16
เช้าวันอาทิตย์อันเงียบสงบ ลลิลดาตื่นแต่เช้าหลังเมื่อคืนเข้านอนแต่หัววัน เธอนึกถึงสายตาละห้อยของชายหนุ่มซึ่งมองตามด้วยใจวับหวาม โทรศัพท์ทางไกลจากมารดาช่วยให้เธอรอดตัวจากค่ำคืนอันคุกรุ่นด้วยไฟรักของหนุ่มสาว หลังคาชาลหว่านล้อมให้เธอช่วยชิมค็อกเทลฝีมือเขาแก้วต่อแก้ว
ลลิลดาค่อยโล่งใจ การหักใจ แข็งใจไม่โอนอ่อนตามใจคนที่เรารักช่างแสนยากเย็น แต่เมื่อทำได้ก็ภาคภูมิใจ รักเขายิ่งขึ้นไปอีกที่เขาไม่เอาแต่ใจตัวเองฝ่ายเดียว
เธอมองหานินา ตั้งใจจะทำอาหารเช้ามื้อพิเศษเพื่อเอาใจเขา ทว่าเด็กสาวกลับแจ้งว่ายาโบของแกเพิ่งขับรถออกไปข้างนอกเมื่อสิบนาทีที่ผ่านมา คนฟังนิ่วหน้า ประหลาดใจที่เขาออกไปโดยไม่ฝากข้อความใดๆ ถึงตน
..................................
ภายในห้องอาหารในสนามกอล์ฟ คาชาลกวาดสายตามองหาคนที่นัดตนออกมาแต่เช้า เขาอยากปฏิเสธนัดนั้น หากฐานะของอีกฝ่ายบีบบังคับกลายๆ ให้เขาไม่อาจละความสนใจหัวข้อที่ชายหนุ่มต้องการพูดคุยได้เลย เขาจำต้องรับนัดโดยไม่รู้จะฝากข้อความใดถึงคนรักซึ่งนอนหลับสบายอยู่ข้างห้อง ทั้งยังเกรงว่าเจ้าหล่อนจะไม่พอใจที่ตนทิ้งมาดื้อๆ
เมื่อคิดถึงลลิลดา หัวใจที่เคยแกร่งดั่งหินผา จะพลิกสัมผัสมุมไหนก็มีแต่ความเจ็บปวด ก็อ่อนลงราวยัดด้วยนุ่น สองวันมานี้เธอได้ให้อะไรๆ แก่เขามากมาย มากเสียจนเขาไม่กล้าคิดว่าหากตนถูกปลุกจากฝันดีนี้จะมีชีวิตต่อไปอย่างไร
คาชาลข่มใจเย็นนั่งรอเมื่อตนมาถึงก่อนเวลา เช้าๆ แบบนี้มีเขาเป็นลูกค้าคนเดียว เขาสั่งกาแฟสำหรับตัวเอง ก่อนเปลี่ยนใจสั่งเพิ่มอีกแก้วเมื่อเจ้าหน้าที่ต่างชาติกำลังเดินตรงมา เขาลุกยืนรอสัมผัสมือ
ท่าทางคุณจะรีบ เจคกระเซ้าหากไร้รอยยิ้ม
เขาเทนมใส่กาแฟที่บริกรยกมาอย่างใจเย็น ปรายตามองอีกฝ่ายซึ่งมองมาด้วยแววตาคาดคั้นในที
ลิลลี่เป็นอย่างไรบ้าง
ใบหน้าคาชาลเข้มขึ้น เขารู้สึกเหมือนตัวเองลีบเล็กลงที่ต้องตอบคำถามส่วนตัวอย่างไม่มีทางเลือก โดยเฉพาะกับคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายคนรัก
เธอสบายดี คุณจะไปพบเธอก็ได้
แน่นอน ผมย่อมต้องพบน้องสาวตัวเองได้ทุกเมื่อ แต่ผมและครอบครัวไม่สบายใจเลยที่เธอย้ายไปอยู่กับคุณ ลิลลี่ทราบเรื่องนี้ดี แต่เธอบอกว่าเป็นห่วงคุณ ผมจะทำอะไรได้ เขาไหวไหล่ด้วยท่าทางยียวน
คุณหมายถึงอะไร
ผมต้องการให้เธอกลับอเมริกา หรือไม่ก็อยู่ที่นั่นตลอดไป
ชายหนุ่มนิ่วหน้าขณะค้นหาความหมายของแต่ละถ้อยคำ หากคนตรงข้ามก็ตอกย้ำให้เขารู้สึกต่ำต้อยลงไปอีก
คุณต้องแสดงความเข้มแข็งให้เธอเห็นว่าคุณไม่เป็นไร ความจริงผมเองก็มีส่วนผิดที่แกล้งปิดหูปิดตาให้วิคเตอร์เป็นโซ่ข้อกลางระหว่างคุณกับน้องผม แต่ทุกอย่างมันมาไกลเกินไป ผมไม่ได้รังเกียจคุณหรอกนะ ถ้าคุณคิดจะให้เกียรติลิลลี่มากกว่านี้
ผมให้เกียรติเธอเสมอ เขาแย้งเสียงขื่น
ด้วยการย้ายไปอยู่ด้วยกันโดยไม่มีผู้ใหญ่รับทราบน่ะหรือ ผมแน่ใจว่าชาวทิชกูไม่มีประเพณีแบบนี้ คนมีความคิดอ่านดีๆ ที่ไหนก็คงไม่ทำกัน หากพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะลงหลักปักฐานร่วมกันในอนาคตล่ะก็ แน่นอนว่าโดยมีผู้ใหญ่ในครอบครัวรับรู้ด้วย
คนฟังขบกรามแน่น เขารู้สึกเหมือนตนถูกสบประมาทว่าเป็นคนไร้ความคิดอ่าน โง่เง่ากว่าคนหลังเขาอย่างชาวทิชกู
ผมพูดกับคุณในฐานะพี่ชาย คิดดูเถอะ คาชาล คุณจะยอมรับได้ไหมถ้าน้องสาวของคุณย้ายไปอยู่กับใคร แล้วต้องกังวลว่าสักวันแกจะพกจิตใจบอบช้ำกลับมา ถ้าคุณรักลิลลี่จริง คนฉลาดอย่างคุณย่อมรู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
คาชาลค่อยเข้าใจความหมาย หมายความว่าเขาควรขอเธอแต่งงานเช่นนั้นหรือ หัวอกเขาหวามไหวเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ซึ่งคืบหน้ารวดเร็ว เขาปลื้มปีติในความกรุณาของเจ้าหล่อน แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเป็นเรื่องผิดอะไร ใจเขายึดถือพิธีในคืนก็องโกลันนั้นเสียแล้วว่าเขาเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
นึกแล้วก็ให้คันยุบยิบในใจ ประเพณีของชาวทิชกูนั้นฝ่ายหญิงจะเป็นผู้เลือกชายที่ถูกใจ เขาเคยนั่งหลบตาพวกหล่อนอยู่ในกลุ่มนักดนตรีชายฉกรรจ์เพราะไม่พร้อมถูกเลือก กระทั่งเผลอมองตามเสียงหัวเราะรื่นเริงของนักท่องเที่ยวสาว ประกอบกับเกมกลของติลมาหลอกให้ลลิลดาและเขาตกหลุมพราง แม้จะไม่พอใจ หากลึกลงไปแล้วเขากลับยึดถือธรรมเนียมนั้นอย่างจริงจัง
เจคลุกยืน กาแฟของเขาหมดแก้วพอดีพร้อมๆ กับหมดเรื่องที่ต้องการเจรจา เขายื่นมือรอตรงหน้าอีกฝ่าย ก่อนคาชาลจะค่อยคืนสติ ลุกมาจับมือแน่น ดวงตาคมกล้าเปล่งประกาย
ผมจะขอเธอแต่งงาน ลลิลดาต้องอยู่ที่นี่ตลอดไป เขาแสดงเจตจำนงแน่วแน่
เธอเป็นของเขามาเนิ่นนานเท่ากับที่เขาเป็นของเธอ หากเขาปล่อยให้ใครช่วงชิงเธอไปได้แสดงว่าเขาบกพร่องต่อหน้าที่ บรรพชนจะพากันสาปแช่ง
แน่นอน ไม่อย่างนั้นผมคงจับเธอมัดและส่งกลับภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง
เจคตบไหล่คนรักของน้องสาว พอใจที่อีกฝ่ายเข้าใจอะไรง่ายๆ และเป็นลูกผู้ชายพอตัว หาไม่แล้วแผนการที่เขาแกล้งขึงขังวันนี้คงสูญเปล่า เพราะแท้จริงแล้วเขาไม่มีสิทธิบังคับฝืนใจใครได้เลย
..............................
ลลิลดาก้มมองนาฬิกาหลังหูแว่วเสียงรถแล่นเข้ามา คาชาลกลับมาตรงตามเวลานัดหลังจากหายไปทั้งวัน เธอได้รับโทรศัพท์จากเขาเมื่อช่วงสาย ชายหนุ่มบอกว่ามีนัดกับวิคเตอร์และจะกลับมารับเธอไปทานมื้อเย็นยังภัตตาคารอาหารนานาชาติเวลาหนึ่งทุ่มตรง
หญิงสาวลอบถอนใจเมื่อนินามาเคาะประตู ร่างระหงในชุดกระโปรงชิ้นเดียวสีครีม เพิ่มลวดลายด้วยเม็ดคริสตัลช่วงอก เดินตามเด็กสาวเนือยๆ มายังรถยนต์สีบรอนซ์ซึ่งติดเครื่องรอ เธอพยายามข่มความน้อยใจที่ถูกทิ้งให้อยู่บ้านลำพัง บอกตัวเองว่าเขาคงมีธุระสำคัญและเธอคงว่างจนฟุ้งซ่านเกินไป
คาชาลจ้องมองคนที่แต่งตัวสวยเป็นพิเศษไม่วางตา ริมฝีปากบางแย้มยิ้มกว้างขวางรับรอยยิ้มบางซึ่งเจ้าหล่อนส่งให้ เทพพระอาทิตย์ เทพีจันทราเท่านั้นที่รู้ว่าเขารักเธอมากเท่าไร เขาก้มหยิบช่อกุหลาบแดงจากในรถ และเจ้าหล่อนก็รับมันไปด้วยใบหน้าระเรื่อ
ผมขอโทษที่ทิ้งมิสไว้คนเดียวทั้งวัน เขาเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันลำพังบนรถ
ลลิลดาก้มมองช่อดอกไม้บนตัก ความน้อยใจแต่เดิมมลายหายไปเมื่อเขาแสดงออกว่าต้องการเอาใจเธอ
ความจริงในบ้านก็มีคนมากมาย เธอไม่ได้ทิ้งฉันไว้คนเดียวสักหน่อย ถ้าเพียงแต่พวกเขาจะยอมออกมาเจอหน้าตรงๆ
เจ้าของบ้านหัวเราะเสียงขื่น ผมสั่งไว้เองล่ะครับ มากคนก็เกะกะลูกตานัก แต่เป็นคนของนิโก้ทั้งนั้น นิโก้เขาชอบอยู่ท่ามกลางคนรุมล้อม เขาช่วยคนมากแล้วคนพวกนั้นก็จงรักภักดีต่อเขา ผมเพียงแต่รับช่วงต่อมา บ้านหลังนั้นก็เหมือนกัน
หญิงสาวย้อนนึกถึงบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้านิ่งเรียบราวภาพสลักบนหินผา นิโก้สร้างอาณาจักรส่วนตัวขึ้นมา ก่อนส่งต่อความหวัง ความฝันให้น้องชาย ไม่แปลกเลยที่คาชาลต้องแบกรับความกดดันนี้ดั่งเงาซึ่งติดตามชีวิตเขาตลอดไป
เธออยากย้ายออกไหม คาชาล ถ้าเธอทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ ก็คงซื้อบ้านได้สักหลัง
คนขับปรายตามองเธอนิดหนึ่ง แล้วตอบเสียงใส ผมมีบ้านแล้วนี่ครับ บ้านหลังใหญ่ก็สะดวกดีเวลามีแขก หรือจะจัดงานอะไรก็ยังได้
ที่สำคัญลลิลดาจะได้ไม่น้อยหน้าใคร หากเธอชวนเพื่อนมาเที่ยวยังคาซาเนีย ทุกคนจะได้ไม่ดูถูกว่าเธอตัดสินใจผิดที่เลือกร่วมทางเดินชีวิตกับเขา โดยทิ้งอนาคตรุ่งโรจน์ในบ้านเมืองของเธอ
คาชาลปรึกษากับรุ่นพี่ตลอดบ่าย เขาล้มเลิกความตั้งใจแต่แรกที่จะประวิงเวลาเริ่มต้นชีวิตคู่ออกไปเสียแล้วเมื่อพี่ชายเจ้าหล่อนเอ่ยมาเช่นนั้น เขากลัวว่าคนรักครอบครัวอย่างเธอจะทิ้งเขาไปจริงๆ กลัวใจเธอเสียยิ่งกว่าอนาคตอันไม่แน่นอนของตน
กระทั่งในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปว่าตนจะเป็นฝ่ายขอหญิงสาวแต่งงานตามวัฒนธรรมต่างชาติ เมื่อพูดจาตกลงกันได้แล้ว เขาจะแจ้งไปยังครอบครัวของเธอ พร้อมกับที่วิคเตอร์เสนอว่าจะเชิญท่านประธานาธิบดีมาเป็นสักขีพยาน งานแต่งงานของเขากับลลิลดาจะไม่น้อยหน้าใคร ครอบครัวของเธอจะต้องภูมิใจและร่วมยินดีไปกับการตัดสินใจครั้งนี้อย่างแน่นอน ชายหนุ่มหมายมาดในใจ
.................................
ภัตตาคารอาหารนานาชาติที่คาชาลภูมิใจนำเสนอตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมชื่อดัง แล้วยังเป็นตึกซึ่งสูงที่สุดในคาซาเนียอีกด้วย ความโอ่อ่าหรูหรานั้นเริ่มตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ยิ่งมองลงมาจากลิฟต์แก้วแล้วก็ให้ละลานตาด้วยแสงจากโคมไฟแชนเดอเลียร์
ลลิลดาก้มสำรวจชุดกระโปรงผ้าเนื้อดีของตัวเองแล้วแอบโล่งใจที่ตนเลือกชุดได้ถูกกาลเทศะ สายตาพราวระยับด้วยความชื่นชมหลงใหลของคนข้างกายช่วยเพิ่มความมั่นใจ เขาแตะศอกเธอพาเดินไปยังโต๊ะที่จองไว้ รอบกายมีเพียงแสงสลัวจากเชิงเทียนกลางโต๊ะแต่ละตัวเท่านั้น
หญิงสาวยกหน้าที่สั่งอาหารให้แก่คาชาล เขาสั่งอาหารฝรั่งเศสซึ่งเสิร์ฟทีละจานพร้อมไวน์หนึ่งขวด เธอเห็นราคาแพงระยับแล้วก็ได้แต่อ่อนใจ แต่จำต้องนิ่งเสียด้วยไม่อยากขัดใจเจ้ามือ ว่าไปแล้วบรรยากาศโล่งสบายบนดาดฟ้าก็พาให้ปลอดโปร่งนัก ฟ้ามืดโดดเด่นด้วยดวงจันทร์กลมโตในคืนเพ็ญ จากตึกสูงนี้ เธอรู้สึกราวอาจเอื้อมพระจันทร์มาไว้กับตัวได้ทีเดียว
โชคดีจัง คืนนี้พระจันทร์สวยจริงๆ
ชายหนุ่มมองดวงจันทร์บนฟากฟ้า ก่อนเลื่อนสายตากลับมายังเทพีจันทราตรงหน้าเขา ใช่... เขาโชคดีเหลือเกิน เขามีดวงจันทร์ลอยเด่นตรงหน้า แล้วยังมีดาวซึ่งเปล่งประกายคอยอยู่ในกระเป๋ากางเกง
พระจันทร์ที่คาซาเนียสวยกว่าที่ไหนๆ มิสเห็นด้วยไหมครับ
เธอตวัดค้อนหากก็เห็นด้วยกับเขา แต่กลางเมืองอย่างนี้คงมีมลพิษ มองดาวไม่ชัดเท่าไร หรือเพราะแสงสว่างจากดวงจันทร์ก็ไม่รู้นะ
แต่ผมมองเห็นดาวดวงหนึ่งสวยมาก มิสลองดูใหม่สิครับ
ลลิลดาหลงกลแหงนมองฟ้าอีกครั้ง คาชาลล้วงหยิบกล่องกำมะหยี่ในกระเป๋ากางเกง ปฏิบัติตามสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ในโลกนี้กระทำเพื่อขอความรักจากสตรีผู้เป็นที่รัก เขาเปิดกล่องกำมะหยี่วางไว้ต่อหน้าเธอ
คาชาล...
หญิงสาวมองแหวนเพชรตรงหน้าสลับกับชายหนุ่ม ใบหน้าเขาแดงระเรื่อท่ามกลางแสงเทียนสลัว ดวงตาคมกล้าระริกไหวราวเคลือบด้วยน้ำเชื่อมแสนหวาน
ลิลลี่ คุณจะให้เกียรติเต่งงานกับผมได้ไหม
ลลิลดาตะลึงงัน ประกาย ดาว ที่เขาหยิบยื่นให้วิบวับจนตาพร่างพราย สมองเธอขาวโพลง หูอื้ออึงด้วยเสียงโครมครามของก้อนเนื้อในอกเต้นรัว
แต่เธอ...เคยบอกว่าจะรอจนกว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าหล่อนถามเสียงพร่า
มิสคิดว่าผมเห็นแก่ตัวใช่ไหมครับ
เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันแค่แปลกใจ
ความมั่นใจแต่เดิมของคาชาลลดฮวบ เขาก่นด่าตนเองที่หลงตามเกมผู้อื่น ลำคอพลันตีบตื้อขึ้นมา เขายกมือเรียกบริกรมาเก็บจานและเปลี่ยนเป็นเมนูถัดไป
หญิงสาวค่อยคืนสติ เธอถามตัวเองว่ารักคนเจ้าอารมณ์คนนี้จริงหรือ เวลาดีเขาก็ออดอ้อนอ่อนหวาน เวลาโกรธก็หุนหันไม่มีใครเกิน แล้วยังใจน้อยเป็นที่หนึ่ง เขาทำให้เธอรักได้ง่ายๆ แต่การใช้ชีวิตร่วมกันนั้นต้องอาศัยกำลังใจหนักแน่นใหญ่หลวงที่จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตนมิให้พัดเพตามเขา
เธอนึกถึงมารดา นึกถึงคำสอนและแบบอย่างการใช้ชีวิตคู่ของท่าน แล้วคำตอบของคำถามเมื่อครู่ก็ชัดเจนในใจ
เธอจะไม่ถามคำถามนั้นอีกสักครั้งหรือ
เขากระตุกยิ้มมุมปาก ถามออกไปแกนๆ ราวมีคนจับประโยคยัดใส่ปากเขา มิสจะแต่งงานกับผมได้ไหมครับ
คนฟังนิ่วหน้าเล็กน้อย ฟังดูไม่โรแมนติคเท่าครั้งแรกนะ แต่... จ้ะ ฉันจะแต่งงานกับเธอ คาชาล
ชายหนุ่มเบิกตามองคนรักอย่างค้นคว้า เขาต้องห้ามตัวเองไม่ให้ลุกขึ้นกระโดดโห่ร้องยินดีตามหัวใจซึ่งโลดแรง เมื่อเจ้าหล่อนยื่นมือมาตรงหน้า เขาก็หยิบแหวนออกมาอย่างเข้าใจความนัย
นิ้วนาง มือซ้าย คาชาลรำพึงเสียงดังด้วยความตื่นเต้น
ลลิลดากลั้นยิ้มตาพราว มือของเขาสั่นน้อยๆ ขณะบรรจงสวมแหวนให้เธอ พลอยทำให้ตนตื่นเต้นไปอีกคน หัวอกเธอวับหวามเมื่อตาเคลื่อนสบตา มีเพียงคนตกอยู่ในห้วงรักสองคนเท่านั้นที่ทราบดีว่าต่างฝ่ายต่างต้องการกันและกันมากเพียงใด
ตั้งแต่คืนเพ็ญครั้งหน้า เราจะนอนดูดาวด้วยกันตลอดไป
................................
กำหนดการจากคาชาลกะทันหันพอๆ กับการเปลี่ยนใจขอแต่งงานปุบปับของเขาทีเดียว ว่าที่เจ้าสาวแทบตั้งตัวไม่ทัน ครั้นปรึกษาเขาให้เลื่อนออกไป เขาก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่เลื่อนเด็ดขาด หนักเข้าก็พลอยน้อยใจไปอีก เมื่อไม่อาจผ่อนผันออกไปได้แล้ว เธอจึงปล่อยเลยตามเลยเสีย ไม่ว่าช้าหรือเร็วงานแต่งงานนี้ก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี
ลลิลดาเลือกจัดงานแต่งงานเรียบง่ายตามประเพณีชาวทิชกู โดยมีงานเลี้ยงเป็นทางการตอนกลางวัน ส่วนช่วงเย็นเป็นงานเต้นรำอย่างพิธีก็องโกลัน เพราะงานแต่งงานของเธอจะมีขึ้นตรงกับคืนเพ็ญเดือนหน้าพอดี
สี่สัปดาห์หลังจากนั้น ลลิลดาจึงวุ่นวายอยู่กับการเตรียมตัวในส่วนของตนให้พร้อม คาชาลเองก็วิ่งวุ่นไม่ต่างกัน เพราะเขาเป็นธุระทั้งเรื่องสถานที่และแขกเหรื่อ ไหนจะงานราชการของเขา เวลาจะเจอหน้าพูดจากันแต่ละทีจึงแทบไม่มี และหัวข้อสนทนาก็ล้วนเกี่ยวกับงานมงคลซึ่งเขาเป็นฝ่ายเร่งรัดเอง
ความตื่นเต้นที่จะเป็นเจ้าสาวยังไม่เท่าการรอคอยพบเจอมารดา ก่อนวันงานสองวันแม่และนายแพทย์ริชาร์ดได้เดินทางมาถึง เธอกับเจคไปรอรับท่านที่สนามบิน คาชาลติดงานจึงให้คนขับรถไปส่งว่าที่เจ้าสาวของเขาแทน หลังรับประทานมื้อเที่ยงกันพร้อมหน้าพร้อมตาคนในครอบครัว เจคก็ได้แยกย้ายไปทำงาน ลลิลดาพาพวกท่านกลับที่พักซึ่งชายหนุ่มจัดไว้ที่บ้านของตน
เรณูแสดงความแปลกใจล้นพ้นเมื่อเหยียบย่างเข้ามาภายในบ้านอันโอ่อ่า ผิดจากจินตนาการและคำบอกเล่าถึงสถานะของว่าที่ลูกเขยในอดีตที่ตนเคยได้ยินได้ฟังมา กระทั่งบุตรียิ้มแห้งพลางอธิบายว่าบ้านหลังนี้เป็นสมบัติตกทอดจากพี่ชายเขา ท่านจึงค่อยคลายใจ
ลลิลดาอยู่ให้แม่ซักฟอกตลอดบ่ายที่ตนย้ายมาอยู่กับชายหนุ่มโดยพลการ เมื่ออยู่ตามลำพังสองคนแม่ลูกแล้ว ผู้เป็นแม่จึงแสดงออกชัดถึงความไม่สบายใจ ทว่างานแต่งงานซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นก็บ่งบอกถึงการรับผิดชอบต่อเกียรติของลูกสาวท่านของฝ่ายชาย เรณูจึงหมดถ้อยคำตำหนิเร็วกว่าความขุ่นเคืองในใจ
.....................................
ลิลลี่ คาชาลร้องเรียกคนรักซึ่งออกมาสำรวจความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานกลางแจ้งภายในอาณาบริเวณบ้าน
เขากลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดหวั่น ดวงตาอ่อนล้าจากงานฉายแววกังวล เห็นดังนั้นหญิงสาวจึงเดินมาคล้องแขนตนกับเขา กุมมือประสานอย่างให้กำลังใจ
ท่านโกรธหรือเปล่าที่ผมไม่ได้ไปรับ
ท่าทางประหม่าของเขาสร้างความเอ็นดูแก่ลลิลดาจนเธอเอ่ยเย้าไป แม่โกรธที่คุณพาลูกสาวท่านมาอยู่ที่นี่โดยไม่บอกกล่าวต่างหากค่ะ
ใบชายหนุ่มเข้มขึ้น พลอยนึกถึงถ้อยความของเจ้าหน้าที่ต่างชาติเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา
ผมสั่งเครื่องแก้วมาจากรัสเซีย แล้วก็เครื่องสังคโลกจากจีนมาเป็นของฝากพวกท่าน มีพรมทอมือของชาวคาซานอีก แม่ของคุณจะชอบไหม
คนฟังนิ่วหน้า ตอบแทนแม่ได้เลยว่าท่านอยากได้ของที่ระลึกพื้นเมืองเล็กๆ น้อยๆ มากกว่า หากก็นิ่งเสีย เธอบอกให้คนรักคอยยังห้องอาหาร ขณะที่ตนไปตามมารดาและนายแพทย์ริชาร์ดออกมาร่วมรับประทานอาหารเย็น
คาชาลยืนรอด้วยความตื่นเต้น เขารู้สึกเหมือนตนห่างหายจากบรรยากาศครอบครัวมานานเหลือเกิน เมื่อหูแว่วเสียงพูดคุยมาแต่ไกล หัวใจเขาก็พลอยสั่นไหวไปกับเสียงแห่งความสุขนั้น และเมื่อร่างบางเดินโอบเอวผู้ใหญ่ทั้งสองท่านเข้ามา ความโหยหาครอบครัวซึ่งเก็บซ่อนไว้ภายใต้ความเย็นชาก็ยิ่งทุรนทุรายเปิดเผยตัว
ชายหนุ่มจับมือกับบุรุษร่างท้วมซึ่งลลิลดาแนะนำว่านายแพทย์ริชาร์ด โครงหน้าคุ้นตานั้นเองที่บุตรชายท่านถอดแบบมา แต่ในสายตาเขา...เจคกลับไร้วี่แววแห่งความเมตตาเฉกเช่นบิดา นายแพทย์ผู้นั้นอ้าแขนสวมกอดเขาแนบแน่นอย่างรู้ขนบธรรมเนียมดี
มิสซิสเรณู แม่ของฉันจ้ะ
คาชาลพิศมองสตรีวัยกลางคน แล้วก็ได้รับคำตอบว่าคนรักของตนได้เค้าความงามมาจากมารดาเจ้าหล่อนนั่นเอง และเมื่อท่านยื่นมือมา เขาจึงกดริมฝีปากแผ่วเบาบนปลายนิ้วมือนั้นด้วยความเคารพ นอบน้อม
เรณูนึกถึงคำบอกเล่าของบุตรสาวที่เล่าถึงการแสดงความรัก เคารพต่อเพศตรงข้ามของชาวทิชกู แล้วก็พบว่าช่างอ่อนโยนนักหนา หัวใจซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาเนิ่นนานยังพลอยเต็มตื้น ประสาอะไรกับหัวใจของหญิงสาวจะไม่อ่อนตามธรรมเนียมอ่อนหวานนี้
ลลิลดาลอบสังเกตเสี้ยวหน้าของมารดาก็เห็นว่าท่านจ้องมองการกระทำของว่าที่ลูกเขยอย่างเอ็นดู
มื้อเย็นวันนั้น เจ้าของบ้านรับรองแขกพิเศษด้วยอาหารพื้นเมืองประยุกต์ บางจานดัดแปลงมาจากอาหารจีน เป็นที่ถูกปากของผู้ใหญ่ทั้งสอง ทุกคนต่างเจริญอาหารเป็นพิเศษ เมื่อมีหญิงสาวคนกลางคอยเชื่อมบทสนทนาเข้าด้วยกัน
คาชาลคลายความประหม่า ความตื่นเต้นเมื่อครู่แทนที่ด้วยความเป็นกันเองซึ่งผู้สูงวัยหยิบยื่นให้ หัวใจเขาพองโตคับอก เขาได้ครอบครัวกลับมาพร้อมคนรัก ชายหนุ่มลอบสบตาผู้ที่นำพาแสงอบอุ่นสู่ชีวิตเขา ประกายแห่งรักและซาบซึ้งฉายอยู่ในนั้น โดยที่เจ้าหล่อนยิ้มรับความรู้สึกนั้นมาใส่ใจ
................................
มือบางค่อยรูดเปิดผ้าม่านผืนใหญ่ยาวจากเพดานจรดพื้นซึ่งอำพรางกระจกใสไว้ เผยให้เห็นบรรยากาศยามค่ำคืนภายนอกห้องนอน เธอลอบยิ้มขันเมื่อเห็นคนรักถูกนายแพทย์ริชาร์ดขอให้สาธิตการเล่นกลองพื้นเมือง เครื่องดนตรีที่ท่านซื้อมาจากร้านขายของที่ระลึกในเมือง เหนือขึ้นไปบนฟากฟ้า พระจันทร์ข้างขึ้นลอยเด่นเมื่อใกล้ถึงคืนเดือนเพ็ญเต็มที
ดูคาชาลสิคะแม่ ทำหน้าพิลึกล่ะ เขาคงแปลกใจที่ด็อกเตอร์สนใจเครื่องดนตรีนี้จริงจัง เธอหันไปคุยกับมารดาซึ่งนั่งจัดเสื้อผ้าบนเตียง เขาบอกลิลลี่ว่าเขาซื้อเครื่องแก้ว เครื่องสังคโลก แล้วก็พรมทอมือไว้ให้แม่ ลูกก็ทำเฉยๆ เสีย แม่อยากได้ผ้าคาดเอวเหมือนที่อัมมาให้ลิลลี่เป็นที่ระลึกมากกว่าใช่ไหมคะ
ถ้าเขาอุตส่าห์เตรียมไว้ให้ แม่ก็ไม่ขัด แต่ต่อไปลิลลี่บอกเขาว่าไม่ต้องจัดหาอะไรให้แม่เป็นพิเศษแล้วนะลูก เพราะถึงจะเป็นของมีค่ามีราคาแค่ไหนก็ทดแทนลูกแม่ไม่ได้ นอกจากความสุขของลิลลี่เท่านั้น
ลลิลดาคลานขึ้นเตียง สวมกอดเอวมารดาอย่างแสนรัก
ลิลลี่อยากให้แม่อยู่ที่นี่ตลอดไป
ฮื้อ ขอด็อกเตอร์สิ ถ้าเขาเต็มใจแม่ก็จะอยู่ล่ะ
บุตรสาวรีบสั่นศีรษะ เธอจะให้ท่านทิ้งคนรักที่ดีต่อท่านได้อย่างไร
ถ้าอย่างนั้นรอด็อกเตอร์เกษียณเมื่อไรแล้วแม่กับด็อกเตอร์ต้องย้ายมาอยู่ด้วยกันกับลิลลี่ที่นี่นะคะ
เธอคิดภาพครอบครัวใหญ่อันอบอุ่น เมื่อผู้มีพระคุณทั้งสองมาอยู่ด้วย บ้านหลังนี้ก็เหมือนเล็กลง ไม่อ้างว้าง ห่างเหินกันระหว่างสมาชิกในบ้านดังเคย แม้กระทั่งต่อไปภายภาคหน้าก็อาจมีเสียงหัวเราะหรือร้องไห้กระจองอแงของเด็กๆ คลายความเงียบเหงา คิดมาถึงตรงนี้ หัวอกลลิลดาก็วูบไหวประหลาด หัวตาผะผ่าวขึ้นมา
ตื่นเต้นหรือลูก
มือเหี่ยวย่นบีบมือลูกสาวอย่างให้กำลังใจเมื่อสังเกตเห็นดวงตาคู่งามแดงระเรื่อ
อย่างนั้นมังคะ
อนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่มีอะไรแน่นอน ลิลลี่อย่าเพิ่งกังวลไปก่อน เพราะเมื่อเกิดความไม่มั่นใจแล้ว ชีวิตคู่ก็พลอยสั่นคลอนง่ายๆ เรณูโอบกอดร่างบางพลางเอ่ยสืบไป กับพ่อของลูก มันเป็นความรักกับความหลง แม่จึงหูตามัว ไม่เชื่อคำเตือนคนอื่นว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่กับด็อกเตอร์ริชาร์ด แกไม่มีอะไรน่ารักสักอย่างนะลูก แล้วยังเป็นคนต่างชาติต่างภาษา แม่เองก็กังวลไปมากมายตอนตัดสินใจคบหากับแก แต่ก็พยายามปรับตัว ปรับใจ ด็อกเตอร์เขาก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน เราถึงอยู่ด้วยกันมาจนทุกวันนี้
แม่เล่าให้ฟังเพราะอยากให้ลิลลี่รู้ว่าเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ไม่อาจกีดกั้นความรักได้ ถ้าเรารู้จักปรับตัวเข้าหากัน หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน ไม่ยึดเอาตัวเองเป็นใหญ่นะลูก
ค่ะแม่ ลิลลี่มีตัวอย่างที่ดีที่สุดแล้ว จากแม่ไงคะ
เธอซบหน้ากับต้นแขนมารดา คำสอนของแม่คือพรอันประเสริฐที่ลลิลดาต้องใช้ประคองชีวิตคู่ไปอีกนานแสนนาน
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ค. 55 11:34:52
|
|
|
|