Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ่วงสาง บทที่ 7 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 7


               การสนทนาครั้งล่าสุดระหว่างสองหนุ่มสาวซึ่งจบลงอย่างไม่สวยนัก ทำให้ฮันเตอร์ไม่อาจทนนั่งอยู่เฉยๆ ได้นาน ชายหนุ่มพยายามหากิจกรรมทำเพื่อให้ลืมเรื่องเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นอ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูไฟล์ต่างๆ ในสมาร์ตโฟนรวมไปถึงใช้บริการโซเชียลเนตเวิร์กโดยผ่านสัญญาณ GPRS แต่เมื่อพบว่าตนขาดสมาธิ เขาจึงตัดสัญญาณทิ้งและหากระดาษกับปากกามาวาดรูปเล่นแทน



               ถึงแม้ฮันเตอร์จะไม่ได้เรียนจบทางด้านศิลปะ แต่เขาก็มีฝีมือวาดรูปซึ่งเกิดจากการฝึกฝนตั้งแต่เด็ก โดยปกติ เขาจะวาดในตอนที่เกิดความเครียดหรือต้องการสมาธิเท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทว่าพอวาดเสร็จ ชายหนุ่มก็ต้องตกใจเมื่อภาพที่ปรากฏบนกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ นั้นคือใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลวดลายของเสือโคร่ง



               จริงอยู่ที่ฮันเตอร์มีฝีมือถึงขั้นวาดภาพเหมือนได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาชอบวาดในเชิงล้อเลียนมากกว่า รูปนี้จึงเป็นภาพเหมือนหนึ่งในจำนวนน้อยมากจากฝีมือของเขา และยิ่งน้อยกว่านั้นถ้าคำนึงถึงความจริงที่ว่าเขาวาดมันออกมาเพราะกำลังคิดถึงใครคนหนึ่ง


               ฮันเตอร์วางปากกา ดึงกระดาษโน้ตแผ่นนั้นออกมาและทำท่าจะฉีกทิ้ง แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนใจ สอดแผ่นกระดาษนั่นไว้ในหนังสือแล้วเก็บใส่กระเป๋า


               นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม ชายหนุ่มคิดพลางนวดขมับ จากนั้นก็หยิบปากกาขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเตรียมวาดรูปใหม่ แต่ไม่ว่าจะวาดอีกกี่ครั้ง รูปที่ออกมาก็มีเพียงภาพเหมือนของคุณหนูตระกูลแลงฟอร์ดในอิริยาบถต่างๆ


               “พอกันที!” ฮันเตอร์โยนปากกาทิ้งเมื่อถึงภาพที่สิบสอง จากนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้นและผลุนผลันออกจากบ้านพัก ตั้งใจว่าจะไปหาเรื่องยายคนที่คอยรบกวนกันอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งในจินตนาการคนนั้น


               ช่วงนี้เป็นเวลาเที่ยงเศษ พนักงานของรีสอร์ตจึงอยู่ในห้องอาหารกันเป็นส่วนใหญ่รวมถึงอรุณรุ่ง แต่เพราะคดีหมี่เหลืองผัดทำให้สางสาวถูกสั่งห้ามไม่ให้แตะต้องอาหารอีกอย่างเด็ดขาด เธอเลยได้แต่วนเวียนอยู่รอบห้องโดยทำหน้าที่เก็บภาชนะที่ใช้แล้วไปให้พนักงานล้างทำความสะอาด จนเมื่อเห็นปาร์คกุงซูเดินเข้ามา เธอก็รีบตรงรี่ไปทำความสนิทสนมกับเขาทันทีโดยใช้แผ่นซีดีเพลงคลาสสิกเป็นสื่อ


               ฮันเตอร์เข้ามาหลังเหตุการณ์นั้นเล็กน้อย เขาชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวที่ตั้งใจจะมาหาเรื่องยืนคุยอยู่กับนายแบบลูกครึ่งเกาหลีด้วยรอยยิ้มกว้าง ในมือของเธอมีกล่องซีดีกล่องเดียวกับเมื่อเช้า ดูเหมือนเธอจะพยายามชี้ให้อีกฝ่ายมองอะไรสักอย่าง น่าเสียดายที่นายลูกครึ่งคนนั้นทำเพียงยิ้มส่งๆ แล้วเสตามองทางอื่น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าบทสนทนาที่เจ้าหล่อนเพียรคิดมาหัวแทบแตกใช้ไม่ได้ผลเลยสักนิด


               แล้วนายแบบหน้าเกาหลีก็ปลีกตัวออกไป โดยที่หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆ พลางโบกมือให้เขาก่อนหมุนตัวหันหลังเพื่อไปที่ไหนสักแห่ง


               สีหน้าผิดหวังของคุณหนูแลงฟอร์ดทำให้ฮันเตอร์ฉุนเฉียว แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าสาเหตุของความโกรธเกิดจากไม่พอใจนายแบบลูกครึ่งเกาหลีมากกว่า ชายหนุ่มจึงสลัดศีรษะเพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ตอนนั้นเองที่เสียงประกาศเรื่องด่วนของรีสอร์ตก็ดังขึ้น


               ‘ขออภัยทุกท่านที่ขัดจังหวะรับประทานอาหารนะคะ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุในห้องครัวส่วนอาหารหวานเล็กน้อย ทำให้ทางรีสอร์ตไม่สามารถจัดหาของหวานได้เพียงพอสำหรับทุกท่าน เราจึงขอแก้ตัวด้วยไอศกรีมกะทิสดที่กำลังจะเดินทางมาถึงในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า โดยทุกท่านสามารถรับประทานไอศกรีมได้ในเวลาบ่ายโมงสามสิบนาทีเป็นต้นไปที่ห้องอาหารของเรา ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ’


               เสียงประกาศนั้นทำให้ชายหนุ่มละสายตาจากอรุณรุ่งเพื่อแหงนมองเพดาน เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็หายตัวไปเสียแล้ว เขาสบถกับตัวเองพลางทุบโต๊ะอาหารเบาๆ ก่อนเดินไปตามทางที่คิดว่าหญิงสาวใช้ออกจากห้องอาหาร


               แท้จริงแล้วอรุณรุ่งยังอยู่ที่นั่น ในห้องครัวที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าเพื่อรอรับคำสั่งเกี่ยวกับการแจกจ่ายไอศกรีมที่จะมาถึงในช่วงบ่าย หลังจากที่ออกเสียงโหวตกันภายในเรียบร้อย ทุกคนต่างลงความเห็นว่าสางสาวไม่ควรไปประจำจุดตักไอศกรีม และมอบหน้าที่ทำความสะอาดห้องครัวอาหารหวานให้ เพราะก่อนหน้านี้มีลิงป่าเข้าไปทานผลไม้สำหรับทำฟรุตสลัดจนห้องครัวเลอะเทอะ นี่เป็นสาเหตุให้ทางรีสอร์ตต้องสั่งไอศกรีมมาทดแทน ซึ่งโดยปกติแล้วต้องสั่งจองล่วงหน้า


               โชคดีสำหรับรีสอร์ตที่วันนี้ร้านไอศกรีมถูกยกเลิกออร์เดอร์บางส่วนกะทันหัน แต่โชคร้ายเป็นของอรุณรุ่ง เพราะเธอไม่ได้ออกจากห้องครัวอาหารหวานเลยจนกระทั่งรถส่งไอศกรีมมาถึง


               เนื่องจากไอศกรีมกะทิสดเจ้านี้มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดจึงมีคนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ยิ่งราดด้วยผลไม้อีกสองสามอย่างเพิ่มความน่ากิน คนที่ติดใจจนขอสองถ้วยเลยมีมากราย ทำให้ก้องภพต้องแอบขอร้องทางรีสอร์ตให้ช่วยกันไอศกรีมไว้ให้นายแบบระดับโลกกล่องหนึ่งก่อนจะออกตามหาเจ้าตัว โดยไม่รู้ว่าคนที่เขาตามหากำลังวิ่งวุ่นไปทั่วรีสอร์ตเพราะตามหาคนอยู่เช่นกัน


               ฮันเตอร์ไล่ถามพนักงานรีสอร์ตทุกคนที่เจอว่าเห็นคุณหนูตระกูลแลงฟอร์ดหรือไม่ ทั้งที่อากาศร้อนจัดเขาก็ไม่ย่อท้อ จนกระทั่งเหงื่อไคลไหลท่วมตัวจนรู้สึกเหนียวเหนอะทำให้ต้องยอมแพ้และเดินกลับบ้านพักเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะที่กำลังจะเข้าบ้าน ก้องภพก็ตะโกนเรียก


               “คุณฮันเตอร์ อยู่นี่เอง”


               นายแบบหนุ่มเหลียวหลังมองผู้จัดการกองนิตยสารที่วิ่งมาหา
               “ผมตามหาคุณซะทั่วเลยครับ คือว่าทางรีสอร์ตจัดไอศกรีมกะทิสดไว้ เจ้านี้อร่อยมาก คุณจะให้ผม...”


               “ขอบคุณที่มาถาม แต่ผมไม่ทาน” เขาพูดพลางเปิดประตูบ้านพัก แต่แล้วความคิดที่ว่าผู้หญิงที่เขาตามหาเสียทั่วอาจจะประจำอยู่จุดตักไอศกรีมก็แวบเข้ามา “เดี๋ยวก่อนครับ ผมคิดว่าผมไปทานที่ห้องอาหารดีกว่า ขอเวลาอาบน้ำสักครู่เดี๋ยวจะตามไปครับ”


               “อ้อ ครับ” ก้องภพพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ “ถ้าอย่างนั้น ผมไปแจ้งทางห้องอาหารให้ทราบก่อนนะครับ”


               ฮันเตอร์ยืนรอจนผู้จัดการหนุ่มหันหลังจึงได้ผลุบเข้าไปในบ้านพัก รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกจากบ้านพักไปยังห้องอาหารอย่างรวดเร็ว

               แต่ระหว่างที่นายแบบหนุ่มกำลังอาบน้ำ เวลาก็ดำเนินไปหลายนาทีแล้ว

               พนักงานรีสอร์ตถามถึงไอศกรีมที่เหลืออยู่อีกหนึ่งกล่องว่าเป็นของใคร แต่เนื่องจากคนที่ก้องภพฝากเรื่องไว้ไปทำงานในส่วนอื่น พวกเขาจึงคิดว่านี่เป็นส่วนของพนักงาน ทุกคนจึงตักแจกจ่ายกินกันภายในอย่างเอร็ดอร่อย กว่าจะรู้ตัว ไอศกรีมก็เหลือเพียงพอสำหรับถ้วยเดียวเท่านั้น  


               อรุณรุ่งที่เพิ่งเสร็จจากการทำงานเดินมาเลียบๆ เคียงๆ กล่องไอศกรีม พนักงานหญิงคนหนึ่งเห็นเธอยังไม่ได้ทานจึงยกส่วนที่เหลือให้
               “มันมีเนื้อสัตว์หรือเปล่าคะ” เพราะไม่เคยทานไอศกรีม เธอจึงถามก่อน


               “ไม่ค่ะ มันทำมาจากกะทิ ใส่ลอดช่อง มะพร้าวอ่อนและข้าวโพด คนทานมังสวิรัติทานได้ค่ะ” พนักงานสาวตอบ แล้วขอตัวไปทำงานต่อเมื่อสางสาวกล่าวขอบคุณ

               อรุณรุ่งตักไอศกรีมใส่ถ้วยและลองเลียชิมส่วนที่อยู่ติดปลายช้อน เธอทำตาปริบๆ ก่อนขูดส่วนที่อยู่ก้นกล่องชิมอีกครั้ง


               “อร่อย” สางสาวยิ้มกริ่มและขูดเศษไอศกรีมจากกล่องกินต่อ เพราะส่วนใหญ่ที่อยู่ในถ้วย เธอตั้งใจจะเก็บไว้ให้มารดา แต่ในขณะตั้งหน้าตั้งตาขูดกล่องอยู่นั้น ถ้วยไอศกรีมก็ถูกฉกไปโดยนายแบบผมสีชมพู ยิ่งไปกว่านั้น เขายังหยิบช้อนสะอาดที่วางอยู่ใกล้กันตักไอศกรีมกินแล้วลอยหน้าลอยตาเป็นเชิงยั่ว


               “คุณฮันเตอร์ นั่นไอศกรีมของฉันนะคะ” สางสาวแย้ง แต่ชายหนุ่มยังตักไอศกรีมกินต่อ

               “เอาคืนมาค่ะ นั่นของฉัน” เธอพูดพลางยื่นมือจะแย่งคืน ฮันเตอร์รีบหันหลังแล้วจ้วงไอศกรีมกินอย่างไม่สนใจ จนกระทั่งถึงคำสุดท้ายเขาจึงหมุนตัวกลับไปหาเธอ


               “สุดท้ายแล้ว” ชายหนุ่มพูดจบก็ส่งไอศกรีมช้อนสุดท้ายเข้าปาก แล้ววางถ้วยเปล่าไว้ต่อหน้าอรุณรุ่ง สางสาวเม้มปากแน่น โกรธจนตัวสั่น

               ก่อนจะทันคิดให้รอบคอบ เธอก็กระโดดข้ามโต๊ะที่ขวางระหว่างเธอกับนายแบบหนุ่มมายืนอยู่ต่อหน้าเขา จากนั้นสางสาวก็ตะครุบสองข้างแก้มของฮันเตอร์ด้วยสองมือของตน แล้วโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้

               ด้วยความตั้งใจจะเอาไอศกรีมคืน ทำให้เธอสอดลิ้นเข้าไปในปากของนายแบบหนุ่มแล้วกวาดไล้ไปทั่วอย่างอาจหาญ คิดว่าจะกอบโกยความอร่อยที่เหลืออยู่มาให้หมด จนเมื่อรู้สึกว่ารสหวานของไอศกรีมหมดไปแล้ว เธอจึงถอนปากออก

               “คนบ้า” สางสาวตำหนิแล้วปล่อยใบหน้าของเขาให้เป็นอิสระ แต่ขณะจะก้าวไปเก็บถ้วย ฮันเตอร์ก็รั้งมือของเธอเอาไว้และเปลี่ยนเป็นจับบ่าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้บ้าง

               “คุณฮันเตอร์ ทานไอศกรีมหรือยังครับ” คำถามของก้องภพที่ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มชะงัก แต่อรุณรุ่งเป็นคนที่หันไปตามเสียง


               “หมายความว่ายังไงคะ” เธอทำหน้าเหลอหลา มองก้องภพที ฮันเตอร์ที ขณะที่คนเข้ามาทีหลังยืนนิ่งเพราะตกตะลึงกับภาพนายแบบระดับโลกกำลังจะจูบกับสาวหน้าเสือ


               แต่เสียงของอรุณรุ่งปลุกสติของเขา “ไอศกรีมนั่นของคุณฮันเตอร์หรือคะ”

               “ครับ” ก้องภพตอบทั้งที่ยังจ้องภาพนั้นตาไม่กะพริบ ดูเหมือนว่าฮันเตอร์ไม่มีความคิดจะปล่อยมือจากฝ่ายหญิงแม้แต่น้อย

               “ตายจริง ฉันเข้าใจผิดไป ขอโทษด้วยค่ะ” อรุณรุ่งเป็นฝ่ายถอยห่างออกมา แล้วพนมมือพร้อมกับผงกศีรษะให้เขา

               “ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ได้ทาน ถึงจะน้อยไปหน่อย” ระหว่างพูด สายตาของชายหนุ่มจ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ

               “ฉัน เอ้อ...” สางสาวหน้าแดง แต่เป็นไปในแง่ของความรู้สึกผิดมากกว่าเขินอายในทางชู้สาว “ขอโทษอีกครั้งค่ะ ถ้าครั้งหน้ามีไอศกรีมอีก ฉันจะยกให้คุณค่ะ”


               “หมายความว่ายังไง” ก้องภพถาม สีหน้าเริ่มไม่พอใจ “คุณทานไอศกรีมของลูกค้าอย่างนั้นรึ”

               ฮันเตอร์หมุนตัวเพื่อมองผู้จัดการหนุ่มแล้วอธิบาย “เปล่า ผมได้ทาน แต่ส่วนที่เหลือผมยกให้พนักงานไป”

               จากนั้นเขาก็เดินไปหาก้องภพ “ฝากบอกทางรีสอร์ตด้วยครับว่าไอศกรีมอร่อยมาก ไม่เคยทานอะไรที่หวานอร่อยขนาดนั้นมาก่อนเลย”


               เขาไม่ได้มองอรุณรุ่งเพื่อสื่อความนัย เพราะเท่านี้ก็ทำให้ผู้หญิงขวยเขินมากพอแล้ว แต่น่าเสียดายว่าผู้หญิงแบบนั้นไม่ใช่สางสาว เนื่องจากเธอยังจ้อต่อได้ไม่หยุด


               “ถ้าอย่างนั้นฉันจะลองขอแม่ให้เอามาอีกนะคะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”

               เธอยังคงผงกศีรษะปลกๆ ไม่มีอาการเขินอายในแง่ชู้สาวให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นข้อดี เพราะกิริยานั้นเบี่ยงเบนความคิดของก้องภพไปในทางอื่น

               คุณฮันเตอร์อาจแค่จับบ่าเจ้าหล่อนแล้วเขย่าเพราะไม่พอใจที่ไอศกรีมน้อยเกินไปก็ได้

               ผู้จัดการกองนิตยสารตัวสั่นเล็กน้อยกับความคิดนั้น ขณะที่ฮันเตอร์กลอกตาขึ้นทั้งที่ริมฝีปากยังมีรอยยิ้ม จากนั้นนายแบบหนุ่มก็เดินออกจากห้องอาหารโดยฮัมเพลงไปด้วยอย่างอารมณ์ดี


               หนึ่งจูบกับไอศกรีม ช่างเป็นการคืนดีที่คุ้มค่าเหลือเกิน

จากคุณ : g_maru
เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 15:58:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com