สุภาพสตรีหมายเลขสอง - ตอนที่ 1
|
 |
สุภาพสตรีหมายเลขสอง
บทที่หนี่ง
หญิงสาวนั่งอยุ่ตรงนั้นและเริ่มรู้สืกดีขึ้น หน้าที่ของหล่อนใกล้จะจบลงแล้ว ซุดเฟอร์นิเจอร์สมัยหลุยส์ที่ ๑๖ ในห้องรูปไข่ไม้โอ๊คสีเหลือง หรือที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “ห้องเยลโลโอวัล โอ๊ค” ได้รับการตกแต่งใหม่เมื่อไม่นานมานี้ หล่อนนั่งตัวตรงเตรียมพร้อมอยู่ตรงกลางเก้าอี้โชฟาร์ลายดอก หันหลังให้หน้าต่างรูปโค้ง และสนามหญ้ากว้างใหญ่ทางด้านใต้ หันไปเผชิญหน้ากับผู้หญิงยี่สิบคนและผู้ชายอีกสี่คนเป็นอย่างน้อย ชื่งเป็นนักข่าวสายทำเนียบขาว ทุกคนนั่งอยู่ในเก้าอี้ที่พับได้และทุกคนมีท่าทางกระตือรือร้น
หญิงสาวนั่งอยู่ตรงกลางระหว่าง นอร่า จัดสัน ซึ่งเป็นทั้งเลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนและเพื่อนของหล่อน และลอเรล เอกิน เลขานุการฝ่ายนัดหมาย หล่อนสามารถสัมผัสได้ทั้งความอบอุ่นและการสนับสนุนจากสตรีทั้งสอง แต่ถึงกระนั้นภาระต่างๆก็ยังตกอยู่กับหล่อน นับตั้งแต่วันที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจนถึงวันนี้ซื่งเป็นระยะเวลาสองปีครื่ง หล่อนเพิ่งจัดให้สื่อมวลชนเข้าทำการสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการเพียงสี่ครั้งเท่านั้น และครั้งที่ห้านี้ก็เกิดขึ้นโดยคำร้องขอจากสามี ซื่งเห็นว่าการเปิดตัวมากเท่าไหร่ย่อมเป็นผลดีแก่ทั้งเขาและหล่อนมากเท่านั้น และเนื่องจากการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการของหล่อนได้ขาดช่วงจากครั้งก่อนเป็นเวลานาน ทำให้บรรดานักข่าวที่มาในครั้งนี้มีคำถามที่จะถามมากมาย
แม้ว่าการสัมภาษณ์ในชั่วโมงที่ผ่านมาจะไม่มีการหยุดพักเลย แต่คำถามส่วนใหญ่ก็เป็นคำถามทั่วๆไปและไม่ใช่เรื่องหนักๆ เช่นเป็นความจริงหรือไม่ที่หล่อนกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทต่ำเพื่อลดน้ำหนัก หล่อนมีแผนการณ์ที่จะเรียนเทนนิสต่อหรือไม่ ท่านประธานาธิบดีเคยขอความเห็นจากหล่อนในเรื่องกิจการของประเทศบ้างไหม นวนิยายเรื่องใดที่หล่อนเพิ่งอ่านเมื่อเร็วๆนี้ หล่อนมีความเห็นเกี่ยวกับแฟซั่นชองผู้หญิงในปัจจุบันอย่างไร ลัดบิวรีแห่งลอนดอนยังเป็นห้องเสื้อเจ้าประจำของหล่อนอยู่หรือเปล่า หล่อนรู้สึกอย่างไรต่อการได้รับการโหวตจากโพลมหาซน ให้เป็นผู้หญิงที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของโลก คำถามมากมายแบบนี้หลั่งไหลมาโดยไม่ขาดตอน
ผู้หญิงอ้วนคนหนี่งซื่งมีสำเนียงขึ้นจมูกแบบซาวเท๊กซัส คั้งคำถามด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง “มิสซิสแบรดฟอร์ด ตามที่มีข่าวว่าคุณจะไปร่วมประชุมองค์การสตรีนานาชาติที่มอสโคว์ในอาทิตย์นี้ ก่อนจะติดตามสามีของคุณไปประชุมสุดยอดที่ลอนดอน --”
“ใซ่ค่ะ มีอะไรหรือคะ?”
“คุณได้เปลี่ยนความคิดเห็นของคุณ ในเรื่องสิทธิความเสมอภาคและเรื่องการทำแท้งหรือยังคะ คุณคิดจะนำเรื่องนี้ไปพูดที่มอสโคว์หรือเปล่าคะ?” หญิงสาวรู้สึกว่าเลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของหล่อนขยับตัวอยู่ข้างๆ แต่หล่อนก็เพิกเฉยต่อสัญญานเตือนนั้น “ฉันมีโครงการที่จะพูดทั้งสองเรื่องในที่ประชุมค่ะ และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขความคิดเห็นของฉัน ในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด ฉันยังเชื่อว่าสิทธิความเสมอภาคของสตรีในสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องที่ค้างคามานาน ตอนนี้เรากำลังได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นทุกวัน ส่วนเรื่องการทำแท้งฉันมีประเด็นที่จะพูดหลายประเด็น ทั้งในด้านที่สนับสนุนและคัดค้าน” หล่อนหยุดพูดชั่วขณะและทันที่จะได้ยินเสียงเลขานุการิณีของหล่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก “อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าไม่ควรจะมีกฏหมายห้ามการทำแท้ง ควรให้เป็นการตัดสินใจของผู้หญิงแต่ละคนเอง”
“คุณตั้งใจที่จะพูดแบบนี้ที่มอสโคว์หรือเปล่าคะ?” “แน่นอนค่ะ ฉันจะใช้ข้อมูลสถิติต่างๆที่มีอยู่มาแสดงให้เห็นถึงสถานภาพของผู้หญิงอเมริกันในปัจจุบันในเรื่องนี้”
ผู้สื่อข่าวสตรีร่างกระดูกอีกคนหนึ่งลุกขึ้นยืน หล่อนพูดด้วยสำเนียงสูงๆต่ำๆแบบชาวบอสตัน “มิสซิสแบรดฟอร์ดคะ คุณจะกรุณาบอกพวกเราหน่อยได้ไหมคะว่านอกจากสองเรื่องนี้แล้ว คุณคิดจะพูดเรื่องอะไรในที่ประชุมอีกหรือเปล่าคะ?” “คงจะพูดเรื่องแรงงานหญิง ทหารหญิงและเรื่องต่างๆอีกเยอะแยะค่ะ ฉันคงจะมีรายงานต่างๆมากมายเมื่อกลับมาสหรัฐๆ”
บรรณาธิการหญิงของหนังสือนิวยอร์คไทม์ลุกขึ้นยืน “ดิฉันเข้าใจว่าคุณจะอยู่ที่กรุงมอสโคว์สามวัน คุณพอจะบอกได้ไหมคะว่า นอกจากการเข้าร่วมประชุมแล้ว คุณจะเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า?”
“ฉันคงจะหาเวลาไปเดินดูที่ต่างๆบ้าง เพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ไปโซเวียตฯ เลขาฯของฉัน นอร่า คงให้รายละเอียดเกี่ยวกับหมายกำหนดการของฉันได้”
หล่อนมองหน้านอร่า จัดสัน ซึ่งเลขานุการิณีของหล่อนก็รับช่วงการตอบไปโดยรวดเร็วอย่างมีประสิทธิภาพและกระตือรือร้น
บิลลิ่ แบรดฟอร์ด เอนตัวลงพิงพนักโซฟาร์อย่างโล่งอกเป็นครั้งแรก วันนี้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนบ่ายเป็นวันที่วุ่นวายและวิตกกังวลลำหรับหล่อน จนไม่มีเวลาที่จะรู้สึกว่าตนเองเหน็ดเหนื่อยเพียงใด จนกระทั่งถึงนาทีนี้ที่หล่อนรู้สึกสับสนเป็นอย่างยิ่ง หญิงสาวเหลือบชำเลืองดูเสื้อสเวทเต้อร์แบบสวมทางหัวขนแคชเมียร์สีฟ้าอ่อน และกระโปรงพลีตสีน้ำเงินเข้มที่สวมอยู่ และพบว่ามันยังอยู่ในสภาพที่สวยงามและปราณีต ถ้าเช่นนั้นก็คงจะเป็นที่ผมซึ่งรวบตึงไปไว้ด้านหลังแล้วผูกไว้ด้วยริบบิ้นไหม ก็เช่นทุกครั้งที่ผมบางปอยหลุดรุ่ยออกจากที่มาระอยู่ตามบริเวฌหน้าผาก ด้วยทีท่าที่เป็นบุคคลิกเฉพาะตัว หญิงสาวปัดผมที่หลุดรุ่ยออกมากลับเข้าที่ของมัน
นอร่ากำลังดึงความสนใจของพวกนักข่าวไปจากหล่อน ด้วยรายละเอียดหมายกำหนดการเยือนกรุงมอสโคว์ ของสุภาพสตรีหมายเลขหนี่ง บิลลี่รู้สึกขอบใจนอร่าเป็นกำลัง ขณะที่ทำทีเหมือนตั้งใจฟังนอร่าอยู่นั้น บิลลี่ปล่อยใจให้ล่องลอยไปถึงเหตุการณ์ในตอนสาย และเรื่อยมาจนถึงช่วงบ่ายของวันอันวุ่นวายนี้
ก่อนเที่ยงหล่อนได้จัดการตอบและส่งจดหมายส่วนตัวออกไปหมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจดหมายถึงบิดาซึ่งพำนักอยู่ที่มาลีบู และถึงน้องสาวที่ชื่อคิต แจ้งให้คนทั้งสองทราบว่า หลังจากกลับจากกรุงมอสโคว์และก่อนที่จะเดินทางต่อไปที่กรุงลอนดอน หล่อนจะไปลอสแอนเจลิสหนึ่งวันและหวังที่จะได้พบเขาทั้งสองที่นั่น
ต่อจากเรื่องจดหมายหล่อนได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน ซึ่งจัดขึ้นในห้องอาหารของครอบครัว แก่บรรดาภริยาผู้นำกลุ่มทั้งเสียงข้างมากและข้างน้อยในวุฒิสภาและสภาล่าง รวมทั้งบรรดาภริยาของประธานคณะกรรมาธิการสำคัญๆอีกหลายคน และทันทีที่งานเลี้ยงอาหารกลางวันจบลง หล่อนต้องทำหน้าที่แจกรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดวาดภาพ ซื่งจัดขึ้นโดยสมาคมคนพิการแห่งชาติ หลังจากการแจกรางวัลหล่อนต้องต้อนรับ ลัดบิวรี ผู้ซื่งเพิ่งเดินทางมาจากกรุงลอนดอน เอาเสื้อผ้าชุดใหม่หลายชุดที่หล่อนสั่งตัดเพื่อไปใช้ที่มอสโคว์และลอนดอน มาให้ลองก่อนที่จะเอากลับไปทำให้เสร็จ
ต่อจากเรื่องเสื้อผ้าบิลลี่ก็ยังไม่มีโอกาสได้พัก หล่อนและซาร่าห์ คีทติ้ง สาวใช้ประจำตัว ต้องช่วยกันค้นหาสมุดที่เก็บภาพและเรื่องที่ตัดจากหนังสือพิมพ์ ตั้งแต่สมัยที่หล่อนยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เพื่อนำไปให้ กีย์ ปาร์กเก้อร์ใช้เป็นข้อมูลในการเขียนชีวประวัติของหล่อน ต่อจากนั้นบิลลี่ลงไปข้างล่าง ออกไปนอกตัวตึกตรงไปที่สวนกุหลาบซึ่งอร่ามเรืองอยู่ในแสงอาทิตย์ปลายเดือนสิงหาคม เพื่อต้อนรับตัวแทนลูกเสือหญิงและประธานกลุ่ม และมอบรางวัลพิเศษให้แก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ชุมชนต่างๆ หลังจากนั้นเพียงไม่ถึงห้านาทีหล่อนและนอร่า ก็ต้องรีบไปที่ห้อง”เยลโล่โอวัล โอ๊ค”ซึ่งบรรดาช่างภาพสื่อมวลชนทั้งหลาย กำลังรับประทานน้ำชารอเวลาที่หล่อนจะมาให้สัมภาษณ์ และในตอนนี้เมื่อการสัมภาษณ์ผ่านพ้นไปกว่าหนี่งชั่วโมงแล้วมันก็จบลง นอร่าและลอเรล ต่างลุกขึ้นยืนขนาบข้าง ในขณะที่หล่อนพึมพำขอบใจและกล่าวคำสวัสดีกับพวกนักข่าว
หล่อนยังยืนนิ่งอยู่ต่อไปในห้องที่ว่างเปล่านั้น รู้สึกอ่อนเปลี้ยหมดเรี่ยวแรง ริมฝีปากที่ประดับรอยยิ้มแข็งค้างมาทั้งวัน เหยียดคลายเป็นเส้นตรงที่แข็งขึง ภาระประจำวันของวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว แต่มันก็ยังไม่จบลงจริงๆ ยังมีฉากสุดท้ายที่จะต้องแสดง
หญิงสาวรวบรวมความคิดคำนีงของตนเองให้เข้ารูปเข้ารอย เดินออกจากห้องนั้นไปตามระเบียงยาวแล้วลงลิฟท์ไปชั้นล่าง อีกสองสามนาทีต่อมาหล่อนมาถึงบริเวณปีกตึกด้านตะวันตก และเดินเข้าไปในห้องที่มีชื่อว่าห้องแคบบิเน็ทหรือห้องคณะรัฐมนตรี ในห้องมีกลิ่นหนังและกลิ่นควันซิการ์ และเหมือนที่หล่อนคาดไว้ มีคนห้าคนนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้มะฮอกกานี กำลังดูภาพในจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่สองจอ ซึ่งเป็นภาพในห้องรูปไข่เหลืองหรือห้อง”เยลโล โอวัล โอ๊ค” ที่หล่อนเพิ่งผละจากมา
ทันทีที่มองเห็นหล่อน พลเอก อีวาน เปโตรพ หัวหน้าใหญ่ขององค์การเคจีบี ก็กระโดดลุกขึ้นยืน ใบหน้าแบนใหญ่แบบชาวสลาฟของเขามีรอยยิ้มกว้าง เขาเป็นผู้ที่มีรูปร่างอ้วนใหญ่ที่สุดในจำนวนคนห้าคนที่อยู่ในห้องนั้น
“โอ วีร่า วาวีโลว่า” เขาอุทานและตรงเข้ามาจูบแก้มหล่อนทีละข้าง “ที่รัก เธอทำได้วิเศษมาก ไม่มีข้อผิดพลาดตอนไหนเลย ฉันขอแสดงความยินดีด้วย”
คนอีกสี่คนคือ พันเอกซุคค์ อเล๊กซ์ ราซสกินคนรักของหล่อน และอีกสองคนซึ่งหล่อนไม่รู้ชื่อ เดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างหลังของพลเอก เปโตรพ และต่างก็กล่าวแสดงความยินดีกับหล่อน
หญิงสาวรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ “ขอบคุณค่ะ” หล่อนตอบ “ขอบคุณมากค่ะ” “การซ้อมครั้งสุดท้ายจบไปแล้ว” พลเอกเปโครพ พูดขึ้นอีก “เธอคิดว่าพร้อมหรือยัง?” เขาจ้องดูหล่อนอย่างพินิจพิจารณา “ดิฉันพร้อมแล้วค่ะ” หล่อนตอบ “ดีมาก”เขาหยิบหมวกขี้นมาถือ “พวกเราจะไปพบท่านนายกรัฐมนตรีที่พระราชวังเครมลินเดี๋ยวนี้เลย”
หล่อนเดิมตามหลังทุกคนออกไปจากห้อง ดูคนทั้งสี่ขึ้นรถลิมูซีนออกไปจากทำเนียบขาวจำลอง โดยมีทหารยามจากเคจีบีเป็นผู้เปิดประตูที่กำแพงรั้วให้ หล่อนมองไกลออกไปเหนือกำแพง จากที่ที่หล่อนยืนอยู่จะสามารถมองเห็นหลังคายอดกลมและยอดแหลมสีทอง ของสิ่งก่อสร้างในบริเวณพระราชวังเครมลินและเส้นขอบฟ้าของท้องฟ้ากรุงมอสโคว์อยู่ลิบๆ
วีร่า วีวาโลว่า ยิ้มกับตัวเอง คราวนี้เป็นรอยยิ้มที่แท้จริง แน่นอนหล่อนพร้อมแล้ว
แปลจากเรื่อง "THE SECOND LADY" ของ IRVING WALLAGE
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 55 18:11:09
จากคุณ |
:
ดอยสะเก็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ก.ค. 55 17:38:39
|
|
|
|