Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...จดหมายถึงแม่... ติดต่อทีมงาน

“...แม่ครับ ผมคิดถึงแม่...
                        เลข...”

ผมจบจดหมายฉบับแรกที่เขียนถึงแม่ที่แสนจะสั้น แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกจากใจไว้แค่นั้น ...ถึงฝนจะตกโปรยปรายไปนานแล้วแต่ผมยังคงรู้สึกเหน็บหนาว ...หนาวสั่นจนถึงขั้วหัวใจทุกครั้ง ที่ผมเห็นหุ่นยนต์บังคับตัวนั้น ในขณะที่มันก็ยังถูกห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกและวางแน่นิ่งอยู่บนหัวเตียงเช่นเดียวกับวันแรกที่ผมได้มันมา

ผมเก็บจดหมายไว้ในกล่องที่เดิม ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือคว้าเจ้าหุ่นยนต์บังคับมากอดเบาๆ อย่างทะนุถนอมปานดวงใจ ในขณะที่อากาศรายรอบตัวเริ่มเย็นขึ้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน มันช่างเป็นเวลาที่น่าหลับใหล... แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่เคย...ไม่เคยหลับตาลงได้สักคืน... ถ้าไม่มีแม่นอนอิงแอบอยู่ใกล้ๆ

ใช่ว่าผมจะนอนไม่หลับคนเดียว... พ่อก็เช่นกัน... เราสองคนกำลังหลงทาง หลงไปกับราตรีที่มืดมน หลงใหลกับความเงียบ...

“...ยังไม่นอนอีกเหรอลูก เลขต้องพักผ่อนเยอะๆ นะ”
นานครั้งกว่าจะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายเอ่ยออกมาทำลายความเงียบที่เกาะกุมหัวใจ...

“ผมนอนไม่หลับครับ ผมคิดถึงแม่... แม่จะคิดถึงเราไหมครับพ่อ”  พ่อค่อยๆ ใช้มือลูบศีรษะผมที่นอนอยู่บนเตียงไปมาอย่างแผ่วเบา

“คิดถึงสิ... คิดถึงมากด้วย” พ่อพูดแค่นั้นก่อนจะสบตาผม

“ถ้าวันนั้นผม...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดต่อ พ่อก็ชิงพูดเสียก่อน

“ไม่เอาลูก.. เราสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะไม่พูดอีก”  ผมพยักหน้ารับ “นอนซะ ดึกมากแล้ว หลับตาแป๊บเดียวเดี๋ยวก็เช้าวันใหม่”  ผมพยักหน้ารับ ทำตามพ่ออย่างว่าง่ายก่อนทิ้งความมืดไว้ข้างกาย

...เช้าวันใหม่...
วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส และเสียงนกยังคงแข่งกันร้องขับเสียง... ผมยังคงเหมือนเดิม... ยังไม่อยากไปโรงเรียนเหมือนเดิม ก็เพราะยังไม่ได้เจอหน้าแม่...

ทันทีที่เสียงประตูหน้าบ้านดังขึ้น ผมก็วิ่งรีบจากโต๊ะอาหารไปทันทีเช่นกัน
...แม่กลับมาแล้ว...
“...แม่...” ผมส่งเสียงร้องก่อนโผเข้ากอดแม่ที่เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ จากทำงานกะกลางคืน
“แม่เหนื่อยไหมครับ” ผมเอ่ยปากถามเฉกเช่นทุกวัน และแม่ก็ตอบผมด้วยการหอมที่หน้าผากทุกวันเช่นกัน
“เดี๋ยวผมไปเอาน้ำเย็นๆ ให้นะครับ”
“อั้นแน่... จะอ้อนอะไรแม่อีกล่ะ” พ่อส่งเสียงแซวอย่างรู้ทัน เพราะน้อยครั้งที่ผมจะบริการอย่างเอาอกเอาใจอย่างนี้
“น้ำเย็นๆ มาแล้วครับ”
“ไหน...จะอ้อนอะไรแม่อีกล่ะ” แม่ดึงตัวผมเข้าไปสวมกอด
“แม่น่ะ..” ผมทำทีอิดออด
“...ที่รัก...” พ่อส่งเสียงขัดจังหวะ “ผมไปแล้วนะ ดูแลลูกดีๆ ล่ะ บ้านช่องก็ปิดดีๆ ล่ะ แล้วก็” ยังไม่ทันที่พ่อจะพูดต่อ แม่ก็เอานิ้วปิดปากเสียก่อน
“ที่รักไปแค่สองสามวันเองนะ ไม่ได้ไปเป็นปีสักหน่อย สั่งนู้นสั่งเนี่ยจัง”
“ก็ผมเป็นห่วงนี่”
“พ่อหายห่วงเลยครับ มีผมอยู่ทั้งคน” ผมสอดขึ้น
“เรานั้นแหละตัวดี...” พ่อจับหัวผมโขลงเขลงไปมา “อย่าดื้อกับแม่รู้ไหม” ผมได้แต่ยิ้ม “ไป... ไปโรงเรียนได้แล้ว”
“แม่...อย่าลืมไปรับผมนะครับ”  ผมบอกขณะที่แม่เอากระเป๋าเป้สะพายให้ผม

เวลาระหว่างวันนั้นช่างเคลื่อนไปอย่างช้าๆ ขณะที่ใจผมกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับบางสิ่งบางอย่างข้างหน้า....
ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกเรียน...
“แม่ครับ ผมอยากกินไก่ทอด” ผมบอกแม่อย่างนั้น เพื่อที่จะได้ไปห้างใกล้ๆ
ผมนั่งกินไก่ทอดอย่างเอร็ดอร่อยขณะที่แม่ไม่กิน...
“อิ่มหรือยังลูก จะค่ำมืดแล้ว” แม่เอ่ยถาม
“ครับ...” ผมบอกก่อนกินน้ำ “งั้นเดี๋ยวเข้าห้องน้ำก่อนนะแม่”
แม่พาผมเดินไปเรื่อยๆ ก่อนจะเดินผ่านร้านขายของเล่นร้านหนึ่ง สายตาผมจับจ้องไปที่บางสิ่งบางอย่าง...
“แม่ครับ...หุ่นยนต์สวยไหม” ผมหันมาถามแม่ที่กำลังจูงมือผมอยู่ แม่ได้แต่ยิ้มๆ ขณะที่ผมอยากจะเอื้อมมือไปจับเจ้าหุ่นยนต์มาเชยชม “แม่ซื้อให้หน่อยนะครับ...” ผมออดอ้อนแม่
ขณะที่แม่แทบยิ้มไม่ออก แต่ก็ยังพาเดินเข้าไปในร้าน ก่อนจะสอบถามราคา...
“เอาไว้วันหลังนะครับ เดี๋ยวแม่ซื้อให้...”
...เอาไว้วันหลัง... แปลว่า แม่ไม่ซื้อให้...
คำพูดนี้สะท้อนไปมาในหัวผมแทบระเบิด...
...แม่ไม่ซื้อให้...
“...นะแม่นะ... ผมอยากได้...” ผมลองอ้อนอีกครั้ง
“อย่าดื้อสิเลข... เดี๋ยวแม่ซื้อให้วันหลัง” แม่บอกพร้อมกับจูงมือผมเดินออกจากร้าน “ไป...กลับบ้านได้แล้ว”
“ไม่ไป ผมไม่กลับ...” ผมทำท่าดื้อดึง
“...เลข...” แม่ทำเสียงเขียวใส่ “จะกลับไม่กลับ” แม่บอกก่อนที่ผมจะสะบัดก้นเดินนำหน้าแม่ไปอย่างไม่พูดไม่จา
ตลอดทางไม่ยอมปริปากพูดกับแม่สักคำ... แม่จะรู้ไหมนะว่าผมอยากได้เจ้าหุ่นยนต์บังคับมากแค่ไหน ก็เพื่อนๆ ผมมันมีกันหมดแล้วยกเว้นผม แถมยังเอามาอวดผมด้วย ผมก็อยากได้ไปอวดเหมือนกันนี่...
“...เลข ทำการบ้านเสร็จหรือยังลูก” แม่ส่งเสียงเรียกมาจากชั้นล่าง “มากินข้าวได้แล้ว”
ไม่มีเสียงตอบใดๆ จากปากผม...
“กินข้าวเสร็จ ก็ไปอาบน้ำนอนนะ”
ไม่มีเสียงตอบใดๆ จากปากผมอีก... ขณะที่เบ้าตาของแม่เริ่มมีน้ำไหลซึมๆ โดยที่ผมไม่ทันได้สังเกต

เลข...แม่ขอโทษ... แม่ไม่อยากซื้อให้ลูกตอนนี้ เพราะแม่ต้องเก็บเงินไว้ให้ลูก เพื่ออนาคตของลูก... สักวันหนึ่งแม่หวังว่าลูกคงจะเข้าใจแม่นะ...”
แม่ได้แต่นั่งรำพึงในใจขณะที่มองตามแผ่นหลังลูกที่กำลังเดินขึ้นไปชั้นบนโดยไม่พูดไม่จาเป็นเวลาสองสามวัน... ที่ผมไม่เคยดื้อกับแม่สักครั้ง แต่ผม...ก็ไม่ยอมพูดกับแม่เลย...
ผมไม่รู้...ว่าแม่จะรู้สึกอย่างไร จะอึดอัด จะเจ็บซ้ำมากแค่ไหน... แต่สำหรับผม...มันช่างทรมานใจเหลือเกิน...ก็ผมอยากได้นี่... ทำไมแม่ถึงไม่ซื้อให้ผม...ทำไม... ผมได้แต่เฝ้าถามตัวเอง...
...................

เย็นวันนั้นก็เหมือนกับทุกวัน ผมยังคงได้แต่นั่งมองดูเพื่อนๆ เล่นเจ้าหุ่นยนต์กัน ขณะที่พวกเพื่อนก็พากันเยาะเย้ยผมที่ไม่มีเจ้าหุ่นยนต์...            

“...แม่นะแม่...”

ผมบ่นอยู่ในใจ พลางดูนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบจะสี่โมงแล้ว ผมเดินไปมาอย่างอารมณ์เสีย... ยังไงวันนี้ผมก็ต้องเอาเจ้าหุ่นยนต์บังคับให้ได้ ขณะที่สองขาก้าวพาผมเดินออกจากโรงเรียนโดยไม่รอแม่อีกต่อไปแล้ว... ผมเดินปนมากับฝูงคนเรื่อยๆ โดยไม่สนใจใคร จนมาถึงถนนสายหนึ่ง...
อีกไม่ไกล... เพียงข้ามถนนนี้ ก็จะถึงห้างนั้นแล้ว ผมจะไปรอแม่ที่นั่น... ช่วงจังหวะที่ผมคิดอยู่นั้น ทันใดนั้นเองเสียงผู้คนต่างก็ร้องเสียงหลงโวยวายขึ้น ก่อนจะพากันเดินมุงไปดูคนถูกรถชนตรงหน้า รวมทั้งผมด้วยที่เดินไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ...

ไทยมุงกำลังรุมดูอย่างวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนผมก็ได้แอบมองลอดผ่านฝ่ามือ... พอได้เห็นว่าคนถูกรถชนเป็นผู้หญิง นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดสีแดงฉาน ขณะที่ในมือกำถุงพลาสติกที่ห่อหุ้ม...

...ใจผมเริ่มสั่นคลอน เมื่อมองเห็นสิ่งนั้น ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นชัดเจนนัก แต่ผมก็จำได้...
ว่ามันคือ เจ้าหุ่นยนต์บังคับ ที่ผมกำลังรบเร้าจะเอาวันนี้ให้ได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจและปกเต็กตึ๋งแหวกฝูงคนเข้ามาทำหน้าที่อย่างทุกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเคลื่อนย้ายศพอยู่นั้น ลมเย็นๆ จากไหนไม่รู้โหมพัดกระหน่ำผมจนหนาวสั่นไปทั้งตัว ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอามือแข้งขาผมแทบจะอ่อนแรงฟุบลงกับพื้น...



“...แม่...”
ผมส่งเสียงตะโกนร้องสุดแรงเกิด...
...............
“เลข... เลข...”
เสียงพ่อร้องเรียกอย่างเป็นห่วงอยู่ใกล้ๆ
“ฝันถึงแม่อีกแล้วใช่ไหม”
“พ่อ... เมื่อไหร่แม่จะมารับผมไปอยู่ด้วย” ผมเอ่ยถามขณะที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องกล่องสี่เหลี่ยม “หรือว่า...แม่ยังโกรธผมอยู่”
“ไม่เอาลูก... เลขไม่รักพ่อเหรอ เลขต้องอยู่กับพ่อ อย่าทิ้งพ่อนะ” พ่อกุมมือผมไว้แน่นราวกับผมจะจากไป ณ นาทีนั้น ทั้งที่ในใจรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องเห็นลูกทุกข์ทรมานด้วยโรคที่กำลังคุมคามอยู่...
...............

“...แม่ครับ ผมขอโทษ... ผมขอโทษที่ไม่ยอมพูดกับแม่ ถ้าเจ้าหุ่นยนต์ทำให้ผมไม่ได้พูดกับแม่ตลอดชีวิต ผมจะไม่รบเอาเด็ดขาด... ผมไม่อยากได้แล้ว.. แม่กลับมาหาผมนะ... ผมสัญญา...ผมจะพูดกับแม่ทุกวันทุกนาที...
                                                                                                                                                               เลข...”

พ่อค่อยๆ พับจดหมายฉบับนี้พร้อมกับนำเจ้าหุ่นยนต์ของลูกชาย ใส่ไปในเปลวไฟที่กำลังแผดเผาบางอย่างตรงหน้าอยู่...

“...ที่รัก...ดูแลลูกด้วยนะ...”
...จะนานแค่ไหนไม่รู้... จะกี่ภพกี่ชาติ... กว่าที่จะกลับมาเป็นพ่อแม่ลูกกันอีกครั้ง...
“ที่รัก...ผมรักคุณ กับลูกมากนะ”

จากคุณ : ญะ-รินดา
เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 17:55:03




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com