ผลการสอบวัดความรู้ครั้งที่สองกับการสอบปลายภาคเรียนสุดท้ายของระดับชั้นมัธยมผ่านพ้นไป ระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่ทุ่มเทให้กับการเรียน ไม่เพียงพอที่จะทำให้ผลสอบออกมาดีเท่าที่ควร ความปรารถนาที่จะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐบาลแห่งเดียวกับเพื่อนสาวในดวงใจ จึงเป็นเพียงความหวังริบหรี่ที่ใกล้ดับเต็มที
กันต์ธีร์เหม่อมองบรรยากาศครึกครื้นของการเริ่มต้นงานเลี้ยงอำลาในสนาม ในที่สุด วันเวลาแห่งการพรากจากก็มาถึง วันนี้เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะหาทางปรับความเข้าใจกับเธอ
"กรรมการนักเรียนลงมติให้ตัดการแสดงไม่เด่นของบางห้องทิ้งไป เพื่อที่จะได้มีเวลาเปิดเพลงดิ้นกันนาน ๆ" เสียงหนึ่งดังขึ้น ท่ามกลางเสียงอึกทึกเจี๊ยวจ๊าวของเพื่อน ๆ ในกลุ่ม "ไอ้ที่บอกตัดทิ้งนี่ก็หมายถึงห้องเราด้วยโว้ย"
"เอ่อดี เราไม่ค่อยได้ซ้อมกันอยู่แล้ว" สุเทพทำท่าโล่งอก "ว่าแต่อาจารย์จะยอมเหรอ เห็นบอกนโยบายโรงเรียนอยากให้เด็กได้แสดงออก"
"โธ่ นี่มันวันสุดท้ายแล้ว อาจารย์ทุกคนเค้าเปลี่ยนจากนโยบายโรงเรียนเป็นนโยบายตามใจนักเรียนโว้ย"
"เห็นนุ่นไหมวะ"
สุเทพเหลียวหลังมาเมื่อถูกสะกิด แววตาเว้าวอนของเจ้าของเสียงทำให้เขาต้องอ่อนใจ
"พวกผู้หญิงส่วนใหญ่เค้ากลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน" เขากระซิบตอบพลางกอดคอเพื่อนเดินห่างออกจากกลุ่ม "นี่มอ อึ งอ ยังทำใจเรื่องนี้ไม่ได้อีกเหรอวะ"
คนฟังเม้มริมฝีปาก
"กอ อู แค่.. อยากพูดกับเค้า" เขาบอกอ้อมแอ้ม ก่อนจะปลดปล่อยความรู้สึกอึดอัดออกมาเป็นเสียงกระแทก "อยากให้เค้าพูดกับกอ อู บ้าง"
สุเทพส่ายหน้า
"ไหนมอ อึ งอ บอกว่าส่งการ์ดไปขอโทษมันแล้วไง ถ้ายังไม่ยอมอีก ก็สุดปัญญาจะง้อผู้หญิงคนนี้แล้ว" เขาบอกอย่างออกอารมณ์ "กอ อู ถามจริง ๆ เถอะว่ามันโมโหมอ อึ งอ เรื่องอะไร"
เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะส่งสายตาคาดคั้นเอาความจริงจากคู่สนทนา
"อย่าบอกนะว่า มอ อึ งอ เกิดไป..." คำถามนั้นขาดห้วง คนฟังจับความหมายได้ทันที
"เฮ้ย ! เปล่า" เขารีบปฏิเสธ "กอ อู ไม่เคยทำอะไรเค้า คิดไปได้"
"นั้นเดะ กอ อู ก็ว่าไม่น่าใช่" สุเทพยักไหล่ "ท่าทางอย่างมอ อึ งอ ไม่น่ากล้าทำลุ่มล่ามกับใคร"
กันต์ธีร์ทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกวิจารณ์เช่นนั้น สุเทพโน้มตัวไปตบไหล่เพื่อนอย่างให้กำลังใจ
"ไงวันนี้มอ อึ งอ ก็ลองหาโอกาสคุยกับมันดูอีกที ถ้ายังไม่สำเร็จก็ทำใจเถอะวะ กอ อู เห็นมีหญิงมาเหล่มอ อึ งอ เยอะแยะ ไม่เห็นต้องไปง้อ"
ตะวันใกล้พลบ ดวงไฟหลากหลายสีสันเริ่มสาดแสงไปมาบนเวที สายตาของชายหนุ่มยังคงจดจ่ออยู่แต่บริเวณประตูรั้วหน้าโรงเรียน
"ไปเร็วนุ่น ไปจองโต๊ะข้างหน้ากัน" เสียงแหลมเล็กของติรกาดังขึ้น ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนผู้หญิง
เขาสอดส่ายสายตามองหาเธอทันที
"ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวพอเค้าเต้นกันคงวุ่นวายน่าดู เราหาโต๊ะนั่งห่าง ๆ สบาย ๆ ดีกว่านะแต้ว ลี"
โทนเสียงนุ่มนวลอันจารจดอยู่ในใจเขา ท่ามกลางความสลัว ภาพของเธอเคลื่อนใกล้เข้ามา
"นุ่นขอคุยด้วยหน่อยสิ"
นริศราสะดุ้ง เมื่อร่างสูงของเพื่อนหนุ่มยืนอยู่เกือบติดแผ่นหลังของเธอ เด็กสาวถอยกรูดออกห่างทันที
"งั้นลีไปจองโต๊ะโน้นไว้ก่อนเลยนะนุ่น" เด็กสาวร่างท้วมบอกพลางดึงแขนเพื่อนสาวอีกคนให้เดินตามกันไป "ไปกันเถอะแต้ว"
นริศรามองตามหลังเพื่อนสาวทั้งสองสลับกับคนตรงหน้าอย่างลังเลใจ ท่ามกลางแสงสลัวของไฟดวงเล็กดวงน้อยที่ประดับอยู่ตามยอดไม้ เธอจึงไม่เห็นแววตาคู่เว้าวอนของเขา
"มีอะไรเหรอ นุ่นหิว" เธอแข็งใจถามพลางเบนสายตาเหม่อมองผ่านไปยังโต๊ะอาหารที่อยู่ห่างออกไป ฝั่งตรงข้ามมีเงาดำอันแสนคุ้นตาของใครคนหนึ่งคล้ายยืนรออยู่
ชายหนุ่มกลั้นใจลำเลียงความรู้สึกที่มีอยู่ในขณะนั้นออกมา
"นุ่นจะเลือกเรียนต่อที่ไหนเหรอ กันต์ เอ่อ...กันต์" เขาไม่ควรลังเลอีก ยังไงเสียวันนี้ต้องพูดความในใจกับเธอ "กันต์ทำสอบทั้งสองครั้งได้ไม่ค่อยดี สงสัยจะเลือกเรียนต่อที่เดียวกับนุ่นยาก"
เด็กสาวเม้มริมฝีปากมองเขาด้วยสีหน้าโกรธขึง
"กันต์ไม่ตั้งใจจะทำแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอ นุ่นไม่ดีเองที่ไปวุ่นวายกับกันต์" เธอตวาดแล้วทำท่าจะผละหนี
"เปล่านะ กันต์ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย"
เขาปราดเข้าขวางจนแทบประชิดตัวเธอ เด็กสาวผลักร่างสูงออกไปอย่างแรง
"ไปให้พ้นนะ" เธอตะโกนใส่หน้าแล้ววิ่งหนีหายไป
กันต์ธีร์ทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้ สะอื้นในความปวดร้าวที่จู่โจมเข้ามา ความเจ็บปวดนั้นบาดลึกเป็นแผลฉกรรจ์ในหัวใจ ไม่มีอะไรจะช่วยคืนวันเวลาแห่งความสัมพันธ์อันดีงามนั้นได้
...เธอไม่ยอมให้อภัยเขา
"กันต์มีคู่เต้นรำงานนี้หรือยังเหรอ" เสียงคุ้น ๆ ดังอยู่ที่ข้างหู ทำลายห้วงอารมณ์เศร้าสร้อย
ชายหนุ่มสะดุ้ง รีบลุกพรวดขึ้นมองหาเจ้าของเสียง
ปองใจอยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำรัดรูปกับกางเกงยีนส์ขายาว ทำให้แลสวยเพรียวขึ้นกว่าเด็กสาวบุคลิกเรียบง่ายคนเดิม
"คู่เต้นอะไรนะ" เขาทวนคำ ปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติอย่างรวดเร็ว ราวกับต้องการซ่อนความรู้สึกพ่ายแพ้นั้น
"ตามธรรมเนียมปาร์ตี้ไง ผู้ชายต้องขอผู้หญิงไปเป็นคู่เต้นรำ เค้าคุยเรื่องนี้กันกระหึ่ม กันต์ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ"
...งานปาร์ตี้เต้นรำ
แม้จะได้ยินเพื่อน ๆ พูดกันอยู่บ้าง แต่ความกลัดกลุ้มใจเรื่องของนริศราทำให้เขาไม่สนใจ
"โรงเรียนเรา นักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชายเกือบทุกห้องอยู่แล้ว จับคู่ยังไงก็คงไม่ครบหรอก" เขาบอกอย่างไม่ใส่ใจ
เด็กสาวนิ่งอึ้งไป
"แต่ปอง..." เธอลังเล แต่ก็ยังฝืนพูดความในใจออกมา "ปองไม่อยากเป็นเศษเหลือที่ไม่มีคู่ กันต์ไปเต้นกับปองหน่อยสิ"
เขาเพ่งสายตามองคู่สนทนา เพิ่งสังเกตว่าพวงแก้มคล้ำของเพื่อนสาวมีสีชมพูปน วันนี้ปองใจแลสวยน่ารักกว่าทุกวัน
"อื่ม ก็ได้ ไปสิ" เขาตัดสินใจรับคำเธอ
เด็กสาวยิ้มกว้าง เข้ามากุมมือเพื่อนหนุ่มเดินตรงไปที่ฟลอร์
การออกแรงเต้นรำอาจช่วยดับความทุกข์โศกในใจเขา ในเมื่อไม่อาจดึงความรู้สึกดี ๆ ที่เธอเคยมีต่อเขากลับคืนมาได้ จะมัวนั่งอมทุกข์เศร้าโศกไปไย
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ค. 55 14:00:33
|
|
|
|