จิตใจ
เชไม่รู้ว่าการแอบแช่งชักหักกระดูกคนอื่นในใจเงียบๆ จะถือว่าเป็นบาปหรือไม่
เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดใจเท่านี้มานานแล้ว
คืนนี้เป็นคืนที่เชตีกลองผิดพลาดมากที่สุดในชีวิตนักดนตรี ทำเอาโชว์เกือบล่มหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยความเจนเวทีของสมาชิกอีกสามคนที่เหลือ Keveldon Hatch จึงสามารถทำการแสดงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งโดยที่ไม่มีเสียงโห่จากคนดู
หลังลงจากเวที ป๊อบซึ่งเป็นหัวหน้าวงเดินตามเชมายืนคุยที่ลานจอดรถระหว่างรอการขนย้ายเครื่องดนตรี
แกไม่สบายหรือเปล่าไอ้เช ตั้งแต่ซ้อมเมื่อกลางวันแล้ว วันนี้แกตีหลุดบ่อยผิดปกติมากๆ มือเบสหนุ่มซึ่งละเว้นแอลกอฮอลล์หนึ่งคืนเพราะรู้ว่าอาจมีเรื่องสำคัญต้องจัดการหลังงานเลิกพูดเสียงเข้ม หรือว่ามีเรื่องอะไรกับไอ้เต้ ฉันเห็นแกสองคนหน้ามึนใส่กันตั้งแต่กลับจากพักกินข้าวตอนซ้อม ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ก็รีบเคลียร์กันตั้งแต่เนิ่นๆ นะเว้ย ปล่อยนานไปจะยิ่งเคลียร์กันยาก ประเดี๋ยวก็แตกคอกันเสียเปล่าๆ
ฉันว่าจะคุยกับแกเรื่องนี้พอดีเหมือนกัน เชพูด ฉันขอลาออกจากวงว่ะ
เฮ่ย พูดเป็นเล่น
ไม่เล่น ฉันพูดจริง แต่ฉันไม่ออกปุ๊บปั๊บหรอกนะ เชยกมือขยับแว่นตาใหม่ที่เพิ่งซื้อมาใส่เมื่อตอนเย็นให้เข้าที่บนจมูก ฉันจะรอให้พวกแกหามือกลองคนใหม่ได้ก่อน แล้วค่อยไป
แกกับไอ้เต้ทะเลาะกันเรื่องอะไรวะ ใจเย็นๆ กันก่อนสิ ป๊อบยกมือกอดอก อีท่านี้เรื่องผู้หญิงแหงๆ ฉันพูดถูกมั้ย?
ก็ไม่เชิง เชแบ่งรับแบ่งสู้ คร้านที่จะอธิบายต่อ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถาม ป๊อบ ขอถามอะไรสักคำสิ แกคิดยังไงกับไอ้พวกซาดิสต์วะ?
หมายถึงไอ้พวกใส่ชุดลายเสือดาวใช้โซ่มัดมือคู่นอนอะไรพวกนั้น?
อื้อ นั่นแหล่ะ
ถามทำไมวะ?
บอกความคิดของแกมาก่อน
ป๊อบทำท่าครุ่นคิดและตอบ ก็ไม่คิดไงนะ ใครบางคนอาจมองว่ามันวิตถาร แต่สำหรับฉัน โลกเรามีคนจิตป่วยอยู่เยอะ แถมพวกซาดิสต์ก็มักจะพบพวกซาดิสต์ด้วยกันเอง ฝ่ายหนึ่งชอบการได้ทรมานคนอื่น ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งชอบถูกคนอื่นทรมาน มันก็แค่รสนิยมทางเพศอย่างหนึ่ง ไม่มีอะไรผิดตราบใดที่ยังไม่ทำอะไรที่มันผิดกฎหมาย
เป็นความคิดที่สมเหตุสมผลดี เชผงกศีรษะหงึกหงัก ชั่งใจอยู่ว่าควรบอกป๊อบดีหรือไม่ว่าเต้มีธาตุแท้อย่างไร แต่เชก็ตัดสินใจว่าไม่บอกดีกว่า เขาไม่มีหลักฐานอะไรยืนยันถึงรสนิยมวิตถารของเต้นอกจากความคิดของตัวเองกับการสื่อสารของผีสาวที่ไม่มีใครมองเห็น
มันเลื่อนลอยมากเกินไป เขาไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ตัวเองต้องกลายเป็นตัวโง่งมเหมือนเมื่อกลางวันเกิดขึ้นอีก
แกยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าถามทำไม ป๊อบขมวดคิ้ววุ่น หรือว่า...
ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่ชวนแกคุยเรื่อยเปื่อย เชเอื้อมมือตบไหล่ป็อบ เป็นขณะเดียวกับที่เต๋าเดินหิ้วกีต้าร์นำหน้าพนักงานผับขนกลองชุดออกมาพอดี
เชเขม้นตามอง
กีต้าร์ที่เต๋าหิ้วมาเป็นกีต้าร์ของเต้
เจ้าของไปไหนอีกวะนั่น ไหงแกถึงหิ้วมันมา? ป๊อบถามพลางพยักพเยิดไปยังกีต้าร์เมื่อเต๋าเดินมาถึงที่รถ
โอบเอวสาวขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว นักร้องนำหน้าโหดตอบ เชนึกคุ้นหูประโยคต่อมาชอบกล สงสัยคงกะจะ เช็กบิล คืนนี้ล่ะมั้ง
สาวคนไหนวะ? ป๊อบถาม
ก็คนที่แวะมาทักทายพวกเราที่ห้องซ้อมเมื่อกลางวันไง เต๋าตอบ รู้สึกจะชื่ออะไรนะ ฟางใช่มั้ย ใครจำได้มั่ง?
กวาง เชพึมพำ กระเพาะบิดตัวด้วยความขมขื่น
ป๊อบหรี่ตามองมือกลองอย่างเคลือบแคลงใจ
เออ ใช่ๆ แม่กวางเหลียวหลัง ยี้ฮ่ะห์ เต๋าสะบัดศีรษะเหมือนม้าคึกก่อนหัวเราะขำตัวเองและกล่าว ไปเว้ย รีบกลับเหอะ คืนนี้ไม่ไหวแล้วว่ะ ง่วงด้วย อิจฉาด้วย กลับบ้านนอนดีกว่า
เชล้วงกุญแจรถออกจากกระเป๋า ยื่นส่งให้ป๊อบพลางพูด คืนนี้แกไม่เมา ขับรถกลับเองแล้วกัน
แล้วแก? ป๊อบถามหลังรับกุญแจรถมาถืออย่างงุนงง
เชพยักหน้าไปทางถนนหน้าผับ ฉันจะไปเรียกแท็กซี่
ป๊อบถามต่อ แกจะเรียกแท็กซี่ไปไหน?
กลับห้อง นอน เขาตอบ ก่อนจะหมุนกายเดินจากมา
++++++++
เชกลับห้องพักและพยายามข่มตานอนจริงๆ
แต่เขานอนไม่หลับ
ในเมื่อจิตใจกระสับกระส่ายและข้างกายก็ยังนั่งด้วยรัตติกาลผู้มีท่าทางร้อนรนผิดปกติ เขาจะนอนหลับได้อย่างไร?
เชนั่งสื่อสารกับเธอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่มันเป็นครั้งแรกที่เขาตีความไม่ออกว่าเธอตั้งใจจะบอกอะไรเขากันแน่ เชคิดว่าบางทีเธออาจจะต้องการบอกว่า ขณะนี้กวางกำลังตกเป็นเหยื่อกามวิปริตของเต้เหมือนที่เธอเคยโดนซึ่งเป็นเรื่องเดียวกับที่เขากำลังกังวล?
แต่ก็นั่นแหล่ะ เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเต้พากวางไปลงแท็กซี่ที่ไหน ในกรุงเทพมีโรงแรมเหมือนรังมดและไอ้การที่เต้มีพฤติกรรมซาดิสต์ก็หมายความว่าเต้ต้องเตรียมอุปกรณ์ทรมานไว้ก่อน ซึ่งสถานที่นั้นต้องห่างไกลผู้คนเพราะเหยื่อจะต้องส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
แล้วเขาจะไปหาเจอได้ยังไง?
ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการจะบอกอะไรนะ แต่ถ้าคืนนี้ไอ้เต้มันกำลังจะปิดบัญชีเหยื่อรายใหม่ล่ะก็ ผมช่วยไม่ได้ ผมเตือนเธอแล้ว แต่เธอไม่เชื่อผม เชพูดอย่างอ่อนล้า หันมองผีสาวผู้นั่งอยู่บนเตียงข้างกาย ความสนิทสนมที่เพิ่มพูนไม่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อีกแล้วที่ต้องนั่งร่วมเตียงกับเธอ เพียงแต่ขณะนี้กำลังปวดใจเพราะเธอมองเขาด้วยสายตาแห่งความผิดหวังที่เขายอมแพ้ง่ายเกินไป เขากล่าว คุณเองก็เถอะ ถ้าอยากให้ไอ้เต้โดนจับ ก็ช่วยหาหลักฐานอะไรๆ ที่มันแน่นหนาหน่อย เช่น
คำพูดของเชชะงักหายกลางคันเมื่อผีสาวทำท่าสูดลมหายใจลึกคล้ายตัดสินใจเด็ดขาดที่จะทำเรื่องราวบางอย่าง รัตติกาลตะปบมือทั้งสองเข้ากับศีรษะของเขา เธอโน้มกายเข้ามา หน้าผากกับหน้าผากแนบชิดกันเป็นเนื้อเดียว
ทั่วกายเชหนาวเยือก สองตาพร่าพราย ความมืดเลือนหาย มีภาพ
เหตุการณ์หนึ่งฉายวาบเข้ามาในจิตใจของเขา
เชรู้สึกเหมือนตนเองกำลังนั่งรับชมภาพยนตร์สามมิติเรื่องหนึ่ง
มันเริ่มขึ้น เมื่อประตูห้องพักแห่งนี้ถูกเปิดออก
เต้และรัตติกาลเดินเข้ามา สภาพอ่อนปวกเปียกบอกให้รู้ว่าเธอกำลังเมามายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันอาจเป็นการดื่มเหล้าครั้งแรกในชีวิตของเธอ เชไม่รู้ แต่ที่เขารู้ก็คือเสื้อผ้าที่เธอใส่ค่อนข้างโฉบเฉี่ยว เสื้อสายเดี่ยวคว้านลึกโชว์ไหล่กับสายบราและเนินอก กระโปรงสั้นแค่คืบสีดำกับรองเท้าบู๊ทถึงเข่าสีเดียวกัน
รัตติกาลคนนั้นแตกต่างจากรัตติกาลที่อยู่กับเขาทุกคืนในทุกด้าน เชแทบอยากจะควานมือหารีโมทมากดเร่งให้ภาพเดินไปข้างหน้าข้ามช็อตที่รัตติกาลเป็นฝ่ายจู่โจมเต้ก่อนด้วยอ้อมกอดและบทจูบเร่าร้อนหลังปิดประตู ทั้งสองนัวเนียกันมาจนถึงเตียง เสื้อผ้าถูกปลดออกรวดเร็วเกลื่อนพื้น ร่างบางผลักเต้ลงไปนอนบนเตียง ก่อนที่เธอจะตามขึ้นมาคร่อมทับ
เชไม่เข้าใจว่ารัตติกาลต้องการจะให้เขาดูเธอมีเซ็กส์กับเต้งั้นหรือ?
ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่แน่
เชฝืนใจทนดูภาพการพันตูของทั้งคู่อีกครู่หนึ่ง เต้ก็เป็นฝ่ายพลิกรัตติกาลไปอยู่ด้านล่าง เสียงครางของพวกเขากระเส่ารัญจวนใจ
มันเกือบจะไม่มีอะไรผิดปกตินอกจากเสียงกริ๊กของกุญแจมือที่ดังขึ้นในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
แม้รัตติกาลจะไม่สามารถได้ยินเสียงมัน แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงข้อมือซ้ายที่ถูกจับล็อคติดกับหัวเตียง เธอมีสีหน้าประหลาดใจ เต้แสยะยิ้มก่อนสับกุญแจมือที่ซ่อนไว้ใต้หมอนเข้ากับข้อมืออีกข้างของเหยื่อสาว
ในชีวิตนี้ รัตติกาลใช้สองมือสื่อสารแทนริมฝีปากมาตลอด เมื่อมือของเธอถูกพันธนาการ มันก็เหมือนใครบางคนปิดปากเธอ
เต้โน้มกายลง เลียใบหน้าหญิงสาวเหมือนกิริยาของสัตว์ ใบหน้ารัตติกาลเปียกโชกด้วยน้ำลาย ความตื่นตระหนกเริ่มเรียกสติกลับคืนมา เธอพยายามดิ้นและกระชากข้อมือให้หลุดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนเต้ แต่เต้ตอบกลับด้วยการพ่มลมทางจมูก ยิ้มกว้างพึงพอใจ และระรัวหมัดใส่ใบหน้าเธออย่างบ้าคลั่ง
ต่อยจนหนำใจ เต้พลิกกายลงจากร่างหญิงสาว นั่งคุกเข่าข้างเตียง สอดมือเข้าไปใต้เตียงและลากไม้พาย ขาตั้งกล้อง และกระเป๋าเก็บอุปกรณ์ออกมา
เต้ใช้ดวงตาวิกลจริตมองร่างเปลือยที่อยู่บนเตียงเป็นพักๆ ขณะกางขาตั้งกล้องที่ด้านข้างและเปิดกล้องวิดีโอให้ทำงาน ก่อนจะก้มลงเปิดกระเป๋าเก็บอุปกรณ์ ดึงเชือกออกมาสองขด ถือเชือกไปยืนปลายเตียง และจัดการมัดข้อเท้าหญิงสาวไว้กับขาเตียงแต่ละข้าง
ขณะนี้ร่างของหญิงสาวมีสภาพเหมือนดาวห้าแฉกไม่มีผิด
เมื่อรัตติกาลล่วงรู้ว่ามีอะไรรอเธออยู่ในอนาคตอันใกล้ เธอจึงพยายามส่งเสียงร้องอ้อแอ้ออกมาด้วยความหวาดกลัว เต้มีเครื่องมือที่จะใช้กำจัดเสียง เชจำได้ว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่าบอล แก็ก วัตถุทรงกลมลักษณะคล้ายลูกปิงปองใบโตที่มีสายหนังสำหรับรัดรอบปากไม่ให้ลูกบอลหลุด มันมีหน้าที่อุดปากเหยื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องหรือถ้าร้องก็เป็นเสียงที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือยอดนิยมสำหรับชาวซาดิสต์ที่ต้องการทำให้คู่นอนรู้สึกสูญเสียศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์
เสียงของรัตติกาลเงียบหายเมื่อถูกคาดบอล แก็ก เต้ผละออกจากเตียง เดินเปลือยกายตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้เสื้อผ้าค้นอะไรกุกกักครู่หนึ่งก็หยิบห่อโคเคนออกมา เต้คลานสี่ขา เสพมันบนพื้น ห้านาทีให้หลังเต้ก็ไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป
สองตาแข็งกร้าว ลมหายใจฟืดฟาด พูดไม่เป็นภาษา
เต้คลานไปที่กระเป๋าเก็บอุปกรณ์ หยิบหน้ากากที่มีหนามแหลมรอบศีรษะขึ้นสวมอำพรางใบหน้า หยิบแส้และเทียนไขติดมือลุกขึ้นยืน ก่อนจิ้มนิ้วกดปุ่มบันทึกภาพกล้องวิดีโอและกระโจนขึ้นไปยืนจังกาบนเตียง คล้ายผู้ฝึกสอนละครสัตว์กำลังจะนำสัตว์ขึ้นแสดงบนเวที
แล้วความทรมานของรัตติกาล ก็อุบัติขึ้นนับจากวินาทีนั้น...
++++++++
เพื่อนคุณชอบคิดว่าตัวเองเป็นสัตว์ป่า มันจะพาเหยื่อกลับไปกินที่รังเสมอ เสียงหวานใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นในหูเชเมื่อภาพแห่งความวิตถารทั้งหลายทั้งปวงสิ้นสุดลง เหตุการณ์ที่คุณเพิ่งเห็น คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันและกำลังจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งในตอนนี้!
เชยังคงขยับตัวไม่ได้ แต่รู้ทันทีว่าขณะนี้จิตใจของเขากับจิตใจของรัตติกาลกำลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เสียงที่เขาได้ยิน คือเสียงในจิตใจของเธอ
เชลองพูดในใจตัวเอง นี่เสียงคุณใช่ไหม รัตติกาล ผมรอคอยที่จะคุยกับคุณแบบนี้มานานแล้ว
มีเสียงตอบกลับ ในขณะที่ริมฝีปากของผีสาวที่นั่งประกบหน้าผากกับเขาบิดตัวเป็นรอยยิ้ม ฉันก็รอ แต่มันจะเป็นอันตรายกับเราทั้งสองฝ่าย ถ้าควบคุมไม่อยู่ สติของคุณก็จะแตกไปพร้อมกับจิตของฉัน คุณจะเป็นบ้า ส่วนฉันจะเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อนตลอดไป แต่มันไม่มีทางเลือก ตอนนี้ไม่มีเวลาอธิบายอะไรเพิ่มเติมแล้ว รีบไปช่วยผู้หญิงคนนั้นซะ เธอกำลังรอคอยความช่วยเหลือ
ผมอยากให้คุณไปด้วยกัน เชรู้สึกว่าเขาไม่อยากให้กาลเวลาเดินไปข้างหน้า เขาอยากอยู่อย่างนี้ นั่งคุยกับเธอผ่านจิตอย่างนี้ เขามีคำถามมากมายจะถามเธอ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อจริงของเธอคืออะไร เธอเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหน?
เห็นได้ชัดว่าในภาวะที่จิตใจผสานรวมกัน รัตติกาลอ่านทะลุถึงความคิดของเขาด้วย
เชได้ยินเสียงเธอหัวเราะขมขื่น ไม่ว่าฉันจะเป็นใคร ขอให้ฉันเป็นรัตติกาลที่คุณรู้จักก็พอ แต่ฉันไม่อาจไปกับคุณได้อีกแล้ว คุณต้องไปช่วยผู้หญิงคนนั้น เธอกำลังรอคอยคุณอยู่นะเช
ไอ้เต้ยังไม่ได้ทำอะไรเธอใช่มั้ย? เชถาม ใบหน้าของแคชเชียร์สาวผุดวาบเข้ามา แก้มที่เคยถูกตบร้อนวูบในฉับพลัน
บังเกิดเสียงซ่าๆ คล้ายคลื่นรบกวน
ถ้าหมายถึงแบบร้ายแรงก็ยัง แต่ก็กำลังจะทำในไม่ช้า ตอนนี้มันกำลังอยู่ในช่วงเวลาเล่นสนุก
น้ำเสียงของหญิงสาวที่ก้องในหูเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ
เชรีบกล่าว ตอนนี้เธออยู่ในห้องพักที่ผมแลกกับไอ้เต้?
เสียงคลื่นรบกวนดังรุนแรงขึ้น
ใช่ เสียงของหญิงสาวแผ่วเบาลงทุกที
ผมจะไป ผมจะไปเดี๋ยวนี้! เชร่ำร้อง ร่างบางในชุดขาวตรงหน้าเขาพร่าเลือนเหมือนเครื่องฉายภาพกำลังมีปัญหา แต่หน้าผากของเชยังรู้สึกถึงความเย็นเยือก เขามองเข้าไปในดวงตาของผีสาวและคิดว่าเห็นรอยยิ้มแห่งความปลาบปลื้มอยู่ในนั้น
ขอบคุณมาก ได้โปรดขัดขวางผู้ชายคนนั้นและช่วยเธอให้ได้นะ เสียงผะแผ่วเหมือนลอยมาจากดินแดนแสนไกล ก่อนที่ความเย็นเยือกบนหน้าผาก มือเย็นเยียบที่สองขมับและดวงตาแห่งรอยยิ้มจะหายวับไปต่อหน้าต่อตา
เชนั่งคนเดียวในความมืด
ร่างของรัตติกาลหายไปแล้ว
นั่นคือครั้งสุดท้ายในชีวิตที่เขาได้พบเธอ
+++++++
แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 55 19:10:47
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 20:12:33
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 20:07:18
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 19:44:16
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 55 19:38:15