Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
The Mystyrious Love Story of Kristen Hamilton - เรื่องรักมหัศจรรย์ของคริสเทน แฮมิลตัน - Episode 6 ติดต่อทีมงาน

Episode 1 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12326442/W12326442.html
Episode 2 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12340220/W12340220.html
Episode 3 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12371882/W12371882.html
Episode 4 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12402731/W12402731.html
Episode 5 : http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12453180/W12453180.html

-----------------------------------------------------------------------------

Episode 6


ทันทีที่ออกมาจากบ้านของโนอาห์คริสเทนก็รีบเดินทางไปยังร้านกาแฟเมอร์ล๊อตต์อันเป็นสถานที่นัดพบระหว่างแอชลีย์กับเอ็ดเวิร์ด แต่ทว่าเมื่อไปถึงก็พบว่าภายในร้านไม่มีลูกค้าหลงเหลืออยู่แล้ว หญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าออกมากดโทรเข้าไปที่บ้านแต่รอจนกระทั่งสัญญาณรอสายตัดเข้าเครื่องฝากข้อความก็ยังไม่มีใครมารับ คริสเทนลองกดโทรซ้ำอีกครั้งหนึ่งเผื่อว่าเอ็ดเวิร์ดอาจจะอยู่ในห้องน้ำหรือติดขัดอะไรอยู่จนมารับสายไม่ทัน หากแต่ผลลัพท์ที่ได้ก็ออกมาเหมือนเดิม ซึ่งนั่นบ่งบอกความหมายได้เพียงอย่างเดียวว่าเจ้านายหนุ่มของเธอยังกลับไปไม่ถึงบ้าน

ที่นี่ไม่มี... บ้านก็ยังไม่กลับ... ไปไหนกันนะ ตัวเองพูดเองแท้ๆ ว่าไม่อยากมา ไหงเถลไถลไปซะแบบนี้ล่ะ... คริสเทนเริ่มคิดมาก

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วกดโทรหาแอชลีย์ ก่อนจะเจอเข้ากับทางตันเมื่อพบว่าอีกฝ่ายยังคงไม่เปิดเครื่องนับตั้งแต่ปิดหนีเธอไปตอนหัวค่ำ เมื่อติดต่อทั้งสองคนไม่ได้คริสเทนจึงตัดสินใจแบกหน้าย้อนกลับไปหาโนอาห์อีกครั้งเนื่องจากไม่อยากจะกลับไปนอนจมอยู่กับความคิดฟุ้งซ่านเพียงลำพังคนเดียวที่บ้าน แต่ขณะที่กำลังจะข้ามถนนไปถึงที่หมายนั้นเอง พลันแท๊กซี่คันหนึ่งก็วิ่งมาจอดตัดหน้าเธอเสียก่อน คริสเทนเห็นดังนั้นจึงรีบหลบเข้าข้างทางเพื่อแอบมองว่าใครคือแขกผู้มาเยือนยามวิกาลของโนอาห์

ประตูรถอ้าเปิดออกก่อนที่หญิงสาวผมดำในชุดเดรสรัดรูปสีครีมจะเดินลงมาแล้วพาร่างเพรียวระหงตรงดิ่งไปกดกริ่งที่หน้าบ้านของโนอาห์ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านก็มาเปิดประตูต้อนรับ ทันทีที่พบหน้าเขาและเธอก็โผเข้ากอดกันแนบแน่น อันเป็นอากัปกิริยาที่บ่งบอกได้ชัดเจนถึงสายสัมพันธ์อันสนิทสนมลึกซึ้งระหว่างคนทั้งคู่ เท่านั้นยังไม่พอสาวปริศนาสุดเซ็กซี่คนนั้นยังบรรจงใช้ปากอวบอิ่มที่ทาลิปสติกสีแดงประทับจูบลงที่แก้มของโนอาห์ เด็กหนุ่มออกอาการเขินอายจนหน้าแดงขณะที่ใช้มือเช็ดรอยลิปสติกที่ติดแก้มออกก่อนที่ทั้งสองจะควงแขนพากันเข้าบ้านไปอย่างชื่นมื่น

เมื่อประตูบ้านของโนอาห์ปิดสนิทคริสเทนก็เดินออกจากที่ซ่อนด้วยแข้งขาที่อ่อนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ หล่อนรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างจุกอยู่ในลำคอจนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่อาจหาคำจำกัดความมาระบุถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจขณะนี้ได้  มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของความโกรธ ผิดหวัง และเสียเซลฟ์ไปพร้อมๆ กัน หญิงสาวเข้าใจดีว่าตนเองเป็นผิดที่ฝ่ายลังเล สองจิตสองใจ ผลักไสคู่เดทแถมยังขอตัวกลับกลางคัน แต่ตามมารยาทอย่างน้อยอีกฝ่ายก็น่าจะรอให้โอกาสเธอซักคืนหนึ่งก่อนแล้วค่อยหาผู้หญิงคนใหม่มาซบอก ไม่ใช่รับช่วงต่อกันเป็นส่งไม้วิ่งผลัดอย่างนี้  

ในขณะที่คริสเทนกำลังตีอกชกตัวฟูมฟายกับโศกนาฎกรรมทางอารมณ์ของตนอยู่นั้น อีกด้านหนึ่งเอ็ดเวิร์ดผู้เคราะห์ร้ายก็มองเห็นภาพช้าของอุบัติเหตุที่กำลังเผชิญ รถบรรทุกขนาดเล็กคันหนึ่งกำลังพุ่งตรงมาทางเขาด้วยความเร็วสูง สีหน้าของคนขับเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกขณะที่มือรัวบีบแตรไล่ชายหนุ่มที่ยืนเปลือยอกขวางถนนอยู่ วินาทีนั้นเองเอ็ดเวิร์ดก็ตระหนักขึ้นมาในใจว่าวันคืนที่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยคงดำเนินมาถึงจุดจบเสียแล้ว เพราะถึงแม้ว่าคำสาปจะช่วยให้ไม่มีวันแก่ไม่มีวันตาย แต่มันก็ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงอาการบาดเจ็บหรือพิการ นับจากวันนี้ไปเขาคงต้องภาวนาให้ตัวเองตายวันตายพรุ่งขณะนั่งเป็นอัมพาตน้ำลายไหลอยู่บนรถเข็น ขับถ่ายผ่านสายยาง กินอาหารเหลว และมีเครื่องช่วยหายใจเสียบคาจมูก

เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ร่างของชายหนุ่มจะปะทะเข้ากับกันชนของรถบรรทุกนั้นเอง ไลลาก็ปรากฎตัวขึ้นและคว้าตัวเขาเอาไว้ได้ทัน ร่างของทั้งคู่สลายกลายเป็นหมอกควันและจางหายไปจากตรงนั้น ก่อนจะมาโผล่อีกทีที่สวนหย่อมบนดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก

“ ให้ตายสิ! คุณนี่เป็นแมวหรือไงนะ... พอโดนบีบแตรใส่เข้าหน่อยก็นิ่งขาแข็งขยับไม่ได้ซะอย่างงั้น ” แม่มดสาวหัวใจเต้นโครมคราม แม้จะเคยใช้ชีวิตผาดโผนมาไม่น้อยแต่หล่อนก็อดระทึกขวัญกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้

“ ชะ... ชั้น... ” เอ็ดเวิร์ดเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้น ร่างกายยังคงสั่นเทาจากอาการช๊อค เขารู้สึกเหมือนกำลังจะร้องไห้ “ ชั้น... นึกว่าจะไม่รอดแล้ว... ”

“ โอ๋ๆๆ ใจเย็นค่ะ... คุณไม่เป็นอะไรแล้ว... มานั่งตรงนี้มา... ”

ไลลาประคองเอ็ดเวิร์ดให้ลุกขึ้นก่อนจะพาไปนั่งลงบนที่ม้านั่งเหล็กใต้ซุ้มกุหลาบ

“ ดูท่าทางวันนี้ของคุณจะหนักหนาน่าดูนะ... ” ไลลาถอดเสื้อคลุมออกมาห่มให้อีกฝ่ายก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วโอบบ่าปลอบใจ

“ หนักหนาจนเธอคาดไม่ถึงเลยล่ะ... ” เอ็ดเวิร์ดยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วลูบลงปาดน้ำตาที่คลอเบ้าออก

“ ชั้นเองก็หนักไม่แพ้คุณหรอก... ” แผ่นหลังของหล่อนยังเจ็บระบมจากการโดนเหวี่ยงไปฟาดกำแพงไม่หาย

“ ขอบคุณ... ขอบคุณจริงๆ ที่เธอมาทันเวลา ” ชายหนุ่มพูดพลางสูดน้ำมูก

“ ต้องยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังว่าคุณจะพูดคำนี้ซักนิดเลยนะ... ” ไลลายิ้มให้แล้วยื่นมือไปปาดเช็ดหยดน้ำที่ปริ่มอยู่บนขอบตาของเอ็ดเวิร์ด “ แต่ก็... ยินดีค่ะ ”

เอ็ดเวิร์ดนั่งพักสงบสติอารมณ์อยู่ครู่ใหญ่ขวัญที่กระเจิดกระเจิงออกไปจึงเริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนจะหันไปมองยังไลลาผู้ซึ่งกำลังยืนทอดสายตาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามราตรีของเมืองใหญ่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก

“ มองอะไรอยู่? ” เอ็ดเวิร์ดถามพร้อมกับเดินไปยืนข้างๆ

“ การเปลี่ยนแปลง... ” ไลลาตอบทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากภาพเบื้องหน้า “ ดูสิคะเอ็ด... โลกที่เรารู้จักหายไปหมดแล้ว... ”

“ ใช่... ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ” ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจหายเมื่อหวนคำนึงวันเวลาที่ล่วงเลยผ่านไปแล้ว " คงจะมีแค่เราสองคนที่ไม่เปลี่ยนไปเลย... "

" ไม่หรอก... คุณเองก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน..." แม่มดสาวหันมาสบตาชายหนุ่มผู้ตกอยู่ภายใต้คำสาปของเธอ " จะว่าไปชั้นเองก็เก่งไม่ใช่เล่น ที่ดัดนิสัยแสบตัวพ่ออย่างคุณจนดีขึ้นมาได้ขนาดนี้ "

" งั้นก็คงเหลือแต่ยัยแม่มดอย่างเธอนั่นล่ะนะ ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลย " เอ็ดเวิร์ดพูดพลางยิ้มน้อยๆ เมื่อลึกๆ แล้วในใจก็รู้สึกว่าตัวตนเก่าๆ ที่เขาเคยเป็นในวันวานได้จางหายไปจนหมดสิ้นแล้ว

“ ถ้ามันดีอยู่แล้วจะไปเปลี่ยนทำไมกันล่ะ... อ้อแล้วก่อนจะลืม ” หญิงสาวพูดพลางชี้ไปที่กระเป๋าเสื้อคลุมของตนที่อีกฝ่ายสวมอยู่ " ชั้นมีของมาฝากคุณนะ ลองหยิบออกมาดูสิ... "

เอ็ดเวิร์ดสอดมือล้วงเข้าไปตามที่ไลลาบอกแล้วหยิบเอาขวดแก้วซึ่งบรรจุเลือดของโนอาห์ออกมา

“ สีสวยจัง... มันคืออะไรน่ะ? ยาผีบอกสูตรใหม่ของเธอเหรอ? ” เอ็ดเวิร์ดชูมันขึ้นส่องดูกับแสงไฟบนดาดฟ้า

“ เลือดของโนอาห์ ” คำตอบของไลลาทำเอาเอ็ดเวิร์ดแทบจะเขวี้ยงขวดทิ้ง

“ โรคจิตรึไงเที่ยวไปเจาะเลือดคนมาฝากชาวบ้านชาวช่อง! ” ชายหนุ่มโวยก่อนจะนึกเอะใจบางอย่างขึ้นมา “ เดี๋ยวนะ... แล้วทำไมเลือดของหมอนั่นถึงสียังกับเหล้าค๊อกเทลแบบนี้? ”

“ นั่นแหละประเด็น... เด็กนั่นเป็นลูกชายอะโฟรไดรท์ ” แม่มดสาวตอบ

“ อะโฟรไดรท์? ” เอ็ดเวิร์ดทวนชื่อนั้น “ เทพีในตำนานเทพปกรณัมนั่นน่ะเหรอ? ”

“ อือฮึ ” ไลลาพยักหน้า

“ อย่ามาเพ้อเจ้อ นี่เธอเห็นชั้นเพิ่งจะห้าขวบหรือไง... ” เอ็ดเวิร์ดส่งขวดคืนให้ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายเพียงแค่แกล้งอำตนเล่นเหมือนเช่นที่ทุกครั้ง

“ เพ้อเจ้อรึเปล่าไม่รู้... แต่เด็กนั่นล้างคาถาคุ้มภัยที่ชั้นร่ายใส่ดาบของคุณเอาไว้ได้ ” ไลลาบอกข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เอ็ดเวิร์ดรู้ว่านี่ไม่ใช่การพูดเล่น

“ ว่าไงนะ? ” น้ำเสียงเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนทันที “ แล้วทำไมหมอนั่นถึงเข้าไปยุ่งกับดาบชั้นได้? ”

“ แหม... ไม่เห็นต้องถาม แม่หนูคริสเทนก็เชิญเค้าเข้าบ้านไปสิคะเอ็ด... ”

“ นี่หมายความว่าที่แม่นั่นจัดแจงนัดแนะให้ชั้นออกมาข้างนอกก็เพื่อจะพาไอ้เวรนั่นเข้าบ้านงั้นสิ... ” ชายหนุ่มประติดประต่อเรื่องราวได้ในที่สุด

“ ตายจริง... ชั้นนึกว่าคุณรู้อยู่แล้วซะอีก ” ไลลาเอามือทาบอกทำท่าตกใจ

“ ชั้นต้องเจอเรื่องเฮงซวยสารพัด ทั้งผู้หญิงบ้ากาม โดนเกย์ลวนลาม แถมเกือบโดนรถบรรทุกชน เพื่อให้ยัยนั่นได้อยู่สองต่อสองกับคนที่ชั้นเกลียดขี้หน้าเนี่ยนะ! ” เอ็ดเวิร์ดทั้งโกรธทั้งเสียใจจนบอกไม่ถูก

“ เอ็ดคะ... อย่าเพิ่งโกรธค่ะ ” ไลลาบอกอีกฝ่ายให้สงบใจเอาไว้ก่อน “ ว่าแต่คุณโดนเกย์ลวนลามด้วยเหรอ? ไหนดูซิ... บุบสลายตรงไหนมั่งเนี่ย... ”

“ ไม่ตลกนะ! ไปไกลๆ เลย ” เอ็ดเวิร์ดว๊ากใส่

“ โอเคๆ ไม่ล้อก็ได้... ” ไลลากลั้นหัวเราะก่อนจะกลับเข้าเรื่อง “ ฟังชั้นนะ ถ้าเด็กนั่นเป็นลูกชายอะโฟรไดรท์ สิ่งที่แม่หนูคริสเทนทำลงไปก็พอจะมีคำอธิบายได้ ”

“ แค่นี้ทุกอย่างก็ชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว ”

“ อะโฟรไดรท์เป็นเทพแห่งความงาม ตามตำนานคุณก็คงพอรู้อยู่ว่าแม่นั่นร่านไปทั่วทั้งสามภพแถมยังมีตัวช่วยเป็นพลังผูกใจที่ทำให้คนนี่นางหมายปองลุ่มหลงในตัวนางได้อีก ”

“ แล้วไง? ” ชายหนุ่มยังไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามอธิบาย

“ แล้วถ้าอะโฟรไดรท์เกิดมีลูกขึ้นมา ก็เป็นเรื่องปกติที่พวกครึ่งเทพจะได้รับพลังบางอย่างตกทอดมาเป็นมรดกทางสายเลือด ”

“ เธอจะบอกว่าไอ้หนุ่มนั่นใช้พลังผูกใจบ้าบออะไรนั่นกับคริสเทนงั้นเหรอ? ”

“ หน้าตาอย่างนั้นต่อให้ไม่ต้องใช้ชั้นว่าก็จีบใครไม่ลำบากหรอก ” ไลลาตอบ " แต่ถึงจะใช้ เค้าก็คงจะใช้ไปโดยไม่รู้ตัว... "

“ ของแบบนั้นใครมันจะไม่รู้ตัวล่ะ... ” เอ็ดเวิร์ดทำใจเชื่อไม่ลงว่าโนอาห์จะไม่รู้ถึงความสามารถพิเศษของตัวเอง

“ คนเราไม่รู้ตัวว่านอนกรนหรอกค่ะถ้าไม่มีใครบอก ฉันใดก็ฉันนั้น เด็กนั่นไม่รู้ว่าตัวเองเป็นลูกใคร มันก็ไม่แปลกที่เค้าจะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้มั่ง ” ไลลายื่นขวดเลือดส่งคืนให้ “ และเพราะอย่างนั้นเลือดขวดนี้จึงอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบในศึกชิงนางครั้งนี้ได้ ”

“ แล้วจะให้ใช้ยังไงไม่ทราบ? ” ชายหนุ่มถามขณะยื่นมือไปรับขวดกลับมา

“ กินเข้าไป... ” แม่มดสาวตอบหน้าตาเฉย

“ นี่เธอจะบ้าหรือไง รู้มั้ยว่าในเลือดนี่สามารถมีเชื้อโรคติดต่ออะไรแฝงอยู่ได้บ้าง แต่ละอย่างถึงตายทั้งนั้นเลยนะ " เอ็ดเวิร์ดโวยวายเมื่อได้ยินวิธีการใช้งานอันสุดแสนจะไม่น่าพิศมัยของไพ่ตายใบนี้

“ ไม่ได้ให้คุณกิน... ให้แม่หนูคริสเทนกินต่างหากล่ะ ” ไลลาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่ออีกฝ่ายฟังไม่ทันได้ศัพท์ก็จับไปกระเดียดเรียบร้อยแล้ว “ แล้วถามจริงเถอะ... อยู่มาถึงป่านนี้แล้วยังจะกลัวโรคภัยอะไรอีก ”

“ นั่นยิ่งไม่ได้ ยัยนั่นไม่ใช่พวกตายไม่เป็นเหมือนอย่างเราทั้งคู่... อันตรายเกินไป ”

“ เลือดนั่นผ่านกรรมวิธีจากชั้นจนสะอาดยิ่งกว่าน้ำดื่มในขวดพาสเจอร์ไรซ์อีกค่ะ ไม่ต้องห่วง ”

“ ก็เพราะมันมาจากเธอนี่แหละถึงน่าเป็นห่วง ” เอ็ดเวิร์ดมองเลือดสีฟ้าในขวดอย่างแหยงๆ “ แล้วทำไมต้องให้คริสเทนกินมันเข้าไปด้วย? ”

“ หลักการเดียวกับเอาพิษมาต้านพิษ ถ้าคริสเทนได้รับเลือดของโนอาห์ไปอยู่ในร่างกาย อิทธิพลของเขาก็จะไม่มีผลกับเธออีกต่อไป ” หญิงสาวอธิบาย

“ อย่างนั้นเองรึ... ” เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าเข้าใจ “ แล้วจะทำยังไงให้ยัยนั่นยอมกินเข้าไปล่ะ? ”

“ อันนั้นมันธุระของคุณแล้วล่ะ ชั้นช่วยได้เท่านี้ ” ไลลาปล่อยให้เอ็ดเวิร์ดจัดการส่วนที่เหลือเอาเอง " แต่จะทำอะไรก็วางแผนดีๆ ล่ะ เวทย์มนต์ของชั้นมีข้อจำกัดในการใช้กับพวกลูกครึ่งเทพ  เพราะฉะนั้นถ้าหมดจากขวดที่ให้ไปชั้นก็จนปัญญาจะไปหามาให้คุณเพิ่มแล้วนะ "

“ อืม...ก็ได้ เดี๋ยวชั้นคิดต่อเอง ” เอ็ดเวิร์ดรีบเก็บขวดเลือดเข้ากระเป๋า " ขอบใจเธอมากนะ... "

“ ชั้นว่าคุณให้ชั้นได้มากกว่าแค่คำว่าขอบใจนะ... ”

สิ้นประโยคนั้นไลลาใช้สองมือของเธอประคองศรีษะเอ็ดเวิร์ดให้โน้มต่ำลงมาก่อนจะประกบริมฝีปากจูบอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มยกแขนขึ้นโอบกระหวัดกอดรัดรอบตัวหญิงสาวเอาไว้ในขณะที่หล่อนเองก็ทำแบบเดียวกัน ทันใดนั้นเองก็ปรากฎแสงสีทองเรืองออกมาจากร่างของเอ็ดเวิร์ดและค่อยๆ ไหลถ่ายเทไปยังไลลา จนเมื่อกิจกรรมเหนือธรรมชาตินั้นกินเวลาผ่านไปครู่หนึ่งเธอจึงจับเข้าที่แขนของชายหนุ่มแล้วบีบเบาๆ เป็นสัญญาณให้เขาหยุด

" พอแล้วเหรอ? " เอ็ดเวิร์ดถามหลังอีกฝ่ายผละออกไป

“ สมยอมง่ายๆ แบบนี้มันผิดวิสัยคุณนะ... ” แม่มดสาวประหลาดใจที่เอ็ดเวิร์ดยอมโอนอ่อนผ่อนตามแต่โดยดี ไม่เล่นตัวหรือพยายามหลบเลี่ยงเหมือนทุกครั้ง

“ ก็... แทนคำขอบคุณ วันนี้เธอช่วยชั้นไว้หลายเรื่อง... ” เอ็ดเวิร์ดหายใจหอบ รู้สึกอ่อนเพลียขึ้นมาจนหน้ามืดหลังถูกสูบพลังชีวิตไปกว่าครึ่ง

“ ฟังแล้วซึ้งจัง... ” ไลลาทำท่าปลาบปลื้ม “ แต่รู้เอาไว้นะ... ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ร้อยปี คุณก็ยังรสชาติดีไม่เปลี่ยนเลย... ”

“ อย่าพูดอะไรน่าขนลุกแบบนั้นได้มั้ย มันทำให้ชั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นอาหารของเธอ... ” ชายหนุ่มเดินเซไปชนรั้วดาดฟ้า

“ กินยานี่แล้วรีบกลับบ้านไปนอนซะ มันจะช่วยให้คุณฟื้นตัวเร็วขึ้น ” แม่มดสาวยื่นยาเม็ดสีแดงให้

“ อืม... ” เอ็ดเวิร์ดพยักหน้าก่อนจะรับยามาใส่ปาก

รสสัมผัสยามเมื่อเม็ดยาแตะลงบนลิ้นนั้นช่างเฝื่อนและขมจัดจนเอ็ดเวิร์ดเผลอหลับตาปี๋ ชายหนุ่มกลั้นใจกลืนมันลงคอไปก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบว่าไลลาได้อันตรธานหายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงเสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวหนึ่งซึ่งพับวางเอาไว้อยู่บนม้านั่ง เอ็ดเวิร์ดรีบถอดเสื้อคลุมของไลลาออกแล้วหยิบเสื้อเชิ๊ตตัวนั้นมาใส่ก่อนจะสวมเสื้อคลุมทับกลับไปเหมือนเดิมจากนั้นจึงรีบเดินลงจากดาดฟ้าไป

แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 55 07:21:53

จากคุณ : Evageline A.K. Mcdowell
เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 55 06:31:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com