Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปสวรรค์ ทัณฑ์ซาตาน บทที่ 2 ภาพฝัน ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 ปีกสีขาว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12290771/W12290771.html

บทที่ 2 ภาพฝัน

เสียงเพลงของวงดนตรียอดนิยมดังกระหึ่มมาจากลำโพงรถยนต์สร้างความเพลิดเพลินต่อเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะหลังจนเขาเผลอตัวร้องตามด้วยความสนุกสนาน ท่าทางที่เต็มไปด้วยความสุขทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต้องหันมามองและยิ้มด้วยความเอ็นดู

“ดูเหมือนลูกของเราจะสนุกมากเลยนะคะ”

เสียงผู้หญิงพูดขึ้น สามีซึ่งขับรถอยู่เลื่อนสายตาขึ้นมองบุตรชายผ่านกระจกหลังหัวเราะเบาๆ

“แหงล่ะ ก็พวกเราไม่ได้มาเที่ยวกันทั้งครอบครัวแบบนี้ตั้งนานแล้วนี่นา” เขาหมุนพวงมาลัยเพื่อบังคับรถให้เลี้ยวไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา ภรรยาจึงหันไปมองทะเลที่อยู่ด้านหนึ่งของถนน

“จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็ตอนที่มาโกโตะอายุได้สิบขวบ” เธอระบายลมหายใจอกมาค่อนข้างยาว”ตอนแรกฉันนึกว่าเขาจะห่วงเพื่อนจนไม่อยากมากับพวกเรา แต่ที่ไหนได้แค่บอกคำเดียวเท่านั้นว่าจะไปเที่ยวทะเลมาโกโตะก็วิ่งขึ้นไปจัดกระเป๋ารอไว้เลย”

“ลูกคงอยากเที่ยวมานานแล้ว” ฝ่ายสามีพูดพลางมองหันไปมองบุตรชาย”ใช่ไหมมาโกโตะ”

“มองถนนครับพ่อ”เด็กหนุ่มเตือนอย่างอารมณ์ดี ผู้เป็นพ่อยิ้มกว้างและหันกลับไปมองถนนตรงหน้าอีกครั้ง ขณะที่เขากำลังชะลอความเร็วของรถเพื่อเตรียมตัวจะเข้าโค้งเสียงภรรยาก็ร้องอุทานขึ้น เมื่อมาโกโตะเงยหน้ามองสิ่งที่เห็นก็คือรถบรรทุกคันใหญ่กำลังวิ่งตรงเข้ามาหา เสียงล้อรถครูดไปบนถนนดังบาดหู กลิ่นเหม็นของยางไหม้ลอยมากระทบจมูกจากนั้นร่างของเขาก็ถูกเหวี่ยงไปมาตามแรงปะทะ เสียงเบรก เสียงตะโกนด้วยความตกใจของพ่อและแม่ที่ร้องเรียกหาลูกชายด้วยความเป็นห่วงดังลั่นจนฟังไม่ได้ศัพท์ สิ่งสุดท้ายที่มาโกโตะรับรู้ได้ก็คือรถของเขาหมุนคว้างลงจากถนนลงไปสงบแน่นิ่งอยู่บนหาดทรายด้านล่างและภาพใบหน้าแหลกเละของมารดาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า กลิ่นคาวจัดจากเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากบาดแผลแดงฉานทำให้เด็กหนุ่มต้องร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว

“แม่!”

มาโกโตะผวาเฮือกทั้งตัวและลืมตาตื่นขึ้น ภาพเพดานห้องทำให้เขาต้องมองด้วยความงุนงง หลังจากรวบรวมสติได้แล้วเด็กหนุ่มจึงนึกขึ้นได้ว่าเวลานี้ตัวเองกำลังอยู่ในบ้าน เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าพร้อมกับระบายลมหายใจออกมา

“ฝันหรอกเหรอ”

เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งพลางสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเหมือนต้องการขับไล่ความเจ็บปวดของภาพในอดีตให้หมดไป เมื่อความเศร้าลดลงเขาจึงเลื่อนสายตาไปมองอาคันตุกะลึกลับที่ยังนอนหลับสนิทบนเก้าอี้ด้านตรงข้าม มาโกโตะต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นแสงสว่างเรืองรองแผ่ออกมาจากตัวของเขา แม้จะรู้สึกตกใจอยู่บ้างแต่ความอบอุ่นของมันทำให้เด็กหนุ่มบังเกิดความสบายใจขึ้นอย่างประหลาด เขาลุกขึ้นและเดินไปหยุดยืนข้างราฟาเอล

“แสงกับปีกสีขาว หรือว่าหมอนี่เป็นเทวดา” เขามองผู้ที่กำลังหลับไหลอย่างพิจารณา แม้จะอยู่ในสภาพมอมแมมแต่ก็ไม่อาจบดบังความผ่องของผิวกายเอาไว้ได้ เรือนผมสีทองยาวสยายประบ่ารับกับใบหน้างดงาม ยิ่งเมื่อได้มองเรียวปากสีชมพูอ่อนได้รูปด้วยแล้วหัวใจของมาโกโตะถึงกับเต้นรัวราวกับกลอง เขารีบสะบัดหัวเพื่อไล่ความคิดพิสดารที่ผุดขึ้นมา

“นี่เราคิดบ้าอะไรเนี่ย”

เขาพึมพำกับตัวเองด้วยความเจ็บใจและรีบแกล้งทำเป็นหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งไว้บนโทรทัศน์ เด็กหนุ่มเลิกคิ้วสูงเมื่อพบว่ามันเป็นเวลาทุ่มครึ่งแล้ว

“เราเผลอหลับไปนานขนาดนั้นเชียว” เขาลูบท้องที่กำลังส่งเสียงร้องโครกคราก”มิน่าถึงได้หิวขนาดนี้”

มาโกโตะเดินไปเปิดตู้เย็นซึ่งก็พบว่ามีแค่นมเพียงขวดเดียว หลังจากยืนลังเลว่าจะออกไปซื้อข้าวกล่องที่ร้านสะดวกซื้อดีหรือไม่นั้นเด็กหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังพอมีบะหมี่ถ้วยเหลืออยู่บ้าง คิดได้แล้วเขาจึงต้มน้ำร้อนและเทใส่บะหมี่ เมื่อรอจนได้ที่เด็กหนุ่มจึงเดินไปนั่งเก้าอี้จากนั้นจึงเริ่มลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อย แต่กินไปได้เพียงครึ่งถ้วยเท่านั้นเขาก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงขยับตัว มาโกโตะรีบวางถ้วยบะหมี่และเดินเข้าไปดูราฟาเอลอย่างกึ่งกล้ากึ่งกลัว เมื่อเห็นอีกฝ่ายลืมตาขึ้นเขาถึงพูด

“รู้สึกตัวแล้วเหรอ”

อีกฝ่ายทำหน้างุนงงแต่ผงกศีรษะรับ มือเลื่อนไปแตะแผลบนลำตัว คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเมื่อพบว่ามันถูกผ้าพันเอาไว้อย่างเรียบร้อย

“เจ้าทำแผลให้ข้า”

เสียงเอ่ยถามไม่ดังนัก มาโกโตะพยักหน้ารับแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อ ราฟาเอลจึงลุกขึ้นนั่งพลางกวาดตามองรอบตัว

“ที่นี่ที่ไหน”

“บ้านฉันเอง” เด็กหนุ่มตอบอีกฝ่ายทำหน้าฉงน

“ตอนนั้นข้าตั้งสมาธิให้ตกลงมายังที่ปลอดภัย ทำไมถึงกลายเป็นบ้านเจ้า” ดวงตาสีฟ้ามองมาโกโตะนิ่งราวกับต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง ในที่สุดเทวดารูปงามจึงพยักหน้า

“ถึงจะถูกปกคลุมด้วยความเศร้า แต่วิญญาณของเจ้าก็บริสุทธิ์”

“หมายความว่ายังไง” มาโกโตะถามสวนขึ้นมาและจ้องผู้อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ” ตกลงนายเป็นใครมาจากไหนและเข้ามาอยู่ในบ้านฉันได้ยังไง”

“ข้าชื่อราฟาเอล เป็นผู้นำทัพสวรรค์ ระหว่างที่พวกเรากำลังทำสงครามกับกองทัพปิศาจข้าถูกลูซิเฟอร์ทำร้ายจนร่วงลงจากท้องฟ้า ส่วนเรื่องที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเจ้าคงเพราะมันเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในตอนนั้น”

มาโกโตะนั่งอ้าปากค้างและมองผู้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความคาดไม่ถึง แม้เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่คนที่อ้างว่าตนเองชื่อราฟาเอลเล่าแต่ปีกสีขาวที่อยู่กลางหลังเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าคนผู้นี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน หลังจากนั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออกอยู่ชั่วอึดใจเด็กหนุ่มก็หลุดคำพูดออกมา

“นายเป็นเทวดา”

“ใช่”

ราฟาเอลตอบสั้นๆ มาโกโตะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้และยกมือขึ้นกุมศีรษะ

“แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้”

เขาพึมพำพลางมองเทวดาหนุ่มลอดผ่านมือตนเองและหวนนึกถึงสิ่งที่พ่อแม่เคยเล่าให้ฟังเมื่อนตอนยังเป็นเด็ก ทั้งเรื่องเทวดาปราบมังกรหรือปิศาจร้าย เมื่อเติบโตขึ้นแม้เขาจะยังสนุกกับเรื่องพวกนี้อยู่แต่มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าเพื่อให้มนุษย์กระทำความดี แต่ไม่คิดเลยสิ่งเหล่านี้จะมีจริง ดูเหมือนราฟาเอลจะอ่านความคิดของมาโกโตะออก เขาอมยิ้ม  

“มนุษย์มักจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่ตนเห็นหรือสัมผัสได้เท่านั้น ถึงจะมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับพวกข้ามากมาย มันก็เป็นแค่สิ่งมหัศจรรย์เท่านั้น มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าเทวดามีจริง”

เด็กหนุ่มอึ้งไปอีกครั้งแต่ในที่สุดเขาก็พยักหน้าและลดมือลง

“ก็ได้ฉันเชื่อว่านายเป็นเทวดา” คำพูดหยุดชะงักเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้”เดี๋ยวเมื่อกี้นายบอกว่าถูกลูซิเฟอร์ทำร้ายจนตกลงมาจากสวรรค์ แล้วฉันจะทำยังไงถ้าหมอนั่นตามมาถึงที่นี่”

“เขาไม่รู้” ราฟาเอลตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบพลางยกมือขึ้นกุมบาดแผลและนิ่วหน้า เมื่อเห็นมาโกโตะยังมีท่าทางไม่สบายใจเขาจึงอธิบาย”ข้าปกปิดพลังของตัวเองเอาไว้แล้ว ต่อให้ค้นหายังไงก็ไม่มีทางเจอ”

“แล้วปีกนั่นล่ะ”มาโกโตะแย้งพลางชี้มือไปยังปีกสีขาวขนาดใหญ่ “ไม่ต้องถึงลูซิเฟอร์หรอกแค่คนธรรมดาเห็นเข้ามีหวังได้จับนายไปออกรายการทีวีแน่”

ราฟาเอลไม่พูดอะไรแต่กลับหลับตาลง มาโกโตะต้องอ้าปากค้างครั้งเมื่อเห็นปีกสีขาวค่อยๆเลือนหายไป

“แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว” ราฟาเอลพูด เด็กหนุ่มมองหน้าเขาและลุกพรวดขึ้น

“เดี๋ยว ที่พูดแบบนี้อย่าบอกนะว่านายคิดจะสิงอยู่ที่บ้านของฉัน”

เด็กหนุ่มถามเสียงลั่น อีกฝ่ายมองด้วยความแปลกใจ

“ตอนนี้ข้าอ่อนแอมาก พลังที่มีอยู่ตอนนี้ก็ใช้ไปกับการสร้างอาณาเขตและลบปีกออกจากสายตาของมนุษย์จนหมด ความจริงก็ไม่อยากจะรบกวนเจ้านักหรอกแต่ขืนออกไปตอนนี้ลูซิเฟอร์ต้องเจอข้าแน่”

“แต่...”มาโกโตะทำท่าจะแย้งแต่คำพูดทั้งหมดกลับถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อดวงตาสีฟ้าแสนสวยมองกลับมาเป็นเชิงอ้อนวอน แม้จะไม่ใช่คำพูดแต่มันก็ทำให้เด็กหนุ่มจำต้องถอนหายใจและพูดออกมาเบาๆ

“ก็ได้ แต่พอหายแล้วนายต้องไปจากที่นี่ทันที”

“เราให้สัญญา” ราฟาเอลพูดด้วยท่าทางเนื่อยอ่อนและทำท่าเหมือนจะเอนตัวลงนอนอีกครั้ง มาโกโตะร้องห้าม

“เดี๋ยว นายจะนอนตรงนี้ไม่ได้”

“ทำไม”

“ก็” เด็กหนุ่มพยายามนึกอยากจะบอกว่าคงไม่เข้าท่าแน่ๆถ้าเกิดเพื่อนซักคนแวะมาที่บ้าน ความจริงก็ไม่จำเป็นต้องวิตกนักถ้าหากเทวดาผู้นี้มีหน้าตาเหมือนคนธรรมดา แต่เพราะความงดงามยิ่งกว่าผู้หญิงอาจทำให้เจ้าพวกนั้นใจผิดคิดว่าเขาพาสาวมานอนด้วย ต่อให้อธิบายยังไงก็คงไม่มีใครเชื่อว่าหมอนี่เป็นผู้ชายแน่

อีกครั้งที่ราฟาเอลอ่านความคิดของมาโกโตะได้ เขาผงกศีรษะอย่างเข้าใจพร้อมกับถาม

“งั้นเจ้าจะให้ข้าไปอยู่ที่ไหน”

เด็กหนุ่มนิ่งคิด ความจริงห้องพ่อกับแม่ยังว่างอยู่แต่เขาไม่อยากให้ใครเข้าไปวุ่นวายเท่าไหร่นักต่อให้เป็นเทวดาก็เถอะ ส่วนจะให้เข้าไปนอนในห้องของตัวเองเขาก็ยอมรับว่ากลัว แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ากลัวอะไร แต่หลังจากคิดทบทวนอยู่สองสามครั้งสุดท้ายมาโกโตะก็จำต้องตัดใจ

“ขึ้นไปนอนที่ห้องฉัน”

ราฟาเอลลุกขืนขึ้นแต่ความอ่อนแรงทำให้เขาซวนเซจนเกือบจะล้ม ดีที่มาโกโตะคว้าเอาไว้ทัน

“เกาะไหล่ฉันเอาไว้”

เด็กหนุ่มพูด อีกฝ่ายยอมทำตามแต่โดยดี มาโกโตะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะแทนที่จะหนักอึ้งเมือนคนทั่วไปแต่ร่างกายของราฟาเอลกลับเบาจนแทบไม่รู้สึก หนำซ้ำเขากลับไม่ได้กลิ่นคาวของเลือดจากบาดแผลเลยสักนิด นอกจากกลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาจากตัวของราฟาเอล ตลอดทั่วทั้งร่างนั้นก็อบอุ่นน่าสัมผัสผิดจากที่เขาคิดเอาไว้ เป็นครั้งที่สองที่หัวใจของมาโกโตะเต้นรัวราว
กลับกลอง เขารีบสะบัดหัวเพื่อขับไล่ความรู้สึกประหลาดที่ผุดขึ้นมาในความคิดและประคองร่างของเทวดาหนุ่มไปจนถึงเตียง

“ฉันอนุญาตแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้นนะ” เด็กหนุ่มพูดหลังจากราฟาเอลเอนตัวลงนอนเรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายส่งรอยยิ้มแสนอ่อนโยนกลับมา

“ขอบใจเจ้ามาก”

ดวงตาหรี่ปรือและปิดเปลือกลง มาโกโตะคลี่ผ้าห่มคลุมให้เทวดาหนุ่มและยืนมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคว้าหมอนกับผ้าห่มอีกฝืนเดินกลับลงไปยังชั้นล่างและทิ้งตัวลงนอนบนเก้าอี้นวมตัวยาวจากนั้นจึงหลับสนิทลงอย่างรวดเร็ว

*/*/*/*/*

เสียงนกที่กำลังแข่งกันขับขานเพลงดังระงมมาจากสวนหลังบ้านทำให้มาโกโตะจำต้องลืมตาขึ้น เขาอ้าปากหาวและขยี้ตาด้วยความงุนงงพลางบ่นพึมพำ

“หนวกหูเป็นบ้า”

เด็กหนุ่มมองเพดานแลพขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจที่พบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้นวมในห้องรับแขก หลังจากคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงนึกขึ้นได้ว่าได้สละเตียงแสนสบายของตัวเองให้กับอาคันตุกะที่เป็นเทวดา เมื่อนึกถึงตอนนี้เด็กหนุ่มจึงลุกพรวดขึ้นและเงยหน้าขึ้นมองชั้นสองอย่างกังวล

“หมอนั่นเป็นยังไงบ้างนะ”

เขาเตรียมจะเดินไปที่บันไดแต่ต้องหยุดเมื่อเห็นเงาของใครบางคนในสวน มาโกโตะจึงไปดูด้วยความสงสัยและเบิกตากว้างเมื่อเห็นราฟาเอลกำลังยืนอยู่บนสนามหญ้าท่ามกลางนกนับสิบตัว เด็กหนุ่มขยับปากเพื่อร้องเรียกแต่ภาพนกตัวน้อยที่กำลังส่งเสียงเซ็งแซ่ราวกับนักร้องประสานเสียงขณะกระโดดไปมาตามแขนและไหล่ของเทวดาหนุ่มท่ามกลางแสงตะวันยามรุ่งอรุณทั้งไพเราะงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ทำให้เขาถึงกับตกตะลึงพูดอะไรไม่ออก มาโกโตะยืนมองร่างที่มีเพียงกางเกงเนื้อบางเบานิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงนึกขึ้นได้ เขาตะโกนลั่น

“นายออกมาอย่างนี้ไม่ได้นะ”

ไม่พูดเปล่ามาโกโตะยังกระโดดลงไปลากราฟาเอลกลับเข้าในบ้านและปิดประตูลงกลอนทันที อีกฝ่ายมองอย่างงุนงง

“ทำไม”

เด็กหนุ่มแทบอยากจะชกคนตรงหน้าสักหมัดแต่พอเห็นหน้าแสนสวยกับดวงตาสีฟ้าใสแล้วเขาจึงทำได้แต่เพียงพ่นลมหายใจออกมา

“นายจะออกไปยืนข้างนอกก็ได้แต่ต้องใส่เสื้อผ้าให้มันเรียบร้อยกว่านี้”เขาชี้ไปที่กางเกงซึ่งบางเบาจนแทบจะเห็นผิวเนื้อด้านใน”แต่งตัวแบบนี้ออกไปยืนหลังบ้านใครเห็นมีหวังได้เข้าใจผิดกันยกใหญ่แน่”

“เจ้าถอดเสื้อข้าไปตั้งแต่เมื่อคืน อีกอย่างนี่เป็นร่างของผู้ชาย ทำไมต้องกลัวเข้าใจผิด”

“ก็เพราะนายเป็นผู้ชายน่ะสิฉันถึงได้กลัว”มาโกโตะสวนคำเสียงลั่นและยกมือขึ้นเกาศีรษะอย่างหงุดหงิด”ให้ตายเถอะจะเป็นเทวดาหรืออะไรก็ช่าง อย่าสร้างเรื่องยุ่งให้ฉันได้ไหม”

“งั้นเจ้าจะให้ข้าทำยังไง” ราฟาเอลถาม มาโกโตะทำท่านึกและชี้มือไปที่เก้าอี้

“นั่งลง”

ราฟาเอลนั่งลงอย่างว่าง่าย เด็กหนุ่มจึงแกะผ้าพันแผลของเขาออกและขมวดคิ้วด้วยความ
แปลกใจเมื่อพบว่ามันประสานตัวกันจนเกือบจะเป็นปรกติ

“แผลนายหายเร็วอย่างนี้เลยเหรอ”

มาโกโตะหลุดปากถาม ราฟาเอลสั่นศีรษะ

“แค่ภายนอกเท่านั้นและที่หายก็เฉพาะบนร่างกาย”ปีกสีขาวปรากฏขึ้นทางด้านหลัง เขาขยับมันอย่างระวัง”อย่างที่เห็น ปีกของข้ายังหักเหมือนเดิม”

เด็กหนุ่มมองปีกข้างที่หักพับผิดรูปอย่างสงสัย

“ทำไมล่ะ”

“ปีกของข้าจะหายเป็นปรกติได้หรือไม่นั้นขึ้นกับพลังและความศรัทธา” ราฟาเอลตอบ
มาโกโตะนิ่วหน้า

“ฉันไม่เข้าใจ”

“ปีกคือพลังของเทวดา”เทวดาหนุ่มตอบสั้นๆและนั่งนิ่งไม่พูดอะไรต่อจากนั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง มาโกโตะจึงยักไหล่

“งั้นก็ช่างเถอะ แต่ไม่ว่านายจะเป็นอะไรเมื่อมาอยู่บนโลกก็ต้องทำตัวอย่างมนุษย์ อย่างแรกก็คือต้องไปอาบน้ำและหาเสื้อผ้าใส่ซะ”

“แต่ข้า...”ราฟาเอลทำท่าจะแย้ง มาโกโตะจึงยื่นหน้าเข้าไปจนเกือบชิดและพูดด้วยน้ำเสียงเชิงบังคับ

“ไปอาบเดี๋ยวนี้”

มือชี้ขึ้นไปยังชั้นบน ราฟาเอลจึงจำต้องเดินไปที่บันได มาโกโตะมองตามจนอีกฝ่ายหายเข้าไปในห้องจึงทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนใจเพราะจากที่เทวดาหนุ่มพูดเมื่อครู่แสดงว่าเขายังอยู่ในสภาพที่ไปไหนไม่ได้และคงต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้อีกระยะหนึ่ง คิดถึงตรงนี้แล้วเด็กหนุ่มถึงกับบ่นพึมพำ

“มีเทวดามาอยู่ในบ้านเนี่ยนะ ขืนให้คนอื่นรู้มีหวังได้เกิดเรื่องวุ่นแน่”

เขาเกาศีรษะเพราะคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไประหว่างยอมให้ราฟาเอลอยู่ต่อหรือไล่ออกจากบ้าน ขณะที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนักอยู่นั้นเด็กหนุ่มก็ชะงักคล้ายกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“เดี๋ยว หมอนั่นใช้ห้องน้ำเป็นเหรอ”

เร็วเท่าความคิดมาโกโตะรีบกระโจนพรวดขึ้นไปบนชั้นสองทันทีและพบว่าประตูห้องน้ำยังเปิดอยู่ เขารีบเปิดเข้าไปดูจึงพบว่าราฟาเอลกำลังยืนมองฝักบัวอาบน้ำอย่างงุนงง เมื่อเห็นมาโกโตะเข้ามาเขาจึงเอ่ยถาม

“เจ้าเก็บน้ำไว้ที่ไหน”

เด็กหนุ่มอ้าปากจะตอบแต่ต้องหยุดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า
มาโกโตะหน้าแดงจัดด้วยความอายและตกใจ เขารีบคว้าผ้าขนหนูที่แขวนไว้บนราวโยนส่งให้
ราฟาเอลทันที

“พันไว้แบบนี้” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับทำมือประกอบเมื่อเห็นสีหน้าของราฟาเอล เขาพยักหน้าและทำตาม

“เจ้าบอกให้ข้ามาอาบน้ำแต่ไม่เห็นมีน้ำสักหยด”

เทวดาหนุ่มพูดหลังจากใช้ผ้าขนหนูพันร่างกายท่อนล่างเรียบร้อยแล้ว มาโกโตะจึงเปิดฝักบัวส่วนปากก็อธิบาย

“ถ้านายจะอาบน้ำเฉยๆก็เข้าไปยืนในอ่างแล้วเปิดตรงนี้” เขาชี้นิ้วไปยังที่หมุน”อันนี้น้ำร้อน ส่วนอันนี้น้ำเย็นจำเอาไว้ให้ดีถ้าไม่อยากโดนลวก แต่ถ้านายนึกอยากจะนอนแช่น้ำก็ปิดจุกนี่ซะแล้วเปิดน้ำให้เต็ม ตักอาบให้สะอาดก่อนจากนั้นจะนอนแช่ยังไงก็ตามสบาย”

“ยุ่งยากจริง” ราฟาเอลบ่นพลางชี้ไปที่โถชักโครก “แล้วนั่นมีไว้ทำอะไร”

“นั่นน่ะเขาเรียกว่าชักโครกมีไว้สำหรับขับถ่าย”มาโกโตะตอบและหรี่ตาลงเล็กน้อย”แต่ฉันคิดว่าเทวดาคงไม่ต้องใช้ของแบบนี้”

ราฟาเอลไม่ตอบแต่กลับดึงผ้าออกจากตัวและก้าวเข้าไปในอ่าง มาโกโตะรีบยกมือขึ้นปิดหน้าและโวยลั่น

“ทำบ้าอะไรน่ะ”

“อาบน้ำ เจ้าบอกข้าเองไม่ใช่เหรอ”

“ก็ใช่แต่รอให้ฉันออกไปก่อนไม่ได้หรือไง” เด็กหนุ่มตอบเสียงห้วนพร้อมกับก้าวออกจากห้องน้ำ เสียงซ่าของน้ำที่ดังมาจากภายในทำให้เขาต้องถอนใจออกมา

“ตกลงหมอนั่นไม่รู้หรือแกล้งโง่กันแน่” เขาโขกหัวกับประตูสองสามครั้งก่อนเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบออกมาพิจารณาทีละตัว เพราะแม้จะมีขนาดรูปร่างใกล้เคียงกันแต่ราฟาเอลสูงกว่าเล็กน้อย หลังจากเลือกไปมาอยู่สามสี่ตัวเด็กหนุ่มจึงตัดสินใจหยิบกางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตแขนยาวไปวางไว้บนเตียง

“หวังว่าเจ้านั่นจะใส่ได้นะ”

เขาพูดกับตัวเองเบาๆเป็นจังหวะเดียวกับที่ราฟาเอลเปิดประตูก้าวออกจากห้องน้ำ มาโกโตะชำเลืองมองเขาด้วยหางตาและถอนใจด้วยความโล่งอกเมื่ออีกฝ่ายนุ่งผ้าขนหนูเรียบร้อย

“ใส่นี่ก่อน”

เด็กหนุ่มโยนม้วนผ้าสีขาวส่งให้ ราฟาเอลรับไปคลี่ดูแล้วมองด้วยความสงสัย

“อะไรน่ะ”

“นายไม่รู้จักกางเกงในเรอะ”มาโกโตะย้อนถามพลางเดินเข้าไปดึงของในมือเทวดาและขยับให้ถูกทาง”ต้องเอาด้านนี้ไว้ข้างหน้า และนายต้องใส่มันก่อนทุกครั้งที่แต่งตัว อ้อไม่ต้องกลัวตัวนี้ฉันเพิ่งซื้อมายังไม่ได้ซักเลยด้วยซ้ำ”

ราฟาเอลพยักหน้าเหมือนเข้าใจและเตรียมจะดึงผ้าขนหนูออกเด็กหนุ่มเห็นดังนั้นจึงร้องห้ามด้วยความตกใจ

“นั่นนายจะทำอะไร!”

“ใส่กางเกง”

“รู้แล้วแต่ช่วยรอให้ฉันออกจากห้องก่อนได้หรือเปล่า”มาโกโตะพูดพร้อมกับหันหน้าหนี ใบหน้าแดงก่ำของเขาทำให้อีกฝ่ายมองด้วยความแปลกใจ

“ไม่เห็นต้องอายเลย ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ”

“ก็เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันน่ะสิฉันถึงไม่อยากดู” พูดจบมาโกโตะก็ก้าวออกจากห้องและปิดประตูดังลั่น เมื่อแน่ใจว่าไม่ต้องเห็นภาพอะไรบาดตาแล้วเขาจึงถอนใจเฮือก

“นี่ฉันจะต้องอยู่กับเจ้าเทวดานี่ไปอีกกี่วันเนี่ย” เขาบ่นอย่างหัวเสียและเงี่ยหูฟังเสียงเคลื่อนไหวภายในห้อง เมื่อเห็นว่าด้านในเงียบผิดปรกติเขาจึงตะโกนถาม”แต่งตัวเสร็จแล้วหรือยัง”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อไม่มีเสียงราฟาเอลตอบกลับมา เขาจึงแตะลูกบิดประตูพร้อมกับร้องบอก”เฮ้ ฉันจะเข้าไปล่ะนะ”

เมื่อเข้าไปในห้องมาโกโตะต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นราฟาเอลในสภาพนุ่งกางเกงในตัวเดียวกำลังยืนหันรีหันขวางเหมือนทำอะไรไม่ถูกอยู่กลางห้องโดยมีกางเกงยีนส์ที่เขาวางไว้ให้อยู่ในมือ

“ทำไมถึงยังไม่แต่งตัว” เขาถามเสียงลั่นพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปอีกด้าน ราฟาเอลมองสิ่งที่ถืออยู่ในมือ

“ข้าใส่กางเกงนี่ไม่เป็น”

“ว่าไงนะ”คราวนี้มาโกโตะถามเสียงหลง”ตอนอยู่บนสวรรค์พวกนายใส่อะไร”

“ถ้าไม่ใช่เวลาออกรบ เราจะใส่ชุดกรอมเท้าที่ทำจากผ้าเนื้อดี”เทวดาหนุ่มตอบ”แต่กางเกงตัวนี้ทั้งหนาและหนักแถมมีโลหะหน้าตาประหลาดอยู่ตรงกลางด้วย”

“นั่นเขาเรียกว่าซิป” มาโกโตะตอบพลางคว้างกางเกงจากมือราฟาเอลและหมุนให้ถูกด้านและยื่นส่งกลับไปให้”เอ้าใส่ขาลงไปทีละข้างแล้วดึงขึ้นจากนั้นก็จับห่วงสีหลืองนั่นรูดขึ้นมา ระวังด้วยล่ะ ถ้าเกิดมันโดนไอ้นั่นของนายล่ะต่อให้เป็นเทวดาก็เถอะได้ร้องบ้านแตกแน่”

เด็กหนุ่มเตือนเมื่อเห็นอีกฝ่ายดึงซิปค่อนข้างเร็ว ราฟาเอลพยักหน้าพลางกลัดกระดุมกางเกงและหันไปหยิบเสื้อมาสวม มาโกโตะมองอย่างพอใจ

“โชคดีที่ฉันซื้อกางเกงมาผิดขนาด นายเลยใส่ได้พอดี แต่จะให้นุ่งตัวเดียวตลอดเวลาคงไม่ได้ เอาอย่างงี้วันนี้เรา...”

เด็กหนุ่มชะงักคำพูดและหันไปมองนาฬิกา เขาเบิกตากว้างเมื่อพบว่ามันเป็นเวลาแปดโมงเช้าพอดี

“วันนี้ฉันต้องไปโรงเรียนนี่หว่า” พูดจบเด็กหนุ่มก็กระโจนพรวดเข้าห้องน้ำและกลับออกมาเปลี่ยนชุดนักเรียนอย่างรวดเร็ว”เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับนายฉันเลยสาย งานนี้มีหวังโดนมาคามูระเล่นงานแน่”

พูดไปแต่งตัวไปจนเสร็จเรียบร้อย หลังจากหยิบหนังสือยัดลงกระเป๋าแล้วมาโกโตะทำท่าจะวิ่งออกจากห้องแต่ต้องหยุดเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันมาที่ราฟาเอลพร้อมกับสั่ง

“ระหว่างที่ฉันไม่อยู่ห้ามนายออกไปข้างนอก ในสวนหลังบ้านก็ไม่ได้ ห้ามร้องเพลง ห้ามรับโทรศํพท์ห้ามเปิดประตูรับคนเข้าบ้านไม่ว่าเขาจะอ้างเหตุผลอะไร ห้ามทำกับข้าว ห้ามเปิดโทรทัศน์”

เด็กหนุ่มหยุดนิ่งไปเล็กน้อย

“เอาเป็นว่าให้นายอยู่แต่ในห้องห้ามออกไปไหนทั้งนั้นเข้าใจไหม”

“ตกลง” ราฟาเอลรับปากสั้นๆ มาโกโตะหรี่ตาเหมือนไม่ไว้ใจ

“แน่ใจนะ”

อีกฝ่ายผงกศีรษะรับ เด็กหนุ่มจึงก้าวออกจากห้องแต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาบอก

“ตอนเย็นจะซื้อข้าวกล่องมาฝาก”

พูดจบเขาก็วิ่งออกจากบ้าน ฝ่ายราฟาเอลเมื่อมาโกโตะออกไปแล้วเขาก็หย่อนตัวนั่งบนเตียงอย่างครุ่นคิดขณะที่มือเลื่อนไปแตะรอยแผลบนหน้าอก

“ถึงจะปลอดภัยแต่ข้าคงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนักเพราะมันจะทำให้เจ้าต้องตกอยู่ในอันตราย”

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและจ้องเงาดำที่ไหววูบผ่านหน้าด้วยความกังวล

“ลูซิเฟอร์ต้องเจอตัวข้าไม่ช้าก็เร็ว”

*/*/*/*/*/*

อย่างที่มูนนี่เคยบอกเอาไว้ในตอนแรกว่า นิยายเรื่องนี้ต่างจากที่เขียนมา บทนี้คงพอเดาออกกันแล้วใช่ไหมคะ คือนึกอยากเขียนสนุก แบบไม่เน้นฉากรักหวือหวาอะไรมากนัก สารภาพว่าได้รับอิทธิพลมาจากการ์ตูนYเรื่องหนึ่ง ซึ่งกว่าพระเอกนายเอกจะรักกันได้นี่ ต้องฝ่าฟันอุปสรรคกนน่าดู ชนิดข้ามภพข้ามชาติกันเยทีเดียว

มาคุยกันค่า ^^
ํY คงไม่ใช่มั๊ง เทวทูตไม่มี เพศ นิ
ว่าแต่ คุณ มูนนี่ ขยันจริง อะไรจริง หลายเรื่องเหลือเกินครับ
จากคุณ : zoi  
- บทนี้คงทราบคำตอบแล้วนะคะ แต่อย่างที่คุณ zoi พูด เทวทูตไม่มีเพศนี่นา แบบนี้จะเรียกว่า Y ได้ไง เนอะ
ความจริงไม่ได้ขยันหรอกค่ะ คิดอะไรได้ก็เขียนไปเรื่อย แค่มีคนอ่านแล้วชอบก็ดีใจมากมายแล้ว ขอบคุณมากๆค่ะ


จะอาวภูตครามมมม (โหยหวน)
จากคุณ : POLLUX^.^
- กว่าจะมาตอบก็ลงตอนต่อไปเรียบร้อยแล้ว ประมาณอาทิตย์หน้า จะลงภูตครามบทที่ 7 นะคะ ที่ช้าเพราะต้องชะลอให้ทางสนพ.ด้วยค่ะ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามผลงานของมูนนี่นะคะ
ปิดท้ายวันนี้ด้วยภาพ มาดกโตะกับราฟาเอล

 
 

จากคุณ : Moony_Lupin
เขียนเมื่อ : 6 ก.ค. 55 12:25:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com