Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'สวิง' รัก ... 'พัตต์' หัวใจ (บทที่ ๙) ติดต่อทีมงาน

ขอเกริ่นสักนิด

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ชยพล ชายหนุ่มผู้ซึ่งโดนบิดาปรามาสว่าชาตินี้ไม่มีวันทำอะไรสำเร็จ เขาจึงตั้งใจจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' เพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ และการจะเป็น 'โปรกอล์ฟ' ให้สำเร็จโดยเร็วก็ต้องอาศัย ชาลิดา 'แคดดี้มือหนึ่ง' เป็นสำคัญ

ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกล... ถ้าทั้งคู่ไม่ตีกันตายเสียก่อน

นิยายเรื่องนี้จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟครบทั้งบรรยากาศและเทคนิค หวังว่าผู้อ่านจะได้รับความบันเทิง และความรู้ในกีฬาชนิดนี้บ้างตามสมควร

ปกติผมจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมะและประวัติศาสตร์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างจริงจังพอสมควร เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งอารมณ์ที่พยายามจะกุ๊กกิ๊กกับเขาบ้าง หากไม่หวานหรือกุ๊กกิ๊กเท่าไหร่ ก็ให้ถือว่าเป็นเพราะวัยที่ล่วงเลยวันหวานมานานเกินไปแล้วกันนะครับ ^_^

นิยายเรื่องนี้เขียนเกือบจบแล้ว (เหลือประมาณสองบทสุดท้าย) ตั้งใจจะลงเดือนละสองครั้งครับ คือ วันที่ ๑ กับ ๑๖

คาดว่ากว่าจะลงครบก็คงเขียนจบพอดี ดังนั้นเป็นอันรับประกันว่า ต้องลงให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันจนจบอย่างแน่นอน


บทที่ ๘
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12348296/W12348296.html

.........



บทที่ ๙


ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟรีบสั่งตัวเองให้ลบภาพแย่ๆออกจากความทรงจำ แต่ธรรมชาติของความทรงจำนั้นใช่ว่าจะควบคุมได้ง่ายดังใจคิด

เขาซ้อมสวิงลมอยู่หลายเที่ยวเพื่อให้ลืมแต่ไม่สำเร็จจึงหลอกล่อตัวเองด้วยการนึกถึงขั้นตอนในการตีลูกจากทราย โดยเฉพาะการส่งก้านเหล็กตามไป

ชยพลก้าวลงไปในหลุมทรายอย่างคนวิตก เงยหน้ามองชาลิดาด้วยความว้าวุ่นใจไม่รู้ว่าเธอจะรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาบ้างหรือเปล่า

“เล่นบนแฟร์เวย์ต้องตีที่ลูก พลาดนิดเดียวก็ไม่ได้เล่นในทรายเสียอีกที่พลาดได้” ชาลิดาเอ่ยขึ้นเบาๆ “ตีหลังลูกสักสองนิ้วส่งเหล็กตามไป ให้ทรายหอบลูกขึ้น... เท่านั้นเองค่ะ”

คำพูดของเธอราวกับเม็ดฝนที่โปรยปรายลงบนต้นหญ้าเหี่ยวเฉาให้กลับชุ่มชื่น

จริงอย่างว่า ลูกกอล์ฟเล็กนิดเดียวยังตีโดน แล้วทำไมการตีลงไปหลังลูกซึ่งมีพื้นที่มากกว่าเยอะแยะจะทำไม่ได้

เขาใช้น้ำหนักตัวขยับกดฝั่งเท้าตัวเองลงในทรายเพื่อปักหลักให้มั่นคงจากนั้นจ้องนิ่งหลังลูกประมาณ ๒ นิ้ว ขึ้นวงสวิงแล้วตีเมื่อใบเหล็กสัมผัสทรายก็ส่งก้านตามไป

พื้นทรายที่เคยราบเรียบแตกกระจาย ลูกกอล์ฟสีขาวลอยโดดเด่นอยู่ท่ามกลางม่านทรายนั้นก่อนตกลงบนกรีนแล้ววิ่งเข้าหาธงมุดหายลงไปในหลุมที่ปักธงไว้

“แซนด์ดี้เบอร์ดี้!” ชยพลอุทานพลางกำหมัดชกลมอย่างสะใจ

ญาณกรกับแคดดี้ของเขาที่ยืนดูอยู่ไม่ห่างพลอยอุทานแล้วปรบมือร่วมยินดีไปด้วย

การทำเบอร์ดี้สำหรับนักกอล์ฟระดับนี้ถือเป็นอะไรที่สุดยอดแต่การทำเบอร์ดี้จากการระเบิดทรายถือว่าเป็นอะไรที่สุดยอดยิ่งกว่า

“ขอบใจมาก” ชยพลหันไปขอบคุณแคดดี้มือหนึ่ง

เจ้าตัวยิ้มร่า สายตาเปล่งประกายแช่มชื่น“เยี่ยมค่ะ”

เธอเอ่ยเพียงเท่านั้นแต่มีความหมายต่อเขาเหลือเกิน

ฝ่ายญาณกร แม้ไม่สามารถทำพัตต์เดียวแต่ก็ใกล้พอที่จะได้กิ๊ฟ


เมื่อมาถึงหลุม ๑๒ พาร์ ๕ ระยะ ๔๘๕ หลาหลุมที่มีน้ำพาดผ่านกลางแฟร์เวย์

ชาลิดายกหัวไม้ ๑ กับหัวไม้ ๓ ขึ้นพร้อมกันเป็นเชิงถามนายของตนว่าจะใช้หัวไม้ไหน ชยพลเห็นดังนั้นก็นึกได้ว่าหลุมนี้เองที่คราวก่อนเขาพยายามแค่นใช้หัวไม้ ๑ ตีในระยะ ๒๐๐ หลา จนเป็นเหตุให้ลูกตกน้ำ

ไม่รู้จะมีใครเห็นเหมือนเขาหรือเปล่าแววตาคมกริบภายใต้ผ้าคลุมหน้าคล้ายยิ้มยั่วในที เจ้าตัววางหัวไม้ ๑ คืนลงในถุงแล้วส่งหัวไม้๓ ให้ด้วยความพินอบพิเทาเกินปกติ เธอเจตนายั่วเขาแน่ ไม่อยากเชื่อว่าคนที่ดูเหมือนไม่มีปากเสียงจะร้ายลึก

‘แค้นนี้ต้องชำระ’ เขาคิดพลางสอดส่องสายตาหาช่องทางทวงคืนไม่ถึงอึดใจก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย ‘แคดดี้ผู้จริงจังต่อหน้าที่จะทำอย่างไรหากเลือกไม้ผิดจนทำให้นายตีตกน้ำ’

ชยพลกระยิ้มกระย่องเมื่อนึกเห็นแววตาสำนึกผิดของแคดดี้มือหนึ่งลอยเด่นอยู่ตรงหน้าแล้วเธอจะได้รู้ว่าคนอย่างเขาแม้จะไม่ลึกแต่ก็ร้าย

ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟกดปักทีให้ลึกกว่าปกติ เจตนาตีให้ลูกพุ่งต่ำตกแล้วจะได้วิ่งไปไกลๆเขาซ้อมสวิงลมอย่างฮึกเหิมเข้มแข็ง เสียงหัวไม้แหวกอากาศดัง ‘หวืด... หวืด’ เดินเข้าไปจรดลูกขึ้นวงสวิงอย่างมาดมั่นแล้ววาดลงมาเต็มเหนี่ยว

ลูกกอล์ฟสีขาวทะยานออกไปราวกับลูกศรหลุดจากคัน แต่แทนที่จะพุ่งไปเบื้องหน้ากลับเชิดขึ้นฟ้าเหมือนวันแรกที่ซ้อมตีในสนามไดร์ฟไม่ผิดเพี้ยน

แค้นใจตัวเองที่ขาดความละเอียดลออ คิดแต่ว่าจะตีให้สุดแรงลืมเตือนตัวเองว่าไม่ให้จบวงสวิงสูงเกินไปเพราะจะทำให้ลูกลอยโด่ง ยังดีหน่อยที่ลูกนี้ไม่เฟดเหมือนปกติระยะก็กำลังดี ตกก่อนถึงน้ำ ๒๐ – ๓๐ เมตรเห็นจะได้แล้ววิ่งไปอีกนิดหน่อย เลยกลายเป็นว่าเขาวางลูกได้เหมาะเหม็งไปโดยปริยายญาณกรไม่รู้เจตนาจึงเอ่ยปากชื่นชม


ชยพลเก็บความแค้นไว้จนถึงหลุมที่ ๑๕ พาร์ ๔ ระยะ๓๒๕ หลา หลุมที่เจ้าผึ้งจอมชีกอวางก้ามเป็นเจ้าถิ่น

ปกติเขาไม่ชอบที่ตัวเองตีเฟด แต่ช็อตนี้เต็มใจและตั้งใจอย่างเต็มที่และทำได้อย่างที่ต้องการเสียด้วยเจ้าตัวไม่ทันคิดว่าจะมีใครสนใจเลยเผลอยิ้ม แต่พอเหลียวไปเห็นชาลิดาจ้องเขม็งมาเลยต้องแสร้งส่ายหัวจุปากเสียงดัง

เมื่อญาณกรตีลูกออกไปแล้ว ชยพลก้มหน้าก้มตาเดินไปที่ลูกของตนแอบยิ้มเมื่อเห็นเงาของชาลิดาตามติดมาแต่ทว่า

“คุณพลคะ ระยะจากตรงนั้นประมาณร้อยสี่สิบถึงร้อยห้าสิบหลาคุณพลเอาเหล็ก ๗ ไปเลยนะคะ เดี๋ยวด้วงจะคอยยืนดูลูกอยู่ตรงนี้”

ชาลิดาเอ่ยอย่างจริงจังแต่มีหรือที่ชยพลจะไม่เท่าทัน

“ไปด้วยกันดีกว่า เผื่อผมมีอะไรต้องปรึกษา” ชยพลพูดพลางหันกลับมามอง “อีกอย่าง...แคดดี้คนไหนย่อหย่อนต่อหน้าที่นายมีสิทธิ์ร้องเรียนนะ”

“ก็คุณพลเจตนาตีเข้าไปแถวนั้น” น้ำเสียงของเธอออกแนวหาเรื่องเสียแล้ว

คนถูกกล่าวหาหยุดกึก “ใครว่าผมเจตนา” ถามพลางแสร้งทำตาลุกวาวด้วยความโมโห

ชาลิดายืนก้มหน้านิ่งและต้องตะลึงงันเมื่อถูกแย่งรถลากถุงกอล์ฟไปจากมือคนแย่งลากรถเข็นจ้ำอ้าว เจ้าตัวได้สติจึงรีบก้าวตามไป

“คุณพลคะ เอารถด้วงคืนมาค่ะ”

“รถคุณที่ไหน”คนพูดไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ “รถของสนามและถุงกอล์ฟก็ของผม”

“ไปก็ไปค่ะ”ชาลิดาเอ่ยขึ้นเมื่อวิ่งไปดักหน้าสำเร็จ “คืนรถให้ด้วงเถอะนะคะเดี๋ยวด้วงโดนหัวหน้าลงโทษ”

“ก็ได้” ได้ยินน้ำเสียงอ้อนอ่อนหวานแล้วคนช่างแกล้งเริ่มใจอ่อนแต่ยังทำทีขึงขัง “งั้นนำไป”

สั่งจบก้าวพรวดไปหลบข้างหลังเธอแล้วแสร้งสอดส่องสายตาระแวดระวังในขณะที่คนถูกสั่งส่ายหน้าดิก

“คุณพลตีเข้ามาก็นำไปสิคะ”

“ไม่เอา... แคดด้วงแหละนำ” เขาทำท่าทีขึงขัง “เร็วเข้า”

ชาลิดาไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรจึงเดินนำไปแบบแหยงๆกวาดสายตาไปรอบๆ นึกภาวนาให้ความร้อนสะกดเจ้าพวกแมลงตัวน้อยให้หลับใหลอยู่ในรัง

“ผึ้ง!!!” จู่ๆ คนเดินแอบหลังก็ตะโกนขึ้น

แคดดี้มือหนึ่งตกใจหน้าตาตื่น หันหลังเตรียมเผ่นแต่ถูกฉุดแขนไว้ครั้นรู้ว่าโดนแกล้งก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณพลอย่าอย่างนี้สิ”

ชยพลหัวเราะชอบอกชอบใจ แต่อีกฝ่ายยืนทำหน้ามุ่ย

“กลัวอะไรนักหนา” เขาแสร้งทำเสียงดุ “ไปๆไม่แกล้งแล้ว”

ว่าพลางเดินนำลิ่วไป

ชาลิดาลากถุงตามหลังแจ สายตาระแวดระวัง ในขณะที่คนช่างแกล้งลอบยิ้มอย่างมีความสุขสายตาของเขาก็สอดส่องหาเจ้าผึ้งตัวน้อยเหมือนกันเพราะเป็นตายอย่างไรก็ไม่มีวันที่จะยอมให้มันมากลั่นแกล้งคนที่อาศัยแผ่นหลังของเขาเป็นที่คุ้มภัยได้อีก




เริ่มเล่นที่หลุม ๑๐ เมื่อจบหลุม ๑๘ ก็ถือว่าจบรอบแรกจากนั้นจะวนมาเริ่มเล่นรอบหลังที่หลุมที่ ๑

ชยพลพยายามหาช่องทางที่จะท้วงแค้นแต่ยังไม่สบโอกาสกระทั่งมาถึงหลุมที่ ๔ พาร์ ๓ ระยะ ๑๘๕ หลา หลุมนี้กรีนล้อมรอบด้วยน้ำ มีเพียงด้านซ้ายเท่านั้นที่เชื่อมต่อกับแฟร์เวย์

“คราวที่แล้วผมใช้เหล็ก ๔ สั้นไปหน่อยคราวนี้จะลองใช้เหล็ก ๓ น่าจะออนได้” ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟปรึกษาอย่างจริงจัง

แคดดี้มือหนึ่งส่ายหน้า “ไม่ได้หรอกค่ะใช้เหล็กสามอาจข้าม แต่ก็ต้องกระเด็นตกน้ำด้านหลังอย่างแน่นอน”

“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน”

ชยพลยกปรัชญาขึ้นมาแย้งแต่อีกฝ่ายใช้สายตาย้ำเตือนวาจาที่เขาลั่นไว้ว่าจะไม่โต้แย้งเขาเข้าใจความหมายในสายตาของเธอ แต่เพื่อปฏิบัติการทวงแค้นจึงลงทุนอ้อนเธอเอาดื้อๆ“ผมอยากลองให้ผมลองหน่อยน้า... น้า” ออดอ้อนพลางส่งประกายตาวิ้งๆ

ชาลิดาเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้แต่ผ้าคลุมหน้าช่วยอำพรางรอยยิ้มนั้นไว้“ตามใจค่ะ” ว่าแล้วชักเหล็ก ๓ ส่งให้ อีกฝ่ายยิ้มแป้น

แม้ชยพลกำลังเดินแผนกลั่นแกล้งชาลิดา แต่ส่วนลึกเขาก็ต้องการรู้เหมือนกันว่าสิ่งที่คิดจะเป็นจริงหรือไม่

เมื่อตอนเริ่มเล่นที่หลุม ๑๐ ชาลิดาบอกว่า บางอย่างไม่จำเป็นต้องแก้อะไรแค่รู้ว่าเราตีอย่างไร แล้วนำปรับใช้ให้เหมาะสมก็พอ เขารู้ว่าหากจบวงสวิงสูง ลูกที่ออกจากหน้าไม้จะพุ่งสูงจึงคิดว่า หากตีด้วยเหล็ก ๓ แล้วจบวงสวิงให้สูง ลูกจะลอยโด่ง ตกแล้วหยุด

เขาเริ่มต้นด้วยการปักทีหลัง ‘หมุด’ (หลักเขตที่ห้ามปักทีล้ำไปด้านหน้า) ลงมาเยอะกว่าปกติ เจตนาเพื่อเพิ่มระยะทางของหลุมให้ไกลขึ้นทั้งนี้เพื่อชดเชยระยะเหล็ก ๓ ที่จะตีลูกได้ไกลกว่าเหล็ก ๔ เขาหวังว่าระยะที่ไกลขึ้นจะทำให้ตีเหล็ก๓ ไม่ทะลุกรีน

เขาซ้อมสวิงลมสามเที่ยว เดินเข้าไปจรดลูกย้ำกับตัวเองว่าให้จบวงสูงๆ แล้วตีออกไปอย่างมั่นใจ

ลูกลอยโด่งตามเจตนา ตกลงกลางกรีน กระเด้งพื้นหนึ่งครั้งแล้วกลิ้งลับตาไปหลังกรีนเขาจึงประจักษ์ว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ชาลิดาบอก ตีออนได้แต่ก็ต้องตกน้ำ

“มัลลิแกน” เสียงญาณกรดังขึ้นมา

ชยพลหัวเราะชอบใจใหญ่แต่ปฏิเสธที่จะใช้ ให้เหตุผลว่าอยากเห็นคะแนนที่แท้จริงฝ่ายที่อนุโลมให้พยักหน้า ยิ้มบางๆ

แม้สิ่งที่ทายาทประธานบริหารหวังไว้ลึกๆ จะไม่เป็นอย่างที่คิดแต่แผนการที่วางไว้กำลังเดินไปสู่เป้าหมาย เจ้าตัวจึงไม่มีท่าทีหงุดหงิดแต่อย่างใดพอเพื่อนตีเข้าไปออน ก็เดินไปตีช็อตที่ ๓ ของตัวเองในดรอปแอเรีย

แม้ความจริงจะตีช็อตที่ ๒ แต่เพราะโดนปรับ ๑แต้ม ฐานที่ตีตกน้ำในช็อตแรก ช็อตต่อไปจึงถือเป็นช็อตที่ ๓ ตามกติกา

ชยพลตีช็อตที่ ๓ ของตัวเองได้ดี เข้าไปในวงกิ๊ฟจึงถือว่าหลุมนี้เขาออก “โบกี้” ตีเกินจำนวนครั้งที่กำหนดไว้ ๑ ช็อต

ส่วนญาณกร แม้จะตีมาออน แต่พัตต์ไม่ลงจึงได้พาร์

เมื่อจบการเล่นในหลุมนี้ ชาลิดาเดินเข้าไปด้อมๆมองๆ แถวที่ลูกตกน้ำแล้วดึงเหล็ก ๒ อันจากถุงกอล์ฟเธอกำลังจะใช้เหล็กช้อนลูกขึ้นจากน้ำ

‘เดี๋ยวเธอต้องขอให้ช่วยดึงเสื้อ’ ชยพลคิด ‘คราวก่อนแกล้งปล่อยชายเสื้อนิดเดียวยังตกใจเสียงสั่น คราวนี้จะปล่อยให้มากขึ้นอีก รับรองร้องลั่นสนามแน่’

ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟนึกกระหยิ่มยิ้มย่อง ทำทีเดินเข้าไปเมียงมองใกล้ๆรอเวลาที่แคดดี้มือหนึ่งจะร้องขอความช่วยเหลือ พอเจ้าตัวมองมาก็ยิ้มแป้นแทบจะลอยเข้าไปหาเลยทีเดียวเวลาแห่งการท้วงแค้นมาถึงแล้ว แต่ทว่า

“เกตุ... ช่วยดึงพี่หน่อย”

สิ้นเสียง แคดดี้ของญาณกรกระวีกระวาดเข้าไปช่วย




หลังการออกรอบ ชยพลขอใบบันทึกคะแนนมาตรวจสอบ วันนี้เขาเล่นได้ ๑๐๐ พอดี แม้คะแนนจะดีขึ้นมาก แต่ไม่ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เจ้าตัวจึงถือเป็นโอกาสที่จะหาเรื่องแคดดี้มือหนึ่ง

“ไหนว่าถ้าไม่โต้แย้งจะต่ำกว่าร้อย?” ถามพลางเลิกคิ้วสูง พยายามปั้นสีหน้าให้เข้ม

“ด้วงไม่ได้บอกว่าจะต่ำกว่าร้อยแค่บอกว่าไม่แน่” เธอตอบเสียงราบเรียบ “แต่จะว่าไป ถ้าหลุมสี่คุณพลไม่ดึงดันจนตีตกน้ำ คะแนนก็จะเหลือเก้าสิบเก้า...ต่ำกว่าร้อย”

ชยพลไม่รู้จะเถียงอย่างไรเพราะเป็นจริงดังที่เธอว่าจึงทำได้เพียง... ฝากไว้ก่อน!


ฝ่ายญาณกร เมื่อเห็นคะแนนของเพื่อนดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็รู้ทันทีว่าความสามารถของชาลิดาเป็นส่วนสำคัญอันที่จริงแคดดี้ของเขาในวันนี้ก็ถือว่ามีมาตรฐานที่ดีมากคนหนึ่ง แต่ยังขาดความละเอียดบางอย่างเช่น การอ่านไลน์ การเข้าถึงจิตใจของผู้เล่น การคำนวณปัจจัยกระทบต่างๆ

สิ่งเหล่านี้ หากดูผิวเผิน จะเหมือนเป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยไม่ส่งผลอะไรมากมาย แต่ถ้ามองให้ลึกจะมีผลไม่น้อยทีเดียว

ซึ่งชาลิดามีทุกอย่างสมบูรณ์อยู่แล้วและนั่นทำให้เขาอยากได้เธอมาถือถุงยิ่งขึ้นไปอีก

ทว่าสิ่งที่เห็นได้ชัดอย่างหนึ่งก็คือชยพลต้องการที่จะได้ชาลิดาไปเป็นแคดดี้ส่วนตัวเช่นกันซึ่งเขาค่อนข้างหนักใจอยู่พอสมควร เพื่อนของเขาได้เปรียบเพราะมีฐานะเสมือนเป็นเจ้านายของเธอและหากปล่อยให้เป็นไปตามนี้โอกาสที่จะเข้าถึงตัวของเธอคงยากทว่าเมื่อใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งความหวังก็เริ่มปรากฏรำไร

ญาณกรแสร้งบอกกับชยพลว่ามีธุระด่วนคงไม่ทันได้อาบน้ำเสียแล้วอันที่จริงเขาตั้งใจไปดักรอชาลิดาแถวๆ ลานจอดรถ เผื่อจะได้โอกาสคุยเป็นการส่วนตัวกับเธอบ้าง



ญาณกรสตาร์ทรถคอยอย่างใจจดใจจ่ออยู่นานพอสมควร แล้วริมฝีปากที่เม้มจนเกือบเป็นเส้นตรงก็คลี่ยิ้มเมื่อเห็นแคดดี้คนหนึ่งเดินงุดๆ ออกไปตามทาง ตัวเลขที่ติดอยู่ด้านหลังเป็นเลขประจำตัวของชาลิดาอย่างไม่ต้องสงสัยเจ้าตัวค่อยเคลื่อนรถตามออกไปช้าๆ เมื่อเห็นว่าเป้าหมายไกลออกไปจากลานจอดรถพอสมควรแล้วจึงขับรถไปเทียบกดเลื่อนเปิดกระจกรถจนเต็มบาน กำลังจะเอ่ยปากทักทายแต่เจ้าตัวหันกลับมาเสียก่อน

ญาณกรตะลึงงัน ใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมงดงามเกินคาดคิด




ชยพลกลับมารถทั้งที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยเพราะได้รับโทรศัพท์ด่วนจากมารดาว่าให้ช่วยพาไปงานเลี้ยงรุ่น

ภาพของคนสูงวัยหยอกล้อกันดูน่ารักดี และเขาก็ขำทุกทีที่เห็นท่านเหล่านั้นหยอกเย้ากันเหมือนเด็กมารดาเคยบอกว่า ไม่ว่าอายุจะมากแค่ไหนก็ตามแต่พอได้เจอกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันจะรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนเวลากลับไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง

ทายาทผู้บริหารสนามกอล์ฟออกรถด้วยความรู้สึกแช่มชื่นแต่เมื่อเลี้ยวออกจากลานจอดกลับได้พบกับภาพที่ไม่คาดคิดจริงอยู่เขาไม่เห็นใบหน้าของผู้ที่ก้าวขึ้นรถของเพื่อนไปแต่หมายเลขที่แปะติดอยู่ด้านหลังบอกได้ดีว่าแคดดี้ผู้นั้นเป็นใคร ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจึงรู้สึกราวกับโลกถล่มลงตรงหน้า

ญาณกรบอกว่ามีธุระด่วนต้องรีบกลับ ในขณะที่ชาลิดาก็ทำทีต้องรีบกลับไปพามารดาไปหาหมอแต่ภาพที่เห็นบ่งชี้ไปในทางอื่นไม่ได้เลยนอกจากทั้งคู่แอบนัดหมายกัน

ชยพลจอดรถนิ่งเทียบอยู่ข้างทางนั้นเอง เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจึงรู้สึกผิดหวังรุนแรงถึงเพียงนี้ความผิดหวังที่ว่าไม่ใช่เรื่องของหัวใจแต่เป็นเรื่องของท่าที เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนง่ายๆแบบนี้ ผิดไปจากภาพลักษณ์ที่แสดงออกอย่างชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

‘ทุกอย่างเป็นสิทธิ์ของเธอไม่ว่าจะนัดหมายพบปะกับญาณกร หรือยอมขายศักดิ์ศรีชั่วครั้งชั่วคราว ครอบครัวของเธอกำลังลำบากเธออาจทำอย่างนี้เพื่อความอยู่รอดก็ได้ เราไม่มีสิทธิ์ไปตัดสิน รวมทั้งไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์และสำคัญเราไม่ควรปล่อยให้การกระทำของเธอมากระทบกระเทือนจิตใจ’

เขาพยายามทำความเข้าใจและบอกตัวเองอย่างนั้น แต่ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมความง่ายของเธอจึงไม่เคยหลุดรอดให้เห็นสักนิดใช่ว่าเขาจะไร้เดียงสา ไม่เคยสัมผัสกับจริตจะก้านมารยาหญิงมาก่อน เพียงแต่ชาลิดาไม่เคยมีท่าทีแบบนี้จริงๆ



.........




(โปรดติดตามตอนต่อไป ๑ ส.ค. ๕๕)

จากคุณ : วรบรรณ
เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 15:41:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com