Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สาปรักอังกอร์ ๒๓ : บทพิสูจน์ใจ ติดต่อทีมงาน

๒๓ : บทพิสูจน์ใจ





แดดยามสายส่องรอดหน้าต่างห้องเข้ามาแยงตา ปราชญาจึงเบี่ยงตัวหลบลุกขึ้นทำธุระส่วนตัว ชายหนุ่มรู้สึก กระปี๋กระเป่าขึ้นมากหลังจากอุดอู้นอนอยู่ในโรงพยาบาลมาร่วมสองสัปดาห์ มาวันนี้อาการของเขาเกือบหายเป็นปกติแล้ว กอรปกับทางบางกอกยืนยันมาเรียบร้อยแล้วว่าพร้อมที่จะรับชโลทรเข้ารักษาตัว ชายหนุ่มจึงถือโอกาสออกจากโรงพยาบาล ตามไปส่งเสียเลยทีเดียว แต่ก่อนวันส่งตัวจะมาถึง เขามีเอกสารและของสำคัญบางอย่างที่ต้องกลับไปเอามา ชายหนุ่มนั่ง ทบทวนความทรงจำอยู่พักใหญ่ จึงได้แน่ใจว่าของที่ต้องการนั้นไม่ได้อยู่ที่บ้านของตน ก่อนจะผลุนผันตรงไปยังที่ที่คิดเอาไว้

“ลานเงิน ใช่แล้วเราลืมกระเป๋าใส่ลานเงินเอาไว้ที่…ที่ไหนกันนะ จำได้ว่าหลังจากลงเครื่องบินมาก็ไม่เห็นแล้ว หรือว่าจะลืมเอาไว้บนเครื่อง แย่แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้ยังจะอยู่หรือเปล่า”ภายหลังจากที่ติดต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเครื่องบินที่เขาโดยสารมา ใช้เวลาเพียงไม่นานปราชญาก็ได้รับคำตอบอย่างชัดเจนว่ากระเป๋าของตนนั้นได้มีผู้เก็บเอาไว้ให้แล้ว และคนๆ นั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ทีแท้ก็คือชโลทรนั่นเอง ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่อย่างน้อยของสำคัญในกระเป๋าใบนั้นก็ไม่ได้หายไปไหนหรือตกไปอยู่ในมือของคนอื่น จึงรีบขับรถตรงไปบ้านของรุ่นน้องทันที

“อยู่ตรงนี้นี่เอง หวังว่ามันยังอยู่นะ โชคดีที่ไม่มีใครรู้ เอ๊ะ…นั่นมัน มีดหมอกับช้องหมูนี่นา ทำไมถึงมาหล่นอยู่ตรงนี้ได้ หรือว่าเมื่อตอนนั้น ใช่แน่ๆ ถ้าไม่มีของสองอย่างนี้ไม่แน่ว่าเราอาจจะตายไปแล้วก็ได้ เพิ่งจะรู้นะว่าชลก็เชื่อเรื่องพวกนี้ด้วย ถ้าอย่างนั้นคงต้องเอามันติดตัวไปด้วย เผื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากมันบ้าง” ปราชญานึกทบทวนเรื่องเก่าพลางรีบยัดของทั้งสองอย่างลงในกระเป๋า ขับรถกลับโรงพยาบาลเพื่อเตรียมตัวออกเดินทาง ไปกรุงเทพมหานครในวันรุ่งขึ้นทันที ท่ามกลางสายตาของใครบางคนที่สะกดรอยตามไปอยู่ห่างๆ โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวเลย

“พี่ปราชญ์มาที่นี่ทำไม หรือว่าจะมาเก็บเสื้อผ้าให้มัน นี่คงคิดจะพากันหนีไปล่ะสิ ไม่มีวันเสียล่ะ แกนังมารหัวใจ ฉันไม่มีวันยอมให้เจ้าพี่วิทยเทพกับแกอีกเป็นอันขาด”มาถึงเวลานี้พิมลก็ยังเข้าใจผิดคิดเอาเองว่าชโลทรคือหญิงสาวในภพชาติก่อนที่มาแย่งคนรักของตนไป จึงได้ปักใจอาฆาตแค้นตลอดมา โดยไม่เฉลียวใจคิดสักนิดเลยว่าความจริงนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่ หญิงสาวรู้แต่ว่าคนที่เป็นศัตรูหัวใจของตน ในเวลานี้มีแต่ชโลทรเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงยอมไม่ได้ที่จะถูกแย่งคนรักไปอีกอย่างแน่นอน

............

ในที่สุดชโลทรจึงถูกส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลในกรุงเทพ โดยมีปราชญาติดตามมาดูแลด้วย  และเมื่อมาถึงชายหนุ่มจึงได้รู้ว่าโรงพยาบาลที่หญิงสาวเข้ารักษาตัวเป็นที่เดียวกับพระญาติของหม่อมเจ้าชัยเขตนอนรักษาตัวอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเหตุบังเอิญหรือกรรมลิขิตก็ตาม ชายหนุ่มรู้สึกสังหรณ์ใจในทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่ๆ แม้จะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรก็ตาม และความรู้สึกนั้นยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อได้พบกับใครบางคนเข้า

“พี่ปราชญ์หายดีแล้วหรือคะ ต้องขอโทษด้วยที่บุษไม่ได้แวะไปเยี่ยมเลยตั้งแต่กลับมาจากพนมเปญ”

“ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ แล้วนี่คุณบุษมาที่นี่ได้อย่างไรครับ”

“เธอมากับฉัน เพิ่งรู้จากชัยเขตเมื่อครู่นี้เองว่ามีคนเจ็บอาการเดียวกับหญิงเพราถูกส่งมารักษาที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่…ว่าแต่ชัยเขตไปอยู่เสียที่ไหน เห็นว่าจะล่วงหน้ามาก่อน”หม่อมเจ้าเตศวรพูดเสียงห้วนคล้ายไม่พอใจ ก่อนจะหันไปถามเอกบุษยาถึงชายหนุ่มอีกคน ท่าทางเย็นชา เหมือนคนโกรธเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้คนกลางอย่างเอกบุษยาจนไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไรดี ได้แต่ทำทีหันไปมองคนบนเตียงแทน ก่อนจะอุทานออกมาเบาๆ เหมือนเห็นชัดเต็มสองตาว่าเป็นใคร เมื่อหัน กลับไปจึงเห็นร่างสูงใหญ่ของเจ้าชัยเขตที่เดินเข้ามาสมทบพอดี

“เอ๊ะนั่นคุณชลนี่คะ เธอเป็นอะไรไปหรือคะ อ้าว…เจ้าชัยเขตพูดถึงก็มาพอดี”

“ใช่ครับ เรื่องมันยาวเอาไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟัง สวัสดีครับเจ้าชัยเขต”

“สวัสดีครับคุณปราชญา การเดินทางเรียบร้อยดีนะครับ สวัสดีครับคุณบุษ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าพี่ทางนี้เรียบร้อยดีไหม”

“เพคะเจ้าชัยเขต ขอโทษทุกท่านนะคะบุษขอตัวไปทำธุระเดี๋ยว”

“เชิญตามสบายครับ อาการพี่หญิงเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อครู่แวะไปคุยกับหมอใหญ่มา เลยไม่ทันได้แวะไปหาคนป่วยเลย”

“เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยคุยกัน ทำไมไม่เห็นบอกพี่เลยว่าจะพาใครลงมาด้วย”

“หมายถึงใครหรือเจ้าพี่ หม่อมมาของหม่อมเองนะ ไม่ได้มาพร้อมกับใครที่ไหน”

“อย่ามาตีรวน พี่หมายถึงผู้หญิงคนนั้น ชื่อชโลทรใช่ไหม เป็นอย่างไรมาอย่างไรถึงได้เป็นแบบนี้ได้”หม่อมเจ้าเตศวรลากแขนญาติผู้น้องให้ห่างออกมา พลางถามถึงอาการของหญิงสาวอีกคนด้วยความสนใจ ท่าทาง กระตือรือร้นของชายหนุ่มสูงศักดิ์ที่กระซิบกระซาบกับชายหนุ่มอีกคนสร้างความสงสัยให้ปราชญาเป็นอย่างมาก ไม่เข้าใจว่า ทำไมหม่อมเจ้าเตศวรจึงสนใจและดูเป็นห่วงเป็นใชโลทรถึงขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือพบกันเสียด้วยซ้ำไป โดยไม่รู้มาก่อนว่าความจริงแล้วชโลทรและหม่อมเจ้าเตศวรนั้นเคยเจอกันมาแล้ว แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ ก็ตาม แต่ด้วย ความรักความผูกพันภักดีอย่างเหนียวแน่นในภพชาติก่อนที่เจ้านางธารวารีมีให้บดีนั้น แม้ในชาตินี้สถานะภาพและความสัมพันธ์จะเปลี่ยนแปลงไปตามกรรมตามกาลเวลาแล้วก็ตาม ทว่าสายสัมพันธ์ที่เคยมีให้แก่กันนั้นยังคงอยู่ไม่ได้จางหายหมดไปเสียทีเดียว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่หม่อมเจ้าเตศวรจะอาทรห่วงใยในตัวของชโลทรเสมือนน้องสาวอีกคน

“มีอะไรหรือเปล่าครับเจ้าชัยเขต ถ้าเป็นเรื่องชลล่ะก็ผมจัดการเอง คนอื่นไม่เกี่ยว”

“ไม่มีอะไรครับ เรากำลังคุยกันเรื่องอื่นอยู่ครับ เรื่องพี่หญิงใช่ไหมเจ้าพี่”หม่อมเจ้าชัยเขตพูดแก้เกี้ยว โยนคำถามให้พระญาติผู้พี่ช่วยตอบ แต่นอกจากคนเริ่มไม่ค่อยสบอารมณ์ จะไม่ตอบแล้วยังส่งสายตาขุ่นเขียวแข็งกร้าวมองกลับไปด้วยความหมั่นไส้อีกด้วย คนกลางเห็นท่าไม่ดีจึงชิงขอตัว ลากคนเริ่มพื้นนเสียออกไปเสียก่อนที่จะมีการวางมวยกันขึ้น ทั้งที่ความจริงทุกอย่างก็น่าจะลงตัวหมดแล้ว ในเมื่อปราชญาเองก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะมาวอแวเอกบุษยาอีก แต่กลับให้ความเอาใจใส่ชโลทรอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร สองคนนี้เจอกันเมื่อไหร่มีเรื่องให้ขัดใจกันทุกทีไป ไม่รู้ว่าจะเป็นคู่ไม้เบื่อไม่เมากันไปถึงไหน คนกลางนึกพลางถอนหายใจ ขณะใช้สองแขนลากคนตัวโตผ่านหน้าเอกบุษยาไป

“จะไปกันแล้วหรือเพคะ”

“เราจะแวะไปเยี่ยมพี่หญิงกัน เดี๋ยวตามไปนะครับ”

“ตามมาเร็วๆ นะเอกบุษยา”

“เพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะรีบตามไป”หม่อมเจ้าเตศวรพูดสำทับขึ้นทันทีที่หันไปเห็นสายตายียวนกวนประสาทของปราชญาที่หันมาส่งสายตาคล้ายตั้งใจจะยั่ว ทำเอาเอกบุษยาที่เพิ่งเดินกลับมาถึงกับงง แต่พอหันมาเห็นแววตาของปราชญาเข้าจึงได้เข้าใจ หญิงสาวเดินมายืนมองชโลทรใกล้ๆ ก่อนจะถามขึ้นเบาๆ

“ตกลงหมอที่นี่เขาบอกหรือยังคะว่าคุณชลเป็นอะไร ดูพี่ปราชญ์เป็นห่วงมากเลยนะคะ”

“ยังไม่รู้เลยครับ แต่เห็นเจาะเลือดส่งตรวจเช็คโน่นนี่หมดแล้ว คงอีกสองสามวันถึงจะรู้ผล ทำอย่างไรได้ล่ะครับชลเขาไม่มีญาติที่ไหน นอกจากผม”

“อย่างนั้นเองหรือคะ ขอให้คุณชลหายเร็วๆ นะคะ บุษเองคงต้องขอตัวไปก่อน”ปราชญาตอบสั้นๆ แต่ชัดเจนเพียงพอที่หญิงสาวจะเข้าใจ เอกบุษยาจึงไม่คิดจะซักไซ้อะไรอีก แค่รู้สึก แปลกใจที่ชายหนุ่มทำตัวไม่เหมือนเดิม แต่ยังคิดไปในแง่ดีว่าเขาอาจจะเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บจึงไม่สดชื่นเท่าที่ควร หนำซ้ำยังต้องมาดูแลชโลทรที่นอนป่วยไม่รู้สาเหตุอีกด้วย แต่ก่อนที่หญิงสาวจะเดินจากไปชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะพูดบางอย่างออกมา

“ดูแลตัวเองมากๆ นะครับ”

“เช่นกันค่ะพี่ปราชญ์ ขอบคุณมากคะ”เอกบุษยาจากไปแล้ว ทว่าใจของปราชญายังโหยหาหญิงสาวอยู่ลึกๆ ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้ตลอดมาก็ยังคงมีอยู่ตลอดไป เพียงแต่วันนี้หัวใจของชายหนุ่มถูกเติมเต็มด้วยหัวใจของชโลทรจนหมดสิ้นแล้ว จึงไม่เหลือที่ว่างไว้ให้ใครได้อีก แม้แต่พิมลผู้หญิงที่เขาเชื่อว่ามีความรักให้เต็มเปี่ยมก็ตาม

“ชลต้องฟื้นนะ พี่รักชลได้ยินไหม”พูดพลางกุมสองมือของชโลทรเอาไว้แน่น แม้ไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวจะรับรู้อะไร แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หมดหวัง เขาพยายามที่จะพูดคุยกับเธอทุกๆ วันด้วยความหวังว่าสักวันเธอจะรับรู้ได้ หน้าหล่อเหลาหันมองออกนอกหน้าต่าง ปล่อยให้ใจที่ห่อเหี่ยวล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย จึงไม่ทันเห็นว่าแผงขนหนาดกเป็นแพของหญิงสาวกระตุกถี่ๆ อยู่สองสามครั้งจึงได้หยุดลง คล้ายเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าสติสัมปัญชญะของใครบางคนกำลังจะคืนกลับมา
 
“พี่ปราชญ์ได้ยินชลไหม ชลอยู่นี่ พี่ช่วยด้วย ช่วยชลด้วย”

จิตใต้สำนึของชโลทรกรีดเสียงร้อง ตะโกนบอกให้ชายหนุ่มตรงหน้าหันกลับมา ตลอดเวลาที่นอนหมดสติอยู่ ชโลทรสามารถรับรู้ทุกเรื่องราวผ่านมโนจิตของเธอที่ค่อยกล้าแข็งขึ้นเรื่อยๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมทั้งเรื่องบางเรื่องที่ชายหนุ่มไม่รู้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพิมลที่แอบมาบีบคอ หรือแม้แต่เรื่องที่หม่อมเจ้าชัยเขตใช้สัมผัสพิเศษกับเธอ เรื่องเหล่านี้ไม่เพียงปราชญาจะไม่รู้ แม้แต่หม่อมเจ้าชัยเขตเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไป นั่นเป็นเพราะว่ามโนจิตของชโลทรเลือกที่จะปิดกั้นหรือถ่ายทอดตามใจสั่งได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่หญิงสาวค้นพบโดยบังเอิญ แต่ที่น่า แปลกใจคือในเมื่อเธอรับรู้ทุกสิ่ทุกอย่างได้เหมือนอย่างคนปกติ แต่ทำไมร่างกายถึงไม่สามารถเชื่อมกับจิตได้สักที และการที่จิตของเธอแปลกแยกแบบนี้ ทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อการรับรู้ใดๆ ได้ จึงดูเหมือนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปในที่สุด ซึ่งไม่ต่างไปจากอาการของหม่อมเจ้าหญิงเพราพิลาสเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่มโนจิตของพระองค์อ่อนแอเกินกว่าที่จะกลับคืนมาเหมือนเดิมได้ ด้วยถูกวิญญาณอมตะของเจ้านางแสนอัปสรครอบงำ และทำลายลงไปหมดสิ้นแล้ว หนทางเดียวที่จะช่วยให้ฟื้นคืนมาได้ คือต้องฝึกสมาธิให้เข้มแข็ง หรือไม่ก็ต้องยอมที่จะละสังขาลของตนไป ต่างจากชโลทรที่ภพชาติก่อนนั้นมีจิตที่แข็งกล้า แต่ที่ยังไม่คืนสติกลับมาเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลานั่นเอง

“ชลพี่รอชลอยู่นะ พี่รักชลนะ ได้ยินพี่แล้วส่งสัญญาณหน่อยได้ไหม กระดิกนิ้วก็ได้ พี่รอดูอยู่”

“ชลก็รักพี่ พี่ได้ยินไหม ชลทำไม่ได้ ชลพยายามแล้วแต่ทำไม่ได้ ฮือ ฮือ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้”หลังจากรออยู่พักใหญ่แต่ไม่มีวี่แววว่าจะสัญญาณใดๆ ตอบกลับมา ใจของปราชญารู้สึกหดหู่จนแทบจะทนไม่ไหว จึงได้เดินออกจากห้องไปเสียก่อน ก่อนที่น้ำตาของลูกผู้ชายจะไหลออกมาด้วยความสงสารจับใจ ขณะเดียวกันมโนสำนึกของชโลทรที่มองตามร่างของชายหนุ่มไปตะโกนก้องเรียกชื่อชายหนุ่มไม่ขาดสาย แต่เมื่อเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์อะไร จึงได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างไป พลางร้องไห้ออกมาอย่างเหลือดอดหมดแล้วซึ่งความหวังใดๆ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

“พี่ปราชญ์ค่ะชลอยู่นี่ พี่ปราชญ์อย่าเพิ่งไป ช่วยชลก่อน ฮือ ฮือ พี่ปราชญ์อย่าทิ้งชลไป”

ปราชญาเดินออกมารับลมที่ระเบียงอยู่พักใหญ่ ขณะที่ปรายตามองลงไปข้างล่างอย่างเหม่อลอย จู่ๆ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมองจ้องขึ้นมา แต่พอหันไปประสานสายตาผู้หญิงคนนั้นกลับรีบเดินจากไปทันที แววตาวาววับเต็มไปด้วยพลังอำนาจบางอย่างประสมกับอาการหลุกหลิกร้อนรนของหญิงสาวคนนั้นสะกิดใจชายหนุ่มอย่างน่าประหลาดจนเขาถึงกับต้องขมวดคิ้วพยายามใช้ความคิดอย่างมากว่า แววตาที่เห็นนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน แต่นึกเท่าใดก็นึกไม่ออก อารามเป็นห่วงชโลทรที่จู่ๆ ทิ้งมาเฉยๆ จึงได้รีบเดินกลับห้องไปทำให้หมดความสนใจในเรื่องนี้ไปโดยปริยาย ขณะคนที่ถูกพาดพิงถึงกลับเดินไปหลบมุม แอบมองตามร่างสูงนั้นไปพลางนึกในใจเงียบๆ

“เจ้าเป็นมารขวางทางข้าแท้ๆ เทียววิทยเทพ นี่ถ้าราเชนทร์ไม่มาโดนทำร้ายจนหมดท่าเสียก่อน เจ้าหาคณามือข้าไม่ ไม่ถึงทีข้าบ้างก็แล้วไป”

สายตาวาววับที่แอบมองตามหลังปราชญาไป หากมีใครทันสังเกตเห็นคงจะหนาวเยือกไปถึงไขสันหลังเลยทีเดียว เมื่อดวงวิญญาณอมตะของเจ้านางแสนอัปสรที่เข้าครอบงำอาศัยร่างของหญิงชาวบ้านแอบติดตามปราชญามาค่อยเปิดเผยตัวออกมาอย่างช้าๆ เมื่อได้พบกับเป้าหมายที่ต้องการ นับตั้งแต่หม่อมเจ้าหญิงเพราพิลาศหมดสติ วิญญาณอมตะของเจ้านางแสนอัปสรอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าจะเพียรภาวนาตั้งสมาธิเท่าใดก็ตาม ทว่าก็ไม่สามารถกลับมาแข็งแกร่งได้เหมือนเดิม กอปรกับร่างที่เข้าครอบงำนั้นก็ไม่ได้สืบสายเลือดโดยตรง จึงทำให้ยิ่งอ่อนแรงลงตามลำดับจนแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย สร้างความขัดเคืองใจให้เป็นอย่างมาก

หนำซ้ำวิญญาณของสมิงเฒ่ายังถูกมีดลงอาคมประจำองค์ของพระเจ้ามหิยเตศวรทำร้ายเข้าอีก ยิ่งทำให้ไม่พอใจเข้าไปใหญ่ จึงตัดสินใจออกโรงตามหาร่างของคนที่มีดวงจิตกล้าแข็งเพื่อใช้เป็นตัวตายตัวแทนทำประโยชน์ต่อไป และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นชโลทร ที่สมิงร้ายรายงานเข้ามาว่าพบเขาโดยบังเอิญ จึงคิดสวมรอยเข้าครอบรองร่างนั้นเสียก่อนที่เจ้าของร่างจะฟื้นคืนกลับมา เพราะรู้ดีว่าอีกไม่นานอาคมของราชครูเวชยันต์ที่สะกดดวงวิญญาณของหญิงสาวเอาไว้จะเสื่อมคลายลงไปตามดวงวิญญาณของคนที่ตายไป โดยที่ทรงไม่รู้เลยว่าในขณะเดียวกันคาถาของราชครูเวชยันต์ที่ลงอักขระสกัดกั้นมนตร์ดำเอาไว้ นับวันยิ่งมีอำนาจมากขึ้นทุกที ทำให้พลังของพระองค์ลดน้อยถอยลงไปทุกขณะ แต่กลับเข้าใจไปว่าที่อ่อนแรงลงไปนั้นเป็นเพราะขาดผู้สืบทอดมนตร์ดำโดยตรงนั่นเอง จึงได้พยายามทุกวิถีทางที่จะหาตัวแทนตัวแทนมารับช่วงต่อไป และหวังว่าหากหาร่างที่ต้องการได้แล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ทรงตั้งใจเอาไว้

“เจ้าไม่มีทางพ้นเงื้อมือของข้าเป็นแน่ธารวารี ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เสียงหัวเราะกรีดแหลมดังก้องออกมาจากตัวของหญิงชาวบ้าน แว่วตามลมไปถึงห้องของชโลทรเลยทีเดียว ทั้งที่เจ้าตัวไม่แม้แต่จะขยับปากด้วยซ้ำไป นอกจากจะทำให้คนชาวบ้านร้านตลาดที่อยู่รอบข้างต่างงวยงงไปตามกันแล้ว ยังสร้างความตระหนกตกใจให้จิตใต้สำนึกของชโลทรอีกด้วย ดีที่เสียงนั้นดังอยู่ไม่นานนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำเอาใจคอของหญิงสาวไม่สู้ดีเอาเสียเลย ผิดกับปราชญาที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์นิ่งราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

“ใครกันเป็นคนพูด เสียงนี้ทำไมมันถึงคุ้นหูนัก เป็นเสียงของใครกัน พี่ปราชญ์ไม่ได้ยินหรือคะ นั่งนิ่งเชียว”ชโลทรหันมาค้อนให้คนนั่งก้มหนาก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์เสียวงใหญ่ แต่เมื่อไม่เห็นว่าเขาจะรับรู้รู้สึกรู้สาอะไร ก็ได้แต่ถอนใจออกมา ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำอย่างไรถึงจะสื่อสารกับปราชญาได้สักที แต่ไม่ทันทีที่หญิงสาวจะทันได้คิดอะไรต่อไป หมอใหญ่เจ้าของไข้พร้อมทีมงานได้เข้ามาตรวจดูอาการเสียก่อน จึงได้แต่นอนทำตาปริบๆ ดูนางพยาบาลจับโน้นจิ้มนี่ไปตามประสา ก่อนจะมาดูดเอาเลือดไปตรวจเสียหลอดใหญ่






มีต่อค่ะ

จากคุณ : Setakan
เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 10:07:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com