19/2
คาชาลมันจะไม่หักหลังเราแน่หรือ ยูซุตมองตามร่างสูงซึ่งเดินฝ่าหิมะโปรยปรายข้างนอกออกไป
ไม่หรอก แกไม่เห็นลูกตามันเรอะ คาชาลมันซื่อ ซื่อเกินไปด้วยซ้ำ จนข้าเกรงว่าถ้าดร. อูราลคิดอ่อนข้อให้กับนายพลวายู้ค มันจะอ่านเกมไม่ออก
มันภักดีกับท่านประธานาธิบดีขนาดนั้น สักวันมันอาจไปเข้าพวกกับท่านก็ได้
ดร. อูราลยังเป็นพวกเรา แกอย่าลืมซี ตราบใดที่ท่านยังไม่คิดนิรโทษกรรมให้นายพลวายู้ค หรือหากท่านจะเปลี่ยนไป แกว่าไอ้คาชาลมันจะยอมให้พี่มันตายฟรีเรอะ ไม่ใช่พวกเราหรือที่กำลังสุมไฟแค้นให้มัน
ยูซุตตบกรอบหน้าต่างอย่างหงุดหงิด ใครๆ ก็พากันถือหางไอ้คาชาล เขาหมั่นไส้มันตั้งแต่มันหนีรอดจากการจับกุมมาโผล่กลางกรุงมอสโคว์แล้ว แกนนำทุกคนต่างชื่นชม ยกย่องมันราวกับเป็นวีรบุรุษ จากนั้นมันก็ใช้เส้นสายของพี่เข้ามาช่วยงานภายในขบวนการ ขณะที่เขาคอยเป็นสายข่าวเสี่ยงอันตรายมาหลายปี กลับไม่มีใครเห็นค่าเลย
ดูเถอะ ตอนนี้มันสุขสบายทุกอย่าง มีงานการดีๆ มีหน้ามีตาในสังคม ขณะที่เขากลับต้องคอยเป็นข้ารับใช้แกนนำผู้สมถะในชนบท ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น เขากำเกร็งมือแน่นอย่างพยายามสะกดกลั้นความรู้สึก เมื่อเสียงพูดคุยสรวลเสเฮฮาดังมาจากกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ทยอยออกมาจากห้องประชุม
บุรุษร่างใหญ่ เจ้าของฟันเหลืองเกเดินมาตบบ่าเขา ยูซุตไม่ทันได้โน้มน้าวตามความเชื่อของตน อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นก่อน
ไอ้ยูซุต ที่แกจ้องจับผิดคาชาลก็เพราะแกอิจฉามันใช่ไหมวะ ข้าก็อิจฉามันว่ะ บ้านมันหลังใหญ่โต เมียมันก็สวยฉิบ สมกับหน้าหล่อๆ ของมันแล้วล่ะเว้ย หน้าอย่างเรามีไว้รองมือรองตีน หลบลูกกระสุนให้ดี ไม่ให้ศพไม่สวยก็พอแล้วว่ะ
เสียงหัวเราะครืนตามมาจากชายฉกรรจ์หลายนายเบื้องหลัง ก่อนแต่ละคนจะพากันตบไหล่คนขี้อิจฉากันคนละที ใบหน้าขาวซีดแดงก่ำขึ้นตามแรงอารมณ์ ดวงตาปูดโปนวาววับเมื่อลับร่างผู้คน เขาจะต้องทนฟังคำถากถางไปถึงเมื่อไรกัน ขณะที่ไอ้คาชาลได้รับแต่คำชม
ความริษยาบังตายูซุตจนลืมอดีตที่เคยเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน เขาไม่ได้เข้ามาร่วมขบวนการเพราะอุดมการณ์แต่แรก แต่เป็นเพราะตนกำพร้าครอบครัวจากเหตุปราบปรามใจกลางเมืองเมื่อหลายสิบปีก่อน จึงได้จับพลัดจับผลูไปร่วมงานกับแกนนำซึ่งชุบเลี้ยงมา
เขาเคยพอใจกับความเป็นอยู่สุขสบายไปวันๆ กระทั่งได้พบคาชาลวันนี้ ได้เห็นเสื้อผ้าเนื้อดี กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยมาจากมัน ราวกับแสงไฟอันน้อยนิดภายในบ้านสาดส่องไปที่มันเป็นจุดเดียว
เขาไม่ได้มีสิ่งใดด้อยกว่ามันสักนิด แล้วทำไมเขาจะไปยืนอยู่จุดเดียวกันกับมันไม่ได้ ความทะเยอะยานในจิตใจส่วนลึกถูกกระตุ้น เมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่านั่นเอง
..................................
ข่าวดีต้อนรับปีใหม่นี้คือเจ้าบาบารีซึ่งกำลังท้องแก่ได้ตกลูกในคืนข้ามปี ทันทีที่นินาแจ้งข่าว ลลิลดาก็รีบกลับเข้าไปปลุกสามีในห้อง ทว่าคาชาลเพียงครางประท้วงด้วยความเพลีย
ปุงกัลดูมันได้น่า ลิลลี่ นอนเถอะ เขาบอกทั้งที่ยังหลับตา
แขนแข็งแรงพยายามกดร่างภรรยาลงกับเตียง หญิงสาวขืนกายไว้ เธออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนี่นะ
เธอนอนเถอะ ฉันจะไปดูคิริน เสียงหวานเอ่ยกระซิบ เมื่อนั้นแขนยาวจึงค่อยคลายออก
ลลิลดาคลานลงจากเตียงตรงไปยังห้องนอนบุตรชาย เธอมั่นใจว่าลูกจะต้องตื่นเต้นยินดีกับข่าวนี้มากกว่าผู้เป็นพ่ออย่างแน่นอน
แล้วก็เป็นดังคาด เด็กชายหายง่วงงุนทันทีที่มารดาบอกข่าวดี เธอช่วยเด็กชายล้างหน้าล้างตา ผลัดเสื้อผ้า ก่อนนินาจะยกอาหารเช้าง่ายๆ มาบริการถึงห้องนอน
ปาปาล่ะ ไปปลุกปาปา
ปาปาหลับอยู่จ้ะ เมื่อคืนปาปากลับดึก คิรินไปกับมามาก่อนนะ เดี๋ยวเราแวะครัวเอาน้ำหวานกับผลไม้ไปให้บาบารีด้วยไง เอ... ใครจะช่วยมามาถือนะ
คิริน! แขนป้อมชูขึ้นกลางอากาศ
ลลิลดายิ้มโล่งที่ดึงความสนใจของลูกกลับมาได้ หลังจัดการอาหารเช้าเรียบง่ายแล้ว สองแม่ลูกจึงช่วยกันจัดเตรียมน้ำหวานและผลไม้ใส่เป้ เดินย่ำทุ่งไปยังโรงเลี้ยงม้าหลังบ้าน
ปุงกัลส่งยิ้มต้อนรับ แม้ท่าทางชายชราจะอ่อนเพลียเพราะอดนอนทั้งคืน หากแววตาของเขาก็แจ่มใส เปล่งประกาย
แมมมาแต่เช้า หนาวแย่นะครับ
ฉันตื่นเต้นน่ะซี รู้ข่าวจากนินาก็รีบปลุกคิรินทันที สุ้มเสียงผู้พูดแสดงออกถึงความตื่นเต้น ยินดี
เธอคงมีความสุขถ้าชีวิตทุกวันจะได้เฝ้าดูแลเพื่อนสี่ขา มีความสุขกับธรรมชาติอันอ่อนโยน ขี้เล่นของพวกมัน
แล้วบาบารีกับลูกเป็นไงบ้างจ๊ะ
เกือบแย่ไปครับ ผมรอดูอยู่นานจนต้องช่วยดึงลูกมันออกมา แต่ก็ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกแล้ว แมมเข้าไปดูเถอะครับ ผมขอไปเตรียมอาหารให้ม้าตัวอื่นก่อน
หญิงสาวอุ้มบุตรชายไว้ ทว่าเด็กน้อยดิ้นจะลงไปลูบไล้เพื่อนใหม่วัยใกล้เคียงกันให้ได้ เจ้าบาบารีหันมองเธออย่างอ่อนแรง มันซุกหัวเข้ากับเป้ของเธออย่างรู้ดีว่ามีของฝากของมัน
มามา... รักม้า คิรินรักม้า เด็กชายโอบคอลูกม้า
ผู้เป็นแม่ยิ้มอ่อนโยน พอใจที่ลูกเข้าใกล้ชีวิตเรียบง่ายของชาวทิชกูทีละน้อย ด้วยการปลูกฝังให้แกรักธรรมชาติ รักสัตว์เลี้ยงของตน ไม่มัวเมาไปกับสีสันฉูดฉาดของของเล่นทันสมัย
เจ้าหล่อนไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาจากป่าทึบ ดวงตาปูดโปนวาวระยับอย่างหื่นกระหายเมื่อได้เห็นร่างอิ่มเอิบ มีน้ำมีนวล ลมหายใจร้อนผ่าวดังฟืดฟาด มันเพิ่งตระหนักว่าตนห่างหายจากร่างอ่อนนุ่มของสตรีเพศมานานเพียงใด
มันจะวิเศษสักแค่ไหนหนอ หากเขาได้ครอบครองทุกอย่างที่เป็นของคาชาล
......................................
ลมหนาวพัดกรูโยกกิ่งไม้สั่นไหว เสียดสีเป็นเสียงหวีดหวิวชวนให้วังเวงใจ ฟังคล้ายเสียงต้องคำสาปตามความเชื่อของชาวทิชกู ร่างผอมภายใต้เสื้อคลุมหลายชั้นห่อไหล่เข้าหากัน มันรีบกระทืบดับกองไฟเพื่อลงไปหาความอบอุ่นในเมือง
ยูซุตถูมือเข้าด้วยกันขณะมุ่งหน้าลงไปตามเนินเขา ทว่าควันไฟเบื้องหน้าลอยอ้อยอิ่งพร้อมกับกลิ่นหอมของเนื้อสัตว์นั้นดึงดูดความสนใจจากเขาไปเสียก่อน ไม่มีแหล่งชุมชนใกล้ป่านี้ และคงไม่มีใครอุตริมาตั้งค่ายกลางป่าในฤดูหนาว ความสอดรู้บังคับขาให้ก้าวเดิน อาศัยต้นไม้ใหญ่เป็นที่กำบัง กระทั่งเข้าใกล้พอมองเห็นเต็นท์สนามสีเขียวหลังหนึ่ง ด้านหน้ามีกองไฟเล็กๆ ลุกโชนอยู่ พร้อมกับชายร่างสันทัดคอยนั่งพลิกเนื้อกระต่ายป่าเสียบไม้
พวกล่าสัตว์... ยูซุตตัดสินในใจ เขากำลังจะหันหลังกลับให้เงียบที่สุด แต่แล้วก็ชนเข้ากับกำแพงยักษ์ กำแพงซึ่งมีลมหายใจ จมูกหนาของมันหายใจรดหน้าผากเขา ก่อนมือแข็งแรงราวคีมเหล็กจะยกร่างผอมแห้งลอยเหนือพื้น จับโยนไกลจนหลังกระแทกกับต้นไม้ใหญ่
แก พวกแกเป็นใคร
ดวงตาปูดโปนแทบถลนขณะจ้องมองชายฉกรรจ์อีกคนที่ลุกมาสมทบพร้อมปืนในมือ
กูสิต้องถามว่ามรึงเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ เสียงห้าวตะคอกรุนแรง
ยูซุตไม่กล้าสบตาเมื่อมันจับหน้าเขาพลิกซ้ายพลิกขวา ท่าทางพวกมันไม่ใช่ชาวบ้านล่าสัตว์ธรรมดาเสียแล้ว เขาสบถในใจที่ต้องมาซวยเพราะไอ้คาชาลคนเดียว
ว่าไง!
ข้า...ข้ามาล่าสัตว์ ปล่อยข้าไปเถอะนะ พี่ชาย
ไอ้ยักษ์หัวเราะกังวาน เราได้ เหยื่อล่อ แล้วเพื่อน เอาไอ้นี่แหละดี มันเป็นชาวบ้านธรรมดา คงไม่มีใครสงสัยถ้ามันจะหายเข้าไปในป่าตลอดกาล
ร่างสูงใหญ่กระทืบ เหยื่อ พลางจับมัดกับต้นไม้ เขาจะใช้ ศพ ของหมอนี่ ล่อ เจ้าของบ้านติดชายป่าออกมา เมื่อนั้น เพื่อนของเขาซึ่งมีหน้าที่ซุ่มยิงจะทำการปลิดชีพไอ้คาชาล ปิดบัญชีแค้นหนึ่งในศัตรูของนาย
เดี๋ยว...เดี๋ยว... พี่ชายพูดถึง เหยื่อล่อ หมาย...หมายความว่าไง
ไม่ใช่เรื่องของมรึง! ขาดคำ พลซุ่มยิงก็ตบหน้าเหยื่อด้วยพานท้ายปืน
เลือดกบปากยูซุต ฟันซี่หน้าสั่นคลอนปวดร้าวไปหมด หากมันยังไม่ละความพยายามหว่านล้อมเอาตัวรอด เขาจะมาตายง่ายๆ อย่างหมาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
ไอ้คาชาล ข้ามีความลับของไอ้คาชาล เขาเดาไปตามเรื่อง
ชายฉกรรจ์สองคนหันมองหน้ากัน บุรุษร่างสันทัดซึ่งเป็นหัวหน้าปฏิบัติการนี้ค่อยลดปืนลงในท่าระวัง เขาผงกศีรษะให้มันพูดต่อไป
พวกท่านคิดจะฆ่าข้าไปเป็นเหยื่อล่อคาชาลใช่ไหม มันไม่สนใจชีวิตคนธรรมดาหรอก ทำไมพี่ชายไม่จับลูกเมียมันมาล่ะ มันคงเต้นน่าดู ข้าเห็นลูกเมียมันออกมาจูงม้าเล่นหลังบ้านบ่อยๆ
ยูซุตแทบลืมหายใจขณะลุ้นให้ฝ่ายตรงข้ามคล้อยตาม เขาเห็นดวงตาไอ้ยักษ์เปล่งประกาย ทว่าลูกพี่ของมันกลับมีท่าทีครุ่นคิดหนัก มันใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางเขาขึ้นสบตา
แกชื่ออะไร
ข้าชื่อยู...ยูริ เขาปด
แล้วเข้ามาทำอะไรในป่านี่
ข้ามาล่าสัตว์
ไหนล่ะอุปกรณ์
คนโกหกหน้าซีด ปากคอสั่นทีเดียวเมื่อถูกจับได้ นายทหารนอกราชการยิ้มเยาะ มันคิดว่าจะตบตาเขาได้หรือไร ไม่รู้ก็แต่ว่ามันเป็นพวกใคร แล้วทำไมจึงบอกข้อมูลคาชาลแก่ตน
บอกมาดีกว่าว่าแกเป็นใคร แล้วมาบอกข้อมูลไอ้คาชาลกับพวกข้าทำไม
ข้า...ข้าแค้นที่มันกับพวกทำกับท่านนายพล ข้ามาเฝ้าดูมันหลายวันแล้ว แต่ก็เห็นแต่ลูกเมียมัน
แกสวามิภักดิ์ต่อท่านนายพลเรอะ
ขอรับ มันรีบรับคำก่อนโอ้อวดต่อ ข้าเคยฝึก เนชันแนล การ์ด เพื่อปราบปรามผู้ประท้วงด้วย
ครั้งนี้ยูซุตไม่ได้โกหก เขาเคยเข้าฝึกเพื่อเป็นสายลับให้กับขบวนการปลดปล่อยชาวทิชกู หากถูกซักลึกลงไปกว่านี้ เขาคงพอเอาตัวรอดได้
นายทหารนอกราชการสบตากับลูกน้อง เขายังไม่ไว้ใจไอ้คนปลิ้นปล้อนนี่เสียทีเดียว แต่แผนที่มันเสนอนั้นน่าสนใจ หากเขาจับลูกเมียไอ้คาชาลได้ มันคงรีบแจ้นออกมาจากรู เมื่อนั้น เขาคงไม่พลาดเป้าอีกตามเคย หลังจากเฝ้าสะกดรอยมันมาแรมเดือน
ยูซุตถ่มเลือดลงกับพื้นพร้อมกับฟันซี่หนึ่งจวนเจียนหลุดออกมา เขาครวญครางด้วยความเจ็บปวด หากอะไรก็ไม่เท่าความเจ็บแค้นในใจ ไอ้ยักษ์กลับไปปรึกษากระซิบกระซาบกับนายมันโดยชำเลืองมาทางเขาอย่างกระหายเลือด ขนคอเขาตั้งชัน ไม่แคล้วชีวิตเขาคงต้องสิ้นสุดเพราะไอ้คาชาลคนเดียว
มันไม่มองตัวเองหรอกว่าความริษยาของตนต่างหากที่ชักนำให้มาพบกับหายนะนี้
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ส.ค. 55 11:50:43
|
|
|
|