยาว สวมรองเท้าหุ้มส้นเตี้ยสีครีม ไหล่ข้างขวาสะพายเป้ใบเก่ง ผมยาวสลวยถูกรวบเข้าไปไว้ในหมวกแก๊ป เพิ่มเติมบุคลิกให้ดูทะมัดทะแมงยิ่งขึ้น หญิงสาวเดินมาเรื่อยจนกระทั่งผ่านป้ายหยุดรถประจำทางที่มีผู้คนกระจัดกระจาย บ้างก็นั่งรอ บ้างก็ยืนชะเง้อชะแง้คอมองรถประจำทางสายที่ตนเองรอคอย
โอ๊ย! ลรินดาร้องเสียงหลง ก่อนจะหันไปมองหญิงสูงวัยที่เดินมาชนไหล่เธอ
หญิงสาวกำลังจะอ้าปากต่อว่า แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นลักษณะของหญิงสูงวัยที่เหมือนกับสติไม่สมประกอบ เดินพูดพึมพำคนเดียวฟังไม่ได้ศัพท์ เสื้อผ้าที่ใส่ขาดวิ่น มือข้างหนึ่งหิ้วถุงพลาสติกใบใหญ่พะรุงพะรัง ไหล่อีกข้างสะพายย่ามสีเทาเก่าๆ เนื้อตัวมอมแมมคล้ายว่าไม่ได้ชำระล้างร่างกายมาเป็นปี ลรินดาจึงหันหลังกลับ ไม่คิดจะต่อความยาวสาวความยืด
ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังจากหันหลังกลับและออกก้าวได้ไม่ถึงสามก้าว ล้อโตๆ ของรถกระบะโฟร์วีลล์ไดร์ฟสีดำเหวี่ยงเอาน้ำฝนที่ขังอยู่ริมถนนกระเด็นไปถูกหญิงสาวจนเสื้อผ้าเปียกโชก
ว้าย!! หญิงสาวร้องเสียงหลง พร้อมกับมองตามไปที่รถกระบะคันนั้นอย่างหัวเสีย
ในที่สุดการจราจรที่ยังแออัด ก็ทำให้รถกระบะคู่กรณีค่อยๆ ชะลอและหยุดจอดนิ่งอยู่เลยจากจุดที่เธอยืนไม่ถึงสิบเมตร
ลรินดาจึงรีบสาวเท้าไปยังเป้าหมายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้มือเคาะรัวไปที่กระจกรถของคู่กรณีอย่างไม่เกรงใจ
นี่! คุณ!! เปิดกระจกเดี๋ยวนี้นะ หญิงสาวตะโกนเสียงดังอย่างไม่อายสายตาของผู้คนที่อยู่โดยรอบ ผู้ที่อยู่ในรถจึงค่อยๆ เลื่อนกระจกข้างรถลงมาช้าๆ เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
อรัญชย์ชำเลืองมองคู่กรณีตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเป็นเชิงดูถูก โดยไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เพียงแค่เห็นเสื้อผ้าเลอะเทอะก็คิดเองเออเองว่าหญิงสาวเป็นเด็กเช็ดกระจกและเข้าใจว่าเป็นผู้ชาย เพราะปีกหมวกแก๊ปบังหน้าประกอบกับการแต่งกายที่ค่อนข้างแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น
เฮ้ย! แกมาทุบกระจกรถฉันทำไม อย่าบอกนะว่าจะมาสะเออะเช็ดกระจกให้ฉัน รถฉันเพิ่งล้างมา ถ้ากระจกฉันมัวล่ะก็ ฉันเอาเรื่องแกแน่ อรัญชย์ตะเบ็งเสียงออกมาจากด้านใน
ฉันเนี่ยนะจะมาเช็ดกระจก ทำคนอื่นเขาเดือนร้อนแล้วยังไม่มีสำนึกสักนิด หญิงสาวตอกกลับ
แกพูดเรื่องอะไร แล้วนี่เอามือสกปรกๆ ของแกออกไปจากรถฉันเลย
อรัญชย์ยังคงไม่รู้ตัวว่าได้ทำอะไร ชายหนุ่มก็ยังแกล้งพูดเบี่ยงประเด็น นี่แกเมากาวใช่ไหมเนี่ย สงสัยคงกาวหมดไม่มีเงินซื้อมาดมแล้วล่ะสิ ถึงได้มาหาเรื่องหลอกตังคนอื่นเขา ชายหนุ่มต่อว่ารัว พร้อมกับมือข้างหนึ่งก็ควานหาอะไรบางอย่างตามช่องเล็กช่องน้อยในตัวรถ ปากก็บ่นพึมพำต่อ
เด็กจรจัดสมัยนี้เยอะเหลือเกิน เด็กผู้ชายแบบแกเนี่ย ถ้าลองได้ร่ำได้เรียน คงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ นี่อะไร้... ลรินดาเบือนหน้าไปทางอื่นแล้วแอบยิ้ม เมื่อเห็นว่าคู่กรณีเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้ชาย หญิงสาวจึงรู้สึกสนุกและปล่อยให้เขาเข้าใจผิดแบบนั้นต่อไป
เอานี่ไป ฉันให้แก เป็นคนอื่นคงไม่ให้แกเยอะขนาดนี้หรอกนะ อย่างมากก็แค่ยี่สิบบาท แต่บอกไว้ก่อนนะ ฉันให้แกไปซื้อของกิน ไม่ใช่ให้ไปซื้อกาวมาดม ชายหนุ่มยื่นธนบัตรใบละร้อยให้
คิดว่าที่ฉันวิ่งตามรถคุณมาเพื่อจะมาเช็ดกระจกแลกกับเศษเงินแค่เนี้ยนะ หญิงสาวพยายามดัดเสียงให้ทุ้มอย่างผู้ชาย
ตั้งร้อยนึงเนี่ย แกบอกเศษเงินเหรอ แล้วแกจะให้ฉันคิดว่าอะไร ดูรูปร่างก็ผอมโซ วันๆ กินข้าวบ้างหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเอาเงินไปซื้อแต่ของไร้ประโยชน์
ฉันจะทำมาหากินอะไรมันก็เรื่องของฉัน นี่... ถามจริงๆ เถอะ ไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าคุณน่ะมันเป็นพวกขับรถไร้มารยาทมากที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลย ที่เสื้อผ้าฉันเปียกเลอะเทอะขนาดนี้ ก็เพราะไอ้การขับรถห่วยๆ ของคุณ รู้ไว้ซะด้วย ลรินดาต่อว่ารัว มือเรียวพลางสะบัดปลายเสื้อที่เปียกโชกจากน้ำฝนในเมืองกรุงที่ดูเหมือนจะมีคราบน้ำมันดำสกปรกผสมมากับน้ำด้วย
เฮ้ย ไอ้เด็กนี่ หลักฐานก็ไม่มี มากล่าวหากันมั่วๆ รถตั้งเยอะแยะ อาจจะเป็นคันอื่นก็ได้ ทำไมต้องมาเจาะจงว่าเป็นคันนี้ นี่เป็นพวกสิบแปดมงกุฎใช่ไหมเนี่ย
ยิ่งได้ฟังอย่างนั้น ผู้ช่วยมัคคุเทศก์สาวก็ยิ่งเดือดพล่าน ยืนตัวสั่น กำมือแน่นด้วยความโมโห แต่หญิงสาวก็พยายามระงับอารมณ์ให้คงที่ ก่อนจะตอบกลับ
อย่ามาเฉไฉไปเรื่องอื่นหน่อยเลย ตัวเองเป็นคนทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วคิดจะเบี่ยงประเด็นง่ายๆ หรือไง มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้เลย
ผู้คนรอบข้างพากันหันมามองการต่อล้อต่อเถียงของทั้งคู่เป็นตาเดียว ขณะนี้รถเก๋งสีบรอนซ์ทองที่อยู่ด้านหน้ารถกระบะของอรัญชย์เคลื่อนตัวไปแล้ว ทำให้รถที่ตามหลังมาพากันบีบแตรไล่เป็นทิวแถว เสียงดังปี๊นๆ แสบแก้วหูไปหมด
บรรดารถใหญ่ที่ติดเรียงรายอยู่บนถนนเลนส์นั้นค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปทีละน้อย อรัญชย์สบโอกาสเหมาะ ฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะโบกมือไหวๆ เป็นเชิงบอกลาอย่างเยาะเย้ย บ๊ายบาย...
นี่! นาย ลรินดาหน้านิ่วคิ้วขมวด เมื่อรถของอรัญชย์เคลื่อนไป หญิงสาวจึงจำใจต้องวิ่งขึ้นไปที่ริมฟุตบาทแล้วมองตามรถกระบะโฟร์วีลล์คันนั้นไปอย่างไม่ละสายตา
แต่แล้วโชคก็เข้าข้างจนได้ เมื่อเห็นว่ารถกระบะคันนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเดียวกันกับที่เธอกำลังจะไป
แก้ไขเมื่อ 02 ส.ค. 55 06:52:38
จากคุณ |
:
วันฝัน วันซันเดย์
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ก.ค. 55 11:33:03
|
|
|
|