แสงแดดยามสายสาดผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาภายในห้อง นริศราลืมตาตื่นขึ้น นาฬิกาบนผนังบอกเวลาเกือบสิบนาฬิกา น่าแปลกที่วันนี้มารดาไม่ปลุกเธอ
หญิงสาวขยับกายลุกจากเตียง รู้สึกสดชื่นอย่างไม่เคยเป็นในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ความกลัดกลุ้มใจเกี่ยวกับเรื่องราวของบิดา แท้จริงแล้วคืออารมณ์หวาดหวั่นต่อความสัมพันธ์ที่สั่นคลอนลงระหว่างเธอกับมารดาต่างหาก หญิงสาวบอกกับตัวเอง
ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว ทั้งชีวิตของผู้เป็นบิดา และความลับอันกางกั้นเธอกับมารดาอยู่
เสียงขลุกขลักดังแผ่วอยู่ในครัว หญิงสาวย่างเท้าลงบันไดชะโงกศีรษะมองไป ภาพที่เห็นมิใช่ร่างท้วมใหญ่ของป้าศรีนวลแม่ครัวของเธอ หากแต่เป็นร่างเล็กบางของผู้ให้กำเนิด
แม่คะ หญิงสาวส่งเสียงเรียกด้วยความประหลาดใจ วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ
ยุพินหันมองมาตามเสียง ในมือยังถือผ้าเช็ดโต๊ะค้างอยู่
จ้ะ หล่อนยิ้มให้ลูกสาว แม่ขอลางานวัน
ผู้เยาว์แปลกใจไม่สร่าง ตรงเข้าไปสวมกอดแล้วกวาดสายตามองไปทั่วเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารหลายหลากที่เกือบปรุงเสร็จ
โอโห แม่ทำเองเหรอคะ หญิงสาวอุทานด้วยความแปลกใจ นุ่นยังไม่เคยเห็นแม่ทำกับข้าวเองเลยค่ะ
ยุพินมองวงหน้าตื่นของบุตรสาว แล้วอมยิ้มตอบเศร้า ๆ แน่นอนว่า นับจากวันที่คนเป็นสามีทอดทิ้ง หล่อนก็วางมือจากความเป็นแม่ศรีเรือน กลายเป็นมนุษย์ทำงานเต็มตัว
เมื่อก่อนตอนแม่อยู่บ้านป้าวิ แม่มีหน้าที่ทำกับข้าวจ้ะ
นริศราจับมองดวงหน้าเศร้าหมองของมารดา คงมีอีกหลายอย่างในชีวิตของผู้ให้กำเนิดที่ยังปิดบังเธอ
แม่ขออาศัยอยู่ในบ้านเค้า เป็นธรรมดาที่ต้องช่วยทำงานเป็นการแลกเปลี่ยน ผู้เป็นมารดาให้รายละเอียด
กำแพงอันขวางกั้นอดีตกาลของหล่อนทลายลงแล้ว ยังไงเสียลูกก็รู้แล้วว่าหล่อนเคยยอมกินน้ำใต้ศอกคนอื่น จะเป็นอะไรไปหากจะรู้ซึ้งถึงช่วงชีวิตในวัยเยาว์เพิ่มเติม
วันนี้แม่ทำกับข้าวมาฉลองเหรอคะ หญิงสาวกอดกระชับมารดา ซึมซับห้วงอารมณ์เศร้า ๆ
ยุพินยิ้มให้บุตรสาว
จ้ะ ฉลองที่เราแม่ลูกเข้าใจกัน
นุ่นว่า.. นุ่นจะไม่ไปงานศพพ่ออีกแล้ว เธอสบตาแม่และกล่าวประโยคต่อไปอย่างตั้งใจ วันนี้ทานข้าวเสร็จแล้ว เราไปทำบุญให้พ่อที่วัดกันนะคะ
ยุพินสะดุ้งกับคำกล่าวชวนนั้น หญิงสาวย้ำถ้อยคำต่อไปด้วยกระแสตา
แม่ขา... พ่อตายไปแล้ว ให้อภัยพ่อเถอะนะคะ
จากคุณ |
:
วังวน
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ส.ค. 55 09:45:16
|
|
|
|