Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Mission Failed ตอนที่ 5 อัลฟ่าใหม่ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1 ฟาเบียน ฮาร์เดนเบิร์ก
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12293747/W12293747.html#1

ตอนที่ 2  การเริ่มต้นของภารกิจลับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12334368/W12334368.html

ตอนที่ 3  ไม่ใช่ฉันที่กำลังฝัน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12357497/W12357497.html

ตอนที่ 4 ผู้ทรยศ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12396990/W12396990.html#1



ตอนที่ 5 อัลฟ่าใหม่

แสงอรุณตอนเช้าของวันหยุดสุดสัปดาห์สาดส่องจากท้องฟ้าสีครามลงมากระทบสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตบนพื้นโลก ฉันค่อยๆลืมตาจากภวังค์นิทราของราตรีอันแสนหฤโหด ที่ฉันต้องทนขดตัวนอนบนม้านั่งไม้แข็งในสวนสาธารณะท่ามกลางลมหนาวที่พัดผ่านยามค่ำคืน ฉันรู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อยล้า และสับสนกับเหตุการณ์ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินความคาดฝัน ดวงตาที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาเก่าเริ่มถูกชำระล้างหรือทับถมด้วยคราบน้ำตาของเช้าวันใหม่... มันตอกย้ำให้ฉันยิ่งรู้สึกผิดต่อดอกเตอร์อิริค... ผู้ที่พยายามส่งโค้ดลับเพื่อช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ ในขณะที่ฉันกลับเป็นคนบดขยี้เขาด้วยมือของฉันเอง...

ปุ่มสีแดง... ที่ฉันเข้าใจว่าเป็นปุ่มเปิดประตูฉุกเฉินที่เชื่อมต่อกับแคปซูลสีฟ้า กลับไม่ใช่เพียงแค่ปุ่มเปิดประตูฉุกเฉินเท่านั้น... มันยังเป็น... ปุ่มจุดระเบิดภายในห้องแล็ปชั้นในอีกด้วย...

ในขณะที่คนอื่นๆสามารถสิ่งหนีออกจากห้องแล็ปใต้ดินได้ทันก่อนที่ระเบิดจะทำงาน ดอกเตอร์อิริคที่บาดเจ็บสาหัส กลับถูกทิ้งให้เผชิญหน้ากับความตายอันแสนโหดร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนำซ้ำ... ที่แย่ไปกว่านั้น... ฉัน... คือผู้กดปุ่มจุดชนวนระเบิด... ฉัน... คือผู้ปลิดชีพดอกเตอร์อิริค

ความรู้สึกผิดถ่าโถมซึมซับเข้าไปในจิตสำนึกของฉัน ก่อนที่น้ำตาอันเหือดแห้งของฉันจะไหลออกมาจากต่อมน้ำตาที่ทำหน้าที่ขับน้ำใสๆออกมาทั้งคืน เสียงทักทายของเด็กหญิงดังขึ้นข้างๆฉัน ฉุดฉันออกจากโลกของความคิด

“พี่สาวคะ...” เด็กหญิงผมบลอนด์ ตาสีฟ้ามองดูฉันและยิ้มให้ด้วยความร่าเริงแจ่มใสไร้เดียงสา ก่อนที่ฉันจะตอบเธอกลับไป

“เอ่อ... มีอะไรจ๊ะหนูน้อย...?”

เด็กหญิงมองดูใบหน้าของฉันอย่างใคร่ครวญสนอกสนใจ ก่อนที่จะยิ้มหวานๆแกมทะเล้น แล้วกล่าวขึ้น

“คือ... พี่ชื่อ แอนนามาเรีย ใช่มั๊ยคะ? คือ... พี่ชายสุดหล่อตรงโน้นเขาวานให้หนูเอาจดหมายฉบับนี้มาให้พี่หน่ะค่ะ!”

ฉันมองตามนิ้วมือของเด็กหญิงที่ชี้ไปยังอีกฟากหนึ่งของสวนสาธารณะ แต่กลับมองไม่เห็นอะไรนอกจากถนนซีเมนต์ที่ว่างเปล่า ฉันจึงหันกลับมามองดูจดหมายฉบับเล็กๆที่อยู่ในมือของเด็กหญิงอีกครั้ง... เธอรู้จักชื่อของฉัน... ประกอบกับลักษณะท่าทางใสซื่อของเด็กหญิง ฉันจึงเชื่อว่าเธอต้องไม่ได้พูดโกหกแน่ๆ

แต่ทว่า... ใครกันที่ใช้ให้เด็กหญิงคนนี้นำจดหมายมาให้ฉัน?

ฉันคลี่กระดาษที่พับอย่างบรรจงออก แล้วอ่านข้อความภายในด้วยความตั้งใจ



ถึง แอนนามาเรีย

ผมขอโทษที่ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และผมไม่สามารถอธิบายให้คุณฟังก่อนหน้านี้ได้ ผมเสียใจที่คุณต้องถูกโยงเข้ามาเกี่ยวข้องกับความเป็น ความตาย และการทดลองที่คุณไม่สามารถรู้อะไรได้มากไปกว่าการทำตามคำสั่งที่ได้รับอย่างเคร่งครัดเท่านั้น ผมรู้ว่า ตอนนี้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก และผมยินดียื่นมือเข้าช่วยเหลือหากคุณไม่รังเกียจ...
แอนนามาเรีย ผมอยากจะขอร้องคุณ ได้โปรดให้โอกาสผมอธิบายเรื่องราวต่างๆ รวมถึงข้อเสนอสำหรับทางออก ที่สามารถช่วยให้คุณหลุดพ้นจากการตามล่าของ “ผู้ชนะ” หรือ “อัลฟ่าใหม่” ที่ผมกำลังทำงานให้อยู่ในปัจจุบัน
ผมจะรอเจอคุณที่ร้าน „Brunch“ ตอนสิบโมง

ไบรอัน



มือของฉันสั่นเมื่อสายตากวาดมองไปเห็นชื่อของผู้เขียนที่ลงตอนท้ายของจดหมาย ฉันรีบพับกระดาษกลับเข้าสภาพเดิมแล้วมองไปที่เด็กหญิงผมบลอนด์ที่นำจดหมายมาให้ แต่ทว่า เธอไม่อยู่ตรงที่ที่เธอเคยยืนอยู่เมื่อก่อนหน้านี้เสียแล้ว เด็กหญิงเดินจากไปอย่างเงียบๆในขณะที่ฉันกำลังคร่ำเคร่งกับการอ่านข้อความในจดหมาย... ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน... หากเพียงแต่ฉันมีโอกาสได้ถามถึงลักษณะของชายที่วานใช้ให้เธอนำจดหมายฉบับนี้มาให้... หากชายผู้นั้นคือไบรอันจริงๆ... และถ้าหากเป็นเขาจริงๆ... ฉันสามารถเชื่อและไว้ใจเขาได้อย่างนั้นหรือ? ไบรอันคือผู้ทรยศต่ออัลฟ่า ไบรอันคือผู้ปลิดชีพโดมินิค และเป็นสาเหตุให้คนอื่นๆในอัลฟ่าต้องพ่ายแพ้และเผชิญกับความตายอย่างเลือกไม่ได้.. และฉันรู้ว่าไบรอันไม่ใช่คนอ่อนโยน...

ฉันนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ฉันเผชิญหน้าครั้งแรกกับเขา... เขาปล่อยให้ฉันในร่างของฟาเบียน พี่ชายของเขา ถูกรุมทำร้ายบาดเจ็บจนล้มลงกับพื้นก่อนที่เขาจะยื่นมือเข้ามาช่วย... เขาทิ้งให้ฉันที่ไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ต้องรับมือกับผู้ก่อการร้ายติดอาวุธที่มีจำนวนมากกว่า... และทุกครั้งที่เขาเห็นฉันในร่างของฟาเบียน ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ลึกๆ...

หากนี่จะเป็นแผนการลวงเพื่อแก้แค้น?

หากว่า...ไบรอันต้องการชำระล้างความเจ็บปวดที่เขาต้องสูญเสียพี่ชายโดยการฆ่าทุกๆคนในอัลฟ่า...?

ฉันมองดูเสาเข็มนาฬิกาของสวนสาธารณะที่ชี้บอกเวลาเก้าโมงครึ่ง ฉันมีเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงในการตัดสินใจ การมีชีวิตอยู่อย่างอับจนหมดสิ้นหนทางและต้องหนีการตามล่าตลอดชีวิตดูเหมือนไม่ใช่ทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับฉัน...

และแม้อาจจะต้องเสี่ยงถึงชีวิต... แต่ฉันเชื่อว่านี่คือหนทางเดียวที่ฉันยังพอมีความหวังอยู่บ้าง ฉันจึงตัดสินใจ เดินมุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร „Brunch“ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากสวนสาธารณะ...



*******************************************



“ไบรอัน พี่สาวนี่ยิ่งมองนานๆ ยิ่งดูน่ารักมากขึ้นเข้าไปอีกนะคะ” เสียงใสๆของเด็กหญิงผมบลอนด์ที่ไบรอันเรียกชื่อว่า แอนแอน กล่าวขึ้นด้วยอารมณ์สดใส เธอนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับฉันและไบรอันในร้านอาหาร „Brunch“

“อย่างที่ผมบอก แอนนามาเรีย คุณมีทางเลือกสองทาง ร่วมงานกับอัลฟ่าใหม่ หรือ หนีการตามล่าของพวกเราไปตลอดชีวิต” ไบรอันกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้ฉันยิ่งรู้สึกหนักใจมากขึ้นที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างสองทางเลือกที่เลือกได้ยากเหลือเกิน

“พี่สาว มาทำงานร่วมกันกับพวกเราเถอะค่ะ สนุกน๊า เราจะได้เล่นด้วยกันบ่อยๆไงคะ” เสียงใสๆของเด็กหญิงแอนแอนดังขึ้นอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กหญิงคนนี้ คือ “มือสังหาร” คนหนึ่งของอัลฟ่าใหม่อย่างที่ไบรอันบอก

ฉันมองดูบุคคลทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าสลับกันไปมา รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจมาตามนัดและต้องรับรู้กับความจริงที่แสนเจ็บปวด ไบรอันตกลงใจเป็นสายลับให้กับ “ผู้ท้าชิงตำแหน่งอัลฟ่า” หรือที่ปัจจุบันนี้คือ “อัลฟ่าใหม่” ที่ถูกควบคุมโดยชายผู้สวมหน้ากากสีขาว และเป็นสาเหตุทำให้อัลฟ่าเก่าภายใต้การดูแลของดอกเตอร์อิริค ชิลเลอร์ ต้องถูกโค่นล้มลง

โดยกฎของเกมส์การแข่งขันครั้งนี้คือ ผู้แพ้ทุกคนต้อง...ตาย...

“เอ่อ... ไบรอัน... ฉัน...” ฉันกล่าวอ้ำอึ้งเพื่อถ่วงเวลาให้กับตัวเองในการตัดสินใจ

“แอนนามาเรีย เชื่อผม นี่เป็นหนทางเดียวที่คุณจะยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ หากคุณตัดสินใจที่จะหนี ผมรับรองได้เลยว่า มือสังหารของอัลฟ่าใหม่สามารถตามเจอตัวคุณได้ภายในไม่ถึงวัน”

ฉันชำเลืองตาเล็กน้อยมองไปยังเด็กหญิงผมบลอนด์ที่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจเหมือนเด็กนักเรียนที่ถูกคุณครูชมต่อหน้าเพื่อนๆ รอยยิ้มที่สดใสของเด็กหญิงยังคงทำให้ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคือ มือสังหาร...

“โอเค...ก็ได้...” ฉันตอบตกลงอย่างหมดสิ้นหนทาง “หน้าที่ของฉัน... คือการใช้เครื่องอิมเปร์-เชเรบรุม ที่จะถูกสร้างขึ้นมาแทนที่เครื่องเก่าที่พังไปเท่านั้น ใช่มั๊ย?”

ไบรอันพยักหน้านิ่งๆ เด็กหญิงแอนแอนหัวเราะและปรบมือด้วยความชอบใจ

“เย้ ๆ ๆ พี่สาวจะมาอยู่กับเรา” เธอร้องขึ้น และกระดุกกระดิกตัวเต้นไปมาบนเก้าอี้ด้วยความสดใสร่าเริง

“แอนนามาเรีย...” ไบรอันกล่าวขึ้น สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายลงหลังจากที่ฉันตอบตกลง เขายื่นกุญแจ และซองสีแดงปิดผนึกให้กับฉัน แล้วกล่าวต่อ “นี่คือกุญแจห้องเก่าของคุณ ผมให้คนเปลี่ยนของในห้องกลับเป็นของใช้ของคุณตามเดิมเรียบร้อยแล้ว ส่วนในซองสีแดง เป็นบัตรเครดิตและเงินสดจำนวนหนึ่ง... วันพรุ่งนี้ ผมจะมารับคุณไปเรียนรู้จักกับ อัลฟ่าใหม่”

ฉันพยักหน้ารับเบาๆ เมื่อมองเห็นใบหน้าของไบรอันที่แสดงความอ่อนโยนออกมา ทำให้ฉันนึกถึง ฟาเบียน พี่ชายต่างพ่อต่างแม่ของเขา ริมฝีปากของฉันขยับเล็กน้อยเพื่อที่จะถามถึงฟาเบียน แต่ว่า... เมื่อมองเห็นเด็กหญิงแอนแอนที่นั่งร่วมวงสนทนาอยู่ด้วยแล้ว ฉันจึงคิดว่า ฉันควรรอคอยจังหวะและโอกาสอื่นมากกว่า

หลังจากนี้... หากฉันจะไปยังโรงแรมที่ร่างของฟาเบียนนอนหลับอยู่... จะเป็นการเสี่ยงเกินไปไหมนะ...

ฉันรู้สึกเป็นห่วงฟาเบียนเหลือเกิน... หลังจากที่ฉันออกจากการควบคุมสมองของเขาแล้ว... ฉันได้แต่หวังว่า ร่างกายของเขาที่เคยทำงานโดยปราศจากคำสั่งของสมอง จะยังคงรักษาสภาพของตัวเองเอาไว้ได้... และฉันยังคงเชื่อ... ว่าเขายังไม่ตาย... เขาต้องสามารถกลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง... ฉันหวังเช่นนั้น...

ฉันหยิบแซนวิชที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากิน แล้วส่งยิ้มเล็กๆให้เด็กหญิงแอนแอนที่ยิ้มให้กับฉันและมองดูฉันตลอดเวลาไม่เคยละสายตา...

“เรามาเป็นเพื่อเล่นกันเถอะนะคะ พี่สาว...”



*******************************************



ฉันเดินเล่นอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ บริเวณไม่ใกล้ไม่ไกลนักจากที่พักของฉันและมหาวิหารแห่งกรุงโคโลญที่มีชื่อเสียงเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวนานาชาติ ท้องฟ้าใสที่มองเห็นก้อนเมฆเพียงประปรายส่งผลให้ผู้คนออกมาเดินเที่ยวเล่นเต็มตลอดสองข้างทางริมฝั่งแม่น้ำ เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ครื้นเครงเฮฮาไปกับปิ๊กนิคปิ้งย่างเต็มบริเวณสนามหญ้าสีเขียวขจี

แต่ทว่า... ฉันกลับรู้สึกเหงา และรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตปกติสุขธรรมดาๆเหมือนคนอื่นๆทั่วไป...

ฉันยืนค้ำตัวกับขอบสะพาน และทอดสายตามองดูแม่น้ำที่ทอดยาวสุดลับสายตา... ฉันจมดิ่งกลมกลืนไปกับห้วงความสงบของแม่น้ำ จนกระทั่งรู้สึกเหมือนมีใครสักคนยืนอยู่ด้านหลังและจ่อกระบอกวัตถุโลหะแข็งที่เอวด้านขวาของฉัน

“อย่าขยับ... อย่าหันมามอง... อย่าส่งเสียงร้อง... แล้วตอบคำถามมาแต่โดยดี...” เสียงทุ้มห้าวที่คุ้นเคยของ ชายหนุ่ม ดังขึ้น

เสียงทุ้มห้าว... ที่ฉันแสนคุ้นเคย...!!

“เด็กผู้หญิงที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารเดียวกับเธอเมื่อเช้านี้เป็นใคร? และไบรอันบอกอะไรกับเธอบ้าง?”

ฉันจำเสียงนี้ได้... เสียงที่ครั้งหนึ่งในช่วงเวลาสั้นๆ... เคยเป็นเสียงพูดของฉัน...


เป็นไปได้หรือนี่!??


เสียง กริก สับไกปืนดังขึ้นที่บริเวณเอวข้างขวาของฉัน... พร้อมแรงกดของกระบอกโลหะที่เน้นน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเป็นเชิงเร่งขอปฏิกิริยาโต้ตอบจากฉัน

“ฟ... ฟาเบียน... เป็นคุณหรือเปล่า...?”

น้ำหนักของปืนที่กดอยู่ตรงเอวของฉันผ่อนเบาลง ชายหนุ่มดูเหมือนจะลังเลอยู่สักพัก  ก่อนที่จะขยับตัวเข้ามาชิดร่างของฉันมากขึ้นและกระซิบที่ข้างหูของฉันเบาๆ

“เดินตามผมมา... แต่คุณต้องทิ้งระยะห่างจากผมตลอดเวลา... เข้าใจมั๊ย...?”

ฉันพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ... ต้องเป็น เขา แน่ๆ... หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ

ฉันมองดูแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินปะปนเข้าไปกับฝูงชนที่เดินพล่านเต็มสองข้างทางของสะพาน เท้าทั้งสองของฉันเริ่มก้าวขยับเดินตามเขาอยู่ห่างๆ แต่เมื่อฉันรู้สึกได้ว่าถูกใครสักคนจ้องมองมาจากด้านหลัง ฉันจึงหยุดเดินและรีบหันไปดู

เด็กหญิงแอนแอนเดินตามฉันมา และยิ้มให้ฉันอย่างสดใสร่าเริงเหมือนเช่นเคย... เธอเดินเข้ามาใกล้ฉัน ดึงแขนของฉันให้ก้มลงอยู่ระดับเดียวกันกับความสูงของเธอ แล้วกล่าวพูดขึ้นด้วยเสียงเล็กๆน่ารักๆของเธอ

“ดูเหมือน... พี่ฟาเบียน จะรีบร้อนจังเลยนะคะพี่สาว”

ฉันมองดูเด็กหญิงด้วยความประหลาดใจ เธอเห็นฟาเบียน เธอรู้ว่าเขาคือฟาเบียน และเธอรู้... ว่าฉันกำลังเดินตามฟาเบียนอยู่ห่างๆ...

ฉันชำเลืองตามองไปยังฟาเบียนที่ตอนนี้หลุดพ้นคลาดหายไปจากสายตาของฉันเรียบร้อยแล้ว...

เด็กหญิงแอนแอนยังคงไม่ปล่อยมือของเธอที่กำแขนของฉันไว้แน่น เธอยิ้มให้กับฉันอย่างร่าเริงแจ่มใสอีกครั้ง... สายตาของเธอยังคงไม่เคยละเลิกที่จะจับจ้องมองมาที่ฉัน...


เธอไม่ปล่อยให้ฉันหลุดคลาดไปจากสายตาของเธอแม้แต่เพียงวินาทีเดียว...

มืออีกข้างหนึ่งของเธอ เธอหยิบเข็มหมุดเล็กๆที่ดูเหมือนชุบสารเคมีเหลววบางอย่างที่ปลายเข็มออกมาจากกระเป๋ากางเกง เธอปักมันลงที่แขนของฉันที่เธอกำไว้แน่น

เธอยิ้มหวานให้ฉันอีกครั้ง...





★ *˛ ˚* ✰。˚ ˚ღ。* ˛˚  。✰˚* ˚ ★ღ ˚ 。✰ •* ˚ " ✰˚ *



***ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต***

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 55 18:55:46

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 55 18:54:04

 
 

จากคุณ : myladyannbook
เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 55 18:27:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com