17/2
หญิงสาวอยู่ช่วยปุงกัลให้อาหารม้าจนเย็น ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่าเมื่อได้ออกแรงเสียเหงื่อ เธอรับน้ำดื่มมาจากนินาด้วยสีหน้าแจ่มใส ขณะอีกฝ่ายรายงานว่าคาชาลกลับมาแล้วครู่หนึ่ง
ยาโบอยู่ไหนจ๊ะ
ห้องทำงานค่ะ
ลลิลดาผงกศีรษะรับรู้ก่อนเปิดประตูเข้าไป ชายหนุ่มเงยหน้าจากกองเอกสารมาสบตาคนรักวูบหนึ่ง แล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ
งานยุ่งหรือ คาชาล
ครับ
แม่ส่งรูปงานแต่งงานของเรามาให้แล้วนะ อยู่ในเครื่องฉันแน่ะ
ผมคงต้องทำงานอีกนาน ถ้าคุณหิวก็ทานก่อนเลยนะ
คนถูกไล่กลายๆ ย่นจมูก เมื่อตัดสินใจออกมาจากห้องนั้นแล้วก็พยายามตัดความขุ่นเคืองออกไปเสีย บอกตัวเองว่าเขามักลืมตัวพูดจาไม่เข้าหูเมื่ออยู่ในสภาวะกดดัน ครั้นอารมณ์เหล่านั้นคลี่คลายลง เขาก็กลับมาอ่อนหวานอีกเหมือนเดิม ไม่มีประโยชน์ที่เธอจะเก็บมาเป็นอารมณ์อีกคน
เธอนึกถึงคาชาล...ชาวทิชกูคนก่อนซึ่งเคยกดดันตนเองให้อยู่ในกรอบประเพณี กระทั่งวันนี้เขาก็ยังกดดันตนเองเพื่อสร้างผลงานให้เทียบเท่าผู้อื่น แล้วเมื่อไรหนอเขาจะปล่อยวางสิ่งที่คอยบีบคั้นและทำร้ายจิตใจเขาเสียที
..................................
เสียงฝีเท้าเดินไปมาภายในห้องนอนปลุกคนหลับใหลให้หรี่ตามอง ร่างสูงก้มเปิดลิ้นชักโต๊ะหัวเตียงค้นหาบางสิ่ง ก่อนเขาจะผลักประตูออกไปห้องทำงานแล้วกลับเข้ามาอีกหลังจากนั้นไม่นาน
หาอะไรหรือ หญิงสาวกระถดตัวลุกนั่ง
ยาน่ะครับ ปกติผมไว้บนโต๊ะทำงาน แต่ไม่แน่ใจว่าลืมไว้ในนี้หรือเปล่า คุณนอนเถอะ
โธ่เอ๋ย เธอจะนอนได้อย่างไรถ้าเขาไม่สบาย ลลิลดาหายงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง
เธอไม่สบายหรือ แล้วกินข้าวเย็นหรือยัง ฉันให้นินาจัดของว่างให้แล้วนี่นา
กินแล้วครับ
แล้วข้าวเย็นล่ะ
โธ่ ลิลลี่ เขายกมือกุมขมับ เลิกทำเหมือนผมเป็นเด็กเสียที คุณนอนต่อเถอะ ผมจะไปเอายาในตู้ล่ะ
ลลิลดาเม้มปากแน่น หัวตาผะผ่าวอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ
ฉันเป็นคนทิ้งยาพวกนั้นเอง เธอเอ่ยราบเรียบ เธอจะกินยาสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ไม่ได้นะ คาชาล ถ้าเครียดกับงานก็พักสิ ขืนเธอกินยาแล้วโหมทำงานต่อ ผลเสียมันก็ตกอยู่กับร่างกายของเธอซึ่งฉันยอมไม่ได้
แต่มันตัวผม เขาสวนกลับอย่างหงุดหงิด
ใบหน้าเครียดขึ้งเข้มขึ้นเมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังใจ ตั้งแต่ปัญหาในที่ทำงาน กระทั่งมาถูกหญิงสาวสั่งสอนราวเขาโง่เง่าเต็มประดา ทิฐิทำให้มองไม่เห็นว่านั่นเกิดจากความรักความห่วงใยที่เธอมีต่อเขานั่นเอง
อ้อ ฉันนึกว่าเราเป็นคนคนเดียวกัน
ดวงตาแดงช้ำฉายแววตัดพ้อ เธอทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้เขา ซ่อนน้ำตาที่เจียนหยาดหยดเต็มที คาชาลได้แต่มองอากัปกิริยานั้นพร้อมกับขมับซึ่งเต้นตุบ ประท้วงให้รีบหายามาบรรเทาความเจ็บปวดเสียก่อน เขาไม่มีเวลาแม้กระทั่งสำนึกผิด งานที่กองอยู่บนโต๊ะทำงานลิดรอนเวลาเขาไป
............................
แมมคะ เสียงนินาดังมาก่อนตัว
ลลิลดานิ่วหน้าประหลาดใจเมื่อคนขี้อายร้องเรียกเธอด้วยน้ำเสียงสดใส ร่างระหงขยับลุกจากผืนพรมทอมือซึ่งปูไว้สำหรับนั่งพักผ่อนในเขตที่พักคนงาน นินากระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้ใหญ่โต พวงแก้มยุ้ยชมพูระเรื่อ นายสาวเลิกคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ
ยาโบสั่งคนส่งดอกไม้ให้แมมค่ะ เจ้าหล่อนขยายความพลางยื่นช่อดอกลิลลี่สีขาวให้ผู้เป็นนาย
ทันทีที่ทราบที่มา ดวงหน้าสะสวยก็เชิดขึ้นทันที งานของเขาคงคลี่คลาย สำเร็จลุล่วงแล้วกระมังจึงมีแก่ใจสนใจความรู้สึกคนใกล้ตัว เธอไม่รับช่อดอกไม้แต่กลับอุ้มเด็กหญิงวัยขวบเศษ ลูกแม่ครัวเฒ่าซึ่งตนให้ความเอ็นดูขึ้นแทน
นินาเอาไปจัดแจกันเถอะจ้ะ แล้วไว้ที่ห้องทำงานยาโบนะ
บรรยากาศเคร่งขรึมภายในห้องนั้นคงได้สดชื่นขึ้นบ้าง หากมีสิ่งสวยงามอ่อนหวานประดับประดา คิดมาถึงตรงนี้ทิฐิในใจก็คลายลง แม้จะโกรธคนรักอยู่ไม่น้อย เธอก็ยังนึกถึงความสุขความสบายของเขาเป็นสำคัญ
ทว่าชายหนุ่มกลับจ้องมองแจกันดอกไม้ในห้องด้วยใบหน้างอง้ำ เขาแปลความหมายของมันไม่ถูกว่าเธอยอมรับคำขอโทษของเขาหรือไม่ ดอกลิลลี่พวกนี้จึงได้มาอยู่ในแจกันห้องทำงาน ครั้นย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด ความกดดันต่างๆ ราวคีมเหล็กบีบขมับเขา กระทั่งพลั้งปากเอ่ยวาจาทำร้ายจิตใจเธอ
คาชาลกลัวใจเจ้าหล่อนเหลือเกิน หากเธอถือโทษโกรธเคืองแล้วเขาจะแก้ไขความรู้สึกดีๆ ในอดีตกลับมาอย่างไร ความคิดสับสนวุ่นวายหยุดชะงัก เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตั้งแต่เหยียบย่างเท้ากลับมาบ้านตนยังไม่เจอภรรยาเลย
ขายาวก้าวเร็วไปเปิดประตูเชื่อมสู่ห้องนอน ครั้นได้ยินเสียงน้ำไหลภายในห้องน้ำจึงค่อยถอนใจ เขากลับไปเปิดกระเป๋าเอกสารพลางพยายามข่มใจให้เย็นลง
ใครเป็นคนเอาดอกไม้ให้แมม เขาถามเอากับลูกน้องชายคนสนิทซึ่งมารอรับเสื้อนอกไป
นินาครับ
แล้วแมมว่าอย่างไรบ้าง
ไม่ได้ว่าอะไรครับ แมมอุ้มลูกยายแม่ครัวอยู่เลยสั่งให้นินานำไปจัดแจกัน
ผู้เป็นนายนิ่วหน้า หมายความว่าเธอไม่ยอมรับช่อดอกไม้ ไม่ยอมรับคำขอโทษจากเขา แต่กลับเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเช่นนั้นหรือ
แล้วไปรู้จักมักคุ้นกันได้อย่างไร
เวลาว่างจากเรียนภาษา แมมมักไปขลุกกับพวกผู้หญิง...ไม่ก็ที่คอกม้าครับ แมมเอ็นดูลูกยายแม่ครัวเพราะเด็กมันไม่ประสา มันช่างอ้อนครับ
คนฟังสะท้อนใจ ลลิลดาคงเหงาจึงได้ผูกมิตรกับคนงานในบ้าน เขาเสียอีกที่ไม่อาจมอบความสุขสบายให้เจ้าหล่อนได้เต็มที่ จนเกรงว่าเธอจะหมดความอดทนในเมืองลับแลนี้แล้วหนีกลับไปยังสถานที่ซึ่งมีความสะดวกสบายพูนพร้อมที่เธอจากมา
เขาก้มอ่านเอกสารตรงหน้าทว่าไม่มีสมาธิเอาเสียเลย ทุกสิ่งที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจจะต้องสูญเปล่า หากปราศจากผู้ร่วมยินดีกับมัน คาชาลบอกตัวเองว่าเขาจะปล่อยเธอไปไม่ได้ และงานเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือคิดหาวิธีผูกมัดเธอไว้กับเขาตลอดไป
แมมเอ็นดูลูกยายแม่ครัวเพราะเด็กมันไม่ประสา มันช่างอ้อนครับ
พลันคำพูดของลูกน้องก็สะท้อนเข้ามาในโสตประสาท คนรักของเขามีจิตใจอ่อนโยนนักหนา หากเขากับเธอมีลูกด้วยกัน เธอจะทิ้งลูก ทิ้งเขาได้ลงเชียวหรือ คำตอบคือ...ไม่มีทาง!
...............................
ลลิลดาชะงักมองสามีซึ่งก้าวเข้ามาในห้องด้วยความตกใจ ร่างเปลือยเปล่ามีหยดน้ำเกาะพราว ปกปิดส่วนสงวนของร่างกายด้วยผ้าขนหนูผืนเดียว เธอรีบเดินกลับไปยังห้องแต่งตัวเพื่อหาเสื้อผ้าสวมใส่ ทว่าคาชาลกลับตามเข้ามาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กในมือ
ร่างระหงแข็งทื่อเมื่อชายหนุ่มบรรจงซับน้ำออกจากเรือนผมเปียกชื้นของเธอ ก้อนเนื้อในอกโลดแรงไปกับความใกล้ชิดซึ่งห่างเหินมากขึ้นในแต่ละวัน เธอยังสาว มีเลือดมีเนื้อสมบูรณ์นี่นะ ที่สำคัญยังมีใจรักต่อบุรุษผู้เป็นสามี ย่อมโหยหาความรัก การพะเน้าพะนอจากเขาเช่นกัน
ลลิลดาน้ำตาซึมเมื่อคาชาลก้มสูดความหอมจากเรือนผมเธอ เขามองสบดวงตาซึ่งคลอด้วยหยาดน้ำตาผ่านกระจกเงา ริมฝีปากบางกระซิบคำรักข้างหูเธอโดยไม่ยอมละสายตาจากกัน
ผมรักคุณ ลิลลี่ แล้วคุณล่ะ...ยังรักผมอยู่ไหม
รัก
ทั้งที่ผมทำร้ายจิตใจคุณอย่างนั้นหรือ
คราวนี้เธอจ้องเขากลับ น้ำเสียงที่เอ่ยแน่วแน่ทีเดียว ความรักของฉันไม่ได้หมดลงง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่ามันจะคงอยู่ตลอดไปเช่นกัน
ชายหนุ่มสั่นศีรษะ เขาหมุนร่างบางกลับมา จ้องลึกเข้าไปยังนัยน์ตาเธอ
ผมขอโทษ ลิลลี่ ได้โปรด... เสียงทุ้มสั่นพร่า
จิตใจเจ้าหล่อนอ่อนระโหยไปกับใบหน้าซีดเซียว แต่เธอก็ย้ำเตือนตนเองว่าจะใจอ่อนเหมือนเคยไม่ได้ จนกว่าเขาจะให้คำมั่นสัญญา
เธอจะเลิกกินยาพวกนั้นเพื่อฉันได้ไหม คาชาล ถ้าเธอปวดหัว ไม่สบาย เราจะไปหาหมอด้วยกัน แต่เธอต้องไม่กินยาพวกนั้นเพียงเพื่อโหมทำงานหนัก ฉันขอเธอเท่านี้เอง
ครับ ผมสัญญา เขาตอบรับโดยไม่เสียเวลาไตร่ตรอง
เถอะ มันจะยากอะไรนักหนากับการเลิกยาพวกนั้น คาชาลคิดได้แบบนี้ก็เพราะยามนี้เขายังประคองสติตนเองได้ แต่ถ้าต้องกลับไปเผชิญกับความกดดันรอบตัวอีกครั้ง เมื่อนั้นเขาจึงจะรู้ว่าตนไม่ควรให้สัญญากับเธอเลย
ชายหนุ่มยกมือบางขึ้นจุมพิตยังปลายนิ้ว เขาใจชื้นขึ้นบ้างเมื่อเงยสบแววตาอ่อนโยนของเธอ
บางทีเราน่าจะไป ฮันนีมูน เผื่อคุณจะได้ถ่ายรูปสถานที่สวยๆ ส่งไปให้มิสซิสเรณู ตอบแทนที่ท่านส่งรูปงานแต่งงานมาให้เรา
อ้อ เธอมีเวลาดูแล้วหรือ หญิงสาวถามอย่างแสนงอน
ครับ เมื่อคืนผมไม่มีสมาธิทำงานเลยนั่งดูภาพพวกนั้น อยากลุกไปกอด ไปขอโทษคุณ แต่ก็ไม่กล้า โกรธตัวเอง...
ลลิลดายกมือปิดปากคนรัก หยุดคำพูดที่จะทำร้ายจิตใจเธอและเขาอีก
เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก และจะไม่เก็บมาทำร้ายจิตใจกันนะ คาชาล ในเมื่อเธอเข้าใจความหวังดีของฉันแล้ว ก็ขอให้เธอเห็นค่าของมันบ้างก็พอ
คาชาลดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด เขารักเธอเหลือเกิน รักในความเข้าใจ รักความประนีประนอมที่เธอมอบให้เสมอมา แต่ต่อให้เขารักเธอมากเพียงใด เขาก็ยังรู้สึกอยู่นั่นเองว่าความรักของเขานั้นช่างเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความรักที่ตนได้รับจากเธอ
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ค. 55 11:29:59
|
|
|
|