Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สะดุดรักในความฝัน(ตอนที่2,ตอนจบ) ติดต่อทีมงาน

หลังจากห่างหายไปแสนนาน ลงตอนแรกค้างไว้เป้นเดือนทีเดียว มาวันนี้สะดุดรักในความฝัน เรื่องรักสนุกอ่าน ตอนจบเดินทางมาถึงแล้วนะครับ แวะเข้ามาอ่านกันเยอะๆ

เนื้อหาตอนที่แล้ว
และแล้วนางเอกของเราอยู่ดีๆกลับมาเป็นตัวเองในวัยเด็กด้วยเหตุใดมิทราบได้ ว่าแต่เธอจะหาคำตอบให้กับเรื่องที่ค้างคาในหัวใจได้หรือไม่
มาเอาใจช่วยกันเถอะ!!!
(ลิงค์ตอนที่1,ตอนแรก)http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12129483/W12129483.html
...................................................................................................
งานปัจฉิมนิเทศดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ท่านผู้อำนวยการกล่าวสุนทรพจน์ส่งท้ายและอำนวยอวยพรให้กับนักเรียนทุกคน ฉันเห็นเพื่อนๆหลายคนน้ำตาซึม เพราะต่อจากนี้ไปคงไม่ได้มาเจอกันทุกวันอีกแล้ว รวมไปถึง ยัยแป๋ว เพื่อนรักของฉันที่ยืนอยู่ข้างกันนี่ด้วย พอได้เห็นบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งทำให้ฉันอดคิดถึงเพื่อนๆจนน้ำตารื้นอีกไม่ได้

หลังงานเลิกทุกคนก็แยกย้ายกัน บ้างแลกเบอร์โทรติดต่อกัน บ้างรวมกลุ่มพากันไปเลี้ยงฉลอง พวกผู้ชายยังมีแก่ใจมาเตะบอลในสนามกันอีก คงถือเป็นการส่งท้ายกันกระมัง โอกาสเหมาะมาถึงแล้วจะได้ทำตามที่ตั้งใจไว้สักที ฉันขอปลีกตัวจากเพื่อนๆว่าไปเข้าห้องน้ำ คล้อยหลังก็รีบเดินจ้ำเลาะไปตามริมขอบสนามฟุตบอล เพื่อตามหาเป้าหมาย เดินเลาะไปถึงด้านหลังอัฒจันทร์ วิทย์นั่งเหยียดขาพักแรงอยู่พอดี ฉันคงใจร้อนเดินส้นเท้าหนักไปหน่อยจนทำให้เขารู้สึกตัวหันมา

             “อ้าว แหม่ม ยังไม่กลับบ้านเหรอ กลับกี่โมงล่ะ” เด็กหนุ่มเงยหน้าทักทายด้วยใบหน้าที่มีเลือดฝาด มีเหงื่อเม็ดโตฉายความชุ่มชื้นอยู่ตามซอกคอและไรผม

             “ก็สักพักน่ะ วิทย์ล่ะมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ไม่ไปเตะบอลเล่นกับเพื่อนๆเหรอ “

             “ พักเหนื่อยสักหน่อย ขอนั่งดูพวกมันเล่นมั่ง” ฉันฟังเสียงคุ้นเคย และจัดแจงรวบกระโปรงหนีบไว้ใต้เข้าลงนั่งยองข้างๆเขา

             “ เฮ้อ  ต่อไปคงไม่ได้เจอกันแล้วสินะ” ฉันแอบตัดพ้อเล็กๆเป็นการเรียกน้ำย่อย แม้ไม่ได้หันไปมองเค้าโดยตรง แต่ก็เหลือบเห็นเขาอมยิ้ม

             “นั่นสิเนอะไม่รู้ว่าเพื่อนใหม่จะนิสัยดีเหมือนแหม่มรึเปล่า แต่ก็ไม่เห็นจะยากคิดถึงกันก็โทรหากันก็ได้ ว่ามั้ยล่ะ” แววตาที่จริงใจและน้ำเสียงที่นุ่มทุ่ม ทำให้ฉันใจอ่อนอยู่เสมอ

เวลานี้แหละอย่ามัวแต่เงียบ บอกเลยสิ บอกเลย....ความคิดในใจเริ่มพลุ่งพล่านพอๆกับจังหวะหัวใจที่เต้นระบำราวดนตรี ฮิพฮอพ  

             “วิทย์ ก่อนจากกันเรา......มี.....อะไรจะให้เธอน่ะ” ฉันตื่นเต้นจนเกือบพูดติดอ่าง แต่มือไม่รอช้ารีบยื่นกระดาษพับแผ่นนั้นส่งให้ทันที

             “หือ วันนี้แหม่มยังมาอำเราเล่นอีกจนได้” วิทย์ชูกระดาษให้หลังจากเปิดดู “นี่มันกระดาษจดเกรดตอนสอบปลายภาคนี่ เอามาให้เราดูทำไม อ๋อจะให้เราเก็บไว้เป็นที่ระลึกเหรอ เอ้องั้นขอบใจนะ” วิทย์พูดไปอมยิ้มไป
โธ่กรรมของเวร จริงสิฉันชอบเสียบกระดาษจดนั่นจดนี่ไว้ในหนังสือประจำ ก่อนออกมาจากบ้านคงหยิบผิดหยิบถูกเข้าล่ะสิ ฉันนี่ซุ่มซ่ามเสียจริงเตรียมการมาอย่างดีแล้วแท้ๆ กลายเป็นทำให้เธอคิดว่าฉันเล่นมุขล่ะสิ แต่ไม่ใช่นะยะ เห็นทีถึงเวลาต้องเสี่ยงดวงกันแล้ว

             “อ๋อ นั่นฉันล้อเล่นน่ะ ที่จริงคือเราอยากจะบอกว่า.....ว่า.....เราชอบวิทย์น่ะแอบชอบมาตั้งแต่เข้าม.หนึ่งแล้ว.....จริงๆนะ” ต๊าย!!ในที่สุดฉันก็พูดออกไปแล้ว ถ้าเห็นหน้าตัวเองในกระจกตอนนี้ก็คงแดงเป็นลูกตำลึงแน่เชียว

             “จริงดิ ทำไมเราไม่รู้เลย” ดูท่าวิทย์จะตกใจมากกับคำพูดของฉัน
แต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าเวลาหยุดเดิน ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเตะฟุตบอล รอบตัวฉันเงียบงันไปหมด เราสองคนต่างมองหน้ากันไปมา คล้ายว่ารอให้ฝ่ายหนึ่งชิงพูดขึ้นก่อน

             “ขอบใจนะแหม่ม แต่เราไม่ได้ชอบเธอแบบแฟน เราคิดกับเธอแบบเพื่อนน่ะ แหม่มเป็นเพื่อนที่ดีกับเรามากนะ เวลาเรามีเรื่องอะไรมาก็มาคุยกับเธอแทบทุกที ไม่รู้เลยว่าจะทำให้เธอเข้าใจผิดแบบนี้ ขอโทษด้วยนะ.....ไม่โกรธเรานะแหม่ม”

             หน้าแตกยับเลยฉัน นี่ไงล่ะคำตอบที่ฉันอยากฟัง ทีนี้ได้ยินชัดสองหูรึยังล่ะ
             “โธ่ เรื่องแค่นี้เราไม่โกรธวิทย์หรอก เธอก็รู้นี่ว่าเราเป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร” เวลานี้ฉันคิดเพียงแค่ว่ายังไงก็พูดกู้หน้าไปก่อนแล้วกัน

“ยังไงก็อย่าลืมโทรมาคุยกันบ้างล่ะ” ฉันยิ้มเจื่อนๆฝืนพูดออกไปทั้งๆที่รู้ว่าขัดกับความรู้สึกจากใจจริงเสียเหลือเกิน ส่วนวิทย์เพียงแต่นิ่งเงียบรับรู้ ยิ้มรับฉันในฐานะเพื่อน น้ำใสๆกำลังเริ่มก่อตัวบริเวณหัวตาทั้งสองของฉัน จึงหันเหความสนใจไปยังนาฬิกาข้อมือ

             “เออ..ได้เวลาแล้ว บอกแป๋วไว้ว่าจะกลับบ้านด้วยกัน ป่านนี้มันคงตามหาฉันให้ควั่กแล้ว บ๊ายบายจ๊ะ แล้วเจอกันใหม่”

ฉันไม่รอให้วิทย์เปิดปากพูด ขอเป็นฝ่ายชิงออกมาก่อน ไม่สิที่จริงแล้วฉันไม่กล้าสู้หน้าเขาต่างหาก เมื่อเดินมาจนคล้อยหลัง ก็ยอมให้น้ำตาเจ้ากรรมทำหน้าที่ชะล้างความเสียใจที่มีอยู่

เดินเรื่อยเปื่อยจนมาหยุดอยู่ที่สวนหลังโรงเรียน ที่บอกไปว่าจะกลับบ้านพร้อมแป๋วเป็นเพียงเรื่องที่กุขึ้นเท่านั้น ฉันทรุดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่ม้านั่งอย่างไม่อายสายตาใคร คงเพราะที่นี่มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าและแปลงผักเพียงเท่านั้น ว่ากันตามจริงแล้วฉันไม่ควรมานั่งเสียอกเสียใจแบบนี้เลย เพราะไม่ว่ายังไงวิทย์ก็ต้องแต่งงานกับคนอื่นอยู่แล้ว จะดีเสียอีกที่ฉันจะได้หมดความสงสัยที่คาใจมานานาน

..........................................................................................

จากคุณ : มาช้ายังดีกว่าไม่มา
เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 55 16:26:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com