Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ข้อคิดของอาม้า 2 ติดต่อทีมงาน

ข้อคิดของอาม้า 2

เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับดวงตาทำให้ผมห่างหายจากห้องนี้ไปนาน แต่เมื่อทุกอย่างมาประจวบเหมาะกันดังเช่นวันนี้ ตั้งแต่ผมได้เห็นโฆษณาชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับวันแม่ อาการของดวงตาที่เริ่มดีขึ้น อีกไม่กี่วันข้างหน้าที่ท่านจะจากพวกเราไปครบสามปี และบังเอิญที่ผมนึกถึงคำพูดหนึ่งของแม่ขึ้นมาได้

สำหรับเรื่องนี้คงเป็นเรื่องเล่าสั้นๆ ที่อาจจะเกิดจากความบังเอิญหลายๆ อย่างมาประจวบเหมาะกัน แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมอยากจะเล่าให้กับเพื่อนๆ ในถนนนักเขียนได้ฟังกันครับ

........................................................

ประมาณเกือบสามปีมาแล้วในขณะที่แม่ของผมยังมีชีวิตอยู่ วันนั้นในช่วงเย็นหลังเลิกงานผมกลับบ้านเร็วกว่าปกติมากนัก เมื่อกลับมาถึงก็จัดแจงคว้ากระเป๋ากล้องคู่ใจและออกจากบ้านทันที

“เอ้า กลับมาแล้วเอ็งจะไปไหน”

ท่านถามด้วยความแปลกใจ เพราะมีอยู่สองอย่างที่ไม่ปกติหากเป็นวันปกติ คือ หนึ่ง ผมจะไม่กลับถึงบ้านเร็วขนาดนี้ และสองเมื่อถึงบ้านแล้ว ไม่บ่อยที่ผมจะเดินทางออกจากบ้านอีกครั้ง

และเมื่อความไม่ปกติสองอย่างมาพบกันก็แน่นอนว่าท่านเองย่อมแปลกใจจนอดที่จะเอ่ยปากถามไม่ได้

“แม่น้องที่ทำงานเค้าเสียน่ะ เค้าไม่มีใคร เลยจะไปช่วยงานเค้า คนละไม้ละมือ ทำเท่าที่ทำได้ เอากล้องไปนี่ก็จะไปช่วยถ่ายรูปงานเค้าน่ะม้า”

ผมตอบท่านไปอย่างที่คิด ท่านยิ้ม พูดกับผมด้วยใบหน้าดวงตาที่อารีย์ยิ่ง

“เออ ดีแล้วล่ะ อะไรที่ช่วยกันได้ก็ต้องช่วยกันไป ยิ่งเค้าไม่มีใครเราก็ยิ่งต้องช่วย เค้าอาจจะไม่มีที่ปรึกษา เค้าอาจจะไม่รู้ เค้าอาจจะทำอะไรไม่ถูกเวลาแบบนี้ แต่เราที่ยังดีๆ กันอยู่นั่นล่ะต้องคอยช่วยเค้า”

อย่างที่ใครเคยพูดไว้ คนเราตัดสินความเป็นเพื่อนแท้เมื่อยามลำบาก และผมก็คิดว่าคำพูดของอาม้าในวันนี้ก็ทำให้ผมได้กลายเป็นเพื่อนแท้ของคนบางคนได้

........................................................

“พี่ครับ พี่ว่างมั้ย”

“เออ มีอะไรรึเปล่า”

“คือ ผมไปซื้อคอมพิวเตอร์จากร้านมาน่ะครับ แต่เค้าไม่ลงโปรแกรมมาให้ ต้องเสียค่าลงโปรแกรมห้าร้อยบาท ผมเลยคิดว่าน่าจะเอามาให้พี่ทำให้ได้”

ผมเล่าประโยคสนทนาระหว่างน้องที่ทำงานและผมให้แม่ฟัง ท่านรับฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเอ่ยคำพูดออกมา

“แล้วเอ็งว่ายังไงล่ะ”

“เค้าบอกมาเมื่อวาน วันนี้ก็เลยกลับมาเตรียมของ แล้วก็จะกลับไปทำให้เย็นนี้ล่ะ”

ท่านยิ้มก่อนจะพูด

“ดีแล้ว ใครขอให้ช่วยอะไรต้องรีบทำให้เค้าก่อน งานของเราวางได้ก็วาง จำเอาไว้ว่าคนเราน่ะ ไม่จำเป็นจริงๆ คงไม่ขอความช่วยเหลือจากใคร ที่เค้าขอให้ช่วยเพราะเค้าทำไม่ได้จริงๆ และที่เค้าขอให้เราช่วยก็เพราะเค้าคิดว่าเราช่วยเหลือเค้าได้”

ใบหน้ายิ้มแย้มตรงหน้า คำพูดที่ผมคาดไม่ถึง ผมยังจำติดตาตรึงใจมาจนทุกวันนี้

หญิงชราที่ดำรงชีวิตอยู่มาพร้อมๆ กับโรคประจำตัวที่ถึงแม้จะทำให้ท่านไม่สู้จะแข็งแรงนัก หรือแม้กระทั่งทำให้ท่านเคลื่อนไหวได้ไม่แคล่วคล่องอย่างที่ควรจะเป็น

แต่ในร่างกายเปราะบางนั้น สิ่งที่เรียกว่าจิตใจยังคงเคลื่อนไหวด้วยความกระฉับกระเฉง ความงดงามในจิตใจยังคงแข็งแรงและเปล่งประกายเจิดจรัสได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

มันส่งต่อมาถึงผมและลูกหลานของท่าน

แม้เวลาจะผ่านไปนานสักเพียงไหน และแม้ท่านจะจากเราไปแล้ว แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าท่านและคำสอนต่างๆ จะคงอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป

....รักและคิดถึงที่สุด...

จากคุณ : KTHc
เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:02:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com