 |
หญิงสาวถามเสียงห้วนพร้อมกับจ้องโคนต้นเขม็งเหมือนจะรู้ว่าตัวต้นเหตุอยู่ตรงนั้นซึ่งก็ไม่ผิดนักเพราะทันทีที่เธอพูดจบเปลือกไม้ก็ขยับไหวราวกับมีชีวิต ร่างสูงกำยำของภูธราก้าวออกมา เขากวาดตามองดอกไม้ที่บานสะพรั่งเต็มต้นพร้อมกับพูด
ข้าเห็นเจ้าเหนื่อยเลยอยากจะทำอะไรให้สบายใจ
ด้วยการทำให้ดอกไม้พวกนี้บานพิมมาดาต่อประโยคด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ภูตหนุ่มมองเธออย่างงงงัน
คิดว่าเจ้าชอบ
ถ้าแค่ต้นสองต้นอาจจะใช่ แต่เล่นให้บานทั้งหมดแบบนี้กลิ่นของมันก็ตีกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นดอกอะไรพูดพลางใช้มือขยี้จมูกตัวเองอีกอย่างสารพัดกลิ่นแบบนี้ขืนดมไปนานๆมีหวังฉันเป็นลมตายไปก่อนแน่
ข้าขอโทษภูธราพูดด้วยสีหน้าสำนึกผิด ยังไม่ทันที่พิมมาดาจะกล่าวอะไรโต้ตอบอยู่ๆก็มีสายลมเย็นฉ่ำก็พัดเข้ามาภายในสวนนำพากลิ่นดอกไม้ทั้งหมดออกไป ไม่เพียงเท่านั้น บรรดาดอกที่บานสะพรั่งเต็มต้นก็ร่วงพรูลงพร้อมกัน มีเพียงต้นจำปีและดอกมณฑาเท่านั้นที่ยังคงมีจำนวนเท่าเดิม หญิงสาวยืนตกตะลึงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเมื่อลมกลุ่มสุดท้ายหอบกลิ่นดอกไม้ออกไปเธอจึงหลุดปากถาม
เกิดอะไรขึ้น
เจ้าบอกว่าเวียนหัวภูธราตอบพลางก้าวเข้ามาหาพิมมาดารีบถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัวพร้อมกับร้อง
อย่าเข้ามานะ
ภูตหนุ่มหยุดทันที เขามองหญิงสาวด้วยดวงตาที่อ่อนโยน
ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก
จะให้เชื่อได้ยังไงในเมื่อแกเป็นภูตกินคน
พูดพลางถอยหลังกรูดไปจนชิดประตูบ้าน ภูธราส่ายหน้าช้าๆ
ดูเหมือนทั้งเจ้าและเพื่อนจะเข้าใจอะไรผิด ข้าเป็นภูตที่ดูดกลืนวิญญาณของสัตว์อื่นเป็นอาหาร หากเป็นไปได้พวกเราก็ไม่อยากกินมนุษย์เพราะพลังชีวิตของพวกมันมีแต่ความโสมมต่างจากสัตว์ป่าซึ่งเต็มไปด้วยความสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากมลทิน
งั้นที่มานี่ก็ไม่ได้เพื่อจะมากินฉัน
ข้าบอกเจ้าตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่เชื่ออีกหรือไงภูตหนุ่มตอบอย่างอ่อนใจและมองหญิงสาวซึ่งแม้จะยืนนิ่ง แต่สีหน้าของเธอนั้นเหมือนจะคลายความหวาดกลัวลง
มีอีกเรื่องที่ข้าอยากจะฝากให้เจ้าไปบอกให้เพื่อนได้รู้ ข้าเป็นภูตไม่ใช่ผี ดังนั้นเลิกคิดเรื่องจับลงหม้อถ่วงน้ำไปได้เลย
พิมมาดาอ้าปากค้าง
แกรู้ได้ยังไง
ข้าอยู่กับเจ้าตลอดเวลาภูธราตอบพลางเลื่อนสายตามองออกไปด้านนอกและจ้องเหล่าพฤกษาที่ถูกแสงตะวันยามเย็นย้อมจนกลายเป็นสีส้ม จั๊กจั่นที่เกาะอยู่ตามโคนต้นไม้เริ่มกรีดปีกร้องระงม มันเป็นดนตรีที่ไพเราะยิ่งในความรู้สึกของภูตคราม
เย็นมากแล้วเจ้าคงอยากพักเขาหันหน้ากลับมาทางหญิงสาวอาบน้ำกินข้าวให้สบาย ข้าสัญญาว่าระหว่างนั้นจะไม่เข้ามากวนใจเจ้าอย่างเด็ดขาด
ถ้าจะให้ดี แกควรไปจากที่นี่และกลับเข้าป่าไปซะ
พิมมาดาพูดเสียงห้วน อีกฝ่ายส่ายหน้าแต่ไม่พูดอะไร ร่างสูงสง่าค่อยๆเลือนหายไปอย่างเงียบงัน แม้จะเห็นว่าภูตครามหายไปแล้วแต่หญิงสาวก็ยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับอยู่อีกครู่ใหญ่ กระทั่งแน่ใจว่าภูธราไม่อยู่ในห้องนั้นแล้วเธอจึงเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวกับชุดนอน ระหว่างอาบน้ำพิมมาดาก็ยังอดเหลียวมองรอบตัวด้วยความหวาดระแวงไม่ได้ หลังจากผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหญิงสาวจึงเปิดโทรทัศน์โดยหวังจะอาศัยเสียงเป็นเพื่อน แต่ภูธราก็รักษาสัญญาเพราะเขาไม่ปรากฏตัวให้เธอเห็นแม้แต่เงา
สงสัยเขาจะไปแล้ว
หญิงสาวพูดพร้อมกับระบายลมหายใจออกมา แม้จะไม่โล่งใจนักแต่ก็รู้สึกอึดอัดน้อยลงกว่าตอนที่ยืนอยู่ตรงหน้าภูตครามเป็นอย่างมาก ตอนแรกเธอคิดจะเข้านอนเลยแต่ท้องที่ลั่นโครกครากเหมือนกำลังร้องอุทรณ์ทำให้หญิงสาวต้องยิ้มออกมา
พอหายเครียดก็หิวเลยนะยายพิม
เธอพูดกับตัวเองอย่างติดตลกก่อนจะลุกเข้าครัวและจัดแจงคดข้าวใส่จาน เมื่อจัดการกับมื้อค่ำจนอิ่มหนำแล้วพิมมาดาจึงเดินกลับมานั่งหน้าโทรทัศน์อีกครั้งเพื่อชมภาพยนต์ชุดจากต่างประเทศที่เธอโปรดปรานจนจบ เมื่อไม่มีอะไรดูแล้วหญิงสาวจึงปิดโทรทัศน์และไล่สำรวจประตูหน้าต่างทุกบานจนแน่ใจว่าปิดเรียบร้อยจึงขึ้นนอน แต่ก่อนที่จะดึงผ้าห่มคลุมตัวเธอก็นึกได้ว่าหน้าต่างห้องพระยังคงเปิดอยู่ หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเองสองสามคำก่อนจะเดินไปปิด ระหว่างที่กำลังจะยื่นมือออกไปดึงบานหน้าต่างนั้นเองหูก็ได้ยินเสียงแสกสากคล้ายคนกำลังแหวกพุ่มไม้ ตอนแรกเธอคิดว่าคงจะเป็นการกระทำของภูธราแต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาเป็นภูตที่ไม่มีร่างเนื้อเป็นตัวตน คิ้วของหญิงสาวก็ขมวดเข้าหากันทันที
หรือว่าจะเป็นแมวตัวเมื่อวาน
คิดพลางโน้มตัวไปข้างหน้าหมายจะมองให้หายข้องใจ แต่เงาตะคุ่มที่ปรากฏอยู่ในกอดอกดาหลาทำให้เธอต้องหยุดและรีบหดตัวกลับ ตอนนั้นเองที่มีเสียงคนคุยกันอย่างแผ่วเบา
แน่ใจเหรอว่ามีเจ้าของบ้านอยู่คนเดียว เสียงหนึ่งถาม อีกเสียงรีบตอบ
แน่ใจสิวะ แถมยังเป็นผู้หญิงสวยด้วย งานนี้นอกจากจะไม่ได้แค่ของแล้วเราอาจได้ทำอะไรสนุกๆ
พูดพลางปาดปากอย่างกระหาย คนที่มาด้วยเงยหน้าขึ้นมองห้องพระ
หน้าต่างยังไม่ได้ปิด เราเข้าไปทางนั้นดีกว่า
เฮ่ยฉันสำรวจมาแล้ว เข้าทางห้องครัวง่ายที่สุด ไม่พูดเปล่า ชายคนนั้นยังจรดปลายเท้าย่องไปทางด้านหลัง เสียงก่อกแก่กที่ดังขึ้นไปถึงชั้นบนทำให้พิมมาดาต้องรีบถอยกลับเข้าห้องและปิดประตูลงกลอนด้วยความกลัว
เอาไงดี เธอคิดและพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ลนลานจนเกินเหตุต้องแจ้งตำรวจ
หญิงสาวหันไปที่โต๊ะหัวเตียงซึ่งมักจะวางโทรศัพท์มือถือไว้เป็นประจำ แต่ต้องใจหายวาบเมื่อนึกได้ว่ามันยังคงอยู่ในกระเป๋าซึ่งวางอยู่ชั้นล่าง เสียงแกรกที่ดังชัดเจนกว่าทุกครั้งทำให้เธอรีบหันไปมองประตูและเริ่มคิดหาทางป้องกันตัวเอง
ตอนที่กำลังว้าวุ่นอยู่กับความคิดพิมมาดาก็ได้ยินเสียงตะโกนเอะอะตามมาด้วยเสียงเหมือนอะไรตกกระทบพื้นดังโครมใหญ่ หนึ่งในนั้นถามว่าใครวะจากนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัวดังลั่น
ผีหลอก!
เสียงฝีเท้าวิ่งตรงไปที่รั้ว หญิงสาวรีบไปแอบดูที่หน้าต่างจึงเห็นเงาตะคุ่มของคนสองคนกำลังกระโดดลงจากกำแพงบ้านของเธอและวิ่งหนีหายไป แม้จะงุนงงต่อเหตุการณ์อยู่บ้างแต่จากท่าทางของโจรทั้งสองทำให้เธอพอจะเอาออกได้ว่าพวกเขากลัวอะไร
ภูธรา
ลมเย็นพัดวูบปะทะแผ่นหลัง พิมมาดาหมุนตัวหันกลับไปมองและยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับเมื่อเห็นภูตหนุ่มยืนอยู่กลางห้องไม่ห่างจากเธอเท่าไหร่นัก ตอนแรกหญิงสาวตั้งใจจะไม่พูดอะไรกับเขาแต่เมื่อเห็นดวงตาที่กำลังจ้องมองมาอย่างอ่อนโยน ความหวาดกลัวที่มีอยู่จึงลดลง เธอสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้าและเอ่ยปากถาม
ฝีมือนายใช่ไหม
อีกฝ่ายเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจและย้อนคำถามกลับมา
คำเรียกของเจ้าเปลี่ยนไป
นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องคำเรียก ฉันถามว่านายเป็นคนไล่โจรสองคนนั่นไปใช่ไหม
ภูตหนุ่มพยักหน้ารับ พิมมาดาเม้มปากพลางสั่นศีรษะ
ฉันไม่เข้าใจ นายเป็นภูต ทำไมถึง
ข้าทำเพื่อเจ้า ภูธราพูดขัดขึ้นมาอีกอย่างการปกป้องไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
เขามองหญิงสาวที่ยังคงยืนนิ่ง ภูตหนุ่มจึงยื่นมือไปข้างหน้าพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล
ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร โจรสองคนนั่นไม่มีวันได้กลับมาทำร้ายเจ้าอีกข้าขอรับรอง
กระแสลมที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเคลื่อนออกจากปลายนิ้วไปสัมผัสกับพวงแก้มของพิมมาดา เธอรู้สึกเหมือนอุ้งมือของภูตหนุ่มกำลังไล้ใบหน้าอย่างอ่อนโยน แม้ต้องการจะเบือนหนีแต่ร่างกายของเธอกลับไม่ยอมขยับ หญิงสาวยืนนิ่งปล่อยให้ลมลูบไล้อยู่เช่นนั้นจนกระทั่งกลิ่นหอมละมุนของดอกมณฑาฟุ้งกระจายเข้ามาในห้อง กลิ่นของมันทำให้พิมมาดาตกอยู่ในอาการง่วงงุนเมื่อเห็นดวงตาของหญิงสาวหรี่ปรือลงลมอีกกลุ่มจึงพัดมาจากร่างของภูธรา มันหมุนวนรอบตัวโอบอุ้มร่างของเธอเอาไว้ดุจเป็นการประคอง หญิงสาวเดินอย่างงัวเงียไปจนกระทั่งถึงเตียง
หลับให้สบายเถิดพิมมาดา
เสียงทุ้มน่าฟังกระซิบข้างหู แม้จะตกอยู่ในความง่วงอย่างหนักแต่พิมมาดาก็ยังฝืนเปิดเปลือกตาขึ้น
ภูธราเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาจนเกือบจะชิด หญิงสาวจึงพูดเสียงแผ่ว
ขอบใจ
รอยยิ้มแห่งความยินดีพาดผ่านใบหน้าคมสันและละลายหายไปทันทีเมื่อหญิงสาวเข้าสู่นิทรา ภูธรายืดตัวขึ้นและหันไปยังทิศทางที่โจรทั้งสองวิ่งหนี ดวงตาที่ฉายความอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปเป็นประกายกล้าแห่งความดุร้าย ดุจดวงตาของนักล่ายามราตรี สายลมยามดึกพัดกรรโชกผ่านยอดไม้จนเกิดเสียงซู่ซ่า ร่างของภูธราก็เลือนหายไป
สิ่งสุดท้ายที่ผู้คนในแถบนั้นได้ยินก็คือ เสียงร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว แต่ก็เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น เพราะพอทุกคนเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงที่ลอยมาตามลมก็มีเพียงจิ้งหรีดกับเสียงแหลมเล็กของค้างคาว
*/*/*/*/*/*
ผ่านไปอีกบทอย่างหืดขึ้นคอ ตอนนี้ต้นฉบับใกล้จะจบแล้วค่ะเหลืออีกแค่ไม่กี่หน้าเท่านั้น พอรีไรท์เสร็จก็จะส่งสนพ.เลย อ้อลืมบอกไป ภูตครามผ่านพิจารณาแล้วนะคะ เหลือแค่ปรับแก้เกลาสำนวนเท่านั้น แต่มูนนี่ตั้งใจว่าจะลงให้จบแล้วค่อยลบออกค่ะ
มาคุยกัน ^^
นางเอกดุจริง ถ้าภูตหล่อๆ ก็น่าจะให้ผ่านนา... ชอบตอนสาดน้ำมนต์ จากคุณ : อสิตา - ถึงจะหล่อแต่ก็เป็นภูต ยังไงก็น่ากลัว แต่ตอนสาดน้ำมนต์นี่นั่งเขียนไปก็หัวเราะไป นึกในใจว่าถ้าเป็ฯเราจะกล้าทำแบบนี้หรือเปล่าน้อ
ฮี่ๆๆ กฏนักอ่านอย่างผมคือ ตัวละครฝ่ายหญิง ทำผิด....ให้อภัย ร้อยละ 70 ขึ้นไป แต่ ถ้าตัวละครฝ่ายชาย ทำผิด ในกรณีเดียวกัน ผมให้ติดลบ 70 ยุติธรรมมาก คุณมูนนี่...คิ ด Plot แบบนี้ได้อย่างไร........ มันยอดมากครับ จากคุณ : GTW - เอ่อ เป็ฯกฏที่ยุตรรมมากค่ะ = = ส่วนพล็นต อาจจะเพราะเคยไปเที่ยวเขาใหญ่ ได้ฟัง ได้เจอเรื่องผีป่าเยอะแยะโดยเฉพาะคนที่กลับออกมาจากป่าแล้วตายโดยไม่ทราบสาเหตุ มูนนี่เลยคิดว่าถ้าเกิดจากการถูกสิ่งลึกลับกินวิญญาณล่ะ ผี สาง มีเยอะแยะแล้ว เลยกำหนดหัวข้อที่ภูตค่ะ
ขำพิมมาดาค่ะ จิตกระเจิงไปเลย ถ้าเขามาแบบดีๆ ไม่ทำให้ตกใจแบบน่ากลัว น่าจะคุยกันได้นะ ยิ่งถ้ารู้ว่าคอยช่วยเหลือปกป้องเรา ยิ่งดีใหญ่ จากคุณ : กุหลาบมอญ - เขามาแบบหล่อนะคะ แต่หนูพิมก็ยังกลัว แหม ภูตกินคน หล่อแค่ไหนก็ไม่กล้างาบหรอกค่ะ
มาฟัอง ไม่ใช่ แค่ แอบดูสักพักใหญ่แล้ว เท่านั้น แอบดูตอน อาบน้ำด้วย ^^.. จากคุณ : GTW - โห เข้าข้างนางเอกเห็นๆ
555 ถ้าตาภูตของเราบ้าจี้ เอาข้าวสารไปหุงจริงๆ จาทำยังไง จากคุณ : หม่าม๊าขาหมู - หุ หุ ว่าแต่คุณภูตรูปหล่อจะหุงแบบไหน เต่าถ่านหรือหม้อหุงข้าวไฟฟ้า = =
แรก ๆ ก็อาจจะตกใจ แต่พอชินแล้วอาจจะดีก็ได้น๊าพิมมาดา ฮิฮิ >,,< ภูตออกจะหล่อเหลา จากคุณ : Cookies 'n Cream Frappe - นั่นสิคะ หล่อ ล่ำ อกแน่นแถมซิกแพ็คอีกตะหาก คนเขียนเองยังนั่งเช็ดเลือกกำเดาไปด้วยเลย =,,=
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามงานของมูนนี่นะคะ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ ^^
จากคุณ |
:
moony (Moony_Lupin)
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ก.ค. 55 21:36:09
|
|
|
|
 |