Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความลับของกระบวนท่าสุดท้าย..........................เรื่องสั้นกำลังภายใน ติดต่อทีมงาน

นี่เป็นเรื่องที่สอง ของผมครับ

ชอบไม่ชอบ เชิญวิพากษ์ได้ตามใจชอบครับ

..............................................................................................

สิบสี่ค่ำเดือนหก

ในห้องโถงคฤหาสน์หมื่นเมฆของ  เซี่ยบ้อโฉว ผู้นำชาวยุทธคนปัจจุบัน ยามนี้คราคล่ำด้วยชาวยุทธจากทุกสำนัก และเจ้าสำนักที่มีชื่อเสียงมากหน้าหลายตาร่วมสามร้อยคน

เสียงถกเถียงเซ้งแซ่ระงมทั่วห้องประชุม พลันสงบเงียบลง เมื่อ เซี่ยบ้อโฉว เดินเข้ามาในห้องโถง พลางโบกมือเป็นสัญญาณ ให้ทุกคนฟังมันกล่าว

เซี่ยบ้อโฉว กล่าวด้วยสุ้มเสียงเข้มแข็งเปี่ยมพลัง กังวานไปทั้งห้องชุมนุมว่า

“เจ้าสำนักทุกท่าน และ สหายร่วมแนวทั้งหลาย ขอบคุณที่ให้เกียรติมาชุมนุมตามเทียบเชิญของข้าพเจ้า เป้าหมายของการชุมนุมในครั้งนี้
คือการหารือเพื่อรับมือกับคำท้าทายของจอมยุทธิ์พิศดารจากแดนพู้ซึง(ญี่ปุ่น)ที่มีเพลงดาบพิศดารไร้ผู้ต่อต้านผู้นั้น!”

สิ้นประโยคคำกล่าวของ เซี่ยบ้อโฉว ในห้องโถงก็ระงมด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของบรรดาผู้ร่วมชุมนุมแทบจะทันที

ทั้งนี้เพราะ ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ได้ปรากฏยอดฝีมือที่มีความเป็นมาปริศนาจากต่างแดน ขึ้นคนหนึ่ง ชาวยุทธตงง้วนเพียงทราบจากการแต่งกาย และดาบที่ใช้ว่ามันเป็นชาวยุทธ์จากแดนอาทิตย์อุทัย แต่เพราะมิเคยมีผู้ใดรอดชีวิตหลังจากได้พบกับมันผู้นั้น จนถึงบัดนี้จึงยังมิมีผู้ใดทราบชื่อเสียงเรียงนาม และความเป็นมาที่แท้จริงของมัน

แต่เพราะการแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดขาว และเพลงกระบี่พิศดารที่ทิ้งรอยแผลเล็กเรียวพาดจากหน้าผากลงมายังกลางลำตัว เสียชีวิตในดาบเดียว ในหมู่ชาวยุทธจึงร่ำลือกันว่า คนผู้นี้อาจเป็นทายาทของบุรุษชุดขาวในอดีตที่หวนกลับมาหวงแค้น

ครั้งนั้น วีรบุรุษ ปึงป้อเง็กที่ล่วงลับ ใช้วิชาพิศดาร และไหวพริบปฏิภาณ เอาชนะเพลงดาบของบุรุษชุดขาว และสังหารมันลงได้ จนกลายเป็นตำนานที่เล่าขานมาถึงปัจจุบัน

นับแต่ปรากฏบุรุษชุดขาวคนที่สองขึ้นในตงง้วน เพียงชั่วไม่ถึงสามเดือน เจ้าสำนักมาตรฐานที่มีพลังฝีมือสูงส่ง และบรรดาชาวยุทธที่มีเพลงดาบ กระบวนท่ากระบี่ สูงเยี่ยมที่สุดในยุคนี้ ต่างพากันทะยอยถูกปลิดชีพด้วยเพลงดาบที่พิศดารลึกล้ำของบุรุษชุดขาวคนนี้ จนชาวยุทะพากันเรียกขานมันว่า “มารภูษาขาว”

ดังนั้น เซี่ยบ้อโฉว ในฐานะผู้นำชาวยุทธจึงมิอาจทนนิ่งเฉยอีกต่อไป มันจึงส่งคนแจกจ่ายเทียบเชิญเรียกชุมนุมชาวยุทะจากทุกสารทิศขึ้นในวันนี้ เพื่อหาหนทางกำจัดมารร้ายยุทะจักรตนนี้ให้ลงได้

หลังจากสอบถามความคิดเห็นจากชาวยุทธที่มาร่วมชุมนุม ก็มีเสียงชี้แนะจากในหมู่ชาวยุทะหลากหลาย

บ้างก็ว่า “พวกเรามิต้องใส่ใจกฏยุทะจักร ใช้พวกมากกลุ้มรุมเพื่อกำจัดเภทภัยในครั้งนี้ลงเสียก่อน”

บ้างก็กล่าวว่า “ลอบวางยาพิษในสุราอาหาร แล้วกำจัดฆ่าทิ้งเสีย!”
แต่สุดท้าย เซี่ยบ้อโฉว กลับสะดุดเข้ากับความเห็นของ เจ้าสำนักบู๊ตึงที่อาวุโสสูงสุดในที่นี้ และมีวาจาเป็นที่เชื่อถิอที่สุดในยุคนี้นาม แชเจี่ยงเต้าหยิน ว่า

“เพื่อกำจัดเภทภัยในครั้งนี้ และรักษากกระเบียบบุ๊ลิ้ม พวกเราจำเป็นต้องเชื้อเชิญ “ท่านผู้นั้น” ให้ออกหน้าอีกสักครา!”

เสียงอุทานดัง อา! ดังระงมไปทั่วทั้งห้องดถงทันที ทั้งนี้เพราะบรรดาชาวยุทธล้วนทราบดีว่า “ท่านผู้นั้น” ที่ แชเจี่ยงเต้าหยินเอ่ยถึง หมายถึงใคร

นับจาก วีรบุรุษ ปึงป้อเง็ก ลาโลกไป ทายาทตระกูล ปึง ล้วนสืบทอดก้าวขึ้นเป็นผู้นำยุทะจักรสืบต่อมาช้านานด้วยพลังฝีมือ และคุณธรรมที่สุงส่ง
ต่มื่อสืบทดมาถึงทายาทรุ่นที่สาม อัจฉริยะบุรุษ ปึงฮุ้นปวย ฉายแววโดดเด่นเหนือบรรพบุรุษมาตั้งแต่เยาว์วัย

ดังคำกล่าวที่ว่า “ฟ้ามักริษยาอัจฉริยะ” ดังนั้น เมื่อสองเดือนก่อน ในวัยเพียงสามสิบปี ปึงฮุ้นปวย ก้ประสบเภทภัยป่วยเป็นโรคประหลาดขาสองข้าง
สุญสิ้นเรี่ยวแรง กลายเป็นคนพิการเดินเหินไม่ได้ ต้องอาศัยรถล้อเลื่อนสำหรับคนขาพิการ มิสามารถนำพาชาวยุทะได้อีกต่อไป

นับแต่นั้น ปึงฮุนปวย ก้เก็บตัวอยู่แต่ในคฤหสนืเมฆขาวของตระกูล มิข้องเกี่ยวเรื่องราวในยุทธจักรอีกต่อไป เซ่ยบ้อดฉว ที่เป็นมืออันดับสองรองจากมันจึงเข้ารับตำแหน่งแทน

ดังนั้น เมื่อ นักพรต แชเจี่ย เสนอชื่อของมันออกมา เซี่ยบ้อโฉว และชาวยุทะทั้งมวลจึงอดอุทานด้วยความประหลาดใจออกมามิได้

หากเป็นครั้งอดีต มิต้องเชื้อเชิญ ปึงฮุ้นปวย คงเป็นฝ่ายออกหน้าท้าประลองกับ มารภูษาขาว เสียเนิ่นนานแล้ว

ทั้งนี้เพราะนับแต่มันค้นพบ และสำเร็จ “กระบวนท่าสุดท้าย” ในคัมภีร์กระบี่ที่ วีรบุรุษ ปึงป้อเง็ก บรรพชนของมันตกทอดมา ที่แม้แต่ บิดา และ ปู่ ของมันก็ศึกษาไม่สำเร็จ  ก็มีความมั่นใจว่า ในใต้หล้านี้มิมีผู้ใดที่มันเอาชัยมิได้อีก

แต่เมื่อฝึกสำเร็จได้ไม่นาน มันก้พาลมาป่วยเป็นโรคประหลาด ที่แพทย์เทวดาทั่วทั้งแผ่นดินก็ตรวจไม่พบสาเหตุ และไม่มีหนทางรักษา ได้แต่คาดเดาว่า อาจเป็นผลสืบเนื่องจากการสำเร็จ .”กระบวนท่าสุดท้าย” จนาตุไฟเข้าแทรก

เซี่ยบ้อโฉว แม้จะมิเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะในเวลานี้ ปึงฮุ้นปวย มิใช่ ปึงฮุ้นปวย คนก่อนอีกต่อไป หากแต่เป็น ปึงฮุ้นปวย ผู้พิการเท่านั้น
หากมันเป็นคนออกปากเชื้อเชิญ ปึงฮุ้นปวย ที่รักความเป็นธรรรมย่อมมิอาจนิ่งเฉย ยอมออกหน้าในสภาพพิกลพิการ เท่ากับมันเป้นผู้เชื้อเชิญให้ ปึงฮุ้นปวย แสวงหาความตายโดยแท้

แต่สุดท้าย มันมิอาจทัดทานเลียงสนับสนุนจากชาวยุทธหลายร้อยคนที่เห็นด้วยกับความคิดนี้ ดังนั้น เซี่ยบ้อดฉว จึงนำพาชาวยุทะทั้งหมดในที่นี้ เดินทางไปเชื้อเชิญ ปึงฮุ้นปวย ในเช้าวันรุ่งขึ้น
……………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………..
ยามเช้า

หน้าคฤหาสน์เมฆขาวเนืองแน่นด้วยบรรดาชาวยุทธที่สงบนิ่งรอการปรากกกายของ ปึงฉุ้นปวย

เซี่บบ้อโฉว ยืนอยู่กลางลานกว้างหน้าคฤหาสน์ เบื้องหน้าชาวยุทธทั้งมวล หลังจากมันใช้วิชา “เสียงกังวานพันลี้” เปล่งเสียงจากลมปราณถ่ายทอดวัตถุประสงคืการมาของมัน และชาวยุทะทั้งมวล ให้กับ ปึงฮุ้นปวย ที่เร้นกายอยู่ด้านใน ก้ยืนสงบนิ่งรอคอยการปรากกกายของอดีตผู้นำชาวยุทธที่ชื่อสะท้านยุทะภพผู้นี้อย่างใจจดจ่อ

ผ่านไปชั่วครู่ ยังมิมีผู้ใดปรากกกาย ขณะที่ เซี่ยบ้อโฉว เกร็งลมปราณเตรียมส่งเสียงเป็นคำรบสอง ทันใดนั้น พลันรู้สึกว่ากระบี่ที่คาดอยู่หว่างเอวของมัน และอาวุธของชาวยุทะทุกคนในที่นี้ เกิดอาการสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เสียงดังอึงอล!

จู่จู่ อาวุธที่ทำจากเหล็กกล้าของทุกคนในที่นั้น พลันดีดตัวออกจากฝัก บ้างก้หลุดจากมือ ราวกับมีพลังมหาศาลที่มองไม่เห็นฉุดกระชากลอยฝ่าอากาศ จากนั้นพุ่งปักลงบนลานกว้างหน้าขบวนชุมนุมหมดทั้งสิ้น!

ท่ามกลางความตกตะลึงของ เซี่ยบ้อโฉว และ ชาวยุทธทั้งหลาย ประตูเหล็กบานใหญ่หน้าคฤหาสน์พลันเปิดออก บุรุษงามสง่า แต่สีหน้าซุบซีดในชุดแพรสีครามผู้หนึ่งอาศัยลมปราณที่สุงส่งพลักดันรถเข็นล้อเลื่อนที่ทำจากไม้ล้ำค่า เคลื่อนมาหยุดเบื้องหน้าขบวนชุมนุมห่างวาเศษ

อัจฉริยะบุรุษ ปึงฮุ้นปวย ปรากกกายขึ้นอีกครั้งแล้ว!

ปึงอุ้นปวย สีหน้าเรียบเฉยสงบนิ่ง เอ่ยปากด้วยเสีงแผ่วทุ้มแต่เปี่ยมพลังกังวานไปทั่วทั้งลานกว้างว่า

“ข้าพเจ้ารับปากพวกท่าน กำจัดเภทภัยร้ายยุทะจักรรายนี้ด้วยตัวเอง!”

สิ้นคำกล่าว ชาวยุทะที่มาชุมนุมทั้งมวลพลันหายจากอาการพรึงเพริด ตะเบ็งเสียงโห่ร้องเซ้งแช่ดังกึก้องด้วยความยินดี ทั้งนี้เพราะ ปึงฮุ้นปวย ได้แสดงให้ประจักษืแก่สายตาทุกผู้คนแล้วว่า พลังฝีมือของเขาในเวลานี้ก้าวสู่ขั้นสุดยอด เหนือกว่ากาลก่อนเสียด้วยซ้ำ

แต่ในใจของ ปึงฮุ้นปวย ผู้ที่ขาพิการในเวลานี้เล่า ตัวเขามีความมั่นใจในการศึกครั้งนี้เพียงใด?..........................
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

สิบห้าค่ำเดือนหก

การประลองที่สะท้านฟ้าสะเทือนดินกำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง ในชั่วไม่กี่อึดใจ
ปึงฮุ้นปวย ส่งสาส์นท้าประลอง นัดหมายต่อสู้เดิมพันด้วยชีวิตกับ มารภูษาขาว ที่ห้องลับของสำนักบู๊ตึง ที่เจ้าสำนักทุกรุ่นใช้เป็นที่เก็บตัวฝึกวิชาก่อนรับตำแหน่งโดยมี เซี่ยบ้อโฉว และ ชาวยุทธทั้งแผ่นดิน เฝ้ารอคอยผลการประลองที่เดิมพันด้วยความอยุ่รอดของบู๊ลิ้มตงง้วนครั้งนี้อย่างกระวนกระวายใจ

ไม่มีผู้ใดทราบว่า การต่อสู้ในห้องลับ ดุดันพิศดารเร้าใจสะท้านฟ้าสะเทือนดินเพียงใด ทั้งนี้เพราะห้องลับกางกั้นด้วยประตูเหล็กบานใหญ่หนาหนักนับพันชั่ง ไม่มีสุ้มเสียงใดผ่านเข้าออกได้แม้แต่น้อย

เวลาผ่านไปหลายชั่วยาม อาทิตย์เร่มอัศดงลับขอบฟ้า

ทันใดนั้น บานประตูเหล็กห้องลับ ก้พลันเปิดอ้าออกอย่างช้าๆ ปึงฮุ้นปวย ที่เสื้อผ้าฉีกขาด ผมเผ้าสยายรุงรัง ริ้วรอยบาดแผลเกลี่อนกลาดทั่วร่าง ค่อยๆผลักดันรถเข้นล้อเลื่อนออกมาอย่างช้าๆแต่มั่นคง

ปึงฮุ้นปวย ชนะแล้ว!!!!!!

มารภูษาขาว ก็ตายแล้ว………ตายใต้ “กระบวนท่าสุดท้าย” ที่เลิศภพจบแดนของ ปึงฮุ้นปวย!

เซี่ยบ้อโฉว และ บรรดาชาวยุทธที่เฝ้ารอชมเผลการประลอง พากันระเบิดเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง สำนักบีตึง ก้กระจายข่าวนี้ออกไป ทั่วทั้งยุทธภพต่างลิมฉลองแสดงความยินดีต่อชัยชนะของ ยอดวีรบุรุษ ปึงฮุ้นปวย ความสงบสุขหวนกลับสู่ยุทะถพอีกครา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
หลังจากขบวนชาวยุทะที่มาชุมนุมรอผลการประลองทะยอยแยกย้ายลงจากเขาบู๊ตึงจนหมดสิ้น คงเหลือแต่เพียง เซี่ยบ้อโฉว กับ ปึงฮุ้นปวย เพียงลำพัง
เซี่ยบ้อโฉว ที่รอเวลานี้มานาน อดใจมิได้ต้องเอ่ยถาม ปึงฮุ้นปวย ถึงรายละเอียดในการสัปประยุทธ์ครั้งนี้ และ ความลับของ “กระบวนท่าสุดท้าย” ที่ ปึงฮุ้นปวย ใช้เอาชัยมารภูษาขาวที่ชาวยุทะครั่นคร้ามได้สำเร็จ

ปึงฮุ้นปวย ยิ้มมุมปากเล็กน้อย บังคับรถล้อเลื่อนให้หมุนกลับเคลื่อนเข้าสู่ห้องลุบอีกครั้ง พร้อมกับส่งสัญญาณให้ เซี่ยบ้อโฉว ติดตามเข้ามา พร้อมกับสั่งให้ปิดประตูห้องลับลง

จากนั้น ปึงฮุ้นปวย ก็เอ่ยปากเล่าถึงความลับที่แตกตื่นสะท้านโลกที่มีเพียงมันกับ เซี่ยบ้อโฉว ทราบเท่านั้นว่า

“เพลงดาบของ มารภูษาขาว ที่พิศดารเหนือเหตุผลใดๆ เป็นเพราะความพิศดารของวุตถุที่ใช้ในการหลอมตีดาบ หาใช่วัตถุที่มีในโลกนี้ไม่!”

เซี่ยบ้อโฉว ต้องอุทานออกมาอย่างแตกตื่น

ปึงฮุ้นปวย กล่าวต่อ

“วัตถุไม่ทราบที่มานี้ ทำให้ดาบของมัน บางเบาเป็นพิเศษ รวดเร็วเป็นพิเศษ………รวดเร็วจนเหนือความเร็วของแสง!”

“ด้วยเหตุนี้ มารภูษาขาว จึงบัญญัติเพลงดาบพิศดารขึ้นมาโดยอาศัยดาบที่เร็วกว่าแสงเล่มนี้ เพลงดาบชุดนี้สามารถทำให้เวลารอบตัวของมันหยุดนิ่งชั่วขณะ ดังนั้น มิว่าศัตรุใช้กระบวนท่าร้ายกาจปานใด มันล้วนมองเห็นทิศทาง และช่องว่างของกระบวนท่าอย่างชัดเจน ยังมิทันที่ศัตรูจะรู้ตัว คมดาบของมันก็ผ่านช่องว่างเข้ามาได้อย่างง่ายดายทุกครั้ง เราจึงรับบาดเจ็บทั่วร่างเช่นนี้ แม้แต่กระบี่ที่ใช้ก็หลุดจากมือ รอรับการพ่ายแพ้1”

“แล้วท่านใช้ กระบวนท่าสุดท้าย ออกมาได้อย่างไร?” เซี่ยบ้อโฉว โพล่งถามทันที

ครั้งนี้ ปึงฮุ้นปวย หัวร่อออกมาเบาๆ พลางกล่าวต่อว่า

“ทั้งนี้เพราะ ข้าพเจ้าเรียก มารภูษาขาว ให้เข้ามาใกล้ๆ เพื่อบอกความลับ
ของ กระบวนท่าสุดท้าย ที่มันไม่มีวันเอาชัยได้”

“มารภูษาขาว ต้องการทราบจริงๆ ดังนั้น มันจึงลดดาบลง ก้มลงมาฟังความลับจากข้าพเจ้า”

“ความลับของกระบวนท่าสุดท้ายก็คือ………….กระบวนท่าสุดท้าย มิได้ใช้ออกจากมือทั้งสองข้าง หากแต่ใช้ออกจากขาทั้งสอง!”

พูดจบ ปึงฮุ้นปวย พลันขยับขาทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว หนีบกระบี่บนพื้นขึ้นมาควงเป็นวง แล้วแทงปราดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว!

ครั้งนี้ เซี้ยบ้อโฉว แตกตื่นจนอ้าปากค้าง ไร้วาจากล่าว!

ปึงฮุ้นปวย พลันผุดลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง เดินผ่านหน้า เซี่ยบ้อโฉว ออกจาห้องลับ………ก่อนจากไป มันหันกลับมากล่าวกับ เซี่ยบ้อโฉว เป็นครั้งสุดท้ายว่า

“ความลับของข้าพเจ้าก้คือ…………..ข้าพเจ้าหาได้ขาพิการจริงไม่!!!!”

จากนั้นเดินหายลับไป ทิ้งให้ เซี่ยบ้อโฉว ยืนตะลึงอยู่เพียงลำพัง……………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………..

 
จบแล้วครับ

จากคุณ : ไร้จิตไร้ใจ
เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 55 11:01:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com