ปรียาถือถ้วยกาแฟค้างเมื่อเห็นลูกจ้างหนุ่ม ความหงอยเหงาตลอดทั้งสัปดาห์จางหายไป เมื่อเขามาทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ต่อมาตามที่เธอคาดคะเน
อ้าว มาแล้ว เธอเดินยิ้มกว้างออกมาต้อนรับ กวาดตามองร่างสูงที่แลดูกำยำขึ้นของเด็กหนุ่ม หายเงียบไปเลย กลับมาจากบ้านตั้งแต่วันไหนจ๊ะ
ผมกลับมาตั้งแต่วันจันทร์แล้วครับ เขาเจตนาบอกเวลาคลาดเคลื่อนไปหนึ่งสัปดาห์ ขอโทษครับที่ไม่ได้โทรมาบอก
เขาสุภาพนอบน้อมเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน หญิงสาวแอบคิด หรือด้วยเหตุนี้ละมังเธอจึงติดอกติดใจหนุ่มน้อยคนนี้เป็นพิเศษ
กันต์ธีร์กวาดตามองไปรอบ ๆ ภายในร้านเงียบเหงาเนื่องจากยังเป็นช่วงเวลาก่อนห้างสรรพสินค้าเปิด แต่พนักงานบริการของร้านกลับหายหน้าหายตาไปกันหมด เธอมองตามสายตาเขา
หลังปีใหม่ลูกค้าซาลงไปมาก พี่เลยให้พนักงานส่วนมากเค้าเข้างานรอบบ่ายกัน ในครัวตอนนี้มีแค่พิไล วิทยา กับ สายชล
เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างรับรู้
ครับ งั้นผมขอตัวไปช่วยพวกพี่เค้าก่อนนะครับ
ปรียาอมยิ้มส่งสายตามองลูกจ้างหนุ่มอย่างเอ็นดู
จ้ะ ถ้าได้ยินเสียงโฟนเปิดห้างแล้ว ค่อยออกมา
กันต์ธีร์เดินค่อมตัวผ่านนายจ้างสาวไปอย่างนอบน้อม เธอทอดมองเรือนกายอันกำยำด้านหลังของเขา คิดถึงไออุ่นจากอ้อมกอด กลิ่นหอมของผิวกาย รวมไปถึงรสสัมผัส ท่าทางภายนอกที่แลสุภาพนอบน้อมเช่นนี้หรอกหรือที่สนองตอบอารมณ์ปรารถนาอันเร่าร้อนของเธอได้อย่างอิ่มเอม ห้วงอารมณ์นั้นเธอรู้สึกหวงแหนเขาจับใจ
เสียงพูดคุยเงียบหายทันทีที่เขาย่างเท้าเข้าไป สายตาของทุกคนในครัวเพ่งตรงมายังผู้มาใหม่ราวกับเป็นตัวประหลาด ความเงียบแผ่เข้าปกคลุมบรรยากาศอันแสนอึดอัดนั้นอยู่หลายอึดใจ
เฮ้ย หายไปไหนมาตั้งหลายวันวะ วิทยาได้สติเอ่ยทักขึ้นมาเป็นคนแรก
จากนั้นจึงได้ยินเสียงหัวเราะของสายชลตามมา
เอ่อ นั้นสิ วันหลังอย่าหายไปเกินอาทิตย์นะโว้ย นายไม่อยู่ เจ้านายหงุดหงิดง่ายเป็นบ้า
รอยยิ้มเยื้อนอันแสนประหลาดปรากฏอยู่ที่มุมปากของทั้งคู่ เด็กหนุ่มยืนตัวแข็งรู้สึกด้านชาไปทั้งร่างกาย ก่อนจะทันตั้งสติเบนสายตาไปทางพิไลผู้อาวุโสสุดของกลุ่ม ซึ่งกำลังมองเขาอยู่อย่างไม่เต็มตาเช่นกัน
ไม่เอาน่า ไม่ใช่เรื่องของเรา รีบ ๆ หั่นให้เสร็จแล้วไปหมักเนื้อเร็วเข้า จวนจะได้เวลาเปิดร้านแล้ว เธอบอกผู้ช่วยทั้งสองด้วยท่าทางกระอักกระอวลใจ ก่อนจะหันมองกลับมาที่เด็กหนุ่มอีกครั้ง พยายามปรับสีหน้าและน้ำเสียงให้เป็นปกติธรรมดาเท่าที่จะทำได้
กันต์ไปดูความเรียบร้อยหน้าร้าน เอาจานกับช้อนบนชั้นไปจัดวางบนโต๊ะให้เรียบร้อย ดูพวกขวดซอสเครื่องปรุงซิว่ามีขวดไหนหมด เอาไปเติมให้ครบ เธอสั่งงานแล้วรีบกลอกตาหันมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
กันต์ธีร์ก้มหน้ารับคำด้วยความอึดอัดใจอย่างประหลาด
ฟากฟ้าไร้ดาว จันทราทอแสงโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางระลอกริ้วของปุยเมฆ สายลมเย็นพัดผ่านมาเบา ๆ เขย่ากิ่งใบของต้นสัตยบรรณให้ไหวระริก เผยให้เห็นเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ สองตัวบนท่อนอ้อยโตงเตงอยู่ใต้เงามืด
นริศราเพ่งสายตาสังเกตมองสีเหลืองซีดของอ้อยสองท่อนซึ่งยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยของการดูดกินน้ำหวานเหมือนเช่นทุก ๆ วัน
ความเหงาลึก ๆ แทรกซึมอยู่ในหัวอก
เจ้าสัตว์น้อยสองตัวคงเศร้าซึมจนไม่ยอมกินอาหาร ด้วยรู้ว่าวันนี้เจ้าของเดิมไม่มาเหลียวแล เขาเงียบหายไปตลอดวัน ไม่ใส่ใจแม้แต่จะนำอาหารมาเปลี่ยนให้พวกมัน
เด็กสาวผ่อนลมหายใจยาวขณะก้มลงมองโทรศัพท์มือถือในมือ ครุ่นคิดหาเหตุผลที่เพื่อนหนุ่มต้องปิดโทรศัพท์มือถือตลอดช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
กันต์ธีร์ขับรถช้า ๆ ไปตามถนนยามราตรี แสงจากไฟริมทางส่องวูบวาบเข้ามาในรถเป็นระยะ ๆ สลับกับเสียงครางของยวดยานที่แล่นสวนผ่านไป เขาทอดสายตาเหม่อมองผ่านกระจกรถเบื้องหน้า ความคิดหลายหลากหมุนวนสับสนกันอยู่ภายใน รอยยิ้มเยื้อนที่แสนประหลาดของวิทยากับสายชล ท่าทางกระอักกระอวลใจของพิไลแม่ครัวใหญ่ยามต้องพูดคุยสั่งงานเขา
เป็นไรไปจ๊ะ ทำหน้ายุ่งเชียว
ปรียาเอื้อมมือข้างหนึ่งไปไล้เบา ๆ บนท่อนแขนข้างซ้ายของเด็กหนุ่ม ขณะที่ศีรษะยังพิงอยู่กับพนักพิงของที่นั่งโดยสาร
ว่าไง เธอถามย้ำ มองเขาด้วยประกายตาอ่อนโยน มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า
เด็กหนุ่มนิ่วหน้า
พี่ปิ๋มครับ.. คือ.. ผมว่า... เขาหยุดนิดหนึ่งอย่างลังเล รู้สึกอึดอัดใจเกินกว่าจะบอกออกไปได้ เอ่อ... ผมว่า คนที่ร้านเค้ารู้เรื่องของเรากันนะครับ
ปรียากลั้นหัวเราะ ปล่อยมือจากเขาทอดมองทิวทัศน์นอกกระจกหน้าต่างรถอีกด้าน
รู้ก็รู้ไปสิ จะไปสนทำไม
เขาแอบมองเธอ เสี้ยวหน้าของหญิงสาวยามต้องแสงไฟแลไร้อารมณ์
แต่ถ้าเอามาพูดเล่นกันแบบไม่ให้เกียรติล่ะก็ เจอดีแน่ ความรู้สึกบางอย่างแฝงลึกอยู่ในน้ำเสียงนั้น
ปรียาเป็นนายจ้าง ซึ่งลูกจ้างทุกคนย่อมจะเคารพให้เกียรติ แต่สำหรับลูกจ้างอย่างเขาแล้ว ไม่อยากนึกเลยว่าผู้คนรอบข้างจะมองว่าอย่างไร
ไม่เอาน่า อย่ากังวลไปเลย เธอเอื้อมมือมาไล้ข้างแก้มเด็กหนุ่ม รู้สึกวูบวาบเมื่อผิวแก้มสัมผัสถูกปลายนิ้วอันแสนอ่อนนุ่มของเธอ เชื่อพี่สิ เรื่องแบบนี้ธรรมดาจะตาย
กันต์ธีร์คล้องแม่กุญแจไว้กับประตูรั้วก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน เขาถึงกับต้องกลั้นหายใจเมื่อเห็นปรียานอนทอดกายอยู่บนโซฟา เธอตะแคงศีรษะมาส่งยิ้มให้เขา
เด็กหนุ่มกวาดตามองเรือนร่างสวยเพรียวเบื้องหน้า ท่อนขาเรียวยาวได้รูปของเธอซ่อนตัวอยู่ภายในกางเกงยีนส์รัดรูป เขาไล่สายตาขึ้นไปยังสะโพก เอวที่คอดกิ่ว เลยไปถึงทรวงอกอิ่มซึ่งถูกห่อหุ้มไว้ด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง
ทำหน้ายุ่งอีกแล้ว เป็นอะไรไป ยังไม่สบายใจเรื่องเมื่อกี้อยู่อีกเหรอ
เขาหลบตาด้วยการเพ่งมองแสงสะท้อนแวววาวบนพื้นหิน ขณะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาอีกตัว
ผมมีอีกเรื่องจะปรึกษาพี่ด้วยครับ เขาบอกด้วยเสียงทุ้มเครียดจนหญิงสาวต้องขมวดคิ้ว
อะไรเหรอจ๊ะ
เอ่อ.. ปีหน้าอ่ะครับ ผมจะขึ้น ม.6 แล้ว.. เขาเริ่มอย่างเป็นงานเป็นการ หวาดหวั่นต่อความหมายของถ้อยคำที่เป็นการบอกเลิกความสัมพันธ์กับเธอ ผม..ผมอยากมีเวลาให้กับการเรียนมากขึ้นครับ คือ.. ผมกลัวจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนอย่างเพื่อน ๆ ไม่ได้
ปรียาผ่อนลมหายใจเมื่อเข้าใจถึงความอึดอัดคับข้องใจของเขา
โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง เธอว่าไปพลางสังเกตมองหนุ่มน้อย ดวงตาคู่ซื่อ ๆ ยังหลุบต่ำอยู่เพียงพื้นบ้าน สมัยนี้ ถ้าหวังจะสอบเอ็นทรานซ์ได้ จะนอนอ่านหนังสืออยู่บ้านคงไม่มีทางติดแน่
ถ้อยคำแสดงความเห็นใจทำเอาเขาเหลือบตาขึ้นมองเธออีกครั้ง แล้วรีบหลุบลงอีก
พี่จะส่งเราเรียนกวดวิชาเอง
ข้อเสนอนั้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาของหญิงสาวทอประกายอ่อนโยนและจริงใจ เธอกล่าวต่อไปด้วยสุ้มเสียงสุขุม
ส่วนงานที่ร้านถ้าไม่มีเวลาหรือไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องไป ว่าพลางขยับลุกจากที่นั่งไปนั่งลงบนที่ท้าวแขนบนเก้าอี้อีกตัว แล้วยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอเขา พี่แค่อยากให้เรามาหาพี่บ้าง มีเวลาหาความสุขกัน
เขาเงยหน้ามองลึกเข้าไปในดวงตาเธอ นัยน์ตากระจ่างใสอันเผยความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา แววตาที่บอกถึงความต้องการส่วนลึกของเธอ
พี่มีความสุข เราก็มีความสุขไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ทำผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม ใครจะพูดอะไรช่างเขาประไร
นับเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ หากเขาได้กวดวิชาในสถาบันดี ๆ คงจะมีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้เหมือนอย่างเพื่อนคนอื่น ๆ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนจะเป็นปัญหาที่ต้องขบคิดในลำดับต่อไปก็ตาม
กันต์สุภาพ ให้เกียรติพี่เสมอ เธอเสริมขึ้นอีก เหมือนอย่างพี่ที่จะไม่เข้าไปวุ่นวายยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเรา
หญิงสาวว่าไปพลางเบียดกายแนบชิดเข้ามาจนนั่งลงบนตักเขา สัมผัสได้ถึงสรีระอันงดงามของอิสตรีเช่นเธอ อกอิ่มข้างหนึ่งบดเบียดเข้ากับใบหน้า
ถ้ากันต์จากพี่ไป พี่ไม่แน่ใจเลยว่าจะหาคนน่ารักอย่างเราอีกได้หรือเปล่า
รู้สึกหนาวเยือกไปกับวาจาและสัมผัสจากเธอ ร่างกายเริ่มอยู่เหนือการควบคุม กลีบปากบางเริ่มเคล้าคลึงจนประทับเข้ากับปากของเขา
อย่าจากพี่ไปเลยนะ
เธอพึมพำก่อนริมฝีปากของทั้งสองจะหลอมรวมเข้าหากัน ถ่ายทอดทุกถ้อยคำผ่านสัมผัสอันเร่าร้อน
...เขามิอาจปฏิเสธเธอได้อีก
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.ค. 55 10:15:52
|
|
|
|