20/2
คาชาลเปิดแฟ้มเอกสารแต่ละแฟ้ม กรีดกระดาษเร็วจนเกิดลมผะแผ่ว หากหาเท่าไรก็ไม่เจอเอกสารรายงานสำคัญ เขาถอนใจหงุดหงิด สั่งคนขับรถซึ่งเขาให้มาขับในวันที่ตนมีงานคั่งค้างต้องสะสางระหว่างทางเลี้ยวกลับบ้าน คิดว่าคงเร็วกว่าให้ลูกน้องกลับมาเอาอีกที
ร่างสูงโปร่งก้าวยาวผ่านโถงของบ้าน อดหวิวโหวงในอกไม่ได้เมื่อบ้านหลังใหญ่เงียบสนิท ไร้เงาหรือแม้กระทั่งเสียงพูดคุยระหว่างแม่และลูกชาย เมื่อเช้าเธอก็ไม่ได้บอกเขาว่าจะไปไหนนี่นะ เขานึกถึงบุตรชายซึ่งขืนตัวไว้ไม่ให้พ่ออุ้ม ลูกน้อยแสดงออกชัดว่ายังกริ่งเกรงบิดาจากเหตุการณ์เมื่อคืน ดังนั้น หลังชายหนุ่มเข้าไปหยิบเอกสารในห้องทำงานแล้วจึงรีรออยู่นั่นเอง
แมมล่ะ ถามกับลูกน้องคนสนิทซึ่งพินอบพิเทาเข้ามา
แมมออกไปคอกม้ากับยาโบคิรินครับ
อากาศเย็นแบบนี้นี่นะ เขาบ่น
แม้ใจอยากสั่งให้คนงานไปตามภรรยาและลูกกลับมา แต่ก็เหมือนน้ำท่วมปากเพราะเขาไม่มีเวลาให้คนที่ตนรักทั้งสองอยู่ดี
ยังไม่ทันที่คาชาลจะก้าวออกจากบ้าน คนงานนับสิบก็กรูกันเข้ามาจากปีกอาคารฝั่งที่พัก ท่าทางตื่นตระหนก เขานิ่วหน้าฉงน จำชายชราซึ่งถูกหิ้วปีกได้ดี ปุงกัล...คนเลี้ยงม้านั่นเอง
นี่มันอะไรกัน เขาถามทั้งที่ไม่อยากได้ยินคำตอบ หัวใจร้อนรุ่มด้วยสังหรณ์ร้าย
ยาโบ แมมกับยาโบคิรินถูกจับตัวไป ชายป่า...ที่ชายป่าด้านหลังครับ ยาโบ ปุงกัลพยายามยืดตัวรายงานประสาอดีตชายชาติทหาร ครั้นตั้งสติได้ ประโยคต่อไปจึงบอกเล่ารายละเอียด พวกมันมากันสองคน มันจับผมมัดแล้วดักอุ้มแมมกับยาโบคิรินเข้าไปในป่าสักสิบนาทีก่อนผมแก้มัดออกมาได้ น่ากลัวว่ามันไม่ได้มีกันแค่นี้แน่
ลลิลดาไม่มีศัตรูที่ไหน คาชาลตระหนักดีว่าพวกมันหมายเอาชีวิตเขา หรือไม่ก็ทำให้เขาเจ็บปวดที่สุด มันผู้นั้นจะเป็นใครไปได้นอกจากพวกของนายพลวายู้ค!
เขากำเกร็งมือแน่น ความคั่งแค้นแทบระเบิดออกมาจนสั่นเทิ้มไปทั้งกาย ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้ว เขาไขเปิดลิ้นชักตู้เอกสาร หยิบอาวุธสีดำปลาบขึ้นมาและแจกจ่ายให้ลูกน้องอีกสองคน
................................
ปุงกัลพาร่างกายอันบอบช้ำตามไปกับเจ้านายของเขาด้วยเพื่อชี้จุดเกิดเหตุ ขณะคนงานอื่นก็โทรเรียกตำรวจ ใจของคนในบ้านทุกดวงมุ่งไปที่แมมและยาโบตัวน้อย อธิษฐานให้ทั้งสองปลอดภัยด้วยความรักอย่างแท้จริง
เมื่อมาถึงชายป่าซึ่งมีเพียงรั้วไม้กั้นเขตแดน ชายชราก็รีบชี้ยังจุดที่คนแปลกหน้าลักพาหญิงสาวและเด็กน้อยเข้าไป คาชาลโหนรั้วข้ามเข้าไปโดยไม่ยั้งคิด พื้นหญ้ามีรอยเท้าย่ำใหม่ๆ เป็นทางลึกเข้าไป
หัวใจชายหนุ่มสูบฉีดโลหิตแรง เหงื่อกาฬซึมออกมาทั้งที่อากาศหนาวเย็น หากสายตาและสมาธิทั้งหมดพุ่งไปยังทางเบื้องหน้าตามรอยเท้า ท่ามกลางเสียงก้อนเนื้อในอกชกรัว แล้วหูเขาก็แว่วเสียงร้องไห้จ้าของลูกน้อยแทรกเข้ามา
ขาแข็งแรงเร่งจังหวะก้าวไปข้างหน้า มือแหวกกิ่งไม้แห้งซึ่งคอยเกาะเกี่ยวเสื้อเชิ้ต ข่วนตามร่างกายไปตลอดทาง
ช่วยด้วย... เสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือดังแผ่ว
คาชาลใจชื้น เขาออกวิ่งตามเสียงนั้นโดยไม่สนใจรอยเท้าบนพื้นหญ้าอีก อย่างน้อยลูกและเมียเขายังมีลมหายใจ ต่อให้ตนกำลังวิ่งเข้าสู่กับดักเขาก็ไม่สนใจ
เป็นดังคาด ร่างสูงใหญ่ราวยักษ์ปักหลั่นยืนโอบไหล่ลลิลดาไว้พร้อมปืนในมือ คาชาลกัดฟันกรอดทันทีที่เห็นว่ามันทำอะไรกับคนรักของเขา มันปลดเปลื้องเสื้อผ้าเจ้าหล่อนเหลือเพียงซับในแล้วมัดไว้กับต้นไม้ ร่างบางสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บและหวาดกลัว ดวงตาตื่นตระหนกมีน้ำตากลบตา
ไอ้ยักษ์ส่งยิ้มเหี้ยมเกรียมขณะชี้ให้เขาและลูกน้องซึ่งหยุดยืนสมทบขนาบข้างนายวางอาวุธ
วางปืนเดี๋ยวนี้! ถ้าไม่อยากให้อีนี่กลายเป็นศพล่อนจ้อน
ชายหนุ่มค่อยวางปืน ดวงตาวาวโรจน์จับจ้องฝ่ายตรงข้ามไม่ลดละ ปุงกัลบอกว่ามันมากันสองคน แสดงว่าไอ้คนที่จับลูกเขาไปอยู่แถวนี้เช่นกัน
ปล่อยเธอแล้วมาจับข้าซีวะ เขาท้า
ไม่... คาชาล ช่วยลูก... มันพาคิรินไป
อีนี่! ตวาดพลางตบด้ามปืนใส่ขมับคนพูดมาก
ไอ้ยูริมันทรยศพวกเขาจริงๆ แล้วยังพาเด็กหนีไป แผนการซึ่งวางไว้ดิบดีต้องพลิกผัน ลูกพี่ของเขาที่วางแผนเตรียมซุ่มยิงจำต้องไล่ล่าไอ้คนทรยศ ก่อนที่มันจะหนีออกจากป่า นำแผนการนี้ไปบอกใครต่อใคร ซ้ำร้ายเป้าหมายของพวกเขาซึ่งเวลานี้ควรจะอยู่ที่ทำงาน กลับมายืนจังก้าตรงหน้า ตาขวางของมันราวหมาบ้าจับจ้องเหยื่อ
เสี้ยววินาทีที่ไอ้ยักษ์ตบด้ามปืนใส่ตัวประกัน คาชาลก้มหยิบอาวุธที่ปลายเท้าด้วยความรวดเร็ว ความเร็วนั้นพอกับกระสุนซึ่งพุ่งออกจากปากกระบอกไปฝังยังต้นขาหนาหนั่น ร่างสูงใหญ่สะท้านเซไปตามแรงส่งนั้น ยังไม่ทันได้เหนี่ยวไกสู้ ลูกตะกั่วอีกนัดก็พุ่งออกมาจากปืนต่างกระบอก ฝังกลางช่องท้องเขาแม่นยำ
คาชาลรีบเข้าไปแก้เชือกซึ่งมัดหญิงสาวกับต้นไม้ พร้อมกับชายฉกรรจ์สองนายตรงเข้าล็อคตัวคนที่ทรุดลงกับพื้น ผิวเนียนนุ่มซึ่งเขาเคยสัมผัสบัดนี้แดงเถือกจากการเสียดสีของเชือก ซ้ำยังปรากฏรอยช้ำหลายแห่งบนร่างกาย หากอะไรก็ไม่เท่าแววหวาดผวาในดวงตาคู่งามซึ่งเลื่อนลอยอย่างไร้สติ เขาขบกรามแน่น หยิบเสื้อผ้าซึ่งกองกับพื้นมาสวมให้คนรักรวดเร็ว
ลิลลี่ มองผม มองผมสิ ลิลลี่
เขาแนบหน้าผากกับหน้าผากเธอ กอดร่างบางซึ่งสั่นสะท้านไว้ด้วยหัวใจร้าวราน พวกมันทำสำเร็จแล้ว แม้ไม่ฆ่าให้ตายก็เหมือนตายทั้งเป็น เมื่อมันได้ทำร้าย ย่ำยีหัวใจเขาทั้งดวง
คาชาลจำต้องผละจากภรรยาซึ่งสิ้นสติจากความตกใจ หวาดกลัวถึงขีดสุด เขาสั่งลูกน้องคนหนึ่งพาเจ้าหล่อนกลับไป ขณะอีกคนให้ควบคุมไอ้ยักษ์ไว้ ก่อนตนจะสะกดรอยเท้าซึ่งแยกไปทางทิศตะวันออกเพื่อช่วยบุตรชาย
.................................
เปรี้ยง!
เสียงลั่นกระสุนดังแผดก้องกลางป่าหยุดเสียงร้องไห้จ้าได้ชะงัด ยูซุตซ่อนกายหลังต้นไม้ เหลียวมองคนที่ย่างสามขุมตามหลังตนมาพร้อมอาวุธปืน เขาสบถในใจเมื่อรู้ว่าโอกาสรอดของตนน้อยลงเต็มที
แล้วจะหยุดรอให้มันฆ่าหรือไงวะ! ไอ้คนทรยศออกวิ่งอีกครั้ง มันกระโดดผลุบไปมาโดยอาศัยต้นไม้กำบัง เด็กชายที่ตนลักพามาเป็นตัวประกันแผดเสียงร้องอีกครั้ง รำคาญเสียจนแทบจะโยนทิ้งวินาทีใดวินาทีหนึ่ง หากไม่ห่วงว่าตนจะหมดข้อต่อรอง
เปรี้ยง!
คราวนี้มือแม่นปืนไม่พลาด กระสุนอีกนัดพุ่งเข้าฝังยังต้นขาฝ่ายตรงข้ามพอดี ขาซึ่งกำลังสับวิ่งชาวาบ ยูซุตล้มหน้าคะมำพร้อมกับตัวประกันกระเด็นหลุดจากอ้อมแขนลงไปนอนแน่นิ่ง มันพยายามกระถดตัวหนีคนที่ยกปืนจ่อหมายเอาชีวิต ปากก็พร่ำอ้อนวอนขอชีวิตฟังไม่เป็นศัพท์
ข้าผิดไปแล้ว พี่ชาย อย่าทำอะไรข้าเลย ไอ้คาชาล... ข้าจะบอกความลับไอ้คาชาลเพิ่มก็ได้ รีบยกชื่อคนที่มันเคยหากินมาได้ครั้งหนึ่ง เห็นบ้านมันใหญ่โตอย่างนั้นแต่หละหลวมเรื่องความปลอดภัย คนงานก็เยอะจนแทบจำหน้ากันไม่ได้ หากพี่ชายลอบเข้าไปทางปีกซ้ายจะเป็นฝั่งที่พักมัน...
เจ้าของใบหน้าดุดันสมกับผู้มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายยังคงสืบเท้าเข้าใกล้ไอ้คนทรยศที่มันพร้อมคายความลับผู้อื่นเพื่อเอาตัวรอด เขาไม่สนใจข้อมูลมันสักนิด มีวิธีมากมายที่จะปลิดชีวิตไอ้คาชาล แต่สิ่งที่เขาทำอยู่นี้ก็เพื่อให้มันเจ็บปวดทรมานที่สุดดังที่ท่านนายพลต้องการ
พี่ชาย ข้าจะบอกความลับของแกนนำให้หากท่านไว้ชีวิตข้า
คนทรยศอย่างมรึง มันไม่มีค่ามีราคาอีกแล้วล่ะโว้ย จำไว้
ปากกระบอกปืนจ่อศีรษะห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งเมตร ถ้าลั่นไกเมื่อไรย่อมไม่พลาดแน่ ความตายรออยู่เบื้องหน้าลิดรอนอากาศรอบกายไปหมด คนเจ็บหายใจหืดหอบ เหงื่อกาฬแตกพลั่กทั้งผิวกายเย็นเฉียบ
แม้ใกล้ลมหายใจสุดท้าย ยูซุตยังคงพร่ำโทษ ก่นด่าว่าเป็นเพราะไอ้คาชาล มันเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเรียกชื่อนั้นในใจอย่างสาปแช่ง ไม่มองว่าที่ตนต้องตกอยู่ในชะตากรรมแบบนี้เพราะความริษยา มุ่งร้ายต่อผู้อื่นนั่นเอง
เปรี้ยง!
มันหลับตาปี๋ ประสาททุกส่วนตึงเครียดเตรียมรับความเจ็บปวดบนร่างตน ทว่ากลับรู้สึกหนักอึ้งบริเวณต้นขาซึ่งถูกยิงเมื่อกี้ มันรีบลืมตาก็เห็นว่าใบหน้าคนโฉดถูกแทนที่ด้วยใบหน้าคมสัน งดงามซึ่งตนเคยมองด้วยความริษยา
คา...คาชาล... โอ เพื่อนรัก
ยูซุตค่อยยิ้มได้ มันลืมความโกรธ อิจฉาริษยาไปชั่วขณะ เมื่อมองเห็นทางรอดของตนเอง
แกมาได้เวลาพอดี ข้าเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพื่อปกป้องลูกน้อยของแก ว่าแล้วก็รีบมองหาเด็กชายซึ่งกระเด็นไปนอนแน่นิ่งนับแต่เขาล้มลง
คนเจ็บทำท่าจะกระเถิบไปหา หากขาอีกข้างก็ชาวาบ ลูกกระสุนร้อนๆ พุ่งเจาะอีกนัด
ไอ้คาชาล!
ไอ้สารเลวนั่นพูดถูก คำคนทรยศมันไม่มีค่าอีกต่อไป
ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่ได้ขายความลับใครทั้งนั้น แกกำลังเข้าใจผิด มันปฏิเสธอย่างร้อนตัว
ดวงตาวาวโรจน์มองอดีตผู้ร่วมอุดมการณ์อย่างหยามเหยียด เขาคงเชื่อมันหรอกหากไม่มาได้ยินมันขายเพื่อน และกำลังจะขายหัวหน้าพอดี เขาไม่สนว่ามันมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์นี้มากน้อยแค่ไหน ไม่อยากแม้แต่จะมองหน้ามัน
คาชาลทรุดลงข้างร่างแน่นิ่งของบุตรชาย ศีรษะเล็กกว่าฝ่ามือพ่อมีเลือดอาบจากการกระแทกรุนแรง เขายื่นนิ้วสั่นระริกอังใต้จมูกลูกน้อย นิ้วเย็นชืดอย่างนั้นเมื่อไร้ไออุ่นตอบกลับมา
ม่ายยย! เสียงคำรามโหยหวนดังก้องป่า
ความเก็บกดตลอดชีวิตที่ผ่านมาถึงจุดระเบิด ชีวิตน้อยๆ ซึ่งเกิดจากเลือดเนื้อของเขา เป็นทั้งหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความรัก แต่เขาก็ไม่อาจดูแล ปกป้องแกจากผองภัยได้ ผองภัยซึ่งเขาเป็นคนชักพามันมาสู่ครอบครัว
กี่ชีวิตแล้วที่ต้องแลกกับอุดมการณ์ของเขา โดยที่เขาไม่อาจปกป้องชีวิตบริสุทธิ์ของคนที่รักเหล่านั้นได้เลย ทั้งผู้เป็นยาย น้องสาว แม้กระทั่งลูกชาย
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ส.ค. 55 11:24:55
|
|
|
|