Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สวรรค์ในอก - นรกในใจ (2) ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12460602/W12460602.html


สวรรค์ในอก - นรกในใจ (2)


หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นที่น้ำตก น่านคิดหนักอยู่อีกสองสามวันก็ตัดสินใจสั่งลูกน้องคนหนึ่งให้ลงเขาไปตามญาติห่างๆของภรรยาหนานบุญมี ขึ้นมาพบเขาที่กระท่อมน้อย หลังจากเจรจากันอยู่พักใหญ่เขาก็ออกไปเรียกมาย ที่กำลังทำอะไรง่วนอยู่ในครัวให้เข้ามาพบ

“มาย เก็บเสื้อผ้าข้าวของๆเราแล้วไปกับแม่คำโพ”
นางสาวมายทำหน้างุนงง “นายน่านจะให้มายไปไหน?”
“ไปกับญาติของเราไง”
“ไปทำไม?”
“ฉันอยากให้มายไปอยู่กับเขา อยู่ข้างล่างคงจะดีกับมายมากกว่า จะได้พบเพื่อนฝูงรุ่นราวคราวเดียวกัน ข้างบนนี่มีแต่คนแก่ๆทั้งนั้น เรามีเพื่อนหลายคนไม่ใช่หรือ?”
“ทำไมจะต้องไป? มายไม่ไปหรอก จะอยู่ที่นี่แหละ” หล่อนส่งเสียงแหลมขึ้นมาทันที หน้าตาเลิ่กลั่กน่าขันนั่นก็ทั้งตื่นเต้นตกใจและโกรธ
“อยู่ที่นี่ไม่ได้?” เขาทำเสียงแข็ง ทั้งๆที่นึกสงสารหน้าตาที่เริ่มเหยเกใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว
มายอึ้งไปอึดใจเดียวก็สวนกลับมาทันที “หมายความว่านายจะไม่รักษาคำพูดใช่มั้ย? นายสัญญากับตาของมายแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจะเลี้ยงดูมายเหมือนญาติ นายหลอกตาเหรอ”
ชายหนุ่มหน้าเจื่อน “เรารู้ได้ยังไงว่าฉันสัญญาอย่างนั้น”
“ตาบอกมายก่อนตายว่าฝากมายไว้กับนายแล้ว” หล่อนลอยหน้าลอยตาตอบ
เขาอึกอัก แต่ก็พยายามตอบอย่างดีที่สุดว่า “ใช่ ฉันสัญญา แต่ก็ไม่ได้จะผิดสัญญานี่ ถึงจะให้เราไปอยู่ที่หมู่บ้านข้างล่างโน่น แต่ฉันก็จะยังจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูให้แม่คำโพทุกเดือน ฉันผิดสัญญาตรงไหน?”
“ผิดสิ ผิดแหงๆ" หล่อนทำเสียงกล่าวหา " ก็ตาบอกมายว่าให้มาอยู่กับนายที่บ้านหลังนี้ คอยรับใช้นาย บอกว่านายจะเป็นผู้ปกครองของมายต่อจากตา มายต้องเชื่อตา ยังไงๆมายก็ไม่ไปหรอก"

‘ผู้ปกครอง’ ถอนใจยาวอย่างอึดอัดใจ รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องออกรูปนี้ ก็หล่อนช่างแสนจะดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวเองไม่ใช่หรือ เขาเองก็รู้ฤทธิ์เดชของหล่อนดีนี่นา แต่เขาก็มีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ต้องการให้หล่อนอยู่ใกล้ชิดเขาอีกต่อไป เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะเขาเริ่มไม่ไว้ใจตัวเองน่ะสิ

เมื่อเจ้านายของหล่อนไม่ตอบ ทำท่าอึดอัด มายก็ปราดเข้าไปคุกเข่าลงใกล้เขา “นายอย่าส่งมายไปอยู่กับคนอื่นเลยนะ นะ..นายน่านนะ มายไม่อยากอยู่ที่อื่น อยากอยู่ที่นี่กับนาย มายทำอะไรผิดหรือ? บอกหน่อยสิว่ามายทำผิดอะไรถึงจะมาขับไสไล่ส่งยังงี้” หล่อนสะอึกสะอื้นคร่ำครวญ

“ไม่มีอะไรหรอกน่า” เขาอึกอัก ไม่อยากเห็นน้ำตาของหล่อนเลย
“หรือว่ามายดื้อ นายพูดอะไรก็ไม่ฟัง ชอบเถียงนาย บางทีก็แช่งนาย ใช่หรือเปล่า? มายสัญญาว่าต่อไปมายจะไม่ดื้อไม่โกรธ ไม่แช่งนายอีกแล้ว มายจะเชื่อฟังนายทุกอย่าง นะนายนะ”

เขาเริ่มอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆกับเสียงคร่ำครวญของหล่อน นางคำโพที่นั่งฟังอยู่ใกล้ๆเบิกตาโพลงมองเขากับมายลลับกันไป เขาไม่รู้ว่านางจะคิดอย่างไรกับท่าทางของมายที่แสดงต่อเขา

“ทำไมนายไม่ตอบล่ะ เอางี้ก็ได้ ต่อไปนี้ถ้ามายทำอะไรไม่ถูกใจนาย มายยอมให้นายตี ดีมั้ยจ๊ะ” หล่อนเริ่มเจรจาแลกเปลี่ยน ด้วยความหวังอันน้อยนิดว่าจะได้อยู่กับเขาต่อไป ก็ที่นี่ไม่ใช่บ้านของหล่อนด้วยหรอกหรือ?

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “พูดบ้าๆ ทำไมฉันจะต้องลงมือลงไม้กับเราด้วยล่ะ เห็นฉันเป็นยักษ์เป็นมารหรือไง?”
มายส่ายหน้า “เปล่าจ้ะ นายใจดีจะตาย มายรักนายน้อยกว่าตานิดเดียวเอง แม้แต่ไอ้กวางตุ้งที่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดมายยังไม่รักเท่านายเลย ให้มายอยู่ด้วยนะ”
“อ้อ..ดีนี่ เอาฉันไปเปรียบกับเจ้ากวางตุ้งของเราได้ยังไง” เขาชักโมโห
“ไม่รู้ละ ยังไงๆมายก็ไม่ไปไหนหรอก จะอยู่ที่นี่แหละ” หล่อนดื้อแพ่ง
“อยู่ไม่ได้ ฉันขี้เกียจดูแล ไม่อยากต้องมานั่งเป็นห่วงใคร อยู่คนเดียวสบายใจกว่า”

มายเริ่มหยุดร้องไห้ นั่งเงียบๆมองหน้าเขาอย่างตัดพ้อ ชายหนุ่มถอนใจยาว แต่ก็นึกโล่งใจที่หล่อนเลิกต่อล้อต่อเถียง คงตกลงจะไปอยู่กับนางคำโพแล้ว แต่เปล่าเลย เด็กสาวผู้นั้นมาไม้ใหม่

“ถ้ามายไปอยู่ข้างล่างแล้วใครจะทำกับข้าวให้นายกินล่ะ นายยิ่งกินยากกินเย็นอยู่ด้วย เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น คนอะไรก็ไม่รู้เรื่องมากชะมัด ไอ้โน่นก็ไม่กิน ไอ้นี่ก็ไม่กิน น่ารำคาญจะตาย" หล่อน:-)มือข้างหนึ่งพรวดมาตรงหน้าเขา กางนิ้วทั้งห้าออกจากกัน ทำปากขมุบขมิบเหมือนนับเลขไปด้วย "เสื้อผ้าล่ะใครจะซักให้ เสื้อผ้าของนายแต่ละตัวดำปิ๊ดปี๋ สกปรกยังกะไปตกปลักควายมา เหม็นอีกต่างหาก คนอื่นใครเขาจะอยากซักให้ มีแต่มายเท่านั้นที่ซักได้สบายมาก บ้านหลังนี้ล่ะ ใครจะกวาดจะถู คงสกปรกฝุ่นเขรอะจนนั่งนอนไม่ลง ตกเย็นใครจะคอยจุดตะเกียงไว้ให้นาย แล้วก้อ...”

หล่อนร่ายยาวจนเขาต้องยกมือขึ้นห้าม “พอ..พอ ไม่ต้องสาธยายมาก ขี้เกียจฟัง ฉันจะให้เมียเจ้าเกี๋ยง” เขาหมายถึงนางแก้ว เมียของนายเกี๋ยงคนงานคนหนึ่งของเขา “มาช่วยทำให้ก็ได้ เสื้อผ้าบ้านช่องก็เหมือนกัน ไม่ต้องห่วงหรอก ไป..ไปเก็บของได้แล้ว”

มายยังไม่ยอมแพ้หรอก หล่อนต้องหาเหตุผลมาลบล้างคำสั่งที่ไม่ชอบของเขาในความเห็นของหล่อนให้ได้ เรื่องอะไรจะยอมยกธงขาวง่ายๆ “แล้วไก่ของมายล่ะ แปลงผักนั่นอีกล่ะจะทำยังไง นายจะมีเวลาดูแลเหรอ ออกไปไร่แต่มืดกลับก็มืด บางทีก็ไม่รู้หายไปไหนตั้งหลายวัน ไม่กลับบ้านกลับช่อง พแกลับมาแล้วก็ไม่เห็นทำอะไร นั่งรอให้มายทำให้ทุกอย่าง เผลอๆลืมให้น้ำให้ข้าวจนไก่ตายหมดเล้า ผักก็เหมือนกันคงขาดน้ำขาดปุ๋ยจน.."

“เออ..เออ ฉันจัดการเอง ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี่มากนัก” เขาตัดบทอย่างรำคาญกับเสียงลำเลิกฉอดๆของหล่อน

แต่มายไม่ยอมจบง่ายๆหรอก เป็นไรก็เป็นกัน ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก

“แล้วไอ้กวางตุ้งล่ะ ถ้ามายบังคับให้มายไปมายก็ต้องเอามันไปด้วยนะ มันเป็นหมาของมายไม่ใช่ของนาย มายรู้แล้วว่านายเกลียดมาย เดี๋ยวนายก็จะแกล้งไม่ให้อาหารมันกิน ปล่อยให้มันอดโซจนตายไปเอง” หล่อนต่อรองใหม่เพราะรู้ว่าเขาก็รักเจ้ากวางตุ้งไม่น้อยไปกว่าหล่อน

น่านถอนใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ กับความดื้อด้านและเหตุผลไม่เข้าท่า ที่หล่อนพยายามยกขึ้นมาต่อรอง “หมาของเราๆเอามันไปด้วยก็ถูกต้องแล้วนี่ ไม่ใช่หมาของฉันสักหน่อย”

หลังจากที่น่านพยายามหว่านล้อมหล่อนอีกนาน รวมทั้งนางคำโพช่วยเกลี้ยกล่อม ในที่สุดมายก็ยอมแพ้ หล่อนร้องไห้กระฟืดกระฟาดเข้าไปเก็บสมบัติไม่กี่ชิ้นของหล่อนใส่ห่อผ้า แล้วไม่พูดไม่จากับใคร หิ้วห่อผ้าลงไปยืนร้องไห้คอยนางคำโพอยู่ที่ลานบ้านใกล้กรงไก่ เขาเดินมาแอบมองอยู่ไกลๆ ได้ยินหล่อนส่งภาษาชาวเขากระหนุงกระหนิงกับไก่ของหล่อนเหมือนสั่งเสียอยู่นาน น่านเข้าไปหยิบเงินจำนวนหนึ่งในห้องนอนออกมาส่งให้นางคำโพแล้วเดินตามลงไปข้างล่าง มายเดินตามหลังแม่เฒ่าคนนั้นไป มีเจ้ากวางตุ้งวิ่งตามไปด้วย

ก่อนจะพ้นลานบ้านออกไปหล่อนหันมามองเขาแว่บหนึ่ง บอกด้วยเสียงอ่อยๆอย่างเป็นห่วงเป็นใยว่า “อย่าลืมกินข้าวล่ะ มายทำให้แล้วอยู่ในครัว ยังไม่ได้จัดขึ้นโต๊ะให้หรอก” เมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของเขาที่มองมาอย่างไม่รู้สารู้สมกับการอยู่หรือการไปของหล่อน มายก็ทำหน้าคว่ำกระแทกเสียงว่า “มายเกลียดนายน่าน เกลียดที่สุดในโลกเลย!! เข้าป่าขอให้เสือขบหัวตาย!! ลงน้ำก็ขอให้ไอ้เข้ลากไปกิน!!”

แล้วหล่อนก็ร่ายยาวเป็นภาษาชาวเขาของหล่อนอีกสองสามประโยค ที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็แน่ใจว่าคงเป็นคำสาปแช่งเขาให้มีอันเป็นไปอีกเหมือนกัน

มายไปแล้วและเขาก็หายใจได้ปลอดโปร่งขึ้น เมื่อถึงเวลาอาหารน่านเข้าไปในครัว เห็นอาหารที่หล่อนทำไว้ให้เขาที่บรรจุอยู่ในจานเรียบร้อย ก็ยกออกมาวางที่โต๊ะข้างนอก ค้นได้จานก็หยิบมาคดข้าวลงไป กว่าจะหาช้อนกับส้อมและแก้วน้ำได้ก็ต้องค้นเสียวุ่นวาย เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าหล่อนเก็บอะไรไว้ที่ไหน ปกติเขาไม่ค่อยได้เข้ามาวุ่นวายในครัว มีหน้าที่นั่งรอให้หล่อนจัดการนำทุกอย่างมาวางเตรียมไว้ให้แล้วลงมือกินอย่างเดียว รสมือในการทำอาหารของมายไม่เลว แต่แล้วอยู่ๆวันนี้อาหารของหล่อนก็หมดรสชาติที่เคยอร่อยลิ้นไปเสียเฉยๆ ทั้งๆที่คนทำก็คนเดียวกันนั่นแหละ

เขากินข้าวได้ไม่ถึงครึ่งจานก็เลิกกิน ถือจานข้าวลงไปที่ลานหลังบ้าน คิดว่าจะเรียกเจ้ากวางตุ้งมากินอาหารที่เหลือ แต่แล้วก็ชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันไม่อยู่แล้ว มันตามเจ้านายของมันลงเขาไปตั้งแต่เย็นแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกใจหายนิดหน่อย เขาเดินไปที่เล้าไก่ เจ้าไก่เจ็ดแปดตัวในนั้นหุบปีกอยู่กันนิ่งๆ ไม่ส่งเสียงกุกกุกหรือโก่งคอขันให้หนวกหูเหมือนทุกวัน ท่าทางหงอยๆของพวกมันทำให้เขาสงสัยว่า หรือเจ้าไก่พวกนี้จะรับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ ว่าเจ้าของหรือเจ้านายของพวกมันไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว

น่านเดินกลับขึ้นไปบนบ้าน จัดการล้างจานชามที่ใช้รับประทานอาหาร คว่ำไว้ในตะแกรงพลาสติกที่อยู่ใกล้ๆ แล้วมองสำรวจไปรอบครัว พบว่าไม่มีอะไรต้องทำอีก มายทำความสะอาดครัวเรียบร้อยหมดแล้ว เขารู้ว่าหล่อนจะต้องเก็บกวาดเช็ดถูครัวให้สะอาดทุกครั้งหลังทำอาหาร ตามคำสั่งของเขา ตอนที่มาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ หล่อนไม่ได้สะอาดอย่างทุกวันนี้หรอก ทำอะไรเสร็จก็ไม่เคยเก็บเข้าที่ ของที่ควรล้างก็ไม่ล้าง ทิ้งให้เขรอะอยู่อย่างนั้น นอกจากความสกปรกรกรุงรังแล้วในครัวยังมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งได้แก่บรรดาแมลงสาปและหนูตัวโตๆที่วิ่งกันพล่านอย่างอิสระเสรี ที่เขาสงสัยว่าอาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของหล่อน

เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไปเขาก็ต้องเรียกหล่อนมาอบรมและยื่นคำขาดว่า ถ้าบ้านหรือครัวยังสกปรกหรือมีแขกที่เขาไม่ได้เชิญ เขาจะส่งหล่อนกลับไปเป็นชาวเขาเหมือนเดิม ซึ่งเป็นสิ่งที่หล่อนกลัวที่สุด และตั้งแต่นั้นมามายก็ไม่เคยทำสกปรกอะไรอีกเลย หล่อนเป็นคนฉลาดหัวไว สอนหรือสั่งอะไรเพียงครั้งเดียวก็จำได้แล้ว

เดินไปเดินมาอยู่ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็ถือบุหรี่ลงไปสูบข้างล่าง ขณะนั้นประมาณสองทุ่ม ทั่วบริเวณนั้นมืดสลัวและเงียบกริบ มีแต่เสียงส่ายไหวของกิ่งไม้รอบตัวเมื่อต้องลมที่พัดมาเป็นระยะๆ ดวงจันทร์ข้างแรมสีซีดๆเว้าๆแหว่งๆบนท้องฟ้าสีหม่น ดูไม่ต่างจากชีวิตของเขาในรอบหลายปีมานี้ น่านสัมผัสได้ถึงความอ้างว้างที่จู่โจมเข้ามาทุกครั้งที่ต้องอยู่คนเดียว แล้วเขาก็อดแวบไปคิดถึงมายไม่ได้ ชั่วๆดีๆก็ยังเคยมีหล่อนอยู่เป็นเพื่อน แม้บางครั้งเขาจะนึกเบื่อและรำคาญอยากให้หล่อนไปพ้นๆเสียทีก็ตาม

จากคุณ : ดอยสะเก็ด
เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 55 11:57:06




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com