Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
๐๐ ... สวนสัตว์สนาน ... ๐๐..(บทที่ 6) ติดต่อทีมงาน

"สวนสัตว์สนาน" (บทที่6)




บทที่ 6





กว่าหนังจะเลิก กว่าจะถึงบ้านดึกมากแล้ว


บัสขอค้างด้วย อ้างว่าไม่เคยกลับบ้านมืดมากอย่างคืนนี้ ไม่รู้จะเรียกใครให้เปิดประตู

“ก็เห็นโทรฯ บอกแล้วไม่ใช่หรือ” ผมแอบเห็นตอนกำลังซื้อข้าวโพดคั่วก่อนเข้าโรงหนัง

“อือ..บอกแล้วแต่ไม่กล้ากลับอยู่ดี”

“อือ นี่นะ” ผมเริ่มอึดอัด..ตั้งแต่อยู่ในโรงหนังแล้ว

“ครับ..น้ามิว!” บัสรู้ทาง รู้ความรู้สึกของผม


ไม่ใช่ผมจะไม่มีความผิด..เปิดมือถือส่องทางให้บัสขึ้นบันได..ต้องระวัง..อะไรจะเกิดขึ้นกับลูกหลานคนอื่นอีกไม่รู้ ผู้ใหญ่อย่างผมผิดเต็มประตู..ให้พ้นคืนนี้อย่างปลอดภัยแล้วกัน

“บัสนอนกับโจ..จะอาบน้ำก่อนไหม?” ผมเปิดไฟหัวเตียง

บัสพยักหน้า รับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ

“โจ..” ผมเขย่าตัวเบาๆ “ให้บัสนอนด้วยคน”

“ฮือ..” โจขยี้ตา “ไปไหนมา..บัสไหน..”

“บัสเขามาค้างด้วย นอนกับโจนะ”

“บัส..” โจหยีตางงๆ แต่ขยับที่ให้

“ขอยืมชุดนอนหน่อย” ไปที่ชั้นเสื้อผ้าของโจ แต่แล้วเปลี่ยนใจไปที่ตู้ของตัวเองเมื่อนึกได้ถึงขนาดที่แท้จริง

ความจริงผมอยากเข้านอนเลย ไม่อยากอาบน้ำทั้งที่วันนี้ตัวสกปรกมาก แต่เพราะอายเด็กจึงต้องอาบ

“เสื้ออยู่บนเตียงน้ามิว” ห้วนๆ ง่วง เหนื่อย..บัสอาบน้ำค่อนข้างนาน

“อึ๊..” เดินเช็ดตัวออกมา

“นายบัส..” ผมพึมพำเมื่อเห็นอะไรบางอย่างบนพื้นห้องน้ำ..เรื่องที่ผมแอบกังวล..ดีแล้วที่หมดเรื่องไป

“นายบัส..” อีกครั้งเมื่ออาบน้ำเสร็จ..บัสอยู่บนเตียงของผม “ทำไมไม่นอนกับโจ?”

“เตียงนิดเดียวไม่อยากแย่งที่นอน..โจกำลังหลับสบาย” เห็นเงาฟันลางๆ..บัสปิดไฟหัวเตียงแล้ว

“ก็ดี..” ผมใส่เสื้อผ้าขณะที่บัสขยับไปด้านหนึ่ง “เตียงน้ามิวก็ไม่ใหญ่เท่าไหร่..” ผมหยิบหมอนโยนวางหน้าเตียง ล้มตัวลงนอนบนพรมผืนเล็กที่ปูอยู่

“ทำไม..” เหมือนผิดหวัง “บัสแย่งที่นอนมิว” ไม่มีน้า!

“บัสเป็นแขกต้องนอนบนเตียง..น้ามิว..” เน้นสรรพนามน้ามิว “เจ้าของบ้านนอนหน้าเตียงถูกต้องแล้ววว” ง่วงเกินกว่าจะตักเตือน..ตาผมกำลังริบหรี่..ได้ยินเสียงผ้าปูที่นอนขยับสักพัก..ไม่รู้เรื่องอะไรอีก

รู้ตัวอีกที..อะไรอุ่นๆ ทาบอยู่ด้านหลังพร้อมผ้าห่ม..นึกทบทวน..ไงล่ะ!..นายบัสเอาจริงนะนี่..ผมขยับจะพลิกตัวลุกขึ้น..คำสั่งสอนชุดใหญ่เรียงปุ๊บปั๊บในสมอง

“อือ..บ็อบบี้..” เสียงละเมอ..ทั้งแขนขาก่ายกอดตัวผม “บ็อบบี้..”

แทนที่จะว๊ากอย่างตั้งใจ ผมเอื้อมหยิบมือถือกดดูเวลา..เกือบตีห้าแล้ว..ช่างเถอะ..คงไม่ได้ตั้งใจอะไรจริงจัง เพราะบ็อบบี้ที่บัสละเมอกอดอยู่นั้นคือเจ้าดัลเมเชียนสุดที่รักของเขานั่นเอง



“แง้ว!..แป้ววว!..แว๊กกก!..แง่ววว!..” เสียงร้องไม่เป็นภาษาแมวดังมาจากข้างล่างปลุกผมตื่น

“มิว!..มิว!..” แต่เสียงโวยวายของพี่สาวทำให้กระเด้งขึ้นนั่ง..เหลียวมองขวับพร้อมมือคลำด้านหลัง..ไม่มีใครอยู่..หันไปที่เตียงโจ..ยังหลับอุตุ..วันเสาร์อีกแล้ว

“มิว!..” เข้ม ดัง ปลุกคนได้ทั้งหมู่บ้าน

“อะไรพี่?” วิ่งลงบันได สังหรณ์ใจสองเรื่อง..คงเกี่ยวกับผม “นายบัสไปไหน..” อีกเรื่องหนึ่ง

“ใครแง้มประตูหลังบ้านไว้..มิวสิท่า!..เจ้าสีสุกเข้ามากัดกระถินแต่เช้า” พี่สาวเปิดประตูออกไป “วิ่งเปี๊ยวหายไปทั้งคู่..ไม่รู้ไปกัดกันถึงไหน” พี่มัวห่วงแมวลืมเรื่องที่จะด่าผม..ก็สมควรโดน เพราะคงเป็นเรื่องใหญ่หากเป็นคนไม่ใช่แมวที่แอบเข้ามา..แต่..ไม่ใช่ผมที่แง้มประตู

จากประตูหลังบ้านมีทางเดินแคบๆ ขนาดตัวคนขนาบกับรั้วทะลุถึงหน้าบ้าน..ไม่ใช่ใคร..คนที่แง้มประตูเมื่อเช้าคือนายบัส

ถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์ก็ต้องไปทำงาน ผมรีบกลับขึ้นห้อง อาบน้ำแต่งตัว ออกจากบ้าน..ยังไม่มีใครตื่น..ใช้ทางเดินข้างรั้วที่พี่สาวเพิ่งออกไปตามหากระถิน

เหมือนผมกำลังร้อนตัว..ใช่แล้ว ผมร้อนตัวไม่อยากตอบคำถามของทุกๆ คนเกี่ยวกับการทำตัวเหลวไหลเมื่อคืน เชื่อว่าแม้แต่แคร์ก็คงมีคำถาม

ที่บัสกลับบ้านแต่เช้ามืดคงร้อนตัวเช่นกัน..ร้อนตัวที่เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่ากำลังนอนกอดผมอยู่..ร้อนตัวที่ความรู้สึกเริ่มหนุ่มของเขาแสดงออกมาอย่างผิดๆ..เย็นนี้ทุกคนในบ้านคงลืมเรื่องของผม ถึงจะหลงเหลืออยู่ก็ไม่อะไรมากแล้ว..นายบัสสิ เขาจะมองดัลเมเชี่ยนตัวนี้ได้สนิทใจไหม?



ผมคาดผิด..เรื่องที่ผมหายไปเมื่อคืนไม่มีใครถาม ไม่มีใครอยากรู้ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่ามีหนุ่มลูกครึ่งค้างแรมอยู่ด้วย..สาเหตุที่เป็นอย่างนั้น

หมีหายไป

หมาขาหักที่มีเฝือกติดอยู่หายไปจากหน้าบ้าน..ไร้ร่องรอยพอๆ กับขามา..แม่เป็นห่วงมากกว่าใคร แม่คิดว่าหน้าบ้านเราคือแดนอาถรรพ์ อะไรๆ โผล่ขึ้นมา วันดีคืนดีก็หายไปง่ายๆ..แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น

ผมตรงไปที่บริษัทคอมพิวเตอร์

“ไอ้ยามถูกไล่ออกแล้ว..” พนักงานคนหนึ่งชี้แจง “เจ้านายไม่โง่อย่างที่มันคิด กล้องวงจรก็มี..แต่ไม่เข้าใจว่าอุ้มหมาขึ้นไปข้างบนทำไม”



“ได้เรื่องไหมมิว?” แม่ถาม

ผมส่ายหน้า..ชิงชังไอ้ยามสารเลวมากขึ้นร้อยเท่า..มันคงอุ้มหมีไปวางหน้าบ้านคนใจเมตตาสักแห่ง แล้ววงจรอุบาทก็เกิดขึ้นอีก จนกว่าหมีจะหมดเวรหรือตัวไอ้ยามได้รับเวรที่มันทำ

“ถ้าอาถรรพ์จริงอย่างแม่ว่า..” พี่สาวเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภูตผีปีศาจมาก “วันหนึ่งหมีมันคงกลับมานอนให้แปลกใจ”


พี่ผมพูดถูก..วันหนึ่งหมีกลับมาจริงๆ..แล้วผมจะเล่าให้ฟัง

.

 
 

จากคุณ : ดาเรน
เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 08:54:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com