Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ติดต่อทีมงาน

อะไรก็เกิดขึ้นได้...

ราสส์ กิโลหก

ไพศรีหญิงวัย 50 ปีเจ้าของบ้านชั้นเดียวในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง นั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟากลางบ้านสีหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล   ท่าทางกระสับกระส่ายผุดลุกผุดนั่งตลอดเวลา ด้านหน้าห่างออกไปไม่มากเป็นทีวีขนาด 23 นิ้วเปิดอยู่ เป็นรายการอ่านข่าวของพิธีกรผู้ชายที่คนรู้จักกันทั่วเมือง รายการของเขาเป็นรายการข่าวภาคดึก มีทั้งข่าวสด ข่าวการบ้านการเมือง  พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข่าวที่เขาเอามาอ่าน มีทั้งตำหนิและชื่นชม อันเป็นลักษณะของผู้อ่านข่าวทั่วไป อันแสดงถึงความรอบรู้มากกว่าคนทั่วไป..

หญิงสูงวัยหันหน้ามองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังบ้าน พลางถอนหายใจเพราะเวลาขณะนี้เลยครึ่งคืนมาแล้ว เข็มนาฬิกาบ่งว่าเลยเที่ยงคืนมาแล้วเกือบครึ่งขั่วโมง ถ้าเป็นวันธรรมดาทั่วๆไป ไพศรี หรืออาจารย์ไพศรี จะเข้านอนปกติเหมือนทุกวันในเวลาไม่เกิน 4 ทุ่ม หากแต่วันนี้มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้เธอไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับได้..

ไพศรีจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสายงานด้านการศึกษา เมื่อจบการศึกษาเธอสอบแข่งขันเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและสอบผ่านได้จึงได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการครูที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯต่อมาได้แต่งงานกับชิงชัย ครูโรงเรียนเดียวกันที่คบค้ากันมากว่า 10 ปี พร้อมซื้อบ้านและที่ดินที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งตั้งอยู่ย่านชานเมืองกรุงเทพฯ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและเป็นรากฐานของครอบครัว สองสามีภรรยาก็มีบุตรด้วยกัน 1 คนเป็นผู้ชาย และตั้งชื่อว่าดนัย ทั้งไพศรีและชิงชัยเป็นคนเรียนดีเรียนเก่ง ดนัยลูกชายคนเดียวจึงได้รับพันธุกรรมจากพ่อและแม่ ทำให้เขาสมองดีและเรียนเก่ง  ที่สำคัญยังเป็นผู้มีนิสัยสุภาพเรียบร้อย ความประพฤติของดนัยไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องหนักใจ ดนัยจึงเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่

เมื่อจบการเรียนระดับมัธยมปลายด้วยคะแนนเป็นเยี่ยม ดนัยเลือกสอบเข้าคณะแพทย์เพราะเด็กเก่งๆจะเลือกคณะนี้   และก็สมความตั้งใจเขาสอบผ่านได้ในเวลาต่อมาเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  การเรียนในมหาวิทยาลัยถือเป็นช่องทางของนักเรียนทุกคนเป็นการสลัดคราบนักเรียนไปเป็นนักศึกษา เพื่อศึกษาหาความรู้เป็นอาชีพและต่อสู้ต่อไปในโลกกว้าง

ความรู้สึกของพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเข้าเรียนในสถานที่มีชื่อเสียงเพื่อเป็นอนาคตของลูกในภายภาคหน้า ซึ่งพ่อแม่นั้นจะมีความรู้สึกภูมิใจและดีใจกับสิ่งที่ลูกประสบความสำเร็จมากกว่าตัวของลูกเองหลายเท่า  ลูกบางคนอาจจะไม่รู้ และที่ร้ายไปกว่านั้นบางคนยังมองข้ามความรู้สึกของพ่อแม่ไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่มีอะไรในโลกที่จะสุขสมหวังหรือมีความสุขได้ตลอดไป ดนัยเข้าเรียนแพทย์ได้ไม่นาน เคราะห์หามยามร้ายได้เข้ามาเยือนอย่างคาดไม่ถึง  ชิงชัยหัวหน้าครอบครัวไปร่วมงานกินเลี้ยงของสถาบันเก่า ในฐานะศิษย์เก่าตามประเพณีที่ปฏิบัติมากันทุกปี เขาไปทุกปีไม่เคยขาด แต่ปีนี้พระเจ้าลิขิตให้เขาได้ไปเป็นปีสุดท้ายเพราะในช่วงดึกหลังเที่ยงคืนขณะที่กลับรถกลับบ้านพักที่อยู่ชานเมืองฯ รถแล่นมาถึงสะพานแห่งหนึ่งและเกิดเสียหลักตกลงไปในแม่น้ำทั้งคนทั้งรถ  กว่าจะมีคนมาช่วยก็ช้าไปชิงชัยได้ขาดใจตายไปเสียก่อน...ในวัย 50 ปี..

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน ไพศรีไม่เคยลืม  เพราะเธอและลูกมานั่งกันที่เก้าอี้โซฟาตัวนี้ เพื่อ รอชิงชัยกลับบ้านด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากเวลาดึกแล้วสามียังกลับไม่ถึงบ้าน  มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่มันเป็นเสียงจากนรกสำหรับไพศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ชิงชัยขับรถตกแม่น้ำและเสียชีวิตแล้ว....
                             
          *************************************

ไพศรีลุกขึ้นจากเก้าอี้โซฟา เดินไปที่หน้าต่างพลางมองออกไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน ออกอาการกระวนกระวาย พยายามเงี่ยหูฟังเสียงรถยนต์ของลูกชาย ภาวนาให้มีเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน แต่ก็ผิดหวังเพราะไม่มีเสียงที่ว่ามาให้ได้ยิน ครั้นจะโทรไปตามก็เกรงใจลูกเพราะวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายและเป็นปีสุดท้ายของการเรียน พวกเพื่อนๆจึงได้นัดสังสรรค์กัน หลังจากเหน็ดเหนื่อย จากการเล่าเรียนมาหลายปี..

บรรยากาศด้านนอกบ้านเงียบสงัด เพราะดึกมากแล้ว นานๆจะได้ยินเสียงหมาเห่ามาให้ได้ยิน บ้านเรือนข้างเคียงต่างปิดไฟหลับนอนกันหมด แต่สำหรับไพศรีในขณะนี้ไม่มีความง่วงมารบกวนเธอแม้แต่น้อย ใจยังคงจดจ่อกับเสียงสวรรค์ คือเสียงรถยนต์ของลูกชายที่จะมาถึงหน้าบ้าน

เหมือนสถานการณ์ไม่เป็นใจ บรรยากาศด้านนอกเริ่มแปรปรวน มีลมก่อตัวขึ้นเกิดเสียงลมกรรโชกพัดอย่างแรงกระทบกับต้นไม้ข้างบ้านดัง ซ่าๆๆ หูแว่วเสียงฟ้าร้องมาแต่ไกล บนท้องฟ้ามีแสงสว่างเกิดขึ้นเป็นเส้นเหมือนรากฝอยของต้นไม้ วิ่งส่ายไปมา ออกอาการว่าจะมีฝนตกในอีกไม่นาน หญิงสูงอายุออกอาการกระวนกระวายมากขึ้น ฝนจะมาตกอะไรในตอนนี้ ความทุกข์ที่มีอยู่แล้วกลับทวีเพิ่มมากขึ้น  เธอคิดว่านี่คือความทุกข์ที่มันแน่นอยู่ในอก ใครไม่เคยประสบจะไม่รู้ว่ามันทรมานต่อร่างกายและจิตใจอย่างไร

ท่ามกลางเสียงลมเสียงฟ้าที่อื้ออึงอยู่นอกตัวบ้าน..

“เพล๊ง !”เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอยู่บริเวณห้องโถงกลางบ้าน

ไพศรีสะดุ้งสุดตัวเธอหันกลับไปที่ต้นเสียง และวิ่งไปที่จุดนั้น พอไปถึงพบว่าสิ่งที่หล่นลงมาจนแตกละเอียดเป็นกรอบรูปถ่ายสมัยเป็นเด็กนักเรียนของดนัยนั่นเอง รูปถ่ายกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดี ไพศรีหงุดหงิดขึ้นมามันเป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเลย

ยังไม่ทันได้ปรับอารมณ์จากสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว..

“กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ในบ้านร้องกรีดขึ้นดังสนั่น ไพศรีตกตะลึงทำอะไรไม่ถูกดึกดื่นเที่ยงคืนใครโทรมา หรือว่า ?  เธอใจหายวาบๆลมภายในท้องตีสว้านขึ้นมาที่หน้าอก เสียงโทรศัพท์ยังคงกรีดร้องอย่างต่อเนื่องเหมือนแสดงอาการโกรธ สาวใหญ่ค่อยๆเดินตรงไปที่โทรศัพท์ที่ยังคงกรีดร้องจนเครื่องแทบพัง เอื้อมมือที่สั่นเทาหยิบหูฟังขึ้นมา ในใจภาวนานึกถึงคุณพระคุณเจ้าที่นับถือ.....

“ฮาโหล  ที่นั่นที่ไหนครับ” เป็นเสียงผู้ชาย

ในตอนนี้จิตใจของไพศรีสั่นระรัวจนรู้สึกว่าหัวใจจะหลุดออกมา เธอพูดตอบกลับด้วยเสียงเบาหวิว

“บ้านอาจารย์ไพศรี ค่ะ”

เสียงตามสายเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตะโกนด้วยเสียงลั่น

“โทรผิดอีกแล้ว โทรศัพท์เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย ! ขอโทษนะคุณ อ้อ ! ดึกดื่นแล้วยังไม่หลับนอนอีกหรือคุณ” เขายังแสดงความเป็นผู้มีมารยาทกับไพศรี ก่อนจะวางหูดังโครม.

ในยามนี้ความทุกข์ทรมานเข้าโจมตีแม่ของลูกคนหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ความรักและห่วงลูกในสายเลือดกลับกลายเป็นหนามแหลมที่ทิ่มแทงใจของผู้เป็นแม่จนแทบจะทนไม่ได้ ในคำที่กล่าวว่าการพลัดพรากทำให้เกิดความทุกข์ เป็นสิ่งที่เป็นจริง เพราะหากดนัยเป็นแค่เด็กข้างบ้าน หรือคนรู้จักกันธรรมดา เธอคงไม่ทุกข์ทรมานขนาดนี้

เปรี้ยง !!เสียงดังสนั่นอยู่ไม่ไกล จนรู้สึกถึงความสั่นสะเทือน ไพศรีตื่นจากภวังค์ พร้อมเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้โซฟาด้วยความอ่อนล้า ทนไม่ไหวอีกแล้วไพศรีคิดว่าจะต้องโทรเข้ามือถือของดนัยอีกครั้งเพื่อความสบายใจ
เธอกดเบอร์ไปยังเครื่องของดนัย มีเสียงสัญญาณยาว แต่ไม่ปรากฏมีคนรับสาย

“รับซิลูก  ...รับซิ” แต่ไม่มีผู้รับสาย เอ๊ะ มันมีอะไรผิดสังเกตหรือเปล่า ? ใจคอของผู้เป็นแม่ย่ำแย่ลงกว่าเดิม แม้จะพยายามกดโทรไปอีกหลายครั้งเหตุการณ์ก็เหมือนเดิม ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา

ที่หน้าจอทีวี ข่าวภาคดึก มีข่าวด่วนเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ไพศรีวิ่งไปที่หน้าจอทันที เป็นข่าวรถยนต์เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต มีภาพข่าวแสดงที่หน้าจอด้วย ช่างกล้องได้ถ่ายตรงบริเวณทะเบียนรถเพื่อเป็นสื่อไปถึงญาติพี่น้องหรือคนรู้จักกับรถคันประสบเหตุ แต่ก็โล่งใจเพราะหมายเลขทะเบียนไม่ใช่รถของดนัย..

แต่ทันใดนั้นมีอีกข่าวตามมา ผู้สื่อข่าวกำลังบรรยายถึงรถเก๋งอีกคันหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุชนกับคอสะพานคอนกรีต ทำให้ผู้ขับขี่กระเด็นตกลงไปในน้ำที่กำลังเชี่ยวกราก พร้อมทั้งบอกบริเวณที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ในข่าวแจ้งว่าพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าคนขับรถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็ว เกิดเสียหลักวิ่งชนคอสะพานดังสนั่น และเห็นคนที่ขับรถกระเด็นออกจากตัวรถทางกระจกด้านหน้าตกลงไปในแม่น้ำ และจมหายไปทันที คาดว่าคงเสียชีวิตแน่นอน เพราะชนแรงมาก ไพศรียืนดูข่าวด้วยความสนใจ ผู้สื่อข่าวคนเดิมยังบรรยายต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นเอกสารภายในตัวรถ จนรู้ว่าเจ้าของรถคือ....

....นายดนัย ...............เป็นนักศึกษาแพทย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง …

“ว้าย ! ลูกแม่   ดนัยลูกแม่  ฮือๆๆๆไม่จริงๆๆๆๆๆๆ” สติของเธอขาดผึงไปในทันที...อนิจจาหัวอกของคนเป็นแม่ช่างสูงส่งยิ่งนัก...
                                *************************************

ช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น...

“กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง...

สิบเวรเป็นผู้รับสาย...

“โหล  ๆบอกผู้กองกิจจาด้วย พบศพเจ้าของรถคันที่ชนสะพานเมื่อคืนแล้ว มาชันสูตรด้วยครับ” เสียงเจ้าหน้าที่มูลนิธิแจ้งข่าวมายังร้อยเวร.

ในเวลาไล่เลี่ยกัน...

“กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นที่สถานีตำรวจเดียวกัน

สิบเวรคนเดิมเป็นผู้รับ

“ ฮาโหล  โทรจากโรงพยาบาล........นะคะขอให้ร้อยเวรมาสอบสวนผู้บาดเจ็บด้วยคะ คงพอให้การได้แล้ว มาด่วนเลยนะคะ” เสียงหวานๆของนางพยายม....เอ็ย !พยาบาล...
                                 

***************************************

ณ. โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หญิงสูงอายุในชุดสุดสวยกำลังประคองชายหนุ่มออกมาที่หน้าโรงพยาบาล พร้อมโบกมือเรียกรถแท็กซี่ซึ่งกำลังวิ่งผ่านมา

“เดี๋ยวไปทำบุญที่วัดกันนะลูก คราวหน้าคราวหลังอย่าจอดรถลงฉี่ในที่เปลี่ยว บุญบารมีพระคุ้มครอง คนที่ทำร้ายลูกจนสลบและขโมยรถหนีไป  จึงรับเคราะห์แทนลูก”  

อาจารย์ไพศรีกล่าวกับดนัยลูกรักด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม....

แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 55 19:15:09

แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 55 18:57:09

จากคุณ : สวนดอก
เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 55 18:55:00




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com