แสงอาทิตย์ยามใกล้เที่ยงวันเจิดจ้าร้อนแรง ปองใจยืนรอเขาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทาง เธออยู่ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขายาวแบบเรียบ ๆ ผมยาวที่เคยรวบเป็นหางม้าถูกปล่อยยาวสยาย เขาเพ่งสายตามองไปแลเห็นเด็กสาวบุคลิกเรียบง่ายตามแบบฉบับของเธอ
รอนานไหมปอง
ครึ่งชั่วโมง ไม่นานหรอก เธอตอบด้วยรอยยิ้มสดใสกว่าทุกวัน ราชภัฏที่ว่าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอก นั่งรถเมล์สายนี้ไปกันได้เลย
เธอชี้ไปที่รถโดยสารประจำทางคันหนึ่งบนทางหลวงซึ่งกำลังแล่นมาจอดเทียบ ก่อนจะหันมาคว้าแขนเขาให้เดินตามกันขึ้นรถไป
เด็กหนุ่มหวนนึกถึงวันแรกที่ออกจากบ้านสู่สังคมกว้างและสับสนของเมืองกรุงเพียงลำพัง วันที่เขามีโอกาสได้พูดคุยอย่างสนิทสนมกับเพื่อนสาวอีกคน อยากรู้นักว่าเวลานี้เธอกำลังทำอะไรอยู่ ...กับใคร
สองคนค่ะ ปองใจจ่ายค่าโดยสารให้ โดยไม่จำเป็นต้องบอกจุดหมายปลายทาง
สามปีที่ใช้ชีวิตในเมืองหลวง ทำให้เขาเริ่มคุ้นเคยกับความแออัดและแรงกระแทกบนรถโดยสารแบบธรรมดา โดยไม่หวั่นว่าจะมีอาการเมารถอีก
มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนั้นตั้งอยู่บนถนนกว้างใจกลางเมือง ทั้งสองเดินเข้าไปติดต่อพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างเก้อ ๆ และได้รับความช่วยเหลือจากนักศึกษาที่มาทำกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียน
นี่เป็นระเบียบการของปีที่แล้วนะคะน้อง หญิงสาวในชุดแต่งกายสุภาพส่งกระดาษใบหนึ่งให้ เอาไว้เดือนมีนาแล้วน้องค่อยมาติดต่ออีกที ตอนนั้นเค้าคงประกาศรับนักศึกษาใหม่พอดี
ปองใจเอื้อมมือไปรับเอกสารใบนั้นจากมือเธอ
ขอบคุณค่ะพี่ งั้นพวกหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ เธอโน้มตัวลงไหว้ผู้สูงวัยกว่าอย่างนอบน้อม เด็กหนุ่มรีบยกมือไหว้ตามเพื่อน
ยินดีต้อนรับค่ะน้อง หวังว่าเราคงได้เรียนร่วมสถาบันกัน หญิงสาวกล่าวตอบอย่างร่าเริง
ทั้งสองเดินออกจากรั้วสถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้น ตรงไปยังถนนหลวง
ลองมาสอบตรงเข้าที่นี่แหละ ยังไงก็ยังมีหวังกว่าเอ็นทรานซ์ ปองใจพูดไปพลางหันกลับไปมองความใหญ่โตโอฬารของหมู่อาคารเบื้องหลัง
อื่ม ก้องเค้าก็เรียนที่นี่แหละ เขาบอกเหมือนเพิ่งนึกได้ พี่ชายกันต์อ่ะ
เหรอ เธอหันมองมา ยิ้มแย้มอย่างร่าเริง จริงเหรอ
แต่เค้าใกล้จบแล้วล่ะ รอผลสอบเทอมนี้ ถ้าผ่านหมดก็จบ เขาพูดไปพลางเหลือบตามองเพื่อนสาว นึกหาคำสนทนาต่อ
ปองใจคลายสีหน้าแจ่มใสลงทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าธุระที่เธอชวนเขาออกมาสิ้นสุดลง
กันต์หิวยัง เธอถามขึ้นด้วยน้ำเสียงหวาด ๆ
เขาส่ายหน้า
ยังหรอก
เด็กสาวลังเลอยู่ชั่วครู่ จึงตัดสินใจกล่าวชักชวน
กันต์ไปกินข้าวกลางวันเป็นเพื่อนปองหน่อยสิ
แม้รู้สึกใจลังเลที่จะรับคำ หากดวงตาอันเปี่ยมไปด้วยความหวังของเพื่อนสาว ก็ทำให้เขาไม่กล้าพอจะปฏิเสธ
อื่ม ไปสิ
ปองใจคลายสีหน้าลง ระบายยิ้มกว้างออกมา
ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกันนะ ปองรู้จักอยู่ร้านหนึ่งอร่อยมากเลย
ก๋วยเตี๋ยวเรือเหรอ ? เขาทวนคำ มองเธอด้วยสีหน้าคำถาม แต่ไม่ใช่ด้วยเหตุเพราะไม่เคยกินอาหารชนิดนั้น
อื่ม ผ่านมาแถวนี้ทีไร พ่อพาปองไปกินทุกที เธอเร่งเร้าด้วยการพุ่งเข้ามากุมข้อมือเขา แล้วดึงให้เดินไปด้วยกัน เร็วเข้า ปองหิวจะแย่แล้ว
ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนั้นเป็นเพิงไม้ชั้นเดียว มีเรือโบราณลำใหญ่ตั้งเป็นสัญลักษณ์โดดเด่นอยู่หน้าร้าน ท่ามกลางบรรยากาศแบบธรรมดา ๆ ริมคลองน้ำแห้งขอด แต่กลับแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าที่มาอุดหนุน ผู้คนส่วนใหญ่คงเป็นลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในย่านนั้น
กันต์ธีร์เหลือบมองเพื่อนสาว ที่กำลังตักก๋วยเตี๋ยวคำโตเข้าปากด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย เลยไปถึงสภาพแวดล้อมอันแออัดและร้อนอ้าวภายในร้าน แล้วต้องนึกถึงภาพห้องอาหารตะวันตกอันล้อมรอบด้วยผนังสีทึมแบบคลาสสิคที่เคยไปกับเพื่อนสาวอีกคน ภายใต้บรรยากาศเย็นฉ่ำเคล้าคลอเสียงเพลง
อ้าว กันต์ ทำไมไม่กินล่ะ ไม่อร่อยเหรอ
ปองใจเอ่ยทักขึ้น เมื่อสังเกตว่าเพื่อนจับมองอยู่แต่ปลายตะเกียบของตัวเอง ประหม่าเล็กน้อยเมื่อเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองเอาแต่ก้มหน้าก้มตากิน
อ๋อ เปล่า เขาตอบอ้ำอึ้ง ขณะก้มมองชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าที่เพิ่งจะพร่องไป คิดอะไรเพลิน ๆ ไปหน่อย
เด็กสาววางช้อนและตะเกียบลงเมื่ออาหารหมดชาม ทอดสายตามองเพื่อน
กันต์ดูเหม่อ ๆ ยังไงชอบกลนะ คิดอะไรอยู่เหรอ
แม้จะรู้แก่ใจอยู่บ้าง แต่เธอก็มิอาจหักห้ามที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในใจเขา
กันต์ธีร์เงยหน้าสบตาเพื่อนสาวแวบหนึ่ง จะบอกได้อย่างไรว่าเขากำลังนึกถึงภาพบรรยากาศการรับประทานอาหารกลางวันกับผู้หญิงอีกคน
ไม่มีอะไรหรอก เขาตอบไปพลางคีบก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก แล้วแสร้งเปลี่ยนเรื่องคุย ชามนิดเดียวแค่นี้ ต้องกินกี่ชามถึงจะอิ่มเนี่ย
เด็กสาวยกมือขึ้นป้องปาก หัวเราะเบา ๆ
แหม กันต์ ความอร่อยของมันอยู่ที่ต้องกินหลายชามนี่แหละ เธอบอกพลางหันไปควักมือเรียกเด็กในร้าน ปองสั่งให้กันต์อีกชามนะ
อื่อ เขาพยักหน้ารับคำ
เอาเส้นเล็กต้มยำอีกสองชามจ้ะ เธอหันไปบอกเด็กเสิร์ฟ ก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจเขาอีกครั้ง
กันต์สอบตรงราชภัฏที่นี่กับปองนะ จะได้เรียนที่เดียวกัน
มือที่กำลังถือตะเกียบค้างคาอยู่กับที่ ความตั้งใจเดิมที่เคยมี ความพากเพียรสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา คำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กับใครอีกคน
นะ ลองดูก็ไม่เสียหายนี่ เธอบอกย้ำเมื่อเห็นเขายังเงียบ
กันต์ธีร์เหลือบตาขึ้นมองเพื่อนสาว แล้วพยักหน้ารับอย่างขอไปที
หลังรับประทานอาหารเสร็จ ทั้งคู่จึงเดินออกจากร้าน ท่ามกลางความร้อนแรงของแดดยามบ่าย ป้ายรถโดยสารมีผู้คนประปรายยืนรอรถอยู่
เราแยกกันขึ้นรถเมล์ป้ายนี้แหละ เธอเหลียวมองเขาแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าพูดเสียงงึมงำ ข..ขอบใจมากเลยนะที่มาเป็นเพื่อนปอง
เด็กหนุ่มขยับริมฝีปากเหมือนอยากพูดอะไร แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้า ความจริงเขาต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายต้องขอบคุณเธอ
รถโดยสารประจำทางหลายคันแล่นมาจอดเทียบป้าย เด็กสาวหันมองไปทางเพื่อนหนุ่มอีกครั้ง
กันต์... เธอพึมพำด้วยเสียงที่เบากว่าเดิม แล้วหลุบตาต่ำลงทันทีเมื่อเห็นเขามองมา ว..วันนี้ปองมีความสุขที่สุดเลยล่ะ
สิ้นเสียงนั้นเธอก็ลุกพราดขึ้น แล้ววิ่งขึ้นรถโดยสารคันหนึ่งไป เขาทอดมองตามด้วยความรู้สึกสับสนใจ
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.ค. 55 10:18:58
|
|
|
|