Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๐๐ ... สวนสัตว์สนาน ... ๐๐..(บทที่ 1) ติดต่อทีมงาน

"สวนสัตว์สนาน" (บทที่1)



“สวนสัตว์สนาน”



บทที่ 1




“ซู่ๆ..” เสียงน้ำจากสายยางที่ผมบีบปลายให้เป็นฝอย..ใช่ครับ!..ผมกำลังรดน้ำต้นไม้


ผมชอบรดน้ำต้นไม้ตอนเช้ามืด..ความจริงควรรดตอนเย็นที่ต้นไม้หิวน้ำมากกว่า แต่เพราะบ้านอยู่ริมถนนซอยและผมค่อนข้างขี้อายจึงรดตอนนี้

“เมี้ยว” เสียงแมวร้องมาจากที่ไหนสักแห่ง..มีแมวแถวบ้านหลายตัว ที่พี่สาวเลี้ยงไว้ก็หลายตัวเหมือนกัน เช้ามืดอย่างนี้บางแมวเริ่มออกหากิน บางแมวเพิ่งกลับบ้านนอน..เหมือนคนเลยแฮะ!

“มิวรีบรดเร็วๆ อย่ามัวร่ำไร..แฉะไปหมดทั้งสนามแล้วนะแก..” พี่สาวกลับมาจากเดินแจกปลาทูตามบ้านที่มีแมว “เก็บสายยางแล้วปิดบ้านใส่กุญแจด้วยอย่าเพิ่งเปิดร้าน..ได้ยินข่าวใช่ไหมเรื่องคนร้ายเข้าร้านตอนเช้ามืด”

“ฮื่อ” ผมรับคำ..แปลก!..ทีตัวเองออกจากบ้านตั้งแต่ยังมืดไม่เห็นกลัวเรื่องผู้ร้ายเข้าบ้าน..เดินลึกเข้าไปในซอย เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาอีกต่างหาก....แมวน่ะนะ..บ้านใครก็บ้านมัน เขาเลี้ยงของเขาอยู่แล้ว ทำมั้ยต้องไปยื่นอาหารเสริมให้ด้วย..มีตังมากอะดิ?

ผมม้วนสายยางเก็บเข้าบ้าน..ดึงม้วนประตูเหล็กบานเล็กลงคล้องหูกุญแจขัดไว้ ไม่ได้ล็อค..คนข้างนอกจะเปิดได้ไง..บางทีผมก็ใช้แท่งเหล็กเล็กๆ ขัดไว้แค่นั้น..ผล..ถูกด่าน่ะสิ

จะว่าไปบ้านเราเป็นร้านค้าโบราณ..ร้านโชห่วย..เดี่ยวนี้เขาเปลี่ยนเป็นมินิมาร์ทหรือสะดวกซื้อเจ็ดสิบเอ็ดกันหมดแล้ว..พี่สาวอยากทำ แต่แม่ไม่ตกลงด้วย..แม่มีความสุขกับการนั่งเฝ้าร้าน มองคนเดินไปมา นก สุนัข กินน้ำในอ่างบัวหน้าบ้าน..เด็กเข้ามาซื้อขนม หรือคนในซอยมาซื้อของประจำบ้านเล็กๆ น้อยๆ

“เมี่ยววว..เมงี้ยว..เงี้ยว..แง่ววว..แง่ววว..แง๊ดดดด..ว้าววแง้ววว..” เสียงร้องขู่อย่างเกรี้ยวกราดของแมวสองตัวที่เหมือนกำลังจะเริ่มทำศึกกัน

“กระถิน!..กระถิน!..อย่านะลูก..” พี่สาวผมวิ่งลงมาจากชั้นสาม “มิว..มิว..ช่วยกระถินด้วย..กัดกันที่ไหนไม่รู้..เร็ว!..ช่วยมันหน่อย”

เห่อ..พี่ผมนี่นะ..รู้ทั้งรู้ว่าบ้านเราตั้งแต่ชั้นสองขึ้นไปเป็นกระจกเสียส่วนมาก ไม่มีช่องลมหรือช่องทางที่แม้แต่ยุงสักตัวจะหึ่งเข้ามาได้..กระถินมันทำซ่าส่งเสียงขู่กับแมวข้างบ้านผ่านกระจก..สองตัวยืนเขย่งประกบกันเสียงกรี๊ดๆ ชิ!..น่าปล่อยให้สู้กันสักตั้ง

“มิว!..” พี่ผมแทบจะกรี๊ดใส่เมื่อเห็นผมเดินขึ้นบันไดอย่างสงบ

“เห้อ!..” ผมขึ้นชั้นสี่เตรียมอาบน้ำไปทำงาน



ปลุกหลานสองคน ดูแลให้อาบน้ำแต่งตัว กินอาหารเช้า และพาไปส่งโรงเรียน..หลานสองคนนี้เป็นลูกของพี่สาวอีกสองคนที่มาฝากยายเลี้ยง คนโตเป็นผู้ชายคนเล็กผู้หญิง

“น้ามิวๆ ตัวอะไรอยู่ใต้พุ่มไม้” หลานสาวกระตุกแขนผม..ตัวเล็กสายตามองต่ำกว่าคนตัวโต

“ไหนๆ..” ตัวกลางไม่ถามเปล่าตรงเข้าไปแหวกพุ่มไม้นั้น

“ฮื้อ!..” ผมดึงหลานชายออกมา “เดี๋ยวชุดนักเรียนเลอะหมด..แมวน่ะ มันเข้าไปนอนเล่น

“มันนอนหลับ” หลานสาวเอ่ยขึ้นขณะเดินออกจากซอย

“มันตายแล้ว” หลานชายไม่ได้แปรงฟันเมื่อเช้าแน่ๆ

อันที่จริงผมก็สังเกตเห็นเหมือนกันแต่ไม่แน่ใจ..ภาระที่ต้องทำมีอยู่..ให้ลุล่วงไปก่อนแล้วจะเข้าไปดู..เอ๊ะ!..นี่ผมใจดำหรือเปล่า..ก็ถ้าแมวมันนอนเล่นอยู่จริงๆ กับการไปโรงเรียนสายไปทำงานสายคงไม่คุ้มกัน..แต่ถ้ามันกำลังนอนรอความช่วยเหลือ ด้วยสาเหตุใดก็ตามผมคงเป็นคนใจร้ายมากแน่ๆ หมาในซอยเยอะด้วยซิ

“ใครขี้เกียจไปโรงเรียนมั่ง?” คนตัวโตสุดคงไม่ได้แปรงสมองตอนอาบน้ำ..ผมเคยวิจารณ์พี่สาวว่าอย่าสอดสายตาให้มากนัก แค่มองตรงๆ และทำหน้าที่ๆ มีอยู่ให้ดีที่สุด..แต่ตอนนี้ผม..ก็ไม่เชิงผม..พรรคพวกของเราสามคนกำลังไม่ได้แค่มองซ้ายขวาแต่มองใต้โลกทีเดียว..เกินไป..แค่มองใต้พุ่มไม้



“อ้าว!..” แม่ร้องอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเราสามคนเดินกลับบ้าน

“ทำไงดี..ทำไงดี..” ผมพึมพำ

“ยายดุแน่” หลานชาย

“ป้าก็ดุ” หลานสาว

“เฉยๆ นะ..น้ามิวจัดการเอง..” บีบไหล่หลานชายส่งสัญญาณ “โจเข้าห้องน้ำเลยนะ ไม่ต้องพูดอะไร”

“เหมียวยังนอนอยู่เลย” แคร์พูดเบาๆ..เราสามคนแอบชำเลืองมอง

“โจปวดอึครับแม่..” ผมทำไม่ดีสองรายการ..โกหกแม่..เป็นตัวอย่างไม่ดีให้หลานเห็น เด็กจะจำแล้วทำตามภายหลัง..แต่กรณีนี้จำเป็นแม้ดูเป็นเรื่องไม่สำคัญแต่มีผลกับจิตใจมาก..ในความไม่ดีมีบางสิ่งที่ดีซ่อนอยู่..ตัวอย่างของความเมตตาที่จะฝังลงในสำนึกของเด็กทั้งสองคน

“จะไปโรงเรียนทันหรือ?” แม่ไม่เชิงบ่น

“เหม็นอึพี่โจนะ..” พยักเพยิดกับแคร์

“เหม็นนนน” แคร์บีบจมูกตัวเอง..นะ!..ตุ๊กตาเงินให้เลย

“ไปนอกบ้านเหอะ..” ผมดันไหล่แคร์ออกหน้าบ้าน..แม่ทำจมูกฟิตๆ หากลิ่นเหม็นที่ว่า หน้างงๆ

เจ้าเหมียวยังนอนนิ่ง..ตายหรือเปล่า?..

“น้ามิว..เหมียวมันดุกดิกแล้ว” แคร์มุดเข้าไปในพุ่มไม้

“ให้น้ามิวจัดการเอง” เจ้าเหมียวดำโงนเงนหัว..กิริยาเชื่องช้าเหมือนหวาดกลัว ไม่มั่นใจ..ผมเอื้อมมือลูบหัวเป็นการผูกไมตรี..สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้เดี๋ยวโดนกัดแล้ววิ่งหนี..ทีนี้ละคนถูกกัดวุ่นวายแน่ แผลคงไม่เท่าไหร่ พิษสิ..มีเชื้อสุนัขบ้าหรือเปล่า จะตามตัวมาตรวจก็หายไปแล้ว

“เมี้ยว..” เจ้าดำร้องเบาๆ รับไมตรี

“ดำไม่สวยเลยนะ..” แคร์ผิดหวัง “ผอมด้วย”

“มันอาจไม่สวย..” ผมพิจารณาดำอีกครั้ง “แต่น้ามิวว่ามันกำลังต้องการความช่วยเหลือจากใครบางคน..” แคร์หันมามอง ผมจึงต้องเปลี่ยนคำพูด “หรือจากใครสามคน”

“ใช่..ดำน่าสงสาร..ต้องการความช่วยเหลือจากแคร์ น้ามิว พี่โจ” แคร์ผงกหัว..ยิ้ม..ลูบหลังเจ้าดำ

ผมคิดย้อนหลังเมื่อเช้ามืด และคิดล่วงหน้าไปไกล

ดำนอนอยู่ใต้พุ่มไม้ต้องโดนน้ำที่ผมรดตันไม้แน่ๆ ยิ่งนอนแช่จนสายอย่างนี้จะป่วยไหม?..ดำคงหลงทางมา ถ้าไม่อุปการะไว้คงถูกสุนัขในซอยกัดตาย เอาเข้าบ้านก็มีปัญหา..กระถิน..กวักทองเจ้าของบ้านคงอาละวาด..หมวยกับใบโพธิ์ไม่เป็นพิษภัยกับใครอยู่แล้ว..อีกอย่าง..พี่สาวที่ชอบเลี้ยงแมวจะยอมรับดำหรือไม่..ไม่ได้มาจากเส้นสายของเขาด้วยซิ

“ทำอะไรกันฮึ!..” เสียงดังขึ้นเหนือหัวน้าหลาน..ผมสะดุ้งสุดตัว แคร์พลอยตกใจด้วย “ฉันรู้เรื่องหมดแล้วย่ะ..โจเล่าให้ฟัง”

“เมี้ยวววว..” ดำลากเสียงยาวทักทาย มันคงได้กลิ่นปลาทูและอาหารแมวที่ฝังอยู่ในขุมขนของพี่สาว

“แมวบ้านใครหลงมามั้ง..” หย่อนตัวลงข้างๆ “ไหนดูซิ..ดำปื๋อเชียว..”เสียงเหมือนไม่ชอบ “ให้กินปลาทูสักหน่อยแล้วฉันจะลองเดินถามดูว่าเป็นแมวของใคร..เอ..แต่ไม่เคยเห็นเลยนะ”

“เมี้ยวๆ” สงสัยฟังภาษาคนออก..รู้จักประจบเสียด้วยหันไปมองเสียงที่ได้ยิน

“เฮ้ย!..ตายละ..” พี่สาวค่อนข้างตกใจ “ดำมันตาบอด..”

“ดำตาบอด” แคร์ถอยห่าง


แล้วอย่างไรล่ะนี่..ยังไม่รู้เลยว่าสีดำปื๊ดของดำจะมีใครเอ็นดูหรือไม่..นี่ซ้ำตาบอดอีก..เห้อ!

 
 

จากคุณ : ดาเรน
เขียนเมื่อ : 14 ก.ค. 55 09:38:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com