Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ (และแมว) : ตอนที่ 5 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1 : http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/03/W11888273/W11888273.html
ตอนที่ 2 : http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/05/W12061718/W12061718.html
ตอนที่ 3 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12192454/W12192454.html
ตอนที่ 4 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12347827/W12347827.html

----------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 5

เงียบเกินไปแล้ว... นายสิบตำรวจเหลือบมองผู้บังคับบัญชาที่กำลังขับรถของตัวเองกลับบ้านพัก เพื่อส่งเขากลับไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดฝากเอาไว้ก่อนออกไปที่เกิดเหตุด้วยกัน...

ตอนนั่งกินบะหมี่ข้างทางด้วยกันหลังกลับมาจากบ้านของเรวัติ ก็เหมือนคิดเรื่องคดีที่อดีตพระเอกลิเกคนนั้นตายอยู่ที่อู่เรือของเถ้าแก่บุญเกิดอยู่เป็นระยะอยู่แล้ว แต่หลังจากเปิดอ่านข้อความในโทรศัพท์มือถือ เท่านั้นละ ผู้กองก็ออกอาการเหมือนลูกโป่งถูกปล่อยลมจนแฟบ จากตื่นเต้นที่เห็นว่าใครส่งข้อความมา ก็กลับกลายเป็นนิ่งตะลึงเหมือนถูกสาป พอปิดโทรศัพท์เก็บเข้าซอง สีหน้าก็ซึมลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเรียกให้พ่อค้าคิดเก็บเงิน ก็ไม่พูดไม่จามาจนถึงบัดนี้

น่ากลัวจะโดนคุณนวลปรางยื่นคำขาดอะไรสักอย่างเข้าเสียก็ไม่รู้...  ถึงจะอยากรู้ แต่ก็ไม่อยากถาม เพราะดูท่าอารมณ์ของเจ้านายจะไม่ดีนัก หากมาคิดอีกที ถ้าไม่ถาม เขาจะรู้หรือว่าคืนนี้ควรจะปล่อยให้อยู่คนเดียวต่อไปหรือไม่

สงสารอยู่หรอก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าสมควรแล้วเหมือนกัน เพราะไม่อย่างนั้น ผู้กองคงไม่รู้ตัวเสียที

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดสักคำตลอดทางมาจนถึงบ้าน มาเปิดปากพูดอีกที คือ เมื่อกล่าวขอบคุณที่อุตส่าห์แวะมา ขอบคุณที่ช่วยงาน  และกำชับให้กลับที่พักอย่างระมัดระวัง ลูกน้องอย่างก้องเกียรติก็พอจะรู้ว่าชัชพลไม่อยากให้ใครมากวนใจ จึงลากลับและขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน แต่ก็ไม่วายชะลอรถดูว่า เจ้านายของตนเป็นอย่างไร ดูอยู่จนผู้บังคับบัญชาไขกุญแจ ก้มลงอุ้มแมวข้างบ้านที่ปีนข้ามรั้วมาเคล้าแข้งเคล้าขาของตนเองเข้าบ้าน แล้วปิดประตู เขาจึงวางใจเดินทางกลับแฟลตของตัวเองที่หลังสถานีตำรวจ

ระหว่างขี่จักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านของผู้กำกับธำรงที่ทำให้เขาอกสั่นขวัญหายไปเมื่อเช้านี้... หากไม่คิดมากไป นายสิบตำรวจก็อดสงสัยในสิ่งที่ตนเองเผอิญเห็นไม่ได้ เพราะเขาเห็นชายสูงวัยข้างบ้านน่าจะเป็นคนปล่อยแมวออกไป เพราะเขาเห็นชายผู้นั้นยืนมองเข้าไปทางบ้านของผู้กองชัชพลอยู่นาน

“เดินทางระวังด้วยล่ะ ถนนแถวนี้มันไม่ค่อยดี”

เสียงทักของคนที่เขาเผลอมองอยู่ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก สบตากับอดีตนายตำรวจที่ชะโงกหน้าออกมาร้องทักได้เพียงไม่นานก็ต้องหลบตา ยิ้มเจื่อนให้ ก่อนจะกล่าวขอบคุณ และรีบออกไปจากที่นั่นให้เร็วที่สุด

พ.ต.ท. ธำรงหัวเราะเบา ๆ กับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก่อนจะปิดหน้าต่าง ลงกลอนตามเดิม แล้วเดินกลับไปนั่งเคียงข้างหญิงวัยไล่เลี่ยกันที่มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ

“ปล่อยเจ้าบุญรอดไปกวนผู้กองบ้านนั้นแบบนี้จะดีเหรอคะ” ภรรยาของเขาเอ่ย

ผู้เป็นสามียิ้มน้อย ๆ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไร เห็นเขาก็ชอบมันอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ช่วยมันให้รอดตายเพราะฝีมือฝีเท้าของไอ้สมพงษ์หรอก... ต่อไปนี้ ก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วละว่า มันจะไม่มีใครคอยดูแล”


----------------------------------------------------------------------------


ชัชพลยืนมองแมวสีส้มที่ก้มหน้าก้มตากินอาหารเม็ดที่เขาเทให้ แต่ใจของเขาตอนนี้กลับไปอยู่ที่อื่น และในขณะเดียวกัน ใจของเขาก็กำลังสั่งแกมบังคับสมองให้รีบคิดทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เขาส่งข้อความสั้นไปถึงนวลปรางระหว่างที่ตนเองยังต้องวุ่นวายอยู่กับคดีที่เกิดขึ้นว่า คิดถึง ถ้าหากว่างแล้ว จะโทรศัพท์ไปหา... ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ ตอบสนองกลับมาจากเธอเลยตลอดวัน

หากเมื่อเธอตอบข้อความของเขากลับมา ข้อความของเธอทำให้เขาชาไปทั้งตัว เพราะข้อความนั้นถูกส่งมาพร้อมรูปของเขาที่นั่งกินข้าวกลางวันอยู่กับนิดา สัตวแพทย์สาวที่เป็นคนรับรักษาเจ้าแมวที่ถือวิสาสะเข้ามาในบ้านเขาเสมือนเป็นบ้านของมันเองตัวนี้ ในร้านอาหารใกล้ ๆ ศาลจังหวัดและศูนย์ราชการนั่นเอง

“ไม่มีเวลาโทรหาฉัน แต่มีเวลาไปกินข้าวกับหมอนุ่นใช่มั้ย”

ข้อความตัวอักษรนั้นไม่มีเสียง ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้ส่ง แต่ประโยคดังกล่าวของเธอทำให้เขาไม่กล้าคาดเดาอารมณ์ในยามที่เธอส่งข้อความนี้ ทว่าตั้งแต่คบกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอสื่อสารกับเขาด้วยประโยคทำนองนี้  

วินาทีแรกนั้น เขาคิดอะไรไม่ออกเลยแม้สักอย่างเดียว... เขารู้เพียงแต่ว่า เขากลัวจะเสียเธอไป เพราะความไม่รอบคอบของตัวเอง ที่ไม่เคยคิดว่าจะมีใครเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งเขาไม่เคยคิดเกินเลยด้วยแม้แต่น้อย แล้วถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อนำไปให้นวลปรางดู  

ตลอดทางกลับมาถึงบ้าน... เขาไม่ได้พูดอะไร นั่นก็เป็นเพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไรจริง ๆ และเขากำลังคิดหนักเรื่องข้อความที่เธอส่งมา ด้วยตระหนักดีว่าเขาไม่ควรปล่อยผ่านไปโดยไม่มีคำตอบให้เธอ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นอธิบายให้เธอเข้าใจได้อย่างไร โดยไม่ทำให้เธอรู้สึกว่า เขากำลังแก้ตัว  

วางถุงอาหารแมว อาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ยังคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่ใช้เป็นที่นอนเมื่อคืนก่อน แล้วมองแมวข้างบ้านที่กำลังเลียขนแต่งตัวอยู่อย่างสบายอารมณ์จนน่าอิจฉา พอเห็นว่า เขายืนมองอยู่ เจ้าตัวขนฟูก็ร้องเหมียว เดินเข้ามาหา แต่ร้องแล้วก็มีเสียงแค่กตามมาเหมือนทุกครั้งที่ร้อง ด้วยเป็นผลพวงที่เกิดจากอาการปอดรั่วซึ่งทำให้มันเกือบตายมาแล้ว

จะว่าไป ไอ้ตัวร้ายนี่ละที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ไม่รู้ไปโดนใครทำร้ายมาจนหนีหัวซุกหัวซุนมาซ่อนตัวเงียบอยู่ในบ้านของเขา แต่จะโทษมันก็ไม่ได้ เพราะคนที่ทนเห็นแมวที่ทำท่าเหมือนหายใจไม่ออกแถมเลือดกบปากต้องตายต่อหน้าต่อตาอย่างเขาเป็นคนพามันไปที่คลินิกรักษาสัตว์ของหมอนุ่นเอง และเป็นเขาอีกเช่นกัน ที่มัวแต่ตื่นเต้นว่า หมอนิดาเป็นเจ้าของโครงการรักษาแมวโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แถมยังเป็นเจ้าของเว็บบล็อกที่นวลปรางแอบปลื้มมานาน ในฐานะนักวิจารณ์ร้านกาแฟและขนมที่เขียนกระทู้ลงในเว็บบอร์ดบ่อย ๆ  

ที่ผ่านมา เรื่องที่เขาและสัตวแพทย์สาวคุยกันก็มีแต่เกี่ยวกับแมวและงานของนวลปรางทั้งนั้น แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ลืมคิดไปว่า คนที่เขาวิสาสะด้วยก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนกัน แม้ว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาแน่นอน และไม่มีทางเข้าใจผิดว่าเขาสนใจในตัวเธอแน่ ๆ เพราะเขาประกาศตัวอย่างชัดเจนว่า มีแฟนแล้วมาตั้งแต่ต้น และบอกเธอไปตรง ๆ ว่ากำลังจะช่วยแฟนหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านกาแฟ แต่คนอื่นที่มองเห็น อาจจะไม่ได้คิดอย่างนั้น และไม่เคยคิดมาก่อนว่า การพบกันของเขาและเธอคนนั้นจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาได้  

คนแบบเขาไม่เหมาะจะทำ ‘เซอร์ไพรส์’ ให้ใครจริง ๆ นั่นละ สู้บอกตรง ๆ ให้รู้กันไปเลยยังดีเสียกว่า...  แต่จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างมันเริ่มมาจากตัวเขาทั้งนั้น

นายตำรวจหนุ่มถอนใจเฮือก... ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองจนปัญญาขนาดนี้มาก่อนเลย

ชัชพลเอนหลังพิงพนัก กำโทรศัพท์มือถือที่กดหมายเลขของนวลปรางค้างอยู่ในมือ เงยหน้ามองเพดานเหมือนจะหาคำตอบจากเบื้องบน ทั้งที่รู้อยู่ว่า ไม่มีคำตอบเขียนอยู่ที่นั่น

หากไม่นานนักเขาก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีบางสิ่งที่นุ่มและฟูเบียดเข้ากับน่อง และเจ้าก้อนขนตัวกลม ๆ ดังกล่าวก็พาตัวเองขึ้นมานั่งอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ได้รับเชิญ จากนั้นก็พาตัวเองขึ้นมานั่งอยู่บนตักของเขา แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่ หงายท้องขาว ๆ อยู่ตรงนั้น  มิหนำซ้ำยังออกอาการผิดหวังเล็กน้อยเมื่อพบว่าท้องของคนที่ตัวเองเอาหัวพิงอยู่อยู่ช่างราบเรียบไม่ใช่พุงนุ่ม ๆ  อย่างที่คิดไว้  

มันถอนใจทำเหมือนจำใจต้องนอนบนตัวเขาอย่างเสียมิได้ ทั้งที่เขาก็ไม่ได้อ้อนวอนขอให้มันมานอนอยู่ตรงนี้สักนิด   ส่วนเขาก็อดใจที่จะใช้มือลูบพุงขาว ๆ นุ่ม ๆ นั้นไม่ได้ ยิ่งมันทำเสียงครืดคราดในลำคออย่างสบายใจ เขาก็ยิ้มออกมาได้ แม้จะยังเครียดกับเรื่องของตัวเองอยู่ก็ตาม

สัมพันธภาพของเขากับเจ้าแมวสีส้มในตอนนี้แตกต่างกับตอนแรกที่พบมันอย่างลิบลับ...

สายตาของแมวเจ็บตัวนั้นที่จ้องเขม็งมายังเขาด้วยความหวาดกลัวและไม่ไว้วางใจ เสียงร้องพร่าเบาเพราะมีลมไม่พอจะส่งให้เปล่งเสียงออกมาได้เต็มปอด กรงเล็บที่กางออกพร้อมต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ซึ่งฝากรอยเท้าเป็นรอยโคลนติดอยู่บนขนของมัน ทำให้เขาสะท้อนใจอย่างบอกไม่ถูก และเมื่อเขาตัดสินใจเสี่ยงถูกมันข่วน โดยการคว้าตัวแมวที่ไม่เหลือแรงจะสู้ใครแล้วขึ้นมา จับใส่กล่องที่หาได้แถวนั้น แล้วพาขึ้นรถไปยังคลินิกสัตวแพทย์ที่ใกล้ที่สุด สายตาที่มันมองเขาก็เปลี่ยนไป เพราะรู้แล้วว่า เขาไม่ได้มาร้ายและไม่ใช่คนที่ทำร้ายมัน และในวันที่เขาไปรับมันกลับมาคืนเจ้าของตัวจริงอย่าง พ.ต.ท. ธำรง ที่มาถามเขาว่าเห็นแมวที่หายไปหรือไม่ แมวตัวนั้นก็เข้ามาหาเขาอย่างคุ้นเคย ราวกับเขาเป็นคนเลี้ยงมันมาเลยทีเดียว

ถ้าวันนั้นเขาไม่ยอมเสี่ยงเจ็บตัว อาจจะไม่ได้รับความรู้สึกดี ๆ อย่างนี้กลับมาก็ได้ และคิดไม่ผิดเลยที่ตัดสินใจช่วยมันเอาไว้... เมื่อมาคิดดูแล้ว ถ้าวันนี้ เขาไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง เพื่อทำให้นวลปรางเข้าใจ เขาอาจจะพลาดโอกาสที่จะพลิกเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดีไปตลอดชีวิตก็เป็นได้

เอาเป็นว่า เมื่อโทรศัพท์ไปหาแล้ว ขอให้เธอยอมรับสายจากเขาก่อนก็แล้วกัน...




(มีต่อนะคะ)

แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 55 21:27:38

จากคุณ : ปิยะรักษ์
เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 21:27:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com