Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
++++ ด้วยความเกลียดชังอย่างสูง ++++ (ตอนที่ 2) ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 2


         ผมเดินขึ้นบันไดห้องเช่ามาไม่กี่ชั้นก็ถึงห้อง  2012 คือหมายเลขห้องของผม และบังเอิญไปคล้องกับชื่อหนังที่ผมชอบ

         ห้องเช่าผมมีขนาดกะทัดรัด จะอธิบายให้เห็นภาพชัดกว่านี้ ก็ต้องบอกว่าเดินไปตรงไหนไม่ชนโต๊ะ ก็ชนเตียง แต่จะเป็นไรไปสำหรับหนุ่มโสดที่มีเงินฝากในธนาคารเกือบติดลบ  ผมเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ราวสิบสี่ปี แต่เปลี่ยนมาทำงานเป็นไปรษณีย์แมนร่วม 9 ปีเห็นจะได้ สภาพห้องพักของผมก็เลยเก่าตามปีที่ผมจากบ้านนอกมา

         หลังจัดการมื้อเย็นที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเสียเรียบแปล้ ผมเดินไปล้างชาม อาบน้ำ ประแป้ง แล้วขึ้นไปนอนกลิ้งดูทีวีบนเตียงสักพัก กดช่องทีวีวนแล้ววนอีกหลายรอบ ก่อนหยิบหนังที่ยืมวันนี้ขึ้นมาเลือก  ‘ศพเด็ก 2002’ คือหนึ่งในหนังที่จ่อคิวรอผมอยู่  

         จำได้ว่าตอนข่าวนี้ถูกเปิดเผยช่วงแรก ทุกสำนักข่าวต่างประโคมให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมของสังคม เรียกร้องหาคนรับผิดชอบตั้งแต่ระดับรัฐบาลยันก้นครัว ผมล่ะไม่อยากจะด่าว่า ‘อย่าผักชีให้มันมาก’  ผมเป็นแค่ไปรษณีย์แมน ยังรู้เลยว่าคลินิคตรงไหนมีไว้รักษา ตรงไหนมีไว้ทำลาย คนแถวนั้นก็พอจะรู้ แล้วไอ้คนที่พวกผมกากบาทเลือกเพราะเชื่อว่ามีสติปัญญามากกว่า จะไม่รู้ได้ยังไง!

         ไม่เอาล่ะ ผมไม่อยากนึกถึงปัญหาระดับชาติขนาดนั้น ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาจัดการกันไป ผมมันผู้น้อย แค่บริหารชีวิตให้รอดไปแต่ละวัน ก็พอแล้ว

          ผมกดหนังเรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สอง และเรื่องที่สามเข้าและออกจากเครื่องเล่นดีวีดีในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แผ่นไม่ได้เสีย เครื่องไม่ได้เจ๊ง แล้วก็ไม่ใช่ว่าองค์บาก 3, ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ และสาระแนสิบล้อ ไม่สนุก มันก็เป็นสูตรสำเร็จที่คนดูหนังร้านเช่าทุกวันอย่างผมพอจะเดาได้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ผมหัวเราะไม่ออก เหมือนมีอะไรบางอย่างคั่งค้างในใจ

         ระหว่างที่ผมมองหาสาเหตุอยู่นั้น สายตาผมก็เหลือบไปที่กระเป๋าหนังพลาสติกสีน้ำตาลปะยี่ห้อที่ทำงานของผมตรงปลายเตียง ผมจ้องเขม็ง ก่อนจะสาวมันเข้ามาในมือ คำตอบอยู่ในกระเป๋าใบนี้นี่เอง จดหมายสีขาวออกเหลืองปึกหนึ่งถูกดึงออกมาจากกระเป๋า ผมพลิกซ้ายพลิกขวา มีแต่คนรับ ไม่มีผู้ส่งจริงอย่างที่ป้าส้มจีนบอก บนซองขวามือตีตราไปรษณีย์ในประเทศ บอกเขตประทับอยู่บนซอง มันก็เขตที่ผมทำงานอยู่นี่นา  ว่าแต่จดหมายนี้มันเขียนว่าอะไร ทำไมถึงเปลี่ยนป้าส้มจีนเป็นคนละคนได้ขนาดนี้ ผมยกเหตุผลเข้าข้างตนเองว่าจำเป็นเหลือเกินที่ต้องอ่านเนื้อความในจดหมาย ไม่งั้นผมจะไปตามหาเจ้าของจดหมายได้อย่างไร   เพราะฉะนั้นเรื่องราวของเธอ จึงถูกผมคลี่ออกทีละน้อย…



พุธที่ 1 มิถุนายน 2554

สวัสดีค่ะ คุณแม่ / แม่ / แม่ที่ไม่เคยรักหนู / แม่ที่หนูอยากจะลืม / แม่ที่หนูเคยคิดว่ามี

          หนูคิดอยู่นานว่าควรใช้คำขึ้นต้นเรียกผู้หญิงอย่างคุณว่าอะไรดี?

         หนูตัดสินใจไม่ถูก เลยเขียนมันลงไปให้หมด

         ตกใจละสิ! กำลังสงสัยใช่ไหมว่าหนูเป็นใคร?

         จำหนูไม่ได้รึไง? เด็กที่คุณทำตัวเป็นแม่พระ ยอมให้ลืมตาบนโลกห่วยๆ ใบนี้
แต่แล้วไอ้ความแรด! ความร่าน! มันสั่งให้คุณหิ้วหนูไปทิ้งไว้ที่โรงกำพร้า แค่นี้คงพอทวนความจำคุณได้แล้วใช่ไหม? อย่าให้หนูพูดไปมากกว่านี้เลย มันขยะแขยง!

         จะบอกอะไรให้...สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แม่’ เขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก หมามันยังรักลูกของมัน แต่คุณกลับทิ้งหนูไว้อย่างไม่ใยดี คุณอยากเป็นตัวอะไร ก็เลือกเอาเองแล้วกัน!
อ้อ! แล้วก็ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าหนูเอาที่อยู่คุณมาจากไหน คุณดวงชีวันดังออกจะตาย สามีเป็นถึงท่านนายพล อำนาจบารมีล้นฟ้า ถามใครเขาก็ตอบได้ว่าคุณอยู่ที่ไหน

         คุณคงชักอยากรู้แล้วละสิ ว่าหนูเขียนมาทำไม?...ยัง...ยังก่อน...หนูอยากให้คุณรู้จักหนูให้มากกว่านี้เสียก่อน...

         หนูชื่ออะไรน่ะเหรอ? ไม่สำคัญหรอก ที่แน่ๆ ไม่ใช่ชื่อที่คุณตั้งให้ก็แล้วกัน
หนูทำอะไรอยู่? ข้อนั้นคุณก็ไม่ต้องรู้อีกเหมือนกัน คนอย่างหนู ต่อให้มันลำบากแค่ไหน ก็ไม่คิดขายตัวเองกิน ไม่คิดแรดหาผัว แล้วก็ทิ้งเรี่ยราดเหมือนคุณหรอก หนูรักดีกว่านั้นเยอะ!

         หนูอยู่ที่ไหน? ข้อนั้นคุณคงไม่อยากรู้ เพราะเชื่อว่าถ้าคุณอยากรู้ ป่านนี้คุณคงออกตามหาหนู ไม่ปล่อยให้มาเขียนด่าคุณแบบนี้

         แล้วคุณล่ะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่? กำลังวิ่งตามตบเมียน้อยเหมือนในข่าวรึเปล่า?

          ฮึ! หนูไม่แปลกใจหรอกที่สามีคุณเป็นแบบนี้ จะบอกให้ว่ามันเป็นเพราะอะไร?   เพราะบาปกรรมที่คุณทำไว้กับหนูไง!  

         หนูแช่งคุณ! สาปคุณ! ขอให้คุณทุกข์ เหมือนที่หนูทุกข์   ให้คุณเจ็บ ยิ่งกว่าที่หนูเจ็บ

         เป็นไง เข้าใจความเจ็บปวดที่หนูเจอรึยัง? หนูเคยอ่านเจอในหนังสือ เขาบอกว่าคนที่ทิ้งพ่อแม่น่ะ ตกกระทะทองแดง แล้วคนที่ทิ้งลูกตัวเองละ จะเจอกับอะไร? หนูคงไม่ต้องอวยพรให้คุณเจอต้นงิ้วหรือกระทะทองแดงหรอกนะ...คุณได้เจอมันแน่!

         หนูแนะนำตัวเองมาพอสมควรแล้ว เชื่อว่าคุณก็คงจะรู้จักหนูดีขึ้น แล้วหนูก็พร้อมจะบอกเหตุผลคุณแล้วละ

         หนูเขียนมาหาคุณ เพราะหนูอยากจะลืมคุณ

         อย่า...อย่าเพิ่งยิ้มเยาะ หัวเราะหยันหนู

        ไม่ใช่ว่าหนูลืมคุณไม่ได้ แต่หนูยังติดอะไรบางอย่าง ทำให้ยังลืมคุณไม่ได้
รู้ไหมว่าอะไร?  

       ‘อโหสิ - อภัย’ รึเปล่าน่ะเหรอ?

        ฮึ! คงคิดสินะ ว่าหนูจะพูดคำนี้

        หนูบอกไว้เสียตรงนี้...บรรทัดนี้...กระดาษแผ่นนี้เลยนะ        
     
         “ไม่มีทาง!”

        คนอย่างคุณไม่ควรได้ยินคำนี้  

        คนอย่างคุณไม่ควรได้รับการให้อภัย

        จำเอาไว้ว่า ...คุณเคยทำอะไรเลวๆ มาบ้าง!  

        จำเอาไว้ว่า ...หนูพร้อมจะทำทุกอย่างให้คุณล่มจม

        และหนูจะเลิกจำเสียทีว่า...เคยคิดถึงคุณแค่ไหน!




ขอให้เราจากกันด้วยความเกลียดชัง
       

เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง





         ผมถือจดหมายในมือค้างไว้ด้วยความรู้สึกสับสนวิ่งวนรอบตัว ผมพลิกซองจดหมาย กวาดสายตาหาชื่อผู้รับ ‘ดวงชีวัน’ แต่กลับไม่มีแม้เงาของผู้ส่ง

         นี่! มันเรื่องบ้าอะไรกัน ใครมาเล่นตลกกับเจ้าของจดหมาย ผู้หญิงคนนั้นเป็นบ้ารึเปล่า? ทำไมเธอถึงด่าทอแม่ของเธอได้ถึงเพียงนี้? จิตใจของเธอทำด้วยอะไร มันก็ใช่อยู่หรอก ที่แม่ทิ้งเธอไป แต่อย่างน้อยแม่ของเธอก็ให้เธอเกิดมา ไม่เอาขี้เถ้ายัดปากก็บุญแล้ว ยังมาเขียนด่าลำเลิกบุญคุณเสียอีกแน่ะ

         บางทีคำถามที่วนเวียนในหัวของผมมากมาย คงหาคำตอบได้ในจดหมายฉบับต่อไป...





**** ฝากไว้ 2 ตอนก่อนนะคะ แล้วจะรีบมาโพสต์ใหม่ค่ะ
ยังไงช่วยแนะนำกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ ****

จากคุณ : เสี้ยวต้น
เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 55 14:50:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com