Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เวียงนาคินทร์ ตอนที่ (3) 4-5 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 4

ไร่เหมวัต

 

          คมชาญมองพราวแสงเดินเหม่อลอยออกไปจากสำนักงานทนายความ เหมือนคนไร้สติด้วยความประหลาดใจ   ก่อนจะหันกลับมามองร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างบิดาด้วยความฉงน เมื่อครู่หลังสิ้นเสียงดั่งประกาศิตนั่น หญิงสาวมากพิษสงก็กลายกลับเป็นอีกคน  ที่นิ่งสงบยอมรับในสิ่งที่อดีตสามีหยิบยื่นให้แต่โดยดี หล่อนเซ็นชื่อยอมยกบุตรชายให้อยู่ความดูแลของสรวงง่ายๆ ไม่มีมีข้อโต้แย้ง  รวมทั้งยอมเซ็นใบหย่าให้โดยไม่แม้แต่จะเรียกร้องใดๆ สักน้อยนิด  ท่าทีของพราวแสงผิดไปราวหน้ามือเป็นหลังมือนั้นดังโดนมนต์เสก  

 

          "เฮ้อ...หมดเรื่องสักทีนะ ยินดีด้วยนะครับคุณสรวง" เขายื่นมือไปให้ลูกความสัมผัส นัยน์ตายังไม่วายเหลียวไปมองเด็กน้อย

          "ผมก็หวังว่าอย่างนั้น....หวังว่าเธอจะไม่เปลี่ยนใจ กลับมาเรียกร้องอะไรอีกสรวงบ่นพึมพำไปพลางหันไปสบตาลูกชายคล้ายจะถาม

          "คุณพราว...ไปในวิถีของเธอแล้ว   คงอีกนานกว่าเราจะได้พบกันใหม่"

 

          ร่างเล็กนั่นตอบ บิดาได้ฟังก็พยักหน้าแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก คมชาญมองแล้วเกิดคำถามในใจมากมาย   แต่ไม่กล้าเอ่ยถามขึ้นมาด้วยเกรง 'บางสิ่ง' ในตัวเด็กน้อยตรงหน้า


          หลังจากนั้นอีกหลายปีทีเดียวกว่าเขาจะได้พบสรวงและลูกชายอีกครั้ง แต่อะไรบางอย่างนั่นดึงความสนใจ ทำให้คมชาญคอยติดตามข่าวคนทั้งคู่อยู่เสมอ เขาจึงไม่ได้ขาดการติดต่อกับสรวงไปเสียทีเดียว  เมื่อลูกความของเขาเริ่มธุรกิจใหม่  สรวงจึงจ้างคมชาญให้ช่วยดูแลเรื่องกฎหมายในทรัพย์สินต่างๆ ของเขาที่เพิ่มพูนขึ้นชนิดมหาศาลในช่วงหลายปีต่อมา

 

          ปีแรกๆ คมชาญได้ข่าวว่าสรวงพาลูกชายย้ายไปอยู่เชียงใหม่  โดยสรวงมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งสำหรับพักผ่อน  และต่อมาก็ซื้อขยายออกไปเรื่อยๆ จากชาวบ้านเจ้าของพื้นที่  และยังคงให้เจ้าของเดิมพักอาศัย รวมทั้งจ้างทำงานในไร่ดอกไม้ของเขาอีกด้วย  หกปีต่อมานายสรวงมาพบเขาที่กรุงเทพ ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เมื่อวันวานกลายเป็นหนุ่มใหญ่ไปเสียแล้ว   แต่สง่าราศีก็เพิ่มพูนขึ้นด้วย  นายสรวงในวันนี้แม้ดูแค่ภายนอกก็รู้ว่าเป็นคหบดีผู้มีอันจะกิน   เขานำไวน์ผลไม้ที่ผลิตจากไร่ของตนเองมาฝาก  และปรึกษาเรื่องอยากตั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ เพื่อส่งสินค้าไปต่างประเทศอีกด้วย  

 

แล้วในช่วงเวลาแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นบริษัทก็เติบใหญ่ขึ้นมากลายเป็นบริษัทชั้นนำ โดยที่สรวงจ้างทีมบริหารมาดูแลแทน   เพื่อที่ว่าเขาจะได้พักผ่อนในไร่ของตน  จนกลายเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งและมีชื่อเสียงเรื่องการเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยออกสังคมนัก  หากไม่ใช่ผู้ใกล้ชิดจะรู้สึกว่าพ่อเลี้ยงสรวงเป็นคนเข้าถึงตัวยากจนค่อนไปทางลึกลับ แต่ลึกลงไปแล้วคมชาญรู้ดีว่าสิ่งใดที่ทำให้สรวงต้องทำตัวแบบนี้  ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปกป้องคนคนหนึ่งที่ลึกลับเสียยิ่งกว่านั่นเอง....

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

          ขวบปีที่วิมุตติอายุครบ 12 ปีบริบูรณ์ สรวงเชิญคมชาญขึ้นไปพบที่เชียงใหม่ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาไปเดินทางไปไร่เหมวัต ไร่นี้ถูกตั้งชื่อตามนามสกุลของพ่อเลี้ยงสรวงผู้เป็นเจ้าขอ ไร่เหมวัตนี้กินพื้นที่ไปทั้งภูเขาเป็นบริเวณกว้างกว่า 1,000 ไร่   คมชาญยอมรับว่าตกตะลึง ทั้งที่พอจะทราบจำนวนทรัพย์สินของสรวงอยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อมาเห็นด้วยตาตัวเองแบบนี้เขาแทบไม่อยากเชื่อว่า  ครั้งหนึ่งชายผู้เคยเป็นแค่เจ้าของสำนักงานบัญชีเล็กๆ บัดนี้กลายมาเป็นพ่อเลี้ยงเมืองเหนือผู้มั่งคั่งแบบนี้ได้ 

 

ไร่ของสรวงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกใช้ทำงานแบ่งออกเป็นไร่ผลไม้อันเป็นวัตถุดิบผลิตไวน์ และแปลงดอกกล้วยไม้  รวมถึงไม้ดอกนานาพันธุ์อีกหลายชนิด ซึ่งกินพื้นที่เป็นอาณาบริเวณกว้างนับถึงเศษ 3 ส่วน 4 ของไร่  เพราะพื้นที่ส่วนที่เหลือถูกกันไว้เป็นที่สำหรับครอบครัวพักผ่อนกันเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีเรือนรับรองแขกที่ไว้รับรองลูกค้าที่มาเยี่ยมชมการผลิตนั่นเอง  ดูเผินๆ ก็เหมือนการดำเนินธุรกิจธรรมดาทั่วๆ ไป  แต่สิ่งที่ทำให้ไร่แห่งนี้ผิดแผกแตกต่างไปก็ตรงที่ว่า ไม่ว่าเรื่องใดสรวงมักจะสรรหาคนมาทำแทน โดยเขาคอยควบคุมอยู่บนยอดเครือข่ายเท่านั้น  สรวงไม่ได้ทำแบบนี้เฉพาะกับไร่ของเขาหากแต่เป็นธุรกิจทุกประเภท เขาจึงหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนได้พอสมควร

 

          "ไร่สวยมากครับ" คมชาญเอ่ยชมด้วยความจริงใจ  

 

          หลังจากที่มองสำรวจไปทั่วบริเวณ ไร่เหมวัตแห่งนี้นอกจากอากาศดีแล้วยังตกแต่งงดงามด้วยศิลปะล้านนา   เหมือนจำลองเมืองย้อนยุคเข้ามาอยู่ในไร่มากกว่า คมชาญลงความเห็นว่าถ้าเปิดเป็นรีสอร์ทให้บริการอย่างเป็นทางการ   จะต้องได้รับความนิยมแน่ๆ   สรวงฟังแล้วได้แต่หัวเราะแล้วส่ายศีรษะ

 

          "ไม่เอาแบบนั้นคนเข้ามาวุ่นวายตาย แค่ทุกวันนี้ก็จำใจกันส่วนเรือนรับรองไว้รับแขกสำคัญๆ แล้วนะ" เขารู้ว่าเจ้าของไร่มิได้พูดถ่อมตัวแต่หมายความตามนั้นจริงๆ

 

          สรวงพาเขาเข้าที่พักและเลี้ยงอาหารมื้อแรกของวัน ยังเป็นอาหารธรรมดาทั่วไปไม่ใช่อาหารพื้นเมืองแต่ก็รสชาติดีไม่น้อย  พ่อเลี้ยงหัวเราะบอกว่าไว้มื้อเย็นค่อยกินมื้อใหญ่กัน หลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มแล้ว นายสรวงค่อยเริ่มธุระของเขา

 



แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 04:48:21

จากคุณ : แก้วกังไส
เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 03:37:39




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com