Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Mission Failed ตอนที่ 6 คุณหญิงโซเฟีย คไลน์เฟลด์ ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 1 ฟาเบียน ฮาร์เดนเบิร์ก
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12293747/W12293747.html#1

ตอนที่ 2  การเริ่มต้นของภารกิจลับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12334368/W12334368.html

ตอนที่ 3  ไม่ใช่ฉันที่กำลังฝัน
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12357497/W12357497.html

ตอนที่ 4 ผู้ทรยศ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12396990/W12396990.html#1

ตอนที่ 5 อัลฟ่าใหม่
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12441157/W12441157.html



ตอนที่ 6 คุณหญิงโซเฟีย คไลน์เฟลด์


ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกายของฉัน เหมือนกับว่าเส้นเลือดภายในร่างกายกำลังจะแตกออกจากกันเป็นเสี่ยงๆ ฉันสะบัดแขนให้หลุดจากกำมือของเด็กหญิงที่กำแขนของฉันเอาไว้แน่น แล้วดึงเข็มหมุดที่ปักลึกอยู่บนแขนโยนทิ้งลงไปในแม่น้ำไรน์ ฉันเอื้อมมือไปข้างหน้าโดยหมายจะผลักเด็กหญิงตัวเล็กๆให้หลบพ้นทาง แต่เธอกลับขยับตัวหลบอย่างคล่องแคล่วว่องไว ทำให้ฉันเป็นฝ่ายเซล้มไปข้างหน้าเหมือนคนเงอะงะซุ่มซ่าม ฉันขบฟันแน่นด้วยความโกรธ ในขณะที่เด็กหญิงหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ

ฉันพยายามพยุงตัวเดินหนีจากแอนแอนและมุ่งหน้ากลับห้องพักที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก เหงื่อของฉันซึมเต็มทั่วร่างกาย ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบนสะพานมองดูฉันอย่างงงงวย ฉันชำเลืองตามองกลับไปดูที่ด้านหลังและพบว่าเด็กหญิงยังคงเดินตามหลังฉันมาอย่างเงียบๆ รอยยิ้มใสซื่อของเธอจุดไฟโทสะในใจของฉันให้เดือดพลุ่งพล่าน

ที่ปลายสะพาน ฉันมองเห็นไบรอันยืนคุยอยู่กับชายในชุดดำสองคน หลังจากที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุยธุระกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายสองคนที่ฉันไม่รู้จักพยักหน้าให้กับไบรอันแล้วเดินจากไป ในทันใดนั้นไบรอันเหลือบมองมาเห็นฉัน สายตาของเขาชำเลืองผ่านฉันเล็กน้อยมองไปยังร่างของเด็กหญิงตัวเล็กๆที่เดินตามฉันมาที่ด้านหลัง ฉันสังเกตเห็นคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แล้วรีบตรงรี่เข้ามาช่วยพยุงร่างของฉันที่เดินอย่างโซซัดโซเซเอาไว้

“แอนนามาเรีย...” เขาเรียกชื่อของฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง

แต่ความรู้สึกเจ็บปวดแผ่ซึมซ่านกระจายไปทั่วร่างกายของฉัน มากเกินกว่าที่ฉันจะสามารถปริปากออกขานรับเสียงเรียกของเขาได้ ไบรอันที่ประคองฉันเอาไว้ดูเหมือนจะเข้าใจ เขารีบกล่าวต่อทันที

“อดทนอีกนิดนะ แอนนามาเรีย ผมจะพาคุณกลับห้องแล้วฉีดยาแก้พิษให้...” เขาเรียกรถแท็กซี่ที่ขับผ่านมาพอดี แล้วอุ้มฉันเข้าไปนั่งในรถ ฉันกัดฟันสู้ต่อความเจ็บปวดที่เพิ่มมากขึ้น... น้ำตาของฉันไหลออกมาปนกับเหงื่อที่เปียกชุ่มทั่วใบหน้าและลำตัว... ฉันกำมือของไบรอันเอาไว้แน่น พยายามสูดออกซิเจนเข้าร่างกายโดยหวังว่านั่นจะช่วยทำให้ฉันสามารถต้านพิษของยาได้นานขึ้นอีกชั่วอึดใจหนึ่ง

เมื่อมาถึงห้องพัก ไบรอันช่วยพยุงฉันขึ้นไปนอนบนเตียง ฉันได้ยินเสียงเขาเตรียมอะไรบางอย่างกุกกักอยู่ข้างเตียง จากนั้น เขาฉีดยาบางอย่างเข้าที่แขนของฉันตรงใกล้ๆกับบริเวณที่เคยถูกปักด้วยเข็มหมุดชุบยาพิษ... ฉันยังคงหายใจด้วยความลำบาก แต่ความเจ็บปวดดูเหมือนจะเริ่มค่อยๆทุเลาลง ไบรอันเอาผ้าชุบน้ำเช็ดทั่วใบหน้าและแขนขาของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกสบายตัวขึ้น...

สักพักเล็กๆต่อมา ฉันได้ยินเสียงประตูห้องด้านนอกที่ไม่ได้ล็อคเปิดออก เด็กหญิงแอนแอนเดินยิ้มอย่างเริงร่าเข้ามาในห้องนอนของฉัน เสียงหัวเราะชอบใจของเธอดังขึ้นเมื่อเธอเห็นสภาพของฉันที่นอนโทรมหน้าซีด ตัวชุ่มเต็มไปด้วยเหงื่ออยู่บนเตียง

ฉันได้ยินเสียงไบรอันตะโกนต่อว่าเด็กหญิงด้วยความไม่พอใจ

“ไม่เห็นต้องทำถึงขั้นนี้เลย แอนแอน!”

เด็กหญิงยังคงยิ้มกว้าง แม้ถูกต่อว่า...

“ก็พี่สาวอยากคิดที่จะทรยศพวกเราเองนี่คะ หนูก็เลยต้อง สั่งสอน ให้พี่สาวรู้สึกสำนึกซะบ้าง...” เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย แล้วเดินขึ้นมานั่งข้างๆฉันบนเตียง เธอเอามือกอดอก ทำท่าทางเหมือนเป็นเด็กฉลาด

“อีกอย่าง... พี่ไบรอันไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพี่สาวไปเจอกับใครมา...”

ไบรอันดูเหมือนจะเงียบอึ้งไป เด็กหญิงแอนแอนยังคงจ้องมองมาที่ฉันและยิ้มให้ฉันเหมือกับว่าเราสองคนยังคงรักกันดีอยู่ ฉันรีบเบือนหน้าหนีรอยยิ้มจอมปลอมที่ฉันรู้สึกรังเกียจขึ้นมาจับใจ แล้วมองไปยังไบรอัน ผู้ที่ตอนนี้มองมายังฉันด้วยสีหน้าเย็นชา...



*******************************************



ผมนั่งอยู่ในห้องพักเล็กๆ ในโรงแรมธรรมดาๆนอกตัวเมือง รู้สึกผิดหวังที่หญิงสาวไม่ได้เดินตามผมมาอย่างที่เธอได้รับปาก เรนาเต้บอกว่า เธอชื่อ แอนนามาเรีย และได้เข้ามาร่วมงานกับอัลฟ่าโดยการใช้งานเครื่อง อิมเปร์-เชเรบรุม ในการควบคุมสมองของผมที่หยุดทำงานผ่านทางสมองที่มีกลไกซับซ้อนของเธอ แม้ว่าผมจะอยากพบและพูดคุยเพื่อที่จะได้รู้จักกับเธอมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่า อัลฟ่าใหม่ได้เข้าถึงตัวเธอก่อนผม และนั่นทำให้ผมตอนนี้ไม่มั่นใจว่า แอนนามาเรียที่แท้จริงแล้วเป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกับผมกันแน่

“ฟาเบียนคะ...” เสียงเรียกของรานาเต้ดังขึ้น ทำให้ผมหลุดออกจากห้วงความคิด ผมมองดูหญิงสาวผมสีแดงที่อยู่ตรงหน้า เธอค่อยๆวางแก้วน้ำชาร้อนลงบนโต๊ะ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม เรนาเต้ ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง เธอบอกผมว่าเธอรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะว่าในวันที่เกิดเหตุ ดอกเตอร์อิริคได้ใช้ให้เธอหลบเข้าไปในห้องลับของอัลฟ่าที่ไม่มีใครรู้นอกจากดอกเตอร์อิริค จากในห้องลับ เธอสามารถมองดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในอัลฟ่าผ่านระบบกล้องวงจรปิดที่ถูกซ่อนไว้ในผนังทุกห้องของตัวอาคาร จนกระทั่งเมื่อประตูลับที่เชื่อมต่อกับแคปซูลสีฟ้าถูกเปิดออก ระบบคอมพิวเตอร์และฐานข้อมูลของอัลฟ่าทุกชิ้นได้ถูกทำลายลง พร้อมกับแคปซูลสีฟ้าและเครื่องอิมเปร์-เชเรบรุม

เรนาเต้บอกผมว่า ดอกเตอร์อิริคตั้งใจอยากให้เธอมีชีวิตอยู่เพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในผมฟัง...

ผม... ที่ดอกเตอร์อิริคเชื่อว่า... จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง...

เรนาเต้ขยับตัวเล็กน้อยเหมือนพยายามรวบรวมความมั่นใจให้กับตนเอง ก่อนที่จะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ฟาเบียนคะ... ได้โปรด... คิดทบทวนดูอีกทีเถอะนะคะ... อย่างที่ฉันบอกคุณ ไบรอันเลือกที่จะทรยศพวกเราและเข้าร่วมกับอัลฟ่าใหม่... การที่คุณพยายามที่จะเข้าไปใกล้กับน้องชายของคุณเพื่อคุยกับเขา เป็นการเสี่ยงเกินไป คุณก็รู้... ว่ากฎหลักเมื่อมีการเปลี่ยนมืออัลฟ่า คือสมาชิกอัลฟ่าเก่าทุกคนต้องตาย... และดูเหมือนว่า อัลฟ่าใหม่จะรู้แล้วนะคะว่าคุณฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาถึงได้ส่งชายชุดดำสองคนนั่นมาตามล่าคุณ...”

ผมลดสายตาลงไปมองที่แก้วน้ำชาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของเรนาเต้ที่มองดูผมอย่างอ้อนวอนขอร้อง แม้ผมไม่มั่นใจเหตุผลที่น้องชายของผมตัดสินใจเลือกที่จะทรยศต่ออัลฟ่าและดอกเตอร์อิริค  แต่การตัดสินใจของเขาได้ส่งผลให้คนอื่นๆในอัลฟ่าต้องตาย และนั่นมากเกินกว่าที่ผมจะอภัยให้เขาได้ แม้ว่าผมจะรักน้องชายของผมมากก็ตาม... แต่ไม่เขาก็ผม ต้องรับผิดชอบต่อการสูญเสียครั้งนี้...

“ผมขอโทษ... เรนาเต้ แต่ผมหนีไปกับคุณไม่ได้ ผมมีเรื่องที่ต้องปรับทำความเข้าใจกับน้องชายของผม และอีกอย่าง... คุณจะปลอดภัยกว่าหากคุณหนีไปคนเดียว พวกเขาไม่รู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่...”

เรนาเต้ที่กลั้นน้ำตามาตลอดเวลา ปล่อยให้น้ำตาของเธอไหลโฮออกมา เธอเอามือปิดหน้าพร้อมส่งเสียงร้องไห้สะอื้น... มันเป็นภาพที่ผมไม่อยากเห็นมากที่สุด

“ได้โปรดเถอะค่ะฟาเบียน... คุณดูไม่ออกอีกเหรอว่าฉันรักคุณ... และฉันรอคอยการกลับมาของคุณตลอดห้าปี ได้โปรดอย่าหุนหันพลันแล่นคิดทำอะไรที่เสี่ยงแบบนี้เลยนะคะ...”

เสียงร้องอ้อนวอนของเรนาเต้ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจ ผมรู้ว่าผมคือสาเหตุที่ทำให้เธอต้องร้องไห้... แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่น...

ผมยื่นมือไปแตะที่ไหล่ของเธอเบาๆเพื่อเป็นการปลอบโยน

“ผมขอโทษ... เรนาเต้... แต่ผมอยากให้คุณลืมผมซะ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่...”

ภาพของเรนาเต้ที่ยิ่งร้องไห้สะอื้นมากยิ่งขึ้น ทำให้ผมต้องบอกตัวเองให้ใจแข็ง แล้วลุกขึ้นเดินจากเธอไป...

ผมได้ยินเธอเรียกชื่อผมด้วยเสียงที่แหบและแผ่วเบาเต็มไปด้วยเสียงสะอื้นร้องไห้... ผมได้ยินเสียงร่างของเธอที่ขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้และหกล้มลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงเมื่อพบว่าเธอไม่สามารถเหนี่ยวรั้งผมไว้ได้...

ผมกัดฟันแน่น แต่ยังคงสับก้าวท้าวเดินออกจากห้องโดยไม่คิดเปลี่ยนใจหันหลังกลับ... ลาก่อน เรนาเต้... ผมหนีไปกับคุณไม่ได้... ผมจำเป็นต้องอยู่เพื่อคลี่คลายสะสางเรื่องราวทั้งหมด

หากน้องชายของผมตัดสินใจเข้าร่วมกับอัลฟ่าใหม่ตั้งแต่แรก เขาต้องมีคำตอบให้กับสิ่งที่ชายหน้ากากสีขาวได้ทำกับผมเมื่อห้าปีก่อน...

และผมหวังว่า... น้องชายของผมจะมีเหตุผลที่ดีพอ... ที่จะทำให้ผมไม่ต้องลั่นไกปืนในขณะที่เล็งไปยังหัวใจของเขา...

จากคุณ : myladyannbook
เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 00:37:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com